Nirvana in Fire 2 ถิงเซิงจากเด็กน้อยในเรือนทาส...มาสู่การเป็นยอดขุนพลพิทักษ์ต้าเหลียง


ถิงเซิง ตัวละครที่อยู่เห็นการเปลี่ยนผ่านของฮ่องเต้แห่งนครต้าเหลียงถึง4แผ่นดิน ทั้งๆที่ชีวิตเขาเกิดมาด้วยชาติตระกูลที่สูงศักดิ์ถือเป็นสายตรงของราชวงค์ แต่เขากลับต้องปกปิดสายเลือดนี้ไว้จนสิ้นอายุขัยเลยที่เดียว ชีวิตตั้งแต่เกิดก็เผชิญทุกข์ เพราะพ่อแม่ต้องโทษกบฎ กว่าจะหลุดพ้นเป็นอิสระได้ ก็ต้องยับว่ามีโชควาสนาที่ได้จิ้งอ๋องที่นับว่าเป็นญาติที่เหลือเพียงคนเดียวเข้าช่วยเหลือดูแล พร้อมกับท่านเหมยฉางซูที่เป็นอาจารย์คนแรกที่สอนและหล่อหลอมให้เขาเติบโตยังมั่งคง และยึดมั่นในความดีและสิ่งที่ถูกต้องเป็นหลักนำทางในการดำเนินชีวิต ชีวิตของเขาเดินทางได้ยาวนาน....จนเห็นทุกสิ่งคือความไม่เที่ยงที่แท้จริง







ใน Nirvana in Fire ภาค1 ถิงเซิงคือทายาทเพียงคนเดียวของฉีอ๋อง ฉีอ๋องเป็นอดีตไท่จื่อ(รัชทายาท)ของฮ่องเต้ต้าเหลียงองค์ก่อน แต่เพราะพ่อของถิงเซิงเป็นคนหนุ่มไฟแรง เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถและสติปัญญา เขาต้องการพัฒนาการปกครองในรูปแบบใหม่จนทำให้เกิดความขัดแย้งกับพ่อที่เป็นฮ่องเต้รู้สึกขุ่นเคืองใจ ในความหัวก้าวหน้า ยังไม่นับแรงสนับสนุนจากพวกข้าหลวงมากมายก่ายกอง ทำให้ฮ่องเต้หวั่นไหวในอำนาจของลูกตัวเอง จนเกิดความระแวงว่าสักวันตัวเองจะต้องโดนลูกถีบตกบังลังก์เหมือนกับอดีตที่ตัวเองเคยทำกับพ่อมาเหมือนกัน 

ฉีอ๋องเป็นลูกของฮ่องเต้ที่มีแม่คือน้องสาวของพ่อท่านเหมยฉางซู ถ้านับความเกี่ยวข้องก้อถือเป็นญาติสนิทของท่านเหมยถือเป็นพี่ใหญ่ก้อว่าได้ ส่วนจิ้นอ๋องนั้นเป็นลูกของฮ่องเต้กับหมอสาวที่นับว่าเป็นคนในตระกูลหลิน หลินซูเด็กสุดในกลุ่มก้อเป็นลูกชายคนเดียวของแม่ทัพหลินแห่งกองทัพซื่อเหยี่ยน ที่เป็นขุนพลใหญ่เพื่อนสนิทฮ่องเต้ที่ร่วมกินและเรียนมาด้วยกันแต่เยาว์วัย แม่ของหลินซูคือน้องสาวของฮ่องเต้นะเอง ก๊วนสามหนุ่มฉีอ๋อง จิ้งเหยียน กับหลินซูจึงนับว่าถือเป็นทั้งญาติสนิทและมิตรสหายที่แท้จริง



วันที่ฮ่องเต้ตัดสินใจฆ่าลูกตัวเอง เกิดขึ้นเพียงเพราะคำยุแย้งจากเซี่ยเจียงหัวหน้าเสวี่ยนจิ้งซือ ที่เป็นกองจารชนลับ(ที่ทำงานขึ้นตรงกับฮ่องเต้เพียงคนเดียว) ได้ให้ข้อมูลลับอันเป็นเท็จและขยี้ความระแวงว่าจะโดนลูกและเพื่อนรักยึดบังลังก์ ทำให้เขาสั่งคำสั่งลับกับเซี่ยเจียง ให้ลวงเพื่อนรักที่เป็นยอดขุนพลคู่กายเขามาตั้งแต่ยังเป็นแค่องค์ชายธรรมดาๆ จนเพื่อนรักถากถ่างทางส่งเขาขึ้นมาเป็นฮ่องเต้จนทุกวันนี้ ให้เซี่ยเจียงฆ่ายกกองทัพซื่อเหยี่ยนที่เขาเหมยหลิง ไม่พอยังยุบจวนฆ่าล้างตระกูลหลินของเพื่อนจนเกลี้ยง แถมไม่หยุดความชั่วด้วยการสั่งปลดฉีอ๋องลงจากตำแหน่งไทจื่อแล้วประทานเหล้าพิษให้อีกต่างหาก

ตอนที่ครอบครัวฉีอ๋องโดนเทมาคุมขังที่เรือนทาสนั้น ชายาฉีอ๋องตั้งท้องอยู่ จนเวลาผ่านไปนางก้อคลอดถิงเซิงในเรือนขังทาสนะเอง ทุกคนที่รู้พากันปกปิดฐานะที่แท้จริงของถิงเซิงเพื่อความปลอดภัยของเขา(ไม่งั้นจะโดนสั่งฆ่าแน่นอนจากพี่ๆน้องๆของฉีอ๋องไม่ก้ออีฮ่องเต้เอง)

ตัวถิงเซิงนั้นรู้ดีว่าตัวเองเป็นใคร ในระหว่างที่โดนกดขี่เป็นทาส เขาก็ได้จิ้งอ๋องที่(ตอนนั้นไม่มีอำนาจอะไรเป็นได้แค่ทหารตระเวนชายแดน) ที่นานๆถึงจะสามารถปกป้องเขาจากการโดนกลั่นแกล้งได้ แต่โชคดีก็มาถึงเมื่อถิงเซิงได้เจอะท่านเหมยฉางซู บัณฑิตกิเลนผู้เป็นปราชญ์ฉลาดเป็นอับดับหนึ่งแห่งหอหลางหยากะรันตี ท่านเหมยฉางซูสามารถช่วยเหลือให้ถิงเซิงหลุดพ้นจากสถานภาพของทาส แล้วได้นำเขามาชุบเลี้ยง สั่งสอนข้างกาย โดยที่ต้องปกปิดฐานะต่อไป 



ในขณะเดียวกันที่จิ้งเหยี่ยนได้บรรลุภารกิจในการล้มอำนาจของไท่จื่อกับฮ่องเต้แล้ว ก้อได้รับถิงเซิงให้เป็นบุตรบุญธรรม ถึงแม้จะไม่ได้กลับคืนสู่ฐานะที่แท้จริงด้วยเหตุผลต่างๆ แต่ถิงเซิงได้รับความรักทดแทนจากสองบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งต้าแหลียงนั่นคือท่านเหมยฉางซูกับจิ้นอ๋อง(ที่ต่อมาได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้แห่งต้าเหลียง) เขาได้รับการดูแลอบรมสั่งสอนอย่างดีจากท่านเหมยฉางซู พร้อมกันนั้นจิ้งอ๋องก้อให้ความรักความเอาใจใส่ และให้ความสนิทไว้วางใจ ให้เขาอยู่เคียงข้างใกล้ชิดกับลูกชายตัวเองที่เป็นไทจื่อ


ใน Nirvana in Fire ภาค2 ถิงเซิงคือขุนพลคู่กายของฮ่องเต้ต้าเหลียง ที่เป็นลูกของจิ้นอ๋อง ตัวถิงเซิงนั้นเติบโตมาเป็นอย่างดี ได้เป็นยอดขุนพลที่มากความสามารถจนได้ดูแลทัพฉางหลิน อันเป็นชื่อกองทัพที่จิ้นอ๋องประทานชื่อให้กับกองทัพที่ท่านเหมยฉางซูสร้าง เพื่อไปรบครั้งสุดท้ายที่เขาเหมยหลิงในฐานะขุนพลน้อยหลินซู ตัวถิงเซิงเองก้อรักฮ่องเต้คนนี้เหมือนเป็นน้องชายแท้ๆ เพราะเขาเองเป็นคนดูแลและเห็นน้องคนนี้มาแต่เกิด ตัวเองเองก้อเคารพรักจิ้นอ๋องเหมือนพ่อ น่าจะโดนฝากฝั่งให้ดูแลน้องชายคนนี้ด้วย เพราะฮ่องเต้เป็นเด็กอ่อนแอขี้โรคมาแต่เด็ก ส่วนน้องฮ่องเต้เองก็รักพี่ชายคนนี้มาก 

เราจะเห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของพี่น้องคู่นี้ ว่าทั้งคู่ไม่เคยระแวงหรือมีความเห็นขัดแย้งใดๆ ไม่ว่าจะโดนขุนนางมากมายมาฟ้องเรื่องอำนาจและทหารที่มากเกินของถิงเซิง จนดูเหมือนครอบงำฮ่องเต้(ที่จริงแล้วเกิดจากพวกขุนนางต่างอิจฉาถิงเซิงล้วนๆมากกว่า) ถิงเซิงเองรู้ตัวดีว่าเขาอยู่ในตำแหน่งที่สุ่มเสี่ยงต่อการโดนกล่าวหาต่างๆ แต่ด้วยความภักดีและต้องการปกป้องปณิธานที่เขายึดมั่น จึงทำให้เขาต้องต่อสู้กับกลโกงการแย่งชิงอำนาจตลอดชีวิตการทำงานของเขา

ถิงเซิงมีตำแหน่งสูงเป็นถึงฉางหลินหวัง คุมกองทัพฉางหลิงที่ยิ่งใหญ่ แถมมีครอบครัวที่อบอุ่น ถึงเมียจากไปแล้วแต่มีลูกชายถึงสองคนที่เก่งกาจไม่แพ้พ่อ มีลูกชายคนโตผิงจางเป็นซื่อจื่อผู้สืบทอดตำแหน่งฉางหลิงหวัง ลูกชายคนเล็กผิงจิงถูกส่งไปเรียนและฝึกวิทยายุทธกับท่านลิ่นเฉินประมุขหอหลางหยา



ต่อไปจะเล่าเรื่องของถิงเซิงแล้วนะ
ถ้าไม่อยากโดนสปอยก้อขอให้หยุดอ่านตรงนี้...
เล่าละนะ......


ณ ป้อมรักษาชายแดนทางเหนือเมืองกานโจว เหล่าทหารได้รับบาดเจ็บจากการปกป้องเมืองหน้าด่านมายาวนานกว่ายี่สิบวันจนสุดความสามารถ แค่ดูท่าเหมือนยังไม่อาจจะต้านทานการศึกที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ซื่อจื่อ(เซียวผิงจาง)แห่งตำหนักฉางหลินวัง ยืนมองไปนอกป้อมด้วยหัวใจที่อ่อนล้า ตงชิงรองแม่ทัพได้มารายงานเรื่องจำนวนเสบียงที่เหลืออยู่ไม่ถึงสิบวัน เขาเกรงว่าไม่อาจจะต้านทานต่อไปได้แล้ว เขาขอร้องให้ซื่อจื่อ(เซียวผิงจาง)ฝ่าวงล้อมหนีออกไป แต่ซื่อจื่อ(เซียวผิงจาง)ได้กล่าวอย่างทรงนงว่าภายใต้ธงของทัพฉางหลิง เขาจะกลัวสงครามแล้วหนีจากสนามรบได้ยังไร ตงชิงรองแม่ทัพก้มลงกราบกรานให้เขาได้หนีไป เพราะซื่อจื่อคือทายาทแห่งฉางหลิงหวัง แต่ซื่อจื่อ(เซียวผิงจาง)ได้ตัดสินใจจะยอมรักษาป้อมนี้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะท่านพ่อยังเหลือผิงจิงลูกชายคนเล็ก เป็นน้องชายที่เขารักมาก....ส่วนเขานั้น...



ย้อนเรื่องกลับเมื่อสามเดือนก่อน ณ สถานที่แห่งการรู้แจ้งของหอหลางหยา มีศิษย์น้องนั่งนับเวลาจนนานไปแล้ว จึงร้องเรียกให้คนมาช่วยคนจมน้ำ สรุปเป็นผิงจิงที่โดนทำโทษให้มางมดำน้ำ เพื่อหาหินผลึกหานจิงในสระน้ำนะเอง ผิงจินเป็นหนุ่มน้อยซุกซนแต่ฉลาดเหลือแสน จึงโดนอาจารย์เฒ่าสั่งลงโทษเป็นประจำ 



ซื่อจื่อ(เซียวผิงจาง)ได้มาเยือนหอหลางหยาเพื่อสอบถามปัญหาบางอย่าง และวันนี้เขามารับคำตอบนั้น ซื่อจื่อ(เซียวผิงจาง)นั่งอ่านคำตอบด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย...



