กระบี่คู่หานซาน...รักใสใสของอสูรเพียงพอนน้อย

ตอนแรกเห็นชื่อนึกว่านิยายแนวบู๊ตะลุยยุทธภพ แต่กลายเป็นนิยายแนวเทพเซียน ที่เล่าเรื่องของนายเอกเมิ่งเสวี่ยหลี่ อดีตเขาเป็นจอมอสูรเพียงพอนผู้ยิ่งใหญ่ในโลกของอสูร แต่กลับโดนเพื่อนสนิทแทงหลังจนเกือบตาย โชคดีน้องหนีรอดมาได้ แต่ก็ใกล้จะตายเต็มที่ จากที่มีร่างกายใหญ่โตเท่าภูเขา ก็หดย่อลงมาเท่าร่างจริงที่ตัวเท่าเมี่ยง น้องเมิ่งที่นอนหายใจรวยรินท่ามกลางหิมะ ได้พบจี้เซียวเจินเหรินที่เดินทางผ่านมาแถวนั้นพอดี น้องขอร้องให้เขาช่วยเหลือ แลกกับการที่น้องจะยอมรับใช้เป็นสัตว์อสูรให้เขา แต่เพราะน้องเป็นอสูรใสซื่อน่ารักน่าหยิกมาก มิน่าถึงทำให้อริยะกระบี่จี้เซียวเจินเหรินผู้แสนเย็นชา กลับยอมรับอสูรน้อยมาเป็นคู่บำเพ็ญแทน555 แต่ต่อมากลับมีเรื่องไม่คาดฝันที่อยู่ๆจี้เซียวเจินเหรินก้อหายสาปสูญไป ทิ้งให้น้องเป็นม่ายที่ครองสมบัติล้ำค่าของสามีสะงั้น ทำให้น้องต้องปกป้องของดูต่างหน้าสามี พร้อมสืบหาสามีไปด้วย.....(เพราะน้องเมิ่งไม่เชื่อว่าสามีตัวเองตายจริง555) มาลุ้นกับการเดินทางครั้งนี้ของน้องกันอิอิ


เมิ่งเสวี่ยหลี่เป็นอสูรที่ถือกำเนิดจากไอทิพย์บนเขาเสวี่ยซาน เขาเป็นอสูรเพียงพอนขนสีขาวที่อยู่บนภูเขายังมีความสุข เฝ้าบำเพ็ญเพียรจนสามารถกลายร่างในรูปมนุษย์ได้ จึงได้ลงเขากับเพื่อนสนิทที่เป็นอสูรนกยูงเซียนหมิง กับอสูรงูยักษ์หลิงซาน สามสหายข้ามไปเล่นสนุกในแดนมนุษย์ แต่กลับมีอสูรบ้างตนที่ไปสร้างหนี้กรรมโดยไม่ตั้งใจ  จี้เซียวเจินเหรินเป็นนักพรตในแดนมนุษย์ ที่ศึกษามรรคากระบี่จนสามารถบรรลุมรรคากระบี่ จนได้เป็นอริยะกระบี่ก่อนนักพรตแก่ๆ ที่เฝ้าศึกษามรรคาจวนจะหมดอายุขัย ก็ยังไม่สามารถข้ามสภาวะของตัวเองได้ ไม่พอเขายังบรรลุไปถึงระดับปรมัตถ์เป็นคนแรกในแดนมนุษย์อีก แต่เพราะเป็นนักพรตที่เฝ้าศึกษามรรคาด้วยตัวเอง จี้เซียวจึงเป็นคนสันโดษ เย็นชา ไม่มีเพื่อนสนิทใดๆ มีเพียงศิษย์พี่ร่วมอาจารย์คนเดียวที่เขาสามารถพูดคุยได้ แต่หูซื่อศิษย์พี่เป็นคนแปลกที่ศึกษามรรคาทุกแขนงยกเว้นมรรคากระบี่  แต่ที่ทั้งคู่มีเหมือนกันคือ ความคิดที่เป็นขบถกับแนวคิดและการสอนแบบดั้งเดิมของสำนักหานซาน สุดท้ายหูซื่อโดนไล่ออกจากสำนัก เพราะเขาไม่ยอมฝึกมรรคากระบี่ แต่จี้เซียวกลับยังมุ่งมั่นศึกษามรรคากระบี่ จนสามารถบรรลุมรรคาเหนือผู้อาวุโสทุกคนในสำนักหานซาน จนเขามีอำนาจมากพอจะเปลี่ยนกฎเกณฑ์และแนวปฎิบัติที่ล้าหลังของสำนักหานซานได้ ด้วยความปรารถนาดีของจี้เซียวที่มีต่อแดนมนุษย์ แต่สุดท้ายมันกลับเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฎกรรมจี้เซียวแทน...แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางตามหาความหมายของความรักที่จี้เซียวมีต่อเมิ่งเสวี่ยหลี่.....อิอิ

เล่ม1


 

วันนี้ที่สำนักกระบี่หานซาน กำลังทำพิธีเซ่นไหว้จี้เซียวเจินเหรินที่ศาลบรรพชน หลินเสี่ยวไหวนักพรตน้อยผู้ดูแลยอดเขาฉางซุนที่กำลังไปยอดเขาฉางซุน เพื่อตามเมิ่งเสวี่ยหลี่ผู้เป็นภรรยาม่ายของจี้เซียวเจินเหรินให้เขาไปร่วมทำพิธี หลินเสี่ยวไหวคิดถึงเมื่อสามปีที่แล้ว จี้เซียวเจินเหรินได้พาหนุ่มน้อยหน้าตางดงามวัยสิบหกนามเมิ่งเสวี่ยหลี่กลับเข้าสำนัก เพื่อทำพิธีแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณี แต่เพราะน้องกลัวอากาศหนาวมาก ในขณะที่สำนักหานซานกลับตั้งอยู่บนเขามีหิมะปกคลุมยอดเขาตลอดเวลา ทำให้จี้เซียวเจินเหรินลงทุนทำค่ายเวทฝืนธรรมชาติ สร้างยอดเขาฉางซุนให้เป็นยอดเขาที่อบอุ่นทั้งปี มีหญ้าเขียวชะอุ่มและดอกไม้บานตลอดปี เพื่อเอาใจภรรยาตัวน้อย ทำให้คนอิจฉาในวาสนาของน้องเมิ่งเสวี่ยหลี่ทั้งแผ่นดิน555 ไม่พอน้องยังไม่ต้องฝึกกระบี่แต่ยังใด วันๆเอาแต่ปลูกต้นไม้ เลี้ยงปลาอย่างสงบไปวันๆ เพียงแต่ตอนนี้น้องอายุสิบเก้าแต่กลับกลายเป็นม่ายเสียแล้ว (แต่อย่าได้เสียใจไป เพราะจี้เซียวเจินเหรินนั้นมีทรัพย์สมบัติและของวิเศษมากมายทิ้งไว้ให้น้อง)