ที่ห้องประมุขหลางหยา ลิ่นจิ่วประมุขน้อยแห่งหอหลางหยานั่งถามถึงเหตุผล ที่ท่านลิ่นเฉินประมุขแห่งหอหลางหยา(ที่อายุช่างยืนยาว...วมาก)ถึงได้ยอมตอบคำถามนี้ ลิ่นเฉินได้แต่บอกว่า ถ้าเขาเริ่มมีคำถาม จะช้าเร็วเขาก้อต้องได้คำตอบ และการศึกทางเหนือหนนี้น่าร้ายมากกว่าดี ลิ่นเฉินจึงให้คนไปตามผิงจิงมาพบพี่ชายสะ ผิงจินได้ยินเสียงขลุ่ยบอกสัญญาณให้รีบกลับ เขารีบวิ่งกลับไปที่หอหลางหยาทันที 



ซื่อจื่อ(เซียวผิงจาง)รีบเก็บกระดาษคำตอบก่อนที่น้องชายจะวิ่งมาถึงตัว ผิงจิงดีใจที่พี่ชายมาเยี่ยมเขา สองพี่น้องกอดกันด้วยความคิดถึง ผิงจิงฟ้องพี่ชายว่าโดนอาจารย์เฒ่าหลอกอำเขาตลอด แต่พี่ชายมาหาเขาจริงๆในครานี้ ผิงจิงอยากให้พี่ชายพักอยู่ด้วย แต่ว่าซื่อจื่อ(เซียวผิงจาง)ต้องรีบไปเตรียมรับศึกที่เมืองกานโจว ผิงจิงเลยเดินลงเขามาส่งพี่ชาย ผิงจิงน้อยใจอยากให้พี่ชายค้างสักคืน แต่ซื่อจื่อ(เซียวผิงจาง)กลับพูดให้ผิงจิงรีบโตๆได้แล้ว เพื่อจะได้ช่วยเหลืองานท่านพ่อ ผิงจินไม่ยินดีเพราะเขารู้ว่าพี่ชายสามารถทำงานได้ดีกว่าเขา ซื่อจื่อ(เซียวผิงจาง)ได้กล่าวเตือนผิงจิงว่าฉางหลิงคือจวนแม่ทัพทำหน้าที่รับผิดชอบปกป้องชาติและบ้านเมือง ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะสามารถแบกรับภาะระนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน...เมื่อศึกชายแดนทางเหนือเสร็จเรียบร้อย ไม่ว่าจะออกมาดีหรือร้าย ขอให้ผิงจิงรีบกลับบ้านที่เมืองหลวงโดยทันที ผิงจิงรู้สึกสังหรณ์แปลกๆที่พี่ชายพูดทิ้งไว้เช่นนี้ 



ที่นครจินหลิง เมืองหลวงแห่งต้าเหลียง ในท้องพระโรงที่เหล่าขุนนางโต้เถียงกันไปมาไม่จบสิ้น ฉางหลิงวัง(ถิงเซิง)ทูลขออนุญาติรวมกองกำลังนำทัพเสริมเพื่อไปดูแลชายแดนเหนือเมืองกานโจว เพื่อทำศึกที่จะเกิดขึ้นกับแคว้นต้าอวี๋ แต่เหล่าเสนาหัวหงอกพากันร่วมหัวคัดค้าน หาว่าไม่มีเหตุอันควร และว่าฉางหลิงวัง(ถิงเซิง)ตื่นตระหนกไปเอง 



แต่สรุปฮ่องเต้ทรงเชื่อถือในตัวพี่ชายมากกว่าเหล่าขุนนางหัวหงอก จึงประทานอนุญาติให้ฉางหลิงวัง(ถิงเซิง)จัดทัพไปชายแดนเหนือ สร้างความอิจฉาและขุ่นเคืองกับพวกเสนาหัวหงอก โดยเฉพาะสวินไป๋สุ่ยพี่ชายของฮองเฮา และซ่งฝูหัวหน้าเสนาบดีของสำนักต้าเหลียงที่ดูจะเป็นฝ่ายค้านทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางฉางหลิงวัง(ถิงเซิง)



หลังได้รับตรานำทัพจากฮ่องเต้แล้ว ฉางหลิงวัง(ถิงเซิง)นำกองทัพมุ่งสู่ชายแดนเหนือทันที ท่างกลางข้าราชสำนักมายืนส่งหน้าประตูเมือง สวินไป๋สุ่ยและซ่งฝูยืนปรึกษาจะแก้เกมหมากนี้ยังไง เพื่อเป็นการต่อต้านอำนาจของฉางหลิงวัง(ถิงเซิง) ทั้งสองเป็นหัวหอกในการจะหาทางลดอำนาจฉางหลิงวัง ที่นับวันดูจะมีอำนาจครอบงำฮ่องเต้มากเกินไปในสายตาพวกเขา แถมตอนนี้สุขภาพร่างกายของฮ่องเต้ก็อ่อนแอลง พวกเขากลัวว่ารัชทายาทที่เพิ่งจะสิบห้ายังเป็นเด็ก ยังไม่โตพอจะรับหน้าที่สืบทอดได้ จะมีปัญหาในการคุมอำนาจในอนาคต...(จริงๆพวกแกหวงอำนาจตัวเองนะแหง) ซ่งฝูบอกเขามีแผนจะแก้เกมนี้

ขณะที่ป้อมรักษาเมืองกานโจว โดนทัพใหญ่แคว้นต้าอวี๋ระดมพลนับแสนบุกโจมตีอย่างหนัก ผิงจิงฝันร้ายถึงพี่ชาย รีบเข้าไปหาลิ่นจิ่วประมุขน้อยเพื่อขอดูข้อมูลชายแดนทางเหนือ ลิ่นจิ่วประมุขน้อยบอกเขามีข่าวจากแคว้นเป่ยเอี้ยนจะเอาไหม แต่ผิงจิงไม่สนเขาอยากได้ข่าวที่เมืองกานโจว ผิงจิงเลยไปรื้อข้อมูลที่มีของลิ่นจิ่วประมุขน้อยมาอ่านแหลก

ที่ริมผา ลิ่นเฉินได้รับสารด่วนว่าที่เมืองต้าถง เรือขนเสบียงของกองทัพเกิดเหตุเรือจมทั้งสามลำ ลิ่นเฉินสั่งให้ศิษย์น้อยเอาไปเก็บ ผิงจินอยู่พอดีเลยได้รู้ข่าวเมืองต้าถง และเรือเสบียงนั้นเป็นของกองทัพพี่ชายของเขา ผิงจิงรู้ทันทีว่าพี่ชายจะต้องเกิดเรื่องร้ายขึ้นแน่ๆ เขาจึงรีบลงจากเขาเพื่อไปเมืองกานโจวทันที ลิ่นจิ่วเป็นหวงผิงจิงว่าไปแล้วจะช่วยได้ยังไง ลิ่นเฉินเลยบอกว่าถ้าหอหลางหยาได้ข่าว ถิงเซิงเองก้อได้ข่าวนี้เหมือนกัน ลิ่นเฉินชมว่าถิงเซิงนั้นเหมือนกับสหายของเขาก้อคือเหมยฉางซู ถิงเซิงจะต้องไปช่วยผิงจางแน่ๆ แต่แค่อยู่ที่ผิงจางจะต้านไว้ได้นานแค่ไหน



แต่ไม่ว่ากองทัพฉางหลิงกำลังนำกองกำลังขึ้นเหนืออย่างเร่งด่วนขนาดไหน ก็ไม่ทันเมืองกานโจวที่ถูกทัพใหญ่แคว้นต้าอวี๋ระดมโจมตีอยากหนัก จนทหารต้าเหลียงที่ทั้งบาดเจ็บมาก่อน ทั้งขาดอาหารบำรุงกองทัพที่กัดฟันสู้จนแทบขาดใจตายยังไง ก็ยังต้านไม่อยู่จนกำแพงโดนระเบิดทลายลง ทำให้กองทัพต้าอวี๋บุกทลวงเข้ามาในกำแพงเมืองพร้อมฆ่าฟันทหารต้าเหลียงไม่ยั้ง



ผิงจางกัดฟันสู้ไม่ถอยเพื่อไม่ให้ทหานต้าอวี๋บุกตีเมืองได้ เขายืนหยัดเอาร่างขวางตรงช่องกำแะงที่ถล่ม แต่ผิงจางเจอะห่าธนูนับหมื่นสาดใส่จนคนทั้งกองทัพล้มเกลื่อน ผิงจางเจอะธนูปักใส่อกตรงจุดสำคัญ เขาล้มลงบนกองซากศฟของเหล่าทหารกล้า ในช่วงเวลาเป็นและตายของผิงจางนั้น เขาได้รู้แจ้งบางอย่าง และตัวเขาตอนนี้จะตายไม่ได้ เขาจึงยืนยันลุกขึ้นสู้ทั้งที่ธนูปักอยู่อก 



เขาตะโกนเรียกขวัญและกำลังใจของทหารที่เหลือให้ลุกขึ้นสู้อีกตรั้ง เพื่อยืนหยัดให้ถึงที่สุด ผิงจางกัดฟันขึ้นสู้เพื่อต้าเหลียง เขาออกนำสู้อีกครั้ง 

ผิงจิงขี่ม้ามาถึงเมืองกานโจว แต่พบเมืองกานโจวโดนถล่มจนเขาใจหาย รีบขี่ม้าเข้าเมืองโดยไว ในห้องพักผู้บาดเจ็บ ผิงจางได้รับการรักษาเบื้องต้นด้วยการหักก้านธนูทิ้ง เพื่อรอแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่กำลังมาเป็นคนผ่าตัดดึงหัวลูกธนูออก หมอสนามไม่กล้าเสี่ยงลงมือเองเพราะมันใกล้กับหัวใจมาก ถิงเซิงยืมมองดูลูกชายคนโตด้วยความเป็นห่วงอย่างหนัก ได้แต่รอคอยการมาของท่านผู้เฒ่าสำนักจี้เฟิงเท่านั้น สักพักทหารมาส่งข่าวว่าท่านผู้เฒ่าสำนักจี้เฟิงกะลังเร่งรีบมา แต่กลัวไม่อาจทันการณ์ ท่านได้ส่งลูกศิษย์สาวให้นำมาก่อน และให้นางเป็นคนรักษาเลยทันที่ ผิงจิงเจอะตงชิงรองแม่ทัพเลยให้เขาพาไปหาพี่ชายด่วน


หลินซี นายหญิงน้อยสำนักจี้เฟิงมาถึง ก้อจะทำการฝ่าหัวลูกธนูออกมาทันที ถิงเซิงด้วยความเป็นห่วงลูกชาย แต่ต้องยอมให้นางรักษา ระหว่างที่หลินซีจะลงมีดกรีดเนื้อเพื่อดึงธนูออก ผิงจิงเห็นสภาพพี่ชายนอนจมกองเลือดก้อแทบสติแตก ถิงเซิงถามถึงการรักษา หลินซียืนยันต้องรีบผ่าดึงหัวธนูออกมาก่อนจากนั้นถึงจะห้ามเลือดต่อ แต่ถ้าจะรออาจารย์ของนางก้อได้ แต่ถิงเซิงตัดสินใจให้นางลงมือได้เลย 



ผิงจิงแทบจะคุมสติตัวเองไม่อยู่ เพราะเขากลัวพี่ชายที่รักจะเป็นอะไรไป ยิ่งหมอผู้เชี่ยวชาญที่มารักษาพี่ชายเขาที่บาดเจ็บสาหัสเจียนตาย กลับกลายเป็นหญิงสาววัยเยาว์นางหนึ่ง เขาโวยวายกล่าวว่านาง จนนางต้องของให้ถิงเซิงไล่เขาออกจากห้อง ถิงเซิงจึงปล่อยให้หลินซีนายหญิงน้อยสำนักจี้เฟิงทำการรักษาผิงจางต่อ ส่วนผิงจิงเขาได้แต่ยืนรอหน้าห้อง รอคอยความหวังจากการรักษาของนาง ว่ามันจะเป็นผลสำเร็จ ถิงเซิงที่ยืนดูหลินซีทำการผ่าตัดจนลุล่วงแล้ว จึงสอบถามอาการจากนั้น จึงรู้ว่าต้องผ่านคืนนี้ไปให้ได้ ผิงจางถึงจะรอด และนางจะอยู่เฝ้าไข้เอง ถิงเซิงได้แต่ขอบคุณนางจากใจ



ระหว่างที่เขายืนรอหน้าห้องจนค่ำ ท่านผู้เฒ่าหลีสำนักจี้เฟิงก้อมาถึงพอดี ถิงเซิงพาท่านผู้เฒ่าหลีไปดูอาการของผิงจาง เขากล่าวว่านี้เป็นบาดแผลที่คล้ายกับหลิงเซิงที่บาดเจ็บจากศึกคราวนั้น แต่เพราะวิทยาการแพทย์ยังไม่ก้าวหน้าพอ จึงเป็นเหตุให้เขาต้องจากไปในคราวนั้น แต่ครั้งนี้หลินซีผู้เป็นคนดูแลทำได้ดีกว่าเขามาก ผิงจางไมน่าจะมีปัญหาอะไร 

หลินซีเฝ้าดูอาการผิงจางทั้งคืน ตรวจดูแล้วว่าไข้สูงเริ่มลดลงบ้างแล้วจึงออกจากห้อง มาเจอะผิงจิงที่นั่งเฝ้าหน้าห้องพี่ชายทั้งคืนไม่ยอมนอน ผิงจิงเพียรเดิมตามถามนางเพื่อถามอาการพี่ชาย แต่นางกลับตอบแค่อาการของพี่ชายคงที่ และไม่บอกอะไรเพิ่มแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้เขาฟุ้งซ่านหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม เลยถามเริ่มพูดจาไม่ดีใส่นาง จนหลินซีต้องเหน็บแนมว่าผิดหวังในตัวเขาละเกินกับชื่อเสียงเขาจากที่คนอื่นเล่าลือกันมานั้น



เช้ามาท่านผู้เฒ่าหลีสำนักจี้เฟิงมาตรวจอาการของผิงจาง เขายืนยันกับถิงเซิงว่าผิงจางพ้นขีดอันตรายแล้ว ก้อพอดีผิงจิงรีบเข้ามาดูพี่ชาย และมาคารวะท่านพ่อ พ่อจึงถามว่าเขากลับมาได้ยังไง ผิงจิงจึงบอกว่าเขารู้ข่าวที่หอหลางหยา ว่าเรือขนเสบียงกองทัพอัปบางลงที่เมืองต้าถง และสงครามที่กานโจวกินเวลามากกว่ายี่สิบวันจนดูน่าสงสัย จากการวิเคราะข่าวสารที่ได้รับ สรุปได้ว่าต้าอวี๋จะต้องสู้ไม่ยอมถอยจนกว่าจะยึดเมืองไว้ได้ แล้วทัพของพี่ชายไม่มีเสบียงเลี้ยงคน ไหนจะกำลังเสริมที่อยู่ห่างไกลอีก(ผิงจิงหนูฉลาดมากเลยลูก) พ่อเลยถามแล้วมาคนเดียวจะช่วยยังไง555 ผิงจิงยังไม่ทันตอบ ก้อพอดีลูกน้องมาตามถิงเซิงให้ไปจัดการเรื่องวุ่นๆในกองทัพต่อ พ่อเลยสั่งให้เขาอยู่เป็นเพื่อนพี่ชาย

ลูกน้องรายงานผลการรบว่าทัพแคว้นต้าอวี๋ถอนทัพจากเหมยหลิ่งแล้ว ทำให้ทุกด้านของเมืองกานโจวปลอดภัย แต่ด่านหน้าเมืองกานโจวเสียหายอย่างหนัก ถิงเซิงอย่างเป็นห่วงที่แม่ทัพแคว้นต้าอวี๋ยังรอดอยู่ จึงยังไม่อาจวางใจถึงความปลอดภัยได้จริง แต่เพราะต้าอวี๋ยกทัพขนาดใหญ่มาสู้ศึกนี้ แต่ไม่อาจชนะได้คงไม่กล้าเคลื่อนไหวเร็วๆนี้ ถิงเซิงเลยให้ลูกน้องเขียนรายงานสถานการณ์ชายแดนเหนือถวายฝ่าบาทส่งม้าเร็วนำส่งไปทันที ผิงจิงที่อยู่เฝ้าพี่ชายในห้องเห็นหัวธนูวางอยู่ เขาหยิบหัวธนูมามอง ด้วยความแค้นที่บังอาจทำร้ายพี่ชายเขา

ท่านผู้เฒ่าหลีสำนักจี้เฟิงตามคุยกับหลินซีที่กำลังยุ่งกับการต้มยา ว่านางคิดยังไงกับคุณชายผิงจิงที่ได้พบกันครั้งแรกนี้ หลินซีบอกไม่สนใจ ท่านผู้เฒ่าหลีเลยไปไม่ถูก555


ในโรงพยาบาลทหาร ผิงจิงเฝ้าตามไปขอโทษและขอบคุณหลินซี แต่นางไม่สนใจเขา จนหลินซีเริ่มรำคาญที่เขาตามตอแหยเธอไม่หยุด เขาเลยคิดมอบยาวิเศษจากหลางหยาให้เธอเป็นของกำนัลแต่นางแค่เอาไปดมแล้วบอกว่าของเขานั้นใช้ไม่ได้ ผินจิงผิดหวังอย่างแรง55 เขาก็ยังไปตามตอแหยนางต่อไม่เลิกท่ามกลางสายตาของท่านผู้เฒ่าหลี




ผิงจางเริ่มรู้สึกตัว ก็สั่งตงชิงลูกน้องไปนำรายงานผลการสู้ศึกครั้งนี้มาดู ถิงเซิงก็มาเยี่ยมพอดี เขาจับลูบสำรวจตัวลูกพบว่าอาการดีขึ้นไม่น่าเป็นห่วงแล้ว ก้อกล่าวตักเตือนว่าผิงจากสลบไปสองวันเต็มๆพอฟื้นจะมาอ่านรายงานพวกนี้ทำไมเสียเวลาเปล่าๆ ถิงเซิงสั่งให้ผิงจางพักผ่อนให้ดี ผิงจางเลยพูดเรื่องที่น่าสงสัยของต้าอวี๋ว่ามันแปลกๆ คือทัพต้าอวี๋จงใจโจมตีแต่ด่านของเขา ถิงเซิงบอกว่าใช่ เพราะกองกำลังของผิงจางประกอบด้วยทหารชั้นยอดแต่ทำไมต้าอวี๋จึงมั่นใจมากจนลงมือโจมตีเขาหนักมากราวกับรู้ว่าทัพของผิงจางขาดเสบียงอยู่ ผิงจางจึงสงสัยว่าข้าศึกรู้เรื่องเรื่องเสบียงเขามีปัญหาได้ยังไง ถิงเซิงบอกให้ลุกหยุดคิดได้แล้วตอนนี้ที่สำคัญคือลูกต้องพักผ่อนให้มากๆ ที่เหลือเดียวพ่อจัดการเอง(ถิงเซิงเป็นพ่อที่อบอุ่นมาก...ฮื่อ) 



ผิงจางถามว่าพ่ออยากถามอะไรเขาอีกไหม ถิงเซิงเลยถามว่าได้ข่าวว่าผิงจางไปหอหลางหยามาใช่ไหม ผิงจางเลยเอาคำตอบจากหอหลางหยาให้พ่อ แต่ถิงเซิงกลับจับมือเขาไว้ไม่หยิบมาอ่าน ถิงเซิงบอกเขาไม่จำเป้นต้องอ่านสิ่งสำคัญคือความรู้สึกของผิงจางที่อ่านแล้วต่างหาก ผิงจางยอมรับว่าตอนเขาอ่านเขารู้สึกสับสนมาก แต่เพราะมีศึกอยู่ข้างหน้าเขาไม่มีเวลาจะคิดถึงมันมากนัก จนเขาถูกยิงด้วยธนู แล้วเขาคิดว่าเขาจะไม่ได้เจอะท่านพ่อ ผิงจิงและเสี่ยวเสวี่ยแล้ว เขาถึงเข้าใจยังแจ้มแจ่ง ว่าเรื่องในซองนี้ล้วนไม่สำคัญกับเขาเลย ผิงจิงก้อวิ่งมาหาพี่ชายพอดี 

ถิงเซิงเห็นลูกชายคนเล็กแอบหลบอยู่ข้างประตู ก้อกล่าวชมผิงจางว่าเป็นลูกในฝัน ทำอะไรได้ดังใจ ช่างต่างกับผิงจิงราวฟ้ากับเหว ถึงสองฮ่องเต้จะโปรดปรานเขาแต่พ่อนั้นรักผิงจางมากกว่า เจอะพ่อพูดจาประชดลูกคนเล็กจนผิงจิงต้องงอนออกมาว่ารู้แล้วพ่อลำเอียง ไม่ต้องมาพูดให้เขาได้ยินจะได้ไหม555 ผิงจางหัวเราะจนเจ็บแผล เลยบอกให้พ่อไปทำงานดีกว่า แล้วให้ผิงจิงอยู่เป็นเพื่อนคุยกับเขา ก่อนถิงเซินจะไปก้อสั่งให้ผิงจางพักห้ามทำงานใดๆ

ผิงจิงมาสรุปรายงานของพ่อที่ส่งตรงถึงฮ่องเต้ว่าศึกนี้น่าสงสัยในจุดประสงค์ของแคว้นต้าอวี๋แล้ว เรื่องเรือเสบียงล่มก้อน่าสงสัย ขอให้ฮ่องเต้ส่งตัวแทนพระองค์ไปสอบสวนเรื่องนี้เป็นการด่วน ผิงจางได้ยินข่าวนี้เขาก้อวางใจที่จะได้พักอย่างสบายใจละ



ที่วังหลวงฮ่องเต้ทรงพิโรธอย่างหนัก ที่เหล่าเสนาถวายแต่รายละเอียดยิบย่อยแต่ไม่ได้ใจความสำคัญ ทรงถามถึงอาการของผิงจาง(หลานรัก)ว่าเป็นยังไร แต่กลับไม่มีในรายงาน แล้วทัพที่กานโจวทำไมขาดแคลยเสียงเกือบครึ่งเดือน สวินไป๋สุ่ยรับออกมารายงานว่าผิงจางบาดเจ้บเพียงภายนอก และกองทัพฉางหลิงจัดการดูแลไว้หมดแล้ว  ซ่งฝูรีบทูลว่าเกิดอุบติเหตุเรือเสบียงล่มทั้งสามลำ แต่เจอะซักว่าแล้วเจ้าที่คุมเรืออยู่ไหน ซ่งฝูรีบทูลว่าตายหมดแล้ว เจอะฮ่องเต้ว่าตรวจสอบรึยัง ซ่งฝูยืนอึ้งเพราะไม่กล้าทูล อีคู่หูสวินไป๋สุ่ยรีบอธิบายว่าเจ้าหน้าที่วุ่นวายกับการเตรียมเสบียงใหม่เลยยังไม่มีเวลาทำรายงาน เลยเจอะฮ่องเต้พิโรธโดนด่าหนักกว่าเดิมจนไอไม่หยุด 



ถิงเซิงเชิญผู้เฒ่าหลีมาดื่มชาและพูดคุยความหลัง ถึงสัญญาที่เขาได้ทำไว้กับหลินเซิง สหายสนิทที่เป็นพี่น้องร่วมสาบานของเขาจากในเรือนขังไพร่(แก็งค์เด็กรำกระบี่ ที่ท่านเหมยฉางซูเป็นผู้นำพวกเขาออกมาครานั้น) ก่อนที่หลินเซิงจะเสียไป เขาได้รับปากจะรับลูกสาวของเพื่อน เพื่อหมั้นหมายกับลูกชายของเขาผิงจิง เขาได้ทำการแลกของหมั้นหมายสำหรับทั้งสองฝ่าย 

ถิงเซิงยืนยันว่าผิงจิงคือบุรุษแห่งฉางหลิง มีชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดิน แต่เมียของหลินเซิงไม่ต้องการให้ลูกสาวของนางต้องมีชาตะกรรมเป็นเป็นหม้ายผัวตายกลางสนามรบ เลยพาลูกสาวหนีไป แต่เขาเองนั้นยังยืนยันในการหมั้นหมายครั้งนี้อยู่ แต่เขาเป็นห่วงที่พวกนางหายสาปสูญไป ผู้เฒ่าหลีเลยปลอบใจว่านางคงไม่ได้รับอันตรายน่ามีผู้ดูแลให้ที่พักพิงกับพวกนาง ไม่น่าลำบากอะไร แต่ถิงเซิงบอกว่าฮ่องเต้ให้เวลาตามหาพวกนางอีกหนึ่งปี ถ้าพวกนางยังไม่มาพบเขา ฮ่องเต้จะประทานสมรสให้ผินจิงแทน (ดูเริ่มร้อนตัวนะผู้เฒ่าหลี55)

ผู้เฒ่าหลีสอบถามเรื่องเรือล่มที่เมืองต้าถง ว่างถิงเซิงจะลงมือจัดการไหม ถิงเวิงบอกเรื่องนี้เกี่ยวพันยังราชสำนักไม่อาจละเลยได้ เขาคิดจะส่งผิงจิงไปสืบเรื่องนี้คนเดียว เพราะเขาไม่ได้อยู่ในกองทัพถือว่าเป็นการดี ผู้เฒ่าหลีเลยได้ไอเดียจะส่งหลินซีไปช่วยผิงจิง เพราะสำนักจี้เฟิงมีอยู่ในทุกเมือง(ผู้เฒ่าเริ่มแผนจับคู่ละ555)


หลินซีเข้ามาดูแลผินจาง เจอะผิงจิงตามมาขอโทษ อธิบายว่าเขาเป็นห่วงพี่ชายมาก ขนาดขี่ม้าด่วนจนม้าขาดใจตายไประหว่างกลางทางตั้งสามตัวกว่าจะมาถึงที่นี้ แถมมาถึงเจอะพี่นอนจมกองเลือดจนเขาใจหาย เลยทำให้เขาไม่ได้สติถึงได้พูดอะไรแย่ๆลงไป ขอหลินซีอย่าเก็บมาใส่ใจได้ไหม....ม หลินซีกลับไม่พูดแม้ครึ่งคำ ทำเอาผินจิงยิ้มค้างหันไปฟ้องพี่ชายต่อ ว่าโดนหญิงเมินเลย55 พี่ชายบอกให้พูดให้น้อยๆหน่อย เป็นเขาเองก้อรำคาญเหมือนกัน(โธ่สงสารน้องผิงจิง) 