หลินเสี่ยวไหวไปถึงบ่อปลาก้อพบน้องเมิ่งกะลังโปรยอาหารปลา เขารีบรายงานว่าทางเจ้าสำนักให้มาตามน้องเมิ่งไปรวมทำพิธีที่ศาลบรรพชน น้องเมิ่งเลยขอไปใส่เสื้อคลุมพร้อมหิ้วเตาอุ่นมือแล้วจะตามไป แต่ในใจน้องเมิ่งหวนคิดถึงเจ็ดวันก่อน ที่เจ้าสำนักมาบอกข่าวว่าจี้เซียวเจินเหรินได้ตายจากไปแล้ว ที่แดนนอกพิภพพร้อมสังหารพญามารที่กลับมาเกิดใหม่ แต่เมิ่งเสวี่ยหลี่ไม่เชื่อว่าจี้เซียวเจินเหรินตายจริง เพราะก่อนเขาจะจากไปวันนั้น จี้เซียวได้บอกให้น้องเมิ่งรอเขากลับมา เพื่อจะได้มอบของชิ้นหนึ่งให้น้อง

ระหว่างทางที่น้องเมิ่งเดินลงเขากลับเจอะหลินเสี่ยวไหววิ่งมาทักอีก เลยเจอะน้องเมิ่งจัดการเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของอสูรนกยูงเชี่ยวเซียนหมิง เพื่อนสนิทจากแดนอสูร ที่จะมาชวนเขาหลบหนีจากสำนักหานซาน เพราะหลังจี้เซียวเจินเหรินตาย จะต้องมีคนมาหาเรื่องน้องเมิ่ง เพื่อชิงสมบัติวิเศษแน่นอน แต่น้องเมิ่งไม่ไปเพราะตั้งใจจะตามสืบเรื่องของสามี

ที่ศาลบรรพชน มีเจ้าสำนักพร้อมเจ้ายอดเขาทั้งหมดของหานซาน และยังมีเหล่าแขกที่เป็นตัวแทนจากสำนักต่างๆ เมื่อเห็นน้องเมิ่งเดินเข้ามาก้ออดที่จะซุบซิบกันไม่ได้ในโชควาสนาของน้อง หลังน้องเมิ่งจุดธูปทำพิธีทุกอย่างเสร็จแล้ว น้องเมิ่งมองดูแขกมากมายที่มาร่วมงานศฟ(แต่ที่จริงน่าจะมาเพื่อทวงถามสมบัติวิเศษของจี้เซียวเจินเหรินต่างหาก) ในที่สุดก็โดนเหล่าแขกที่อาศัยมาร่วมงานพิธีไว้อาลัย เริ่มทวงถามหากระบี่คู่กายของสามีทันที

เพราะร้อยปีก่อนมีพวกมารบุกเข้ามาในแดนมนุษย์ ทำให้หกสำนักใหญ่ต่างสละของวิเศษแล้วทุ่มเทหลอมอาวุธวิเศษขึ้นมา กลายเป็นกระบี่วิเศษนามอุษาไร้เขตขัณฑ์ มอบให้จี้เซียวเจินเหรินไว้ใช้ต่อสู้ปกป้องโลกมนุษย์ ยามนี้เมื่อสิ้นจี้เซียวเจินเหรินแล้ว ทุกสำนักต่างมาทวงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของอุษาไร้เขตขัณฑ์ในงานนี้ อย่างไม่มีการไว้หน้าสำนักหานซานสักนิด ไม่พอทั้งหกสำนักต่างถกถึงวิธีที่จะแบ่งอุษาไร้เขตขัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ โดนไม่สนใจเจ้าสำนักหานซานที่กำลังโมโหจัด ที่โดนหยามเกรียติ์ขนาดนี้

ฉับพลันก็ได้ยินเสียงน้องเมิ่งประกาศ ว่าจี้เซียวเจินเหรินได้ตั้งกฎผู้สืบทอดอุษาไร้เขตขัณฑ์ไว้แล้ว โดยผู้ที่จะได้กระบี่วิเศษไปครอง ต้องเป็นผู้ชนะในการประลองแดนสนธยาฮั่นไห่เท่านั้น ซึ่งไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นคนจากสำนักใด ขอเป็นผู้ที่มีความสามารถที่แท้จริงเท่านั้น ทำให้ทั้งหกสำนักได้สติ เจ้าสำนักหานซานที่ตอนแรกตั้งใจจะทำลายอาวุธวิเศษเพื่อตัดปัญหา ก้อเลยใช้วิธีนี้เป็นทางออก ประกาศสืบทอดเจตนารมย์ของจี้เซียวเจินเหริน ว่าปีหน้าเมื่อเปิดแดนสนธยาฮั่นไห่ ผู้ที่ชนะการประลองจะได้เป็นเจ้าของอุษาไร้เขตขัณฑ์ทันที จากนั้นเมิ่งเสวี่ยหลี่ก็ประกาศต่อหน้าทุกคน ว่าตัวเองก็จะเข้าร่วมประลองในครั้งนี้ด้วย เพื่อปกป้องของดูต่างหน้าของสามี 

เย็นย่ำหลังส่งแขกลงเขาไปหมดแล้ว เจ้าสำนักพร้อมเจ้ายอดเขาทั้งหมด มานั่งปรึกษาเรื่องการประลองแดนสนธยาฮั่นไห่ในปีหน้า เพราะในสายตาพวกเขา น้องเมิ่งช่างไม่เอาไหน555 บำเพ็ญเพียรต่ำ ไม่มีวิชากระบี่ติดกาย ไม่พอยังมีรูปร่างบอบบางอ่อนแอน่าถนอมป่านนั้น สรุปว่าแต่ละยอดเขาจะส่งศิษย์เอกของตัวเองมาตามประกบน้องเมิ่ง เพื่อปกป้องน้องเมิ่งให้รอดพ้นภัยในแดนสนธยาฮั่นไห่ 