ผิงจิงมาขอร้องพี่ชายให้ช่วยพูดกับพ่อให้หน่อย ให้ส่งเขาไปทำหน้าที่สืบสวนคดีเรือเสบียงกองทัพล่มนี้ที่เมืองต้าถง แล้วยกคุณความดีของตัวเองมาขายพี่ชาย55 ถึงเขาจะฉลาดสู้พี่ชายไม่ได้แต่ก็ออกท่องยุทธมาไม่น้อย เขามั่นใจว่าเขาทำได้ดี พี่ชายบอกก้อได้แต่ต้องรับปากเขาสองข้อ หนึ่งให้หาความจริงเท่านั้น สองหาหลักฐานข้อมูลมาแล้วส่งราชสำนักให้จัดการลงโทษ ห้ามลงมือจัดการเองโดยพละการ ผิงจิงรับปาก(โอ้ยน่ารักจัง พี่น้องคู่นี้)



ตกดึกท่านผู้เฒ่าหลีก้อตามมาคุยกับหลินซี ให้รีบไปจัดการเรื่องด่วนที่เมืองต้าถง เกิดคดีเรือเสบียงกองทัพล่ม ทำให้หมอในสำนักจี้เฟิงได้หายไปสามคน เขาอยากให้หลินซีไปตามสืบ ส่วนเรื่องดูแลผิงจางเขาจะจัดการเอง 

ฝั่งบ้านฉางหลิน ถิงเซินบ่นว่าผิงจิงตามเคย55 พ่อบอกว่าพี่ชายมาช่วยพูดว่าเราอยากทำงานนี้มากหรอ ผิงจิงรับปากพ่อว่าจะตามสืบให้อย่างดีที่สุด เขาจะไม่ทำให้ท่านพ่อผิดหวัง แต่ตบท้ายว่าคนทำไม่ว่ามันจะเป็นใคร นางจะล้างแค้นให้พี่ชายสุดที่รัก เลยโดนพ่อไล่ตีที่เอางานหลวงมาลงเรื่องส่วนตัว55 ผิงจิงบอกไม่สนยังไงก้อจะล้างแค้น55 ผิงจางเลยปลอบพ่ออย่าไปโกรธน้อง น้องชายคงได้นิสัยท่านลิ่นเฉินมาเพราะไปอยู่เรียนที่หอหลางหยามานานมาก(โธ่ท่านลิ่นเฉิน อยู่ดีๆๆก้อมีเอี่ยวสะงั้น55) แต่ถิงเซิงกลับหัวเราะแล้วบอกว่าไอ้ตัวแสบพูดถูกแหละ ใครที่มันกล้าทำคนของฉางหลิง เขาจะไม่มีวันปล่อยมันไว้(เหมือนกันทั้งบ้านเลยวุ้ยสามคนพ่อลูกเนี้ย)



ที่วังหลวงสองเสนามหาแสบ ยืนปรึกษาเรื่องคดีเรือล่มที่เมืองต้าถง สวินไป๋สุ่ยคิดว่าเป็นฝีมือซ่งฝู แต่ซ่งฝูบอกเขาแค่สั่งให้เรือเสบียงล่าช้าไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องขนาดนี้ แล้วเขาไม่คิดว่าแคว้นต้าอวี๋จะยกทัพใหญ่มาตีเมืองกานโจว เขาไม่รู้เรื่องนีจริงๆเขาไม่เคยคิดชักศึกเข้าบ้าน ตอนนี้เขาส่งคนไปทำลายหลักฐานก่อนจะบานปลายไปกว่านี้


ผิงจิงรีบขี่ม้าไปเมืองต้าถง ที่โรงเตี้ยมระหว่างทางพักก่อนที่จะข้ามเรือ เขาก้อไปเจอะหลินซีที่มาพักที่เดียวกัน เขาเลยหาเรื่องคุยกับนางด้วยการกล่าวหานาง ว่านางจะแอบติดตามเขามาทำไม หลินซีเลยกล่าวว่านางมีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปเมืองต้าถงเหมือนกัน เพราะหมอจากสำนักจี้เฟิงหายสาปสูญไร้ร่องรอยตั้งสามคน  ผิงจินเลยขอโทษที่มะกี้เขาพูดจาล้อเล่นกับนาง ไม่นึกว่านางจะมีเรื่องร้ายต้องมาตาม เขาเลยชวนหลินซีเดินทางพร้อมกัน ตอนเช้าผิงจิงถึงกับลงทุนดูแลม้านางให้พร้อมเดินทาง(วุ้ยชักเข้าทางละผิงจิง)



ที่วังหลวงฮองเฮา(สวินหวงโฮ่ว)เชิญนักบวชฝูหยางมาทำพิธีชำระล้างวิญญาณให้องค์รัชทายาทในตำหนัก ฮองเฮาเชื่อในสำนักนี้มาก เพราะนางพยายามทำทุกวิธีทางให้ลูกรอดปลอดภัยจากโรคร้าย (จนถึงตอนนี้แทบจะโดนนักบวชฝูหยางครอบงำด้วยการใช้จุดอ่อนในการรักลูกมากของนางมาใช้) สองเสนาแสบยังคุยเรื่องที่ฉางหลิงหวังกำลังจะกลับเข้าเมืองหลวง ไม่รู้จะได้หลักฐานอะไรมา ก้อโดนนักบวชฝูหยางมาทักว่าใต้เท้าซ่งฝูช่วงนี้ดวงน่าจะอับโชค ลางร้ายกำลังจะมา...ทำให้ใต้เท้าซ่งฝูโกรธ ที่พวกหลอกลวงนี้เข้ามาแอบแฝงในวัง สวินไป๋สุ่ยรีบแก้ตัวแทนฮองเฮาน้องสาว ว่าที่เอาพวกนี้เข้าวังมาก้อเพื่อความสบายใจ ทั้งตั้งแต่เขามาสุขภาพของฮ่องเต้และรัชทายาทก้อดีขึ้นมาก เพื่อนอย่าได้คิดมากไป

ที่ว่าการอำเภอเมืองต้าถง ใต้เท้าจางนายอำเภอต้าถงเริ่มร้อนใจ เมื่อต้วนถงโจวที่ปรึกษาใต้เท้าซ่งมาหา เพื่อสอบถามถึงการเก็บกวาดหลักฐานคดีเรือล่ม ใต้เท้าจางลำบากใจที่ต้องบอกว่ามีพยานรอดชีวิตแต่เขาพยายามตามล่าอยู่ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่เจอะตัว วันนั้นมีหมอสามคนจากสำนักจี้เฟิงมาช่วยคนนั้นลงเรือเล็กไปแล้ว ต้วนถงโจวสั่งให้คนไปค้นหาที่สำนักจี้เฟิงทันที



หน้าประตูเมือง เสี่ยวโหวเย(องค์ชายไหลหยาง)มาเดินดูลาดเลา เลยได้เจอะกับหัวหน้าเฉียนคนของนายอำเภอ ที่กำลังตามล่าคนที่หน้าประตูเมือง เขาเลยกลับไปที่บ้านพักเพื่อบอกข่าวกับกลุ่มคนที่กำลังโดนตามล่านะเอง พวกเขาคือพยานผู้พบเห็นเหตุฆาตกรรมบนเรือ จนทำให้เรือขนเสบียงกองทัพต้องล่มลงน้ำ และตอนนี้พวกเขาถูกตามไล่ฆ่าจนเสี่ยวโหวเยมาช่วยเอาไว้ เสี่ยวโหวบอกว่าทางการตอนนี้ดักตรวจคนทุกทางยากจะเล็ดลอดออกไปจากเมืองได้ ลูกน้องเสี่ยวโหวเยเตือนเขาว่าเรื่องนี้ยากเกินจะรับมือ แต่เสี่ยวโหวเยกลับบอกว่าเรื่องนี่น่าเกี่ยวพันกับคนใหญ่ตนโตในเมือง เรื่องน่าจะใหญ่เกินกว่าที่คิด ยังไงที่นี้ยังปลอดภัยกว่าที่จะเสี่ยงเดินทางออกไปยื่นฎีกาเอง

ที่สำนักจี้เฟิง คนของอำเภอทำทีมาไล่คนร้ายที่วิ่งเข้ามาในสำนักจี้เฟิง แล้วถือโอกาสค้นหาคนในเรือนรักษา แต่ก้อไม่พบหลักฐานอะไร

ฝ่ายผินจิงกับหลินซีเข้ามาในเมือง ก้อพบกับบรรยากาศแปลกๆและหน้าสำนักจี้เฟิงปิดทำการ ผิงจิงสอบถามคนขายของแถวนั้น ได้ความว่ามีคนร้ายบุกเข้ามาในสำนักจี้เฟิง และทหารไล่ตามมาจับเลยเกิดการต่อสู้จนร้านกระจายเสียหาย คงต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะเปิดทำการ ผิงจิงบอกให้หลินซีหลบออกจากหน้าร้าน เพราะมีคนดักรออยู่หน้าร้าน

หลินซีพาผิงจิงมาที่บ้านฐานลับของสำนักจี้เฟิง แต่หลินซีเคาะหลายทีไม่มีคนเปิด ผิงจินใจร้อนเลยปีนบ้านจะไปเปิดประตูให้ ก้อพอดีมีคนเปิดประตูมารับพอดี เป็นอวื๋นเจี่ยที่ดูแลบ้านลับนี้

เสี่ยวโหวเยยังคงตามสืบข่าวเพื่อหาทางรอด ลูกน้องบอกว่าอีกไม่นาน บ้านพักที่นี้ต้องถูกทางการสั่งตรวจสอบหาคนแน่ แต่เสี่ยวโหวเยคิดว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทางการต้องสั่งคนมาตามสืบคดีนี้แน่ให้รอไปก่อน หมอจากสำนักจี้เฟิงมาได้ยินจึงรู้สึกเกรงใจ คิดว่าตัวเองจะสร้างความเดือดร้อนมาสู่เขา จึงคิดจะหลับหนีกันไปก่อน แต่เสี่ยวโหวเยคิดว่ามันเป็นหน้าที่เขาที่พึ่งทำ เพื่อทดแทนคุณราชวงค์และแผ่นดิน

ตกดึกผิงจินตรวจสอบสถานการณ์ กับหมอประจำสาขาเมืองต้าถงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผิงจิงรู้ทันที่ว่าหัวหน้าเฉียงกำลังตามหาพยานปากเอก คนที่เหลือรอดจากเหตุการณ์เรือล่มแน่ๆ แต่ถ้าเขายังตามหาคนไม่เลิกแบบนี้ แปลว่าทางเรายังมีความหวังอยู่ หลินซี่ให้อวื๋นเจี่ยจัดหาที่พักให้ผิงจิง แต่ว่าคืนนี้ผิงจิงจะชวนหลินซีแอบปีนบ้านนายอำเภอเมืองต้าถง เพราะคิดว่าเขามีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้แน่ๆ แต่หลินปฎิเสธ..แป๋ว...555



ที่จวนพักของนายอำเภอ ใต้เท้าจางรู้สึกว่าเรื่องชักจะบานปลาย จนเขาเริ่มจะรับมือไม่ไหว จากที่แรกแค่สร้างให้เป็นเรื่องอุบัติเหตุ แล้วใต้เท้าซ่งผู้เป็นอาจารย์เขาจะออกหน้าปกป้องให้ แต่นี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ต้วนถงโจวยังยืนยันและกดดันให้เขาเข้มงวดในการค้นหาคนต่อ ระหว่างที่จะคุยแผนการ ต้วนถงโจวหูดีได้ยินเสียงคนมาแอบส่อง เขาเลยซัดของใส่ผิงจิงที่กำลังแอบฟัง ผิงจิงโดนต้วนถงโจวไล่ล่ามากลางลานพร้อมซัดฝ่ามือมารใส่จนได้รับบาดเจ็บ พอดีหลินซียิงอาวุธใส่ต้วนถงโจว แล้วพาผิงจิงหนีกลับที่บ้านลับ 



หลินซีเป็นห่วงผิงจิงที่โดนทำร้ายจะขอตรวจ แต่ผิงจิงบอกเขาไม่เป็นไร แค่ประเมินกำลังศัตรูต่ำเกินไป แต่หลินซีเห็นรอยไหม้ที่บนอกเสื้อผิงจิง เขาเลยรู้ว่าเป็นต้วนถงโจวนะเอง เขาเป็นยอดฝีมืออันดับสี่แห่งหอหลางหยา แปลว่ามีคนใหญ่โตอยู่เบื้องหลังแน่ๆ ในขณะนั้นเสี่ยวโหวเยก้อปีนกำแพงมาแอบดูเหมือนกันที่บ้านนายอำเภอ เขาเลยสะกดรอยตามทั้งคู่จนมาหาถึงที่นี่ ผิงจิงดีใจที่ได้มาเจอะเพื่อนเก่า หยวนชี่(คือเสี่ยวโหวเย)คือเพื่อนวัยเด็กของเขา 

ที่จวนนายอำเภอ ต้วนถงโจวสงสัยว่าคนที่ลงมือวันนี้ไม่น่ามาจากเมืองหลวง เพราะไกลจากที่นี้มาก น่าจะเป็นคนที่ถูกส่งมาจากทางชายแดนเหนือที่ใกล้กว่า เลยเรียกหัวหน้าเฉียนสอบถาม ว่าเช้านี้มีใครที่น่าสงสัยเข้ามาในเมืองบ้างไหม หัวหน้าเฉียนไม่พบใครเลยที่น่าสงสัย นอกจากในเมืองนี้มีคนในราชวงค์พักอาศันอยู่คนหนึ่งก้อคือเสี่ยวโหวเย(องค์ชายไหลหยาง) และเขามาพักที่นี้ได้ครึ่งเดือนแล้ว ต้วนถงโจวสั่งให้ไปค้นบ้านเสี่ยวโหวเยพรุ่งนี้

หัวหน้าเฉียนและต้วนถงโจวจัดกองกำลังไปล้อมหน้าบ้านเสี่ยวโหวเย พร้องขอค้นบ้าน แต่ทหารไม่พบคนหรือพิรุธใดๆ ต้วนถงโจวกลับที่จวนนายอำเภอ ใต้เท้าจางรู้สึกสิ้นหวัง แต่ยังปลอบใจตัวเองว่าจัดการกู้เรือมาเก็บกวาดหลักฐานหมดแล้ว ต้วนถงโจวร้อนตัวทันที เลยไปแอบลอบเผาเรือที่กู้ขึ้นมา  

เป็นเพราะเมื่อคืนที่พบกัน ผิงจิงวางแผนย้ายพยานทันที ทำให้วันนี้หยวนชี่รอดปลอดภัย ผิงจิง หลินซีและหยวนชี่ มาหาพยานที่หลบซ่อนในอุโมงค์ ผิงจิงมาสอบถามนายเรือที่ไม่ยอมเล่าเรื่องราวใดๆจนกว่าจะพบผิงจิง นายเรือจึงยอมเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเขาทำงานนี้มาสิบกว่าปี รู้ดีว่าต้องระวังยังไง แต่สองสามวันก่อนลูกชายเขาจู่ๆก็ไปติดหนี้พนันมากมาย แต่หัวหน้าเฉียนมาหาเขาพร้อมให้เงินและยืนข้อเสนอให้เขาคุมหางเสือเรือลำแรก บังคับให้เรือแล่นช้าลงและให้มันขยับไปทางทิศใต้ พร้อมหมุนเรือไปด้านข้าง เขารู้ว่าถ้าทำแบบนี้เรือสามลำจะชนกัน แล้วนี้เป็นเรือขนเสบียงกองทัพ แต่หัวหน้าเฉียนบอกนี้คือเกมทางการเมืองของขุนนางใหญ่ และนายอำเภอเป็นคนหนุนหลังเรื่องนี้ ผิงจิงจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมต้วนถงโจวจึงเข้ามายุ่งในเรื่องนี้ วันนั้นฝนฟ้าลมกรรโชกแรง หลังเรือสามลำชนกัน ก้อล่มลงอย่างรวดเร็ว ดีที่เรือเล็กของท่านหมอมาช่วยได้ทัน ถึงจะช่วยได้เจ็ดแปดคนเองก้อตาม ผิงจิงต้องการพยานวัตถุ

อวื๋นเจี่ยบอกว่ามีเรือลำหนึ่งจมในแม่น้ำ ไม่อาจกู้ขึ้นมาได้ ส่วนสองลำกู้ขึ้นมาแล้วแต่สภาพเสียหายหนักมาก ผิงจิงเลยถามถึงตำแน่งที่เรือจม เพราะต้องไปหาพยานวัตถุ ส่วนผิงจิง หลินซีและหยวนชี่ขี่ม้าจะไปดูซากเรือ ไปถึงพบว่ากลายเป็นกองเพลิงไปแล้ว ส่วนใต้เท้าจางฟังรายงานจากลูกน้อง เรื่องที่ต้วนถงโจวไปเผาซากเรือ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเผาซากเรือในเมื่องานของเขาแค่ทำให้เรือชนกันแล้วล่มลงแม่น้ำเท่านั้น...ฉับพลันใต้เท้าจางก้อรู้แจ้งว่าเขาได้พลาดไปแล้ว แผนนี้ร้ายแรงกว่าที่เขารับรู้ในตอนแรก ต้วนถงโจวได้แต่บอกว่าช่วยอะไรไม่ได้ ก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว



แก็งค์วัยรุ่นกลับมานั่งปรึกษากันที่บ้านลับหลินซี เรื่องพยานวัตถุสลายหายไปหมดแล้ว แต่ผิงจิงนึกได้เรือมีสามลำ ที่ถูกเผาไปแค่สองลำ เขาเลยตั้งใจะจะลงไปงมเรือใต้แม่น้ำ หลินซีไม่เห็นด้วย เพราะแม่น้ำสายนี้เชี่ยวมากทั้งยังใกล้หน้าหนาวน้ำจึงเย็นมาก ผิงจิงได้โอกาสโม้ฉายาของเขาที่โด่งดังในหอหลางหยาว่าเขาคือ มังกรน้อยแห่งบึงหนาวเหน็บ หลินซีกับหยวนชี่ขำกันลั่นกับฉายาของเขา ผิงจิงแซวหลินซีที่เผลอหัวเราะออกมามะกี้

ส่วนใต้เท้าจางส่งเมียและลูกชายออกจากเมืองเพื่อหนีอันตราย ส่วนพยานปากเอกก้อเขียนแผนที่จุดเรือจมให้อวื๋นเจี่ย เพื่อนำไปมอบให้ผิงจิง ระหว่างที่อวื๋นเจี่ยเดินออกมา ก้อมีสายลับจับตามองนางอยู่

ที่ฐานทัพลับของพ่อลูกฉางหลิง ผิงจางที่ดีขึ้นมากแล้วนั่งชงชาให้พ่อ เขาเป็นห่วงน้องชายที่ไปคนเดียว ถึงจะมีคนของสำนักจี้เฟิงคอยช่วยก็ตาม พ่อเลยบอกว่าแค่สั่งให้ไปสืบเฉยๆไม่เป็นไรหรอก ผิงจิงมีความคิดไม่เหมือนพวกเรา แถมยังดูเหมือนชาวยุทธมากกว่า(นี่พ่อชมผิงจิงอยู่ใช่ไหมเนีย555) ผิงจางบอกไม่ห่วงเรื่องน้องจะหาพยานวัตถุไม่ได้ แต่เขาเป็นห่วงระยะทางที่ผิงจิงต้องนำพยานวัตถุเดินทางเข้าเมืองหลวง คาดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังงานนี้คงไม่ปล่อยให้ผิงจิงเดินมาสบายๆแน่ๆ เขาจึงคิดว่าทางเราควรเคลื่อนไหวได้แล้ว พ่อเลยนึกถึงคนที่ค่ายซ่นหลิ่วในฉีโจว จะติดต่อให้คุ้มครองผิงจิง(โว้ยฉลาดล้ำกันทั้งบ้าน)



บนเรือผิงจิงถอดเสื้อต่อหน้าหลินซี ทำให้นางได้เห็นสร้อยคอที่มีจี้ที่เป็นของหมั้นหมายระหว่างนางกับเขา (แต่เพราะนางสัญญารับปากไว้กับแม่ว่าจะไม่มีสามีเป็นทหาร) ผิงจิงดำน้ำลงไปนานจนนางใจหายลุกขึ้นมาดู ก้อพอดีผิงจิงโผล่มา แล้วบอกว่าเขาจะดำลงไปอีกตรั้งแต่ครั้งจะนานกว่าครั้งที่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงเขา (แต่ว่าตอนนี้นางกลับเริ่มมีใจให้กับเขาแล้ว) ผิงจิงดำจนเจอะซากเรือและนำบางส่วนขึ้นมา พิสูจน์ได้ว่ามีการจงใจสร้างเรือให้ไม่แข็งแรงพอ เมื่อเกิดอุบัติเหตุเรือถึงล่มจมอย่างรวดเร็ว

ต้วนถงโจวหลอกใช้หัวหน้าเฉียนให้หักหลังใต้เท้าจาง ให้สืบหาที่ซ่อนหลักฐานที่ใต้เท้าจางซุกซ่อนเอาไว้ พร้อมข่มขู่ใต้เท้าจางหากเขาคิดจะหักหลังละก้อ
เช้าวันรุ่นขึ้นที่สำนักจี้เฟิง ผิงจิงกับหยวนชี่มายืนหน้าร้านให้สายลับเห็นตัว วางแผนจับใต้เท้าจางเป็นพยาน ต้วนถงโจวมาหาใต้เท้าจางพร้อมเอาหลักฐานลับที่เขาซ่อนเอาไว้ หัวหน้าเฉียนมารายงานเรื่องเจอะสถานที่เก็บตัวพยานละ ต้วนถงโจวเลยให้เตรียมตัวบุกจับกุมพวกนั้น และแอบสั่งลูกน้องตัวเองไปแอบฆ่าใต้เท้าจางสะ 

อวื๋นเจี่ยมารายงานหลินซีว่าทหารจัดกองกำลังพลไปทางบ้านที่เก็บตัวพยาน หลินซีจะเป็นคนไปดูแล แต่ผิงจิงยังไม่กลับมา หยวนชี่เลยจะเป็นคนไปดูให้เองผิงจิงไปหาใต้เท้าจาง แต่รอใต้เท้าจางสักพักนายอำเภอยังไม่มา  ก้อพอดีนักฆ่าไปที่ห้องใต้เท้าจาง แล้วจัดการจะสร้างสถานการณ์ว่าใต้เท้าจางผูกคอตาย ผิงจิงก็มาช่วยได้ทันพอดี ส่วนนักฆ่าโดนต่อยสลบไป ผิงจิงช่วยเสร็จก้อด่าใต้เท้าจางสะรอบหนึ่ง หลินซี่มาตามผิงจิง

ที่บ้านลับ ต้วนถงโจวนำทหารมาบุกคน ก้อมาเจอะหยวนชี่มาขวาง แต่ต้วนถงโจวไม่ยอมจะให้ค้นเพราะที่นี้เป็นแค่ที่ส่วนบุคคลไม่ใช้ของหลวง ต้วนถงโจวยังยืนยันให้ทหารลุย หยวนชี่เลยออกแรงฆ่าทหารตายไปคน ต้วนถงโจวสั่งให้หัวหน้าเฉียนฆ่าหยวนชี่ แต่ผิงจิงจับนายอำเภอมาพอดี และเอาป้ายอาญาสิทธิ์ฉางหลิงมาโชว์ว่าตัวเองได้รับมอบหมายมาสืบคดีเรือล่ม  และอีต้วนถงโจวเป็นใคร และมีตำแหน่งอะไรถึงมาสั่งทุกคนได้ ต้วนถงโจวกล่อมให้หัวหน้าเฉียนเป็นพวกจะจับพวกผิงจิง ก้อพอดีลุงหยวนลุกน้องพ่อ พาแม่ทัพจี้จากค่ายซ่านหลิ่วเมืองฉีโจวมาช่วยพอดี ต้วนถงโจวเลยซัดเข็มจะฆ่าทุกคน แต่ผิงจิงปัดอาวุธลับออกได้หมด จนเข็มสุดท้ายต้วนถงโจวกลับฆ่าหัวหน้าเฉียนแทน แล้วหลบหนีไป

เช้าวันรุ่งขึ้นผิงจิงเดินไปคุยกะลุงหยวนที่มาเช็ครถขังตัวนักโทษ ผิงจิงมีงอนที่พ่อไม่เชื่อมือเขาละสิ หลินซีเตรียมตัวเข้าเมืองหลวง อวื๋นเจี่ยขอตามไปด้วยหลินซีตามใจนาง แม่ทัพจี้สอบถามผิงจิงว่านายอำเภอซัดทอดใครบางหรือยัง ผิงจิงเลยบอกหลังเขาถูกลอบสังหารก้อไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย ผิงจิงฝากจดหมายด่วยให้ลุงหยวนใช้คนไปส่งให้พ่อ กองทัพนายพลจี้ต้องขบวนคุมตัวนายอำเภอเดินทางกลับวังหลวง พวกหลินซีและหยวนชี่ก็กลับด้วย ระหว่างทางที่พักแรมผิงจิงเจอะแม่ทัพจี้ลอบมาพบใต้เท้าจาง ผิงจิงไปปลอบหยวนชี่ที่จิตตกหลังฆ่าคนเป็นครั้งแรก

ระหว่างทางใกล้ถึงวังหลวง ผิงจิงยังสงสัยว่าทำไมต้วนถงโจวถึงฆ่าหัวหน้าเฉียน ไม่ฆ่าใต้เท้าจาง ยิ่งใกล้ถึงวังหลวงผิงจิงยิ่งระวังตัวมากขึ้น

ที่วังนังฮองเฮาเอาแต่กล่าวชมถึงนักบวช ที่มาสวดมนต์ภาวนะให้นั้นมีส่วนช่วยในการทำให้ไทจื่อหายป่วย เจอะฮ่องเต้ด่ากลับนิ่งๆถึงเหล่าทหารที่ตายในเมืองกานโจวและซื่อจื่อที่เกือบตายนะ ไม่คิดจะสวดมนต์อำนวยพรให้บ้างรึไง นังฮองเฮารีบแก้ตัวแทบไม่ทันว่าตัวเองได้จัดเตรียมงานแล้วแต่ยังไม่ได้ถวายรายงาน

ที่วังฉางหลิง ผิงจางนอนเป็นกังวลเป็นหวงน้องชาย เสี่ยวเสวี่ย(เมียพี่สวยจัง...ง)ก็พอดีมาดูแลเขา ผิงจางบ่นว่าทั้งพ่อและเมียไม่ให้เขาทำอะไรนอกจากบริหารนิ้ว555 ผิงจางบ่นให้เมียฟังว่าต้องมีเรื่องร้ายตอนใกล้ถึงเมืองหลวงแน่ๆ สั่งให้เมียชูแผ่นที่ให้เขาดู เขาจะคำนวนสถานที่เกิดเหตุ คิดว่าน่าจะเป็นที่ลำห้วยฉี่จู๋