น้องเมิ่งกลับยอดเขาฉางซุน ก็พบว่าเพื่อนรักยังอยู่ดีกินดีในที่พักของเขา เซียนหมิงถามว่าเขาไม่ใช้กระบี่แล้วจะไปร่วมแย่งชิงกับพวกนั้นทำไม น้องเมิ่งบอกแค่ของดูต่างหน้าสามีไม่อาจให้ตกไปอยู่ในมือผู้อื่น เซียนหมิงเลยถามว่าน้องเมิ่งนี้สรุปว่าตกหลุมรักจี้เซียวแล้วใช่ไหม น้องเถียงเสียงแข็งว่าป่าว555 เซียนหมิงเลยขอดูโฉมอุษาไร้เขตขัณฑ์สักหน่อยว่าหน้าตาเป็นยังไง น้องเมิ่งเลยพาไปที่บ่อปลาแล้วบอกว่ากระบี่อยู่ที่ก้นบ่อ เพราะจี้เซียวไม่เคยจับอุษาไร้เขตขัณฑ์มานานมากแล้ว เพราะเขาอยู่ในขั้นกระบี่อยู่ที่ใจแล้ว 

ที่นอกเขตแดนหานซาน ในร้านอาหารมีศิษย์สำนักหานซานสามคน กำลังนั่งรอเด็กหนุ่มที่ดูป่วยหนักนั่งกินอาหารจนหมด เพื่อจะได้รีบเดินทางกลับสำนัก เพราะรู้ว่าคนจากสำนักหมิงเยวี่ยหูลอบสะกดรอยตามมาตลอดทาง เพราะคราวที่แล้วโดนสำนักหมิงเยวี่ยแย่งชิงว่าที่ศิษย์ที่รากฐานดีไปต่อหน้าต่อตา ทำให้พวกเขาระแวงว่าจิงตี๋ศิษย์เอกสำนักหมิงเยวี่ยหู จะมาแปลงร่างเป็นศิษย์พี่หญิงผู้งดงามเพื่อมาล่อลวงอีกครั้ง เลยต้องรีบเดินทางขนาดนี้ 

แต่สุดท้ายจิงตี๋จากสำนักหมิงเยวี่ยหูก็มาก่อกวนจริงๆ เพื่อจะแย่งชิงเด็กหนุ่มที่มีร่างสถิตวิญญาณกระบี่แต่กำเนิด แต่เมื่อเขาเห็นร่างกายผ่ายผอมซีดเซียวคล้ายคนป่วยหนักของเด็กหนุ่ม ความอยากได้คนมาก้อเริ่มลดลง555 แต่ยังคงอวดอ้างว่าที่สำนักหมิงเยวี่ยหูว่าสี่ฤดูล้วนอุ่นสบายตัว ไม่หนาวจนแข็งตายแบบสำนักหานซาน แต่เจอะเหอหมิงสวนกลับว่าที่หานซานก็มียอดเขาฉานซุนที่อบอุ่นตลอดปี 

เลยทำให้เด็กหนุ่มถามถึงเจ้าของยอดเขาฉางซุน เลยทำให้รู้ข่าวว่าเมิ่งเสวี่ยหลี่ประกาศตัวจะลงประลองในแดนสนธยาฮั่นไห่ในปีหน้า เพื่อปกป้องสิ่งของต่างหน้าสามี แถมยังเรื่องที่จี้เซียวสร้างกฎเพื่อมอบอุษาไร้เขตขัณฑ์ให้กับผู้ที่คู่ควรอีก ทำเอาเด็กหนุ่มหน้าแดงระเรื่อขึ้นทันที เพราะเด็กหนุ่มคนนี้คือจี้เซียว ที่ได้ยึดร่างมาจากเจ้าของร่างที่ใกล้ตายมานะเอง เขาสงสัยว่าใครแอบอ้างสร้างเรื่องขึ้นมา ที่เขาฝั่งอุษาไร้เขตขัณฑ์ไว้ก้นบ่อ ก็เพื่อสะกดไม่ให้เมิ่งเสวี่ยหลี่ไปรังแกใคร และไม่ให้ใครมารังแกเมิ่งเสวี่ยหลี่ด้วย

ว่าแล้วจี้เซียวก็นึกถึงครั้งแรกที่พบกัน ตอนเขาเดินทางไปยังรอยต่อระหว่างแดนมนุษย์ อสูร และมาร กลับพบร่างเพียงพอนตัวน้อยสีขาวนอนจมกองหิมะ ส่งเสียงเรียกเขาให้ช่วยเหลือ เพื่อแลกกับการยอมทำพันธสัญญาสัตว์อสูรให้เขา จี้เซียวอุ้มเพียงพอนน้อยในมือแล้วดูสภาพร่างของมันที่บาดเจ็บหนัก ถึงขั้นญาณอสูรจวนดับสลาย ชีพจรก็ขาดหมดแล้ว รักษากายไว้ได้ก้ออยู่ได้อีกไม่นาน จี้เซียวเลยถามหาญาติพี่น้องของเจ้าเพียงพอน เพื่อจะพามันไปพบหน้าญาติๆครั้งสุดท้ายให้แทน แต่เพียงพอนน้อยบอกว่าตัวมันกำเนิดมาจากไอทิพย์ที่เชิงเขาเสวี่ยนซานศักดิ์สิทธิ์ในแดนอสูร จึงไม่มีญาติพี่น้อง แล้วตัวน้องยังไม่ได้ชาตะขาด ว่าแล้วมองตาแป๋วใส่จี้เซียว แล้วบอกว่าจี้เซียวเป็นคนดี...น้า

สุดท้ายจี้เซียวก้อแพ้ใจให้เจ้าก้อนขนสีขาว555 เลยบอกว่าพอมีทางรอดอยู่ แต่เจ้าเพียงพอนน้อยยินดีจะสละร่างอสูรนี้ไหม เขาจะไปขอยาคืนชีพจากศิษย์พี่ เพื่อเอามาสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ แต่เป็นร่างมนุษย์นะ แล้วจากนี้ไปเจ้าเพียงพอนจะทนหนาวไม่ได้ เจ้าเพียงพอนน้อยตกลงทันที ขอแค่จี้เซียวมอบเตาไฟเล็กๆให้ก้อได้แล้ว แต่จี้เซียวมีข้อแม้ว่าต่อไปนี้ห้ามเพียงพอนน้อยฆ่าคนในแดนมนุษย์ เพียงพอนน้อยบอกว่าจะยอมกินเจไม่กินเนื้อ แต่ถ้ามีคนมาฆ่าเขาจะทำไง จี้เซียวบอกมีเขาอยู่ปกป้องไง จะไม่มีใครมาฆ่าเพียงพอนน้อยได้ 