นายพลจี้สั่งให้พักแรมที่ลำห้วยฉี่จู๋จริงตามที่ผิงจางคิด หลินซีมาล้างมือเลยมาเจอะผิงจินระหว่างทาง ผิงจิงเลยว่าถ้างานเสร๊จจะชวนหลินซีไปชมเมืองแต่หลินซีปฎิเสธ เพราะนางจะมาพักสองสามวันก้อจะกลับไปแล้ว ผิงจิงนึกว่านางจะมาประจำสาขาในเมืองหลวงสะอีก(แห้วอีกแล้ว555) ผิงจิงยังคงเพียรไปคุยกับใต้เท้าจางที่ยังคงนิ่งเฉยตลอดเวลา ทหารเอาผ้ามาคุมรถนักโทษไว้



พอตกเย็นต้วนถงโจวก้อบุกมาฆ่าใต้เท้าจางด้วยอาวุธลับเข็มเงิน นายพลจี้สั่งทหารล้อมต้วนถงโจว แต่ในรถนักโทษนั้นไม่มีคน นายพลจี้ถามว่าทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องนี้ ผิงจิงเลยเฉลยว่าเพราะเขารู้แล้วว่าทำไมต้วนถงโจวถึงฆ่าหัวหน้าเฉียน เพราะเขาไม่มีลุกเมียให้กังวล ถ้าถูกจับสามารถซัดทอดผู้บงหารได้ทันที ส่วนใต้เท้าจางมีลูกเมียไว้ต่อรอง และนายพลจี้รวมมือกับต้วนถงโจว ผิงจิงเข้าใจแผนนี้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังต้องการให้ทัพฉางหลิงพ่ายที่กานโจว แล้วปล่อยให้ศัตรูบุกลงใต้ถึงฉีโจว นายพลจี้จะออกมาสกัดศัตรูแล้วตัวเองจะได้ชื่อเสียง หลุดพ้นจากเงาทัพฉางหลินสะที นายพลจี้เลยจะฆ่าทุกคนปิดปาก แต่ต้วนถงโจวกลับเอาแต่หลบหนีไปก่อน ผิงจิงไล่ตามไปสกัดในดงไผ่ ก้อพอดีพี่สะไภ้คนสวยมาช่วยผิงจิงสกัดต้วนถงโจวอิอิ พร้อมนำกองกำลังทหารจากฝ่าบาทมาจับแม่ทัพจี้555



ผิงจิงงอนพี่สะไภ้55 (ที่ทางบ้านส่งตัวช่วยมารอบที่สอง รอบแรกลุงหยวน555) หยวนชี่ยังคงสงสัยเดินมาถามพี่สะไภ้ว่าเมืองหลวงรู้ได้ไงว่าทางนี้จะมีปัญหา ผิงจิงตอบอย่างเซ็งว่าทั้งหมดเป็นแผนของพ่อเขาเอง แถมไปฟ้องหลินซีว่าโดนพ่อซ้อนแผน พี่สะไภ้เลยเห็นอาการติดหญิงของผิงจิงละ

ที่วังฉางหลิน เสี่ยวเสวี่ยพาสามีเดินเล่นออกกำลังกาย ลุงหยวนมารายงานว่าผิงจิงโดนพ่อเทศน์ไม่หยุด และตอนนี้เขารอคอยความช่วยเหลือจากซื่ออจื่อ555 ในห้องของท่านพ่อ ผิงจิงคุกเข่ารับผิดฟังพ่อว่าเรื่องทำตัวเสี่ยงอันตราย พี่ชายก็มาพอดีเลยโดนพ่อบ่นว่าลุกเดินมาทำไม ผิงจางเลยบอกพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาอยู่บ้านนี้เมียก้อคุมไม่ให้ทำอะไรอยู่แล้ว แล้วที่จริงเขาได้ฟังพ่อชมผิงจิงว่าทำงานนี้ได้ดี เก่งและฉลาดมากนี่น่า ผิงจิงอึ้ง พ่อมีชมเขาด้วยปกติมีแต่ด่าเขาซ้ำๆเรื่องเดิม555 พ่องอนเดินจากไป55 หมดเสียงด่า ผิงจางชวนน้องมากินข้าวเย้นด้วยที่ตำหนักเขา



มี่วังหยวนไหล แม่ของหยวนชี่เป็นห่วงที่ลุกไปยุ่งกับคดี นางไม่อยากให้ลูกไปวุ่นวายกับพวกราชวงค์ แถมยังไม่อยากให้ลูกไปเปรียบเทียบกับสองคุณชายแห่งฉางหลิง อยากให้คนลืมเลือนว่าพวกเขามีตัวตนในเมืองหลวงนี้

ที่สำนักจี้เฟิงสาขาเมืองหลวง หลินซีมาตรวจงานในร้าน ผู้จัดการบอกอาจารย์ออกไปเมือนอื่นแล้วสั่งในนางดูแลสาขาเมืองหลวงแทน(เฒ่าหลีวางแผนไม่ปล่อยเลย55) และให้ไปดูแลบาดแผลของผิงจางต่อด้วย

ที่จวนของใต้เท้าซ่ง มีราชโองการสั่งปลดพร้อมจับกุมตัวไปไต่สวนต่อ ส่วนในวังหลวง รัชทายาทวิ่งไปหาท่านพ่อ เลยโดนฮ่องเต้แกล้งดุ รัชทายาทมาถามหาผิงจิงเพราะเขาเป็นพี่ชายที่รัชทายาทรักมาก เลยโดนพ่อถามเรื่องการเรียนแทน

ที่ตำหนักของซื่อจื่อ ผิงจิงกินข้าวเย็นฝีมือพี่สะไภ้ พร้อมบ่นน้อยใจที่พ่อไม่ไว้ใจเขาว่าจะสามารถคุมตัวนักโทษมาได้อย่างปลอดภัยตลอดรอดฝั่ง พี่ชายแอบยิ้มไปพูดปลอบไป พี่สะไภ้คนสวยก้อเสริฟอาหารไม่ยั้ง เลยไปหันไปปากหวานชมพี่สะไภ้ว่าทำอาหารอร่อยมากจนเขาต้องรีบกลับมาบ้านทุกปี จนพี่ชายงอน555 เลยต้องรีบชิงบอกว่าคิดถึงพี่ชายมากๆด้วยเช่นกัน555(หนูกะล่อนมากผิงจิง) หลังทานเสร็จซื่อจื่อก้ออธิบายให้น้องฟังว่าพ่อไม่อยากให้คนทางฉางหลินไปยุ่งเกี่ยวใดๆกับขบวนการไต่สวนคดีนี้ ไม่ว่าจะทางตรงหรืออ้อมก้อตาม 



สักพักซื่อจื่อก้อไอไม่หยุดจนน้องชายเป็นห่วง เลยอาสาจะพาหลินซีมารักษาพี่ชายพรุ่งนี้ ซื่อจื่อเลยบอกว่าผิงจิงทำแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องเดียวก้อไปทำเรื่องให้นางโกรธอีก ผิงจิงเลยเถียงเอาเรื่องจริงที่ซื่อจื่ออายุสิบสี่ พอท่านแม่รับเสี่ยวเสวี่ยมาเป็นบุตรบุญธรรม(นางเป็นหลานสาวท่านเหมิงจื่อ นี่แต่งงานกันในวงเพื่อนพ่อทั้งนั้นเลย555) เขาก้อวิ่งแจ้นไปทูลฝ่าบาทขอเสี่ยวเสวี่ยแต่งงานแล้ว ยังงี้ยังมรหน้ามาว่าเขาแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องอีก เลยโดนทั้งพี่ชายพี่สะไภ้ปาของใส่หน้าแทน55(แสบมากผิงจาง ท่าจะกลัวเมียโดนฉกไปแต่งกะคนอื่นก่อน เลยรีบชิงลงมือก่อนใคร)

รุ่งเช้าถิงเซิงไปพบฝ่าบาทเรื่องท่านซ่ง ฮ่องเต้บอกผิดหวังกับเขามาก และรู้สึกตัวเองยังปกครองคนไม่ดีพอ ถิงเซิงต้องพูดปลอบโยน ฮ่องเต้ก้อไอจนจะทรุด ถิงเวิงก้อเข้ามาลูบหลังประคองฮ่องเต้ และเป็นห่วงฮ่องเต้ที่สุขภาพไม่ดีขึ้นเลย แล้วบอกให้น้องไม่ต้องกังวลใจ(เป็นพี่น้องที่รักและห่วงใยที่แท้จริง)



แต่ในวังหลัง นังฮองเฮาเรียกนักบวชฝูหยางเข้าพบเรื่องทำพิธีสักกะบูชา นักบวชฝูหยางพูดเรื่องฉางหลิงหวังมีความสำคัญเทียบเท่าเรื่องรัชทายาท ยิ่งทำให้นังเฮาฮองขุ่นเคืองใจทางฉางหลิงวังไปอีก แถมโยนเรื่องให้นางสกิดใจว่ามีเรื่องใหญ่สะเทือนราชสำนักที่มาพร้องกับคุณชายรองแห่งจวนฉางหลิน

ฮ่องเต้มาฟังรายงานตรวจสอบจากข้าหลวงที่ดูแลคดี สรุปยังปิดคดีไม่ลง เพราะท่าซ่งยอมรับสารทุกข้อหาวางแผนทำเรืออัปปาง แต่ไม่ยอมรับเรื่องสมรู้ร่วมคิดกับใต้เท้าจางที่ติดสินบนเรื่องจะให้ตำแหน่งถ้างานสำเร็จ ส่วนใต้เท้าจางนั่นรับข้อกล่าวหาว่ารับทำงานจากใต้เท้าซ่งโดยผ่านท่านที่ปรึกษาและเขามีหลักฐานจากเทียบรายการของกำนัลจากใต้เท้าซ่ง แต่เจอะฮ่องเต้สวนกลับว่าท่านไม่เชื่อว่าจะไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิดในราชสำนักกับใต้เท้าซ่ง ฮ่องเต้ถามถึงรายชื่อคนที่เกี่ยวข้อง อีสวินไป๋สุ่ยเริ่มร้อนตัว ฮ่องเต้อ่านรายชื่อจบ ก้อเรียกสวินไป๋สุ่ยทันที อีสวินไป๋สุ่ยรีบหัวก้มหัวทันที แต่กลับเป็นฮ่องเต้สั่งให้เขาไปตรวจสอบรายชื่อว่ามีใครกันแน่ที่เกี่ยวข้อง แล้วสั่งให้คนไปส่งข่าวรายงานเรื่องนี้ให้ทางฉางหลิงด้วย อีสวินไป๋สุ่ยเริ่มหนักใจ  


ที่สำนักจี้เฟิง เสี่ยวเสวี่ยมาหาหลินซี มาขอบคุณนางที่ดูแลรักษาสามีของนางจนปลอดภัย และมารับนางไปวังฉางหลิง แถมเริ่มออกตัวว่าอย่าเรียกพระชายาเลยให้เรียกพี่สาวเถอะ(เหมือนจะเริ่มทาบทามให้น้องสามีกลายๆ555)

ที่ตำหนักซื่อจื่อ ผิงจางวิเคราะห์รายงานการไต่สวนคดีนี้กับผิงจิง เรื่องที่มีใครกันแน่ที่พูดโกหก แต่ซื่อจื่อคิดว่าทั้งสองฝ่ายน่าพูดความจริง ตัวเชื่อมของคดีนี้น่าอยู่ที่ต้วนถงโจวที่อาจทำงานให้ใครอีกคน ซื่อจื่อวางแผนให้ใต้เท้าอู๋รู้เรื่องนี้ (โว้ยฉลาดล้ำทั้งบ้านจริงๆ)

ที่วังหลัง นังฮองเฮาเรียกสวินไป๋สุ่ยพี่ชายของนางมาพบเพื่อสอบถามคดี สวินไป๋สุ่ยรีบบอกว่าเขาไม่มีส่วนในเรื่องนี้เลย

ในคุกหลวง ต้วนถงโจวได้หลบหนีออกไปก่อนจะโดนจับสอบสวน 

ระหว่างทางไปจวนฉางหลิน รถม้าขบวนใหญ่สองขบวนปะทะกันกลางถนนระหว่างรถของชายาแห่งจวนฉางหลิน กับรถม้าของนักบวชฝูหยาง แต่นักบวชฝูหยางยอมหลีกทางให้ ก้อพอดีสวินเฟยจ่าน หัวหน้าราชองครักษ์วังหลวงมาเดินตรวจตราพอดี เขาเป็นศิษย์พี่ของเสี่ยวเสวี่ย(เรียนกับท่านเหมิงจื่อนะเอง) สวินเฟยจ่านเลยรายงานให้ศิษย์น้องว่าเขามาตรวจติดตามต้วนถงโจวนักโทษแหกคุก ส่วนนักบวชฝูหยางก้อรีบหลีกรถรีบร้อนจะไป เลยบอกฮองเฮาเรียกเขาเข้าพบด่วน เลยจำเป็นต้องรีบไป



ที่จวนของสวินไป๋สุ่ย เขากลับพบกับต้วนถงโจว ที่มาข่มขู่สวินไป๋สุ่ยเรื่องที่ใต้เท้าซ่งไม่เคยพาดผิงชื่อเขาในคดีนี้ และยังบอกว่าใต้เท้าซ่งถ้าเขาเป็นอะไรไปก้อให้มารับใช้สวินไป๋สุ่ยแทน แต่สวินไป๋สุ่ยไม่ต้องการและบอกให้เข้าจากไป แต่ต้วนถงโจวแอบทำรอยฝ่ามือตัวเองไว้ที่มุมโต๊ะทิ้งหลักฐานไว้ก่อนจากไป ก้อพอดีสวินเฟยจ่านมาเยี่ยมลุงที่ห้องพอดี เขาบอกลุงเรื่องฮ่องเต้ให้สืบหานักโทษต้วนถงโจวที่ยังหลบหนีในเมือง แต่ก่อนกลับสวินเฟยจ่านเห็นรอยฝ่ามือที่โต๊ะของลุง เขาเริ่มสงสัย

ที่วังฉางหลิน สามพ่อลูกนั่งคุยกัน ผิงจิงเดือดหนักมาก ที่เขาลงทุนลงแรงกว่าจะจับต้วนถงโจวมาได้ บ่นว่าไปจนถึงระบบทำงานใต้เท้าอู๋ เลยโดนพ่อดุให้หยุดพูดจาไม่ดีได้แล้ว ผิงจิงเลยต้องคุกเข่าขอโทษจนพี่ชายต้องมาขอร้องพ่อให้น้องชาย(อีกแล้ว555) พ่อเลยยอมให้อภัยเพราะเห็นแก่พี่ แล้วให้ผิงจางอธิบายให้น้องฟัง ว่าคำพูดแม้เพียงไม่ตั้งใจแต่คำพูดนั้นอาจทำร้ายคนได้ ผิงจางรายงานว่าเฟ่ยจ่านรับหน้าที่ตามล่าต้วนถงโจว ดังนั้นไม่น่าเป็นห่วง

ที่วังหลวงสวินเฟยจ่านไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อรายงานการจับกุม ส่วนสวินไป๋สุ่ยมารายงานรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ฮ่องเต้พิโรจจนอาการแย่ลงไปอีก นังฮองเฮาตามอีนักบวชฝูเหยามาปัดเป่าอาการให้ฮ่องเต้(อีนี่ก้องมงายสุดยอด)

หลินซีมาดูอาการซื่อจื่อที่กำลังฟื้นตัวเป็นอย่างดี ซื่อจื่อเริ่มเกริ่นชมทั้งเอ่ยวันเดือนปีเกิดของหลินซี(ทั้งพี่ชายทั้งพี่สะไภ้โอเครละ55) หลินซีเห็นกล่องไม้แปลกตา เลยขอพี่สะไภ้มาชมดู นางเริ่มจับอะไรที่ผิดปกติได้ เลยแอบจับมือเสี่ยวเสวี่ยเพื่อสังเกตุ ส่วนเสี่ยวเสวี่ยไปดูแลสามีพร้อมไปซักถามซื่อจื่อที่พูดจาแปลกๆกับหลินซี (อารมย์เมียจับผิดเลย)



ส่วนผิงจิงก้อวุ่นวายกับข่าวสารจากนกพิลาบ ตงชิงลูกน้องซื่อจื่อมาตามให้ผิงจิงแต่งตัวดีๆเพื่อเข้าวังหลวง ซื่อจื่อก้อมีเมียคนสวยค่อยแต่งตัวให้ ทั้งคู่มาเจอะเฟยจ่านที่ประตูวังพอดี เฟ่ยจ่านก้อบ่นว่าผิงจิงก่อนจนผิงจิงออกจะน้อยใจที่มีแต่คนบ่านเขา555 เฟ่ยจ่านบอกว่าเขาไม่อาจพาพบฮ่องเต้ได้เพราะมีข่าวพบตัวต้วนถงโจว เขาจะรีบไปจับกุม ผิงจิงว่าจะช่วยเฟ่ยจ่านตามจับต้วนถงโจวด้วย



ในวังสองพี่น้องนั่งคุกเข่ารอฮ่องเต้ ฮ่องเต้มาถึงรีบไปช่วยพยุงผิงจางที่คุกเข่าถวายพระพร เพราะห่วงว่าหลานรักบาดเจ็บหนักกลับมา ผิงจิงโดนฮ่องเต้บ่นอีกว่าไม่ยอมกลับบ้านเอาแต่เที่ยว ผิงจิงเล่าเรื่องที่เขาไปสืบคดีที่เมืองต้าถงโดนที่ไม่รู้แผนของพ่อเลย ทำเอาฮ่องเต้จำจนไอสำลัก แต่ฮ่องเต้ฟังดูน่าจะเป้นแผนของผิงจางมากกว่า ผิงจิงก้องอนอีกว่าบ่นพ่อให้อาฮ่องเต้ฟังท่านก้อไม่เข้าข้างเขาอยู่ดี ผิงจางขอฮ่องเต้ให้ผิงจิงไปหาองค์รัชทายาท พอผิงจิงเดินออกไปฮ่องเต้ก้อถามผิงจางเรื่องที่เขาไปหอหลางหยาทันที ฮ่องเต้เองก้อรู้เรื่องทุกอย่างและยังยอมรับด้วยที่ท่านไม่เห็นด้วย ที่ถิงเซิงเลือกเขาเป็นซื่อจื่อสืบทอดตำแหน่งฉางหลิงวัง แต่ว่าหลายปีที่ผ่านมาทำให้ฮ่องเต้เปลี่ยนความคิดและเชื่อว่าพี่ชายของเขาคิดถูก ผิงจางคือคนที่เหมาะสมและน่าไว้วางใจมากที่สุด ผิงจางอยากให้ผิงจิงรับตำแหน่ง แต่อ่องเต้ว่านิสัยผิงจิงเปลี่ยนได้ยาก และท่านชอบที่ผิงจิงเป็นแบบนี้โดยมีพ่อและพี่ชายปกป้องเขาตลอดไป ทั้งยังฝากฝังให้ผิงจางดูแลปกป้องไทจื่อในอนาคตด้วย แล้วยังสั่งเกี้ยวให้ผิงจิงนั่งไปวังไท่จื่อ   

ส่วนเฮาฮองมาถึงก้อตารางเวลาเรียนของลูก พอดีรัชทายาทได้ข่าวผิงจิงเข้าวัง เลยขออนุญาติฮองเฮาไปพบกับพี่ชายที่รัก  

ผิงจิงเดินออกมาปะนักบวชฝูหยาง (ฝูหยางพูดเหมือนจะเคยเจอะผิงจิง แต่ผิงจิงจำเขาไม่ได้) ผิงจิงก้อวิ่งตามหลังคาวังเพื่อหาวังไทจื่อไม่เจอะสักที จนผิงจางตามมาทัน ผิงจิงโดนพี่ชายดุที่ไม่สำรวมกริยา น้องชายก้อประคองพี่ชายไปต่อ 


ที่วังไทจื่อ ฮองเฮาบ่นที่สองพี่น้องมาช้า พอมาถึงไทจื่อก้อวิ่งถลาไปผิงจิงกอดรัดไปมาจนฮองเฮาเขม่น ผิงจาต้องรีบโขกหัวขออภัยฮองเฮา เพราะเขาอยู่วังหลวงรู้ดีถึงความไม่ชอบคนฉางหลิงวังของพระนาง ผิงจิงที่ไม่รู้กฎธรรมเนียมในวัง อีฮองเฮาก้อพูดจาเหน็บแหนมไปมา ไท่จื่อขอฮองเฮาไปเล่นกับผิงจิงแต่ฮองเฮายื้อลูกไม่อยากให้ไป ผิงจิงเลยพูดแนะนำว่าเด็กควรจะออกมาเล่นบ้างไม่ควรอุดอู้อยู่แต่ในห้อง ผิงจางเบรกน้องไม่ทัน พอผิงจิงออกไปเขาก็ต้องขอโทษอีฮองเฮาอีก



วันนี้หลินซีมาเยี่ยมอาการผิงจางแต่เขาไปเข้าวัง เสี่ยวเสวี่ยเลยชวนกินน้ำชาพูดคุยกันแทน หลินซีจะขอกล่องไปตรวจสอบสักวันแล้วจะนำมาคืน เสี่ยวเสวี่ยเลยบอกกล่องนี้เป็นของประทานจากหวงโฮ่วในงานแต่งงานของนาง 

ที่นอกวังสวินเฟยจ่านนำกองกำลังตามล่าต้วนถงโจว เขาได้ปะทะกับต้วนถงโจวที่เป็นยอดฝีมืออันดับสี่ของหอหลางหยา ทหารมากมายรุมจับแต่ไม่อาจสู้ได้ ต้วนถงโจวทิ้งรอยประทับผ่ามือทิ้งหลักฐานที่บนเสาไว้ แต่เฟ่ยจ่านสามารถเชือดแผ่นรัดข้อมือของต้วนถงโจวได้ข้างหนึ่งเป็นหลักฐาน  ก่อนต้วนถงโจวจะหลบหนีเขาไปในเขตวังหยวนไหลบ้านของหยวนชี่ 

ต้วนถงโจวแอบอยู่ซ่อนอยู่ในตู้ของแม่ของหยวนชี เลยทำให้เจอะช่องลับในตู้ เป็นตุ๊กตาสาปแช่งฮ่องเต้ ฟ่านจ่านนำกำลังเข้ามาขอตรวจค้นบ้านหยวนชี่ หยวนชีเลยนพเฟ่ายจ่านเข้าบ้านตรวจจนถึงตำหนักของแม่ ฟ่านจ่านสำรวจแล้วไม่พบจนถึงตู้ใบนั้น แม่ของหยวนชี่เปิดให้ดูก้อไม่พบอะไร แต่อีใบนั้นมีต้วนถงโจวพร้อมตุ๊กตาสาปแช่ง นางเลยต้องช่วยปกปิดต้วนถงโจว เฟ่ยจ่านเลยต้องนำกำลังกลับไป ต้วนถงโจวเลยข่มขู่ไท่ฟูหรินต่อด้วยตุ๊กตาแล้วยังบอกว่าเขารู้ความลับของนางมากกว่านั้น

สองพี่น้องออกจากวัง ผิงจิงโดนพี่ชายโกรธเอา ผิงจิงก้องอนบอกเบื่อพวกในวังคำพูดเล็กๆน้อยก้อคิดมาก พี่ชายเลยต้องอธิบายให้รู้ถึงสถานะตัวเอง ยังต้องสอนถึงเลห์กลของพวกในราชสำนักที่ต่อต้านคนจากฉางหลิง ทำให้ฉางหลิงวังต้องระวังตัวทุกการกระทำ แม้พลาดสักนิดก้อมีคนพร้อมจะโจมตีให้จมดิน  ก้อพอผ่านบ้านหหยวนชี่ที่ล้อมไปด้วยทหาร ผิงจางเลยอนุญาติให้ผิงจิงลงไปดู ผิงจิงเลยตามไปหาเฟ่ยจ่านที่นำกำลังตรวจค้นหาต้วนถงโจว ฟ่ายจ่านพาผิงจิงกับหยวนชี่มาดูรอยฝ่ามือ ตัวเขาเองนึกถึงรอยฝ่ามือที่อยู่บนโต๊ะของลุง

เสี่ยวเสวี่ยหยิบพระมาสวดมนต์บูชาแอบมานั่งร้องไห้ ผิงจิงกลับมากลับมาเห็นพอดี ก็กอดปลอบใจเมียที่กำลังเศร้าเพราะแต่งมานานแต่ก็ยังไม่มีลูกกันสักที

ผิงจิงกลับมาถึงบ้านก็เจอะพ่อบ้านโจวมารายงานว่าหลินซีต้องการพบด่วน ผิงจิงตกใจที่หลินซีพาเขามาคุยในห้องปิดมิดชิน แต่เรื่องที่หลินซีบอกกับผิงจิงทำให้เขาตกใจมากกว่านั้น หลินซียื่นกล่องเครื่องประดับของพี่สะไภ้พร้อมบอกว่าในกล่องซ่อนยาพิษตงไห่จูเจียวที่ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้สัมผัสมันจะส่งผลให้คนนั้นกลายเป็นหมันไม่อาจให้กำเนิดบุตรได้ หลินซีขอเวลาในการตรวจสอบสามวัน ผิงจิงเป็นห่วงความรู้สึกของพี่สะไภ้พร้อมขอบคุณหลินซีที่ใส่ใจ

ที่จวนสวินไป๋สุ่ย เฟ่ยจ่านมาพบลุงเพื่อรายงานการจับกุมนักโทษร้าย แต่ที่จริงเขาจะถามถึงความสัมพันธ์ของลุงเขากับต้วนถงโจว เพราะรอยฝ่ามือบนโต๊ะ แต่สวินไป๋สุ่ยปฎิเสธไม่ยอมรับแถมยังลำเลิกบุญคุญที่เลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดีอีก แถมยังคิดร้ายกับวังฉางหลินอีกเลยทำให้ลุงหลานทะเลาะกันเสียงดังจนป้าต้องมาห้ามทัพ