จี้เซียวจึงรักษาอาการบาดเจ็บภายนอกให้มันก่อน ระหว่างรอยาคืนชีพนั้นเพียงพอนน้อยก้อจะซุกตัวหลับในอ้อมอกของจี้เซียว หลังจากนั้นจี้เซียวเจินเหรินเดินทางไปขอยาจากศิษย์พี่ที่เป็นเจ้าของแดนสรวงบนฟ้า แต่ศิษย์พี่กลับทักว่าเขาฝืนลิขิตสวรรค์ไปช่วยอสูรที่ใกล้สิ้นอายุขัย ระวังจะต้องได้รับทัณฑ์สวรรค์ที่ฝืนลิขิตฟ้า สุดท้ายสามปีต่อมาจี้เซียวเจอะเคราะห์หนัก ถึงกายเนื้อสิ้นสลายไม่เหลือแม้แต่ฝุ่นธุลี

เมิ่งเสวี่ยหลี่ที่อยู่บนยอดเขาฉางซุนก็นึกถึงจี้เซียว ยามเขาอยู่ในร่างเพียงพอน เมิ่งเสวี่ยหลี่สามารถจะเลียหน้าเลียตาจี้เซียวเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณได้ หรืออ้อดอ้อนซุกร่างขอไออุ่นจากร่างกายจี้เซียวก็ได้ แต่พอเขาได้ร่างมนุษย์มา จี้เซียวกลับคืนสู่โหมดอริยะกระบี่ผู้แสนเย็นชาทันที ถึงจะได้ตำแหน่งคู่บำเพ็ญ แต่พวกเขาแทบไม่ได้อยู่ดวยกันเลย แต่จี้เซียวยังคงดูแลเขาให้บำเพ็ญเพียรด้วยตัวเอง เซียนหมิงหลังจากชวนน้องเมิ่งลงเขาไม่ได้ก้อเป็นฝ่ายลาจากไปเอง

วันต่อมาน้องเมิ่งก้อเริ่มต้นด้วยการลงไปวิหารถกสัจธรรม ตามแผนของเจ้าสำนักที่วางไว้ เพื่อเริ่มต้นศึกษาวิชาพื้นฐานรวมกับศิษย์นอกสำนัก ผู้เริ่มต้นฝึกวิถีนักพรตซึ่งมีแต่คนรุ่นเยาว์กว่าเขา ทุกคนต่างตื่นเต้นที่ได้เห็นน้องเมิ่งตัวจริง555 แต่จู่ๆคนก้อแตกฮือไปรุมดูกันที่หน้าต่าง น้องเมิ่งเลยสงสัยว่าพวกเขาไปดูอะไรกัน บ่าวรับใช้เลยบอกน้องเมิ่งว่า ศิษย์พี่ออกไปรับศิษย์น้องใหม่ที่มีร่างสถิตวิญญาณกระบี่แต่กำเนิด ให้มาเข้าสำนักหานซาน วันนี้เป็นวันแรกที่เขาจะมาเข้าศึกษาที่วิหารถกสัจธรรม เลยมีแต่คนอยากเห็นหน้าเขา เพราะได้ข่าวว่านอกจากรูปหล่อ อายุน้อย ยังมีพรสวรรค์เหมือนจี้เซียวเจินเหรินเชียวนะ

น้องเมิ่งได้ยินก้อหมดความสนใจ(ชิ...บังอาจมาเทียบกะสามีข้า555) น้องเมิ่งมีหนังสือปฐมวิถีแห่งมรรคาที่จี้เซียวเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง เพื่อให้น้องเมิ่งอ่านและใช้ในการฝึกมรรคา ซึ่งน้องเมิ่งชอบอ่านมากเพราะมีภาพประกอบสี่สีตลอดทั้งเล่ม555 ตอนน้องเมิ่งเอาหนังสือมาอ่านเลยเจอะอวี๋ฉี่ซูทักทาย ก็พอดีได้เวลาเรียน แต่เพราะน้องเมิ่งมีศักดิ์สูงกว่าผู้สอน แต่น้องกลับไม่ถือ ทั้งยังเรียกผู้สอนว่าท่านอาจารย์อีก ยิ่งทำให้เสียงลือว่าน้องเป็นคนหยิ่งยโสก้อเริ่มจางหายไป เมื่อเข้าสู่บทเรียนน้องเมิ่งก้อตั้งใจเรียน จนสิ้นสุดเวลาของการเรียน ก้อเป็นช่วงเวลาถาม-ตอบในข้อสงสัย ซึ่งอาจารย์ผู้สอนให้น้องเมิ่งเป็นผู้ไขปัญหาให้กับศิษย์น้อง น้องเมิ่งก้อยิ่นดี ซึ่งน้องสามารถให้คำตอบที่สามารถเข้าใจได้ง่าย ไม่เวิ้นเวอร์เข้าใจยากเหมือนเหล่าอาจารย์ผู้สูงวัย ยิ่งทำให้มีแต่คนเข้ามาถามไถ่กับน้องมากมาย แต่น้องก็ยินดีที่จะตอบ