ผิงจิงมองพี่ชายรู้สึกเศร้า จนพี่ชายจับความรู้สึกได้เลยเรียกผิงจิงมาคุยเรื่องที่หลินซีเรียกเขาไปคุยเมื่อคืนนี้ ผิงจิงจึงบอกความจริงให้พี่ชายรู้ ผิงจางเสียใจเจ็บใจจนแทบทรุดที่เมียรักโดนทำร้าย ผิงจางเลยให้ผิงจิงเชิญหลินซีเข้าจวนวันนี้เพื่อทำการสืบหาได้สะดวกขึ้น เพราะวันนี้เมียไม่อยู่ไปไหว้พระขอพร หลินซีเดินสำรวจแล้วที่สิ่งเดียวคือกล่องนี้เท่านั้น ผิงจางรู้สึกขอบคุณหลินซีมาก ผิงจางเริ่มสืบหาที่มาของกล่องนี้



เฟ่ยจ่านนำเอาผ้ารัดข้อมือที่เขาได้จากต้วนถงโจว ไปให้แผนกพิสูจน์กลิ่นของฝ่ายในว่ามีที่มาจากที่ไหน สรุปเป็นกลิ่นน้ำมันพิเศษเฉพาะของฝ่ายใน และทางฉางหลินหวังนั่นชายาของซื่อจื่อจะใช้จุดขอพรที่วัดชิงเหลียน และสำนักเฉียนเทียนของนักบวขฝูหยาง เฟ่ยจ่านไปวัดชิงเหลียน เลยได้พบกับเสี่ยวเสวี่ยที่กำลังกลับจากการขอพรพระ เฟ่ยจ่านเลยรู้ว่าเสี่ยวเสวี่ยมาขอพรเพื่อขอลูก ที่วัดนี้ไม่มีร่องรอยเขาเลยจะไปสืบต่อที่สำนักเฉียนเทียน

ที่สำนักเฉียนเทียน ต้วนถงโจวมาพบฝูหยางเพื่อรายงานแผนสร้างความสับสนให้เฟ่ยจ่านให้ลุงหลานแตกคอกัน แต่เฟ่ยจ่านพาทหารตามมาค้นต้วนถงโจวมีสำนักแล้ว ต้วนถงโจวเปิดห้องลับให้ต้วนถงโจวหลบ แต่เฟ่ยจ่านจนค้นจนพบห้องลับบบ แต่ต้วนถงโจวหนีไปได้

สวินไป๋สุ่ยมาเข้าเฝ้าฮองเฮา มาคุยเรื่องเฟ่ยจ่านพบหลักฐานที่จวน แต่เขามาวางหมากเรื่องไท่จื่อจะอยู่ภายใต้การควบคุมของผิงจางในอาคต(อีลุงนี้กลัวเสียอำนาจควบคุมฮ่องเต้เองมากกว่า อีน้องสาวก้อโง่)

ผิงจางมารายงานพ่อเรื่องเฟ่ยจ่านนำกองกำลังเข้าตรวจค้นสำนักเทียนเฉียนเพื่อตามจับต้วนถงโจว ผิงจางเริ่มสงสัยในตัวฝูหยาง เริ่มเห็นแผนอะไรบ้างอย่าง ส่วนผิงจิงมาฟังผลการทดสอบ สรุปว่าใช่ยาพิษตงไห่จูเจียว แถมอยู่กับพี่สะไภ้มาเจ็ดปีนางเลยสะสมพิษไปมาก แต่ยังพอมีทางรักษา ผิงจิงมาสรุปให้ผิงจางฟังเรื่องนี้ 



สองพี่น้องไปคุกหลวงเพื่อสอบถามไต้เท้าซ่งที่ถูกคุกขังรอวันประหาร ใต้เท้าซ่งยอมรับเรื่องไม่พอใจในอำนาจของฉางหลิงวัง แต่เขาไม่ใช่คนขายชาติ และยังมีคนที่คิดแบบนี้ต่อฉางหลินนับไม่ถ้วนในราชสำนัก ผิงจิงถึงรู้ว่าที่บ้านตัวเองล้อมไปด้วยศัตรูที่มองไม่เห็นมากมาย ผิงจางเริ่มรุกวังหลัง เพื่อถามเรื่องกล่องเครื่องประดับที่ทำร้ายภรรยาของเขา เขาบีบบังคับให้ฮองเฮาลงมือสืบทางวังหลังให้ ถ้านางไม่ทำเขาจะทูลฮ่องเต้โดยตรง ยิ่งทำให้นังฮองเฮาเกลียดคนจากฉางหลิงมากขึ้นไปอีก ผิงจิงรอรับพี่ชายที่หน้าวัง ผิงจิงขอให้พี่พักตัวเองจะเป็นคนสิบหาเอง

ที่สำนักเทียนเฉียน ฝูหยางให้ลูกน้องไปตามข่าวทางเป่ยเยี่ยและตงไห่ ส่วนในวังฮ่องเต้ตามงานสวินไป๋สุ่ย แต่ดันตอบไม่ได้จนโดนดุ ถิงเซิงเดินมาคุยกับสวินไป๋สุ่ยเรื่องวันนี้ใต้เท้าซ่งจะโดนประหารวันนี้ 

ผิงจิงอาสาไปตามหาสมุนไพรให้หลินซีตามที่นางวาดไว้เป็นตัวอย่าง เขาต้องไปที่หุบเขาโฉวอวิ๋น ผิงจางมาหาพ่อที่ห้องทำงาน เลยจะขอช่วยพ่ออ่านเอกสารราชการให้ ผิงจางเจอะเอกสารชิ้นหนึ่งเลยแอบเก็บมาก เขาไปไปพบกับกรมพิธีการ ที่เขียนละดับความสำคัญของบุคคลของผู้นำสวนภาวนา ที่ให้พ่อเขาเป็นคนนำสวดอาจเป็นเหตุให้พ่อของเขาโดนตำหนิในความไม่ควร เขาออกมาก้ออาการทรุดก็พอดีเฟ่ยจ่านมาพบพอดีและเขาก็ได้ยินเรื่องมะกี้ เลยพยุงผิงจางขึ้นมา ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมานาน เฟ่ยจ่ายเลยมาปลอบผิงจางอย่าคิดมาก ผิงจางกลับมาบ้านเจอะผิงจิงรออยู่ เพื่อให้พี่ชายช่วยปิดพ่อเรื่องเขาที่จะหลบจากบ้านไปสักสองสามวัน พี่ชายรู้ทันที่ว่าสิ่งที่ผิงจิงจะทำเป็นเรื่องของเมียของเขานะเอง

ที่สำนักนักบวชของฝูหยางอิง ไท่ฟูเหรินแม่ของหยวนชี่ เริ่มร้อนตัวมาหารือเรื่องฮวงโห่ตามสืบกล่องเครื่องประดับพิษ ที่นางเป็นคนแอบสับเปลี่ยนตามที่ฝูหยางอิงสั่ง แต่ฝูหยางอิงกลับไม่กังวลในเรื่องนี้เพราะช่างที่ทำได้ตายไปเจ็ดปีละ 

ผิงจางเริ่มจัดระเบียบในจวนฉางหลิน โดยเฉพาะส่วนในตำหนักเขา ให้รองแม่ทัพมือขวามาดูแลจัดการเท่านั้น

ไท่ฟูเหรินนั่งนึกถึงอดีตที่ตัวเองแอบไปหาหมอผีฝูหยางอิง(สมัยก่อน) เพื่อให้สาปแช่งฮ่องเต้ เพราะผัวตัวเองทำการกบฎไม่สำเร็จ ผัวเลยโดนประหารแต่ฮ่องเต้ยังไว้ชีวิตอีแม่ลุกคู่นี้ไว้เพราะถือว่าลูกเมียของน้องชายตัวเอง แต่นางยังไม่หยุดแค่สาปแช่ง ยังคิดร้ายต่อวังฉางหลิน ที่เป็นคนจัดการผัวนางโดยตรง ด้วยการสนับสนุนของฝูหยางอิง แต่แผนการของนางโดนน้องสาวที่เป็นสนมของฮ่องเต้จับได้ เลยโดนบังคับให้ล้มเลิกแผนการสะ ไม่งั้นนางจะเปิดโป่งแผนชั่ว นางเลยมีชนักปักหลัง แล้วดันทำตัวมีพิรุจจนฮอวงโห่จับจุดอ่อนมาเป่าหู เพราะฮวงโห่อิจฉาสนมจากตงไห่เพราะเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้มาก แถมนางกำลังท้องด้วย เลยบังคับให้ไท่ฟูเหรินไปวางยาสนมตงไห่จนตกลูกตาย (อีนี่ชั่วมากโดนสันดานจริงๆ)

หลินซีฝึกฝั่งเข็มกับอวื๋นเจี่ยจนนางแขนพรุน555 ผิงจางก้อปลอบเมียที่บ่นเป็นห่วงผิงจิง แล้วเปรยเรื่องทูตเปยเอี้ยนส่งองค์หญิงมาเชื่อมสัมพันธไมตรี นางกลัวผิงจิงจะโดนจับแต่งงาน ตอนนี้นางเล็งหลินซีให้ผิงจิงอยู่อิอิ

ผิงจิงก้อปีนไปเก็บสมุนไพรจนได้ครบก้อขี้ม้ากลับเข้าเมือง ตรงศาลาก่อนเข้าเมืองเขาเจอะหลินซีมายือรอ ผิงจิงดีใจนึกว่าหลินซีมารอรับตัวเอง แต่หลินซีบอกมารับตัวยาต่างหาก ผิงจิงก้อเก้อไปแต่หลินซีกลับมอบเหล้าเป็นของกำนัล ให้เขากินแก้หนาว(แหมหลินซีสายซึนของจริง555) หลินซีบอกยานะจะทำเสร็จหลังปีใหม่

ในวันปีใหม่ ในพระราชวังเฉลิมฉลองอลังเช่นเคย สามหนุ่มแห่งวังฉางหลินไปร่วมโต๊ะเสวยกับฮ่องเต้  ไทจื่อตามติดผิงจิง ผิงจิงจะเอาขนมให้ไท่จื่อกินเจอะฮ่องโห่มองตาแทบหลุด ผิงจางเลยต้องหยิบมากินพิสูจน์ให้นังฮวงโฮสบายใจแทน(ผิงจางสติดีมากแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทัน)

ที่จวนฉางหลิน ผิงจางเริ่มถามผิงจิงว่าคิดยังไงกับสัญญาหมั้นที่พอทำไว้ ผิงจิงเองก็อยากเจอะนางแต่ยังไม่คิดว่าจะได้แต่งกับนางหรอก กลับมาบ้านผิงจางกับเมียคำนับพ่อ ตามด้วยผิงจิง จากนั้นสามคนพ่อลูกทำพิธีคำนับป้ายไร้นามที่ห้องบูชาบรรพชน (ป้ายนี้จิ่งเหยียนฮ่องเต้องค์ก่อนเป้นผู้สร้างและมอบให้ที่ตำหนักฉางหลิงไว้บูชาดวงวิณญาณทุกดวงที่ใตายภายใต้ธงฉางหลิง)

ผิงจิงมาหลินซีพร้อมขนมของพี่สะไภ้หลังปีใหม่ หยวนชี่มาหาเพื่อนกินเหล้าที่ร้านอาหาร ผิงจินผ่านมาเลยกะไปร่วมวงเลยได้ยินเพื่อนหยวนชี่พูดนินทาพี่สะไภ้ที่แต่งงานมานานแล้วแต่ยังไม่มีบุตรสะที สงสัยเป็นผลกรรมที่ตระกูลนี้ฆ่าคนไว้มากมายผิงจิงได้ยินของขึ้นเลยไล่กระทืบเพื่อนหยวนชี่สะน่วม ก้อพอดีเฟยจ่านพาคนมาตรวจตราพอดีเลยมาห้ามศึกไว้ได้ก่อน ผิงจิงบ่นยังระบายได้ไม่สะใจเลย

ผิงจิงไปบ่นเรื่องนี้ให้ผิงจาง ผิงจางถึงบอกว่ามีคนนินทาว่าร้ายกับฉางหลิงมากกว่านี้อีก ผิงจิงยิ่งรู้แย่กับสังคมจอมปลอมเหลานี้ ผิงจิงบอกว่าหลินซีฝากมาบอกว่าถึงเวลาต้องบอกเมียในเรื่องนี้ 

ผิงจางรอเมียกลับมาจากวัด เพื่อบอกเรื่องที่นางถูกพิษทำให้ร่างกายเป็นหมัน เสี่ยวเสวี่ยเสียใจมากที่นางอดทนรักษาตัวมาหลายปี ทั้งไปไหว้พระขอพรมาตลอด  แต่โชคยังดีที่หลินซีสามารถรักษานางได้ และจะเริ่มทำการรักษาเสี่ยวเสวี่ยที่วังฉางหลิน เสี่ยวเสวี่ยเลยยิ่งหมายตานางมาเป็นน้องสะไภ้...





ความคิดเห็น

  1. ตามมาจากภาค1 นักแสดงรุ่นใหม่ สวยงามน่ารัก เนื้อเรื่องส่วนตัวยังคิดถึงภาค1มาก อยากเห็นคนในภาค1 เช่น เฟยหลิวไปไหน

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สารบัญชุมนุมปีศาจเล่มสอง ตอนพญากวางเก้าสี...อื้อหือ...น้องลู่โคตรน่ารั...ก (ฉบับพิมพ์1ที่แปลมาไม่ครบนะจ๊ะ...รอเล่มที่เขาอีดิทใหม่ไม่ไหว555)

สารบัญชุมนุมปีศาจ...เรื่องราวของมือปราบปีศาจห้าหนุ่มหล่อ จากหน่วยปราบมารแห่งต้าถัง