วันที่สอง อวี๋ฉี่ซูมาดักรอน้องเมิ่งแต่เช้า เพื่อมาสารภาพว่าน้องเมิ่งไม่เหมือนกับที่คนอื่นนินทา ทั้งที่ได้ยินคนอื่นนินทาตัวเองกลับไม่โกธร แต่ถ้าใครมาว่าใครจี้เซียวน้องเมิ่งจะโกธรทันที555 ดังนั้นเขาตั้งใจจะมาเป็นเพื่อนกับน้องเมิ่ง555 เพราะมะวานน้องเมิ่งได้ตอบปัญหาให้เหล่าศิษย์น้องจนทุกคนได้ตำตอบที่แจ่มแจ้ง วันนี้จึงมีคนนำขนมผลไม้เชื่อมมามอบให้น้องเมิ่งจนเต็มโต๊ะ555 แต่ว่าข่าวเซียวถิงอวิ๋นที่เรียนได้ไม่กี่วัน เขาก็สามารถดึงปราณเข้าร่างได้แล้ว มีแต่คนชื่นชมว่าเก่ง ฉลาดล้ำดุจจี้เซียว ทำให้น้องเมิ่งไม่สบอารมย์ แต่อวี๋ฉี่ซูที่ได้ยินข่าวกลับโมโหเกรี้ยวกราดกว่าน้องเมิ่งสะอีก55 ทั้งสองคนตั้งพรรคยงจี้ตั่งเพื่อพิทักษ์นามของจี้เซียว โดยมีน้องเมิ่งเป็นหัวหน้าพรรคทันที555

เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด อวี๋ฉี่ซูเลยจะชวนน้องเมิ่งไปเที่ยวเล่นในเมือง แต่น้องเมิ่งปฎิเสธเพราะเขาต้องไปหอคัมภีร์เพื่อยืมคัมภีร์มาอ่าน อวี๋ฉี่ซูนับถือที่น้องเมิ่งรักมั่นในจี้เซียว ทำให้น้องเมิ่งยิ่งต้องเล่าเรื่องตัวเองรักมั่นต่อจี้เซียวจนเลยเถิด จนเผลอเล่าว่าพวกเขาต้องนอนด้วยกันทุกค่ำคืนถึงจะหลับสบาย555 โดยไม่รู้ว่าตรงที่ใกล้ๆแถวนั้น มีจี้เซียวในร่างเซียวถิงอวิ๋นยืนฟังอยู่ เลยได้ยินน้องเมิ่งพูดจาเพ้อเจ้อมะกี้ จี้เซียวได้ยินแล้วก็ขำน้องเมิ่งที่พูดเป็นตุ๊เป็นต๊ะ555

ที่แดนใต้ถิ่นสำนักหมิงเยวี่ยหู มีทะเลสาบจันทร์กระจ่างเป็นแลนด์มารค อวิ๋นซวีจื่อเจ้าสำนักที่เพิ่งออกจากการฝึกตน จิงตี๋ศิษย์เอกมาต้อนรับอาจารย์พร้อมรายงานข่าว เรื่องหานซานได้ศิษย์ใหม่ที่มีร่างสถิตวิญญาณกระบี่แต่กำเนิด ตอนนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้สืบทอดกระบี่จี้เซียวเจินเหริน เสียดายที่ก่อนหน้านี้เขาได้ไปชวนเด็กหนุ่มมาเข้าสำนักแล้ว แต่เด็กหนุ่มไม่ยินยอมจะตามเขามา อวิ๋นซวีจื่อไม่สนใจเรื่องนี้ เพียงถามว่าเขามีความมั่นใจจะชนะในแดนสนธยาฮั่นไห่กี่ส่วน จิงตี๋ตอบตามจริงว่าเขามั่นใจแปดส่วน ทำให้อวิ๋นซวีจื่อโมโหไล่ให้เขารีบไปกักตัวเพื่อฝึกตนก่อนจะถึงเวลาประลอง

หลังจิงตี๋จากไป ก็ปรากฎร่างอาจารย์อากุยชิงขึ้นมา อวิ๋นซวีจื่อเลยหันไปถามกุยชิงว่ามองจิงตี๋เป็นยังไง กุยชิงบอกว่าแค่พอใช้ทำงานทั่วไป แต่ไม่อาจทำงานใหญ่ได้ กุยชิงบอกว่าในวันประลองแดนสนทธยานั่นเขาได้เตรียมแผนการไว้แล้ว ส่วนเรื่องที่จู่ๆสำนักหานซานก็ออกข่าว ว่าได้พบร่างสถิตวิญญาณกระบี่แต่กำเนิดที่เหมือนจี้เซียวนั่น น่าจะเป็นแผนประคองชื่อเสียงหานซานยามไร้บารมีของจี้เซียวเท่านั้น

ที่หอคัมภีร์สำนักหานซาน น้องเมิ่งเคยคิดจะมาหาหนังสือที่จี้เซียวเขียน แต่ปรากฎว่าจี้เซียวไม่เคยเขียนหนังสือใดๆไว้เลย555 ระหว่างที่เดินเลือกหาหนังสือ ก้อได้ยินเสียนคนจับกลุ่มคุยเรื่องเมาท์ของเรื่องเซียวถิงอวิ๋น น้องเมิ่งเลยได้รู้ว่าเซียวถิงอวิ๋นเป็นเด็กกำพร้าอยู่กลางเขาคนเดียว น้องเมิ่งได้ฟังก้อไม่พอใจที่พวกนั้นจับกลุ่มเมาท์คนอื่นให้เสียๆหายๆ เลยตั้งใจจะไปจะเอ๋ะทำให้เขาวงแตกเล่นๆ แต่พอจะย่องๆไปแกล้งพวกนั้น กลับไปชนอีกคนสะได้ จนน้องเมิ่งกระแทกไปชนชั้นวางหนังสือ จนเทียนไขบนชั้นจะหล่นใส่ กลับถูกคนนั้นโอบกอดเอาไว้พร้อมคว้าเทียนไขไว้ได้ด้วย 

หลินเสี่ยวไหวที่เห็นภาพชายหนุ่มแปลกหน้า บังอาจจับมือถือแขนภรรยาท่านจี้เซียว ก้อตะโกนลั่นให้เขาปล่อยมือน้องเมิ่งเดียวนี้ น้องเมิ่งต้องรีบปลอบหลินเสี่ยวไหวว่าน้องเมิ่งเป็นคนผิดเอง ในที่สุดน้องเมิ่งก็ได้เห็นหน้าเซียวถิงอวิ๋นสะที55 ความเป็นอริก้อผุดขึ้นมา555 น้องเมิ่งเลยรีบไล่ให้เขากลับไปพักผ่อนแทน น้องเมิ่งพอกลับถึงเรือนพัก ก้อกลับมาคิดว่าเซียวถิงอวิ๋นที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกตนได้ไม่กี่วัน กลับสามารถอำพรางกายจนเขาไม่รู้เลยว่ามีคนอยู่ใกล้ๆตัว เซียวถิงอวิ๋นช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงๆด้วย น้องเมิ่งเริ่มสงสัยในตัวตนของเซียวถิงอวิ๋น น้องเมิ่งเลยวางแผนคิดจะตีสนิทเพื่อสืบหาตัวจริงของเซียวถิงอวิ๋น

ฝั่งจี้เซียวที่กลับมาหานซาน ตอนแรกกะจะกลับมาสำนักหานซานเงียบๆ กลับกลายเป็นเรื่องโด่งดังแทน มีแต่คนมาสนใจเขา แต่เมื่อคิดอีกทีว่าแบบนี้น่าจะปลอดภัยกว่า เพราะเขาตั้งใจมาสืบหาคนที่วางแผนฆ่าเขา จึงต้องหลบซ่อนตัวไม่ให้ใครรู้ตัวตนที่แท้จริง แต่มาเห็นน้องเมิ่งใช้ชีวิตชิลๆแถมยังมีเพื่อนอีก ก็เลยวางใจได้อีกเรื่อง ตอนที่เขาสร้างค่ายเวทฉางชุนนิรันดร์ ก็เพราะน้องเมิ่งขี้หนาว แถมน้องเมิ่งยังซนมากอยู่นิ่งไม่ได้ ตอนนี้เห็นน้องอยู่สุขสบายบนเขาฉานซุน เขาก้อดีใจที่ตัดสินใจไม่ผิดที่ลงทุนทำไป

วันต่อมาน้องเมิ่งก็เห็นเซียวถิงอวิ๋นเดินเข้ามาในห้องเรียนของน้อง แถมจะมานั่งโต๊ะข้างๆน้องอีก น้องเมิ่งเลยรีบบอกว่านั้นที่นั่งของอวี๋ฉี่ซู เซียวถิงอวิ๋นเลยได้นั่งโต๊ะด้านหลังน้องเมิ่งแทน555 น้องเมิ่งสั่งเกตุว่าเซียวถิงอวิ๋นป่วยง่าย ตอนนี้เขาก้อกำลังสะกดอาการเจ็บปวดจนหน้าแดงเชียว เลยอดถามไถ่อาการป่วยของเขาไม่ได้ แต่เซียวถิงอวิ๋นบอกไม่เป็นไร น้องเมิ่งก้อเลิกสนใจ พร้อมแนะนำอวี๋ฉี่ซูให้รู้จักศิษย์คนใหม่แทน พออวี๋ฉี่ซูรู้ว่าคือเขาศิษย์น้องเซียว ที่คนอื่นชอบเอาเขาไปเปรียบเทียบกับจี้เซียวไอดอลที่หนึ่งในดวงใจของอวี๋ฉี่ซู ก้อทำให้เขาไปโวยว่าน้องเมิ่งว่าทำผิดกฎพรรคยงจี้ตั่ง555

น้องเมิ่งเลยว่าไม่ผิดกฎสะหน่อย พรรคยงจี้ตั่งจะต่อต้านคนที่เอาน้องเซียวไปเทียบกับจี้เซียว แต่ไม่ได้ต่อต้านเซียวถิงอวิ๋น แถมเซียวถิงอวิ๋นเขายังไม่ได้ทำอะไรผิดสะหน่อย อวี๋ฉี่ซูนิ่งคิดสักพักก้อเห็นด้วยกับน้องเมิ่ง555 จากนั่นก้อมีคนเอาขนมมาฝากน้องเมิ่งเต็มโต๊ะอีกเช่นเคย จี้เซียวเลยเห็นน้องเมิ่งนั่งกินขนมจนแก้มตุ๋ยทั้งวัน555 แต่จู่ๆก้อมีคนมาตะโกนเรียกน้องเมิ่งเสียงดังที่หน้าห้อง เป็นศิษย์ฝ่ายในสี่คน ตอนแรกน้องเมิ่งจะลุกออกไป แต่กลับเจอะเซียวถิงอวิ๋นพูดสวนกลับ ว่าให้พวกเขาเข้ามาพูดข้างในห้องแทน หนึ่งในกลุ่มนั้นเลยบอกว่าพวกเขาได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนัก สั่งให้พวกเขามาเป็นผู้คุ้มครองน้องเมิ่ง ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาเปิดแดนสนธยาฮั่นไห่แล้ว จึงต้องเชิญน้องเมิ่งไปรวมฝึกค่ายกระบี่ที่ลานสำแดงกระบี่ เพื่อน้องเมิ่งจะได้ก้าวตามทันค่ายกระบี่ที่เคลื่อนที่ น้องเมิ่งเพียงพยักหน้าและตอบรับ พวกนั้นถึงได้จากไป แต่จี้เซียวฟังจากน้ำเสียงแล้วมีแต่ความไม่พอใจ แถมยังตั้งใจพูดดูแคลนน้องเมิ่งอย่างเห็นได้ชัด

จากเหตุการณ์มะครู่เหล่าศิษย์นอกร่วมห้องน้องเมิ่ง ล้วนแต่ไม่พอใจในกริยาท่าทางพวกนั้น โดยเฉพาะอวี๋ฉี่ซูถึงขั้นหันมาชวนเซียวถิงอวิ๋นให้มาเข้าพรรคยงจี้ตั่งทันที เพราะประทับใจเซียวถิงอวิ๋นที่ออกหน้าปกป้องน้องเมิ่งมะกี้ จี้เซียวเลยได้รู้ว่าน้องเมิ่งเป็นหัวหน้าพรรคยงจี้ตั่ง ที่ทำหน้าที่ปกป้องชื่อเสียงของจี้เซี่ยวผู้เป็นสามีโดยเฉพาะ555 น้องเมิ่งตอนแรกไม่อยากรับเขาเข้าพรรค แต่จี้เซียวกลับบอกจะขอเข้าร่วมพรรคด้วย(ที่จริงจะมาแอบสืบว่าน้องตั้งพรรคนี้ทำไม) น้องเมิ่งขัดอวี๋ฉี่ซูไม่ได้ เลยให้จี้เซียวเขียนบทความสรรเสริญจี้เซียวหนึ่งพันอักษรส่งให้น้องเมิ่งตรวจพรุ่งนี้ ถึงจะผ่านมาเป็นสมาชิกพรรคได้

แต่ก้อมีศิษย์พี่ฝ่ายกิจการมาตามหาเซียวถิงอวิ๋นให้ไปพบเจ้าสำนักด่วนแทน เพราะมีผู้สูงส่งจะมาตรวจดวงชาตะให้เขาเป็นพิเศษ จี้เซียวก้อรู้แล้วว่าคือศิษย์พี่ของเขาเอง ทั้งหมดขี่กระบี่ขึ้นเรือเหาะสีแดงลำใหญ่ บนเรือเหาะ เจ้าสำนักหานหานและเหล่าเจ้ายอดเขานั่งรอกันหมดแล้ว

หูซื่อคือศิษย์พี่ของจี้เซียว ทั้งคู่เป็นเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมอาจารย์เดียวกันในสำนักหานซาน จี้เซียวฝึกมรรคากระบี่จนบรรลุเป็นอริยะกระบี่ ซึ่งต่างจากศิษย์พี่หูซื่อที่ฝึกทุกศาสตร์จนเชี่ยวชาญ ยกเว้นศาสตร์เดียวคือวิถีกระบี่ ทำให้หูซื่อมีปัญหากับไท่ซั่งจั่งเหล่าผู้อาวุโสในสำนักหานซาน ปัญหาใหญ่โตแตกหักกันขนาดที่หูซื่อสาบานว่าจะไม่กลับมาเหยียบสำนักหานซานอีก แล้วก้อลงเขาจากไปกลายมาเป็นประมุขแดนสวรวงแทน ยามนี้เขาจึงนั่งอยู่ในเรือเหาะลอยอยู่เหนือยอดเขาหานซานแทน555

จี้เซียวโดนเชิญให้ไปนั่งตรงหน้าหูซื่อ จนเวลาผ่านไปหูซื่อก้อเอ่ยออกมาว่า...ศิษย์น้อง ทำเอาผู้คนที่รอฟังผลการดูดวงชาตะของเซียวถิงอวิ๋นแตกตื่น หูซื่อถึงพูดต่อว่า...สำนักหานซานได้ผู้สืบทอดแล้ว วิญญาณของศิษย์น้องคงวางใจได้แล้ว555 แต่มีข้อห้าม คือให้เขาเลี่ยงหิมะ555 ทำเอาเจ้ายอดเขาที่ต่างคิดจะแย่งรับเซียวถิงอวิ๋นเป็นศิษย์เอกถึงกับชะงัก หูซื่อเลยฉวยโอกาสเสนอตัวให้เซียวถิงอวิ๋นมาฝึกกับเขาแทน เจ้าสำนักรีบตัดบททันที ว่าแล้วก้ออำลาแยกย้ายกันกลับ เพราะกลัวจะโดนชิงศิษย์อนาคตไกลไปอีก 

บนเรือเหาะ หูซื่อถามชุนสุ่ย กับชิวกวน บ่าวรับใช้สาวงามคู่ใจล่าสุด ว่าคิดยังไงกับเหตุการณ์มะกี้ ชิวกวนสรุปว่าเรื่องที่พวกเขาตั้งใจเชิญประมุขแดนสวรวงมาทำนายดวงชะตาบางคน เพราะสำนักหานซานจงใจสร้างเรื่องว่ามีผู้สืบทอดอริยะกระบี่จี้เซียวแล้ว เพื่อประคองชื่อเสียงสำนักหานซานให้กลับมาเหมือนเดิม

ที่ลานสำแดงกระบี่ รอบลานเต็มไปด้วยศิษย์ฝ่ายในมากมายที่ตั้งใจมาดูเรื่องสนุกๆ แต่น้องเมิ่งมองโจวอู่และพวกที่ตั้งค่ายกระบี่ตรงหน้า ก็รู้ว่าค่ายกระบี่นี้ไม่ถูกต้อง จึงปฎิเสธที่จะเข้าไปในค่ายกระบี่ แต่เหล่าเพื่อนศิษย์นอกร่วมวิหารถกสัจธรรมที่ตามน้องเมิ่งมาดูค่ายกระบี่นี้ด้วย ต่างก็ดูวิถีค่ายกระบี่ไม่ออก น้องเมิ่งเลยอธิบายให้เพื่อนฟังว่า พวกเขาสี่คนใช้เพลงกระบี่ไม่เข้ากัน แถมแต่ละคนยังฝึกกันมาไม่มากพออีกทำให้ค่ายกระบี่ไม่มีพลังพอ แบบนี้เขาไม่จำเป็นต้องเข้าไปหรอก ส่งหนูผีเก็บทรัพย์ให้วิ่งไปมาในค่ายกระบี่ก้อได้แล้ว ทำเอาเพื่อนน้องเมิ่งหัวเราะกันใหญ่

แก็งค์ของโจวอู่ถึงกับหน้าดำหน้าแดงที่โดนมองแผนออก แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้โจวอู่กลับใช้แผนยั่วยุหาว่าน้องเมิ่งไร้สามารถ ทำพวกเขาที่เป็นศิษย์สายตรงมาเสียเวลาฝึกค่ายกระบี่ เพื่อมาคุ้มครองคนไม่เอาไหนแบบนี้ อริยะกระบี่จี้เซียวเจินเหรินช่างตาต่ำ... มาพูดว่าจี้เซียวของน้องเมิ่งขนาดนี้ น้องเมิ่งเลยจะสั่งสอนโจวอู่ที่ไม่รู้ดีชั่วด้วยการประลองกระบี่ แต่น้องเมิ่งไม่มีกระบี่คู่กายหรืออาวุธไรเลย เลยขอยืมกระบี่จากอวี๋ฉี่ซู แต่มันเป็นกระบี่อ่อน กระบี่หลินฉือหลิ่วเป็นของแม่อวี๋ฉี่ซู นะเอง55 เลยยิ่งทำให้พวกโจวอู่ดูถูกน้องเมิ่งเข้าไปอีก

โจวอู่ประกาศตัวว่าเป็นศิษย์ไท่ซั่งจั่งเหล่า และเขาฝึกกระบี่มาสิบปีเพื่อโอ่อวดตัว ส่วนน้องเมิ่งประกาศตนว่าเป็นผู้ไม่เคยฝึกกระบี่555 จากนั้นทุกคนก้อเว้นระยะให้คู่ประลอง ก็พอดีสามศิษย์พี่ จางซู่หยวน เหอหมิง หลี่เหวย มาที่ลานพอดีเลย ก็รู้ว่าพวกโจวอู่แค้นที่ต้องมาทำหน้าที่คุ้มกัน แทนจะได้เป็นตัวแทนในการชิงชัยในการประลองแดนสนธยาฮั่นไห่ที่ใกล้จะเปิดด่าน เลยเอาความแค้นมาลงที่น้องเมิ่ง กะจะกลั่นแกล้งน้องเมิ่งให้ได้อาย ยิ่งตอนนี้ไท่ซั่งจั่งเหล่าขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่สุดในสำนักหานซานหลังสิ้นจี้เซียว ยิ่งทำให้ศิษย์สายไท่ซั่งจั่งเหล่ายิ่งกร่างขึ้นมาก โจวอู่ที่เป็นศิษย์เอกไท่ซั่งจั่งจึงกล้าพูดจาหยามน้องเมิ่งได้ขนาดนี้

น้องเมิ่งที่ไม่สนใจลำดับขั้นใดๆในสำนักหานซาน ฟังแล้วก้อรำคาญเสียเวลาละเกิน เลยเดินไปขอบใจเหล่าศิษย์พี่แพคสามที่ใจดีช่วยออกหน้าให้เขา ว่าไม่เป็นไรน้องเมิ่งรับคำท้าแล้ว คงใช้เวลาไม่กี่นาทีก้อจบละ ทำเอาศิษย์พี่แพคสามตะลึงตาค้าง555

โจวอู่ที่มั่นใจตัวเอง ประกาศว่าถ้าน้องเมิ่งต้านเขาได้สามกระบวนท่าจะถือว่าเสมอ แต่น้องเมิ่งกลับประกาศว่าตัวเองเป็นผู้อาวุโสขอยอมให้หนึ่งกระบวนท่าละกัน555 แต่ยังไม่ทันพูดจบ โจวอู่ฉวยโอกาสลงมือโจมตีทันที แต่น้องเมิ่งหลบทัน พร้อมฟาดคืนกลับไปหนึ่งทีจนโจวอู่เซไป ทำให้เขารวมพลังทั้งกะซัดที่เดียวให้น้องเมิ่งโดนเต็มๆ แต่เจอะน้องเมิ่งใช้ผักกระบี่ฟาดอกโจวอู่ จนเขากระเด็นตกลงไปใต้ทะเลสาบที่แข็งตัวเป็นน้ำแข็ง จนทะเลสาปน้ำแข็งเกิดคลื่นน้ำยักษ์สูงเป็นสิบๆจั้ง

พรรคพวกของโจวอู่ต่างตกตะลึง ที่คนฝึกกระบี่มาสิบปีกลับแพ้คนไม่เคยฝึกกระบี่ อูจิ้งเพื่อนของโจวอู่กล่าวหาว่าน้องเมิ่งใช้วิชามารทันที แต่น้องเมิ่งกลับหันไปขอบใจอวี๋ฉี่ซูพร้อมมอบกระบี่คืนให้เขา555

พอคนลงไปช่วยงมโจวอู่ขึ้นมา ก็พบว่าเขาบาดเจ็บหนักกระอักเลือดไม่หยุด อูจิ้งก็หาว่าน้องเมิ่งลงมือโหดเหี้ยมกับศิษย์ร่วมสำนัก เลยเจอะศิษย์พี่หลี่เหวยด่ากลับ ว่าเป็นโจวอู่เองที่เป็นคนเริ่มต้นท้าประลอง ตามด้วยศิษย์พี่จางซู่หยวนที่อธิบายวิถีกระบี่ของโจวอู่ ว่าเขาจงใจใช้กระบวนท่ากระบี่ที่ร้ายกาจของตัวเอง โดยกะใช้กระบี่แทงจุดตายด้วยซ้ำ ถ้าน้องเมิ่งหลบไม่ทัน ในขณะน้องเมิ่งแทงโจวอู่ด้วยฝักกระบี่เท่านั้น แค่นี้ก้อดูจุดประสงค์ของโจวอู่ได้แล้ว ทำให้คนกระจ่างแจ้งในการประลองนี้ทันที่ 

แต่พวกอูจิ้งยังคงไม่ยอมหยุดสร้างเรื่อง ทั้งที่โจวอู่โดนหามไปรักษาแล้ว น้องเมิ่งรำคาญเลยเดินไปบอกสามคนที่เหลือ ว่าถ้ายังสงสัยในฝีมือก้อเข้ามาประลองกระบี่กับเขาที่เดียวทั้งสามคนเลยแล้วกัน กลับไม่มีใครยอมก้าวเท้ามารับคำท้า น้องเมิ่งเลยอธิบายว่าเป็นเพราะพวกเขาฝึกไม่เข้าขั้นเองแท้ๆ ถ้าปล่อยไปแดนสนธยาก้อเท่ากับไปตายชัดๆ

ก็พอดีขบวนเจินเหรินเจ้าสำนักหานซานกับเจ้ายอดเขาทั้งห้าที่ตามจี้เซียวมา เพื่อจะมาดูน้องเมิ่งฝึกค่ายกระบี่ เลยทันเห็นเหตุการณ์นี้ จึงขี่กระบี่ลงมา พร้อมสั่งลงโทษพวกอูจิ้งสามคนทันที โทษฐานล่วงเกินผู้อาวุโส โดยส่งตัวไปที่สำนักคุ้มกฎให้ลงโทษทันที เจ้ายอดเขาทั้งห้ากลัวจะผิดใจกับไท่ซั่งจั่งเหล่า อยากให้ลงโทษสถานเบา แต่เจินเหรินสำนักกระบี่หานซานกลับไม่สนใจ เพราะถือว่าทวงความเป็นธรรมให้ภรรยาม่ายจี้เซียว คือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

น้องเมิ่งตกใจว่าแย่แล้วเลยทำทีจะเป็นลม หวังจะให้หลินเสี่ยวไหวประคองตัวเองกลับที่พัก แต่กลับเป็นจี้เซียวที่เข้ามาประคองน้องแทน55 น้องเมิ่งเลยต้องไหลตามน้ำ555 เจินเหรินเจ้าสำนักเลยจำคำว่า..เลี่ยงหิมะ.. ได้ เลยสั่งให้จี้เซี่ยวประคองน้องเมิ่งกลับยอดเขาฉางซุน สถานที่ไม่มีหิมะ555 จี้เซียวเลยบอกให้หลินเสี่ยวไหวไปสำนักคุ้มกฎ เพื่อไปเป็นพยานฝั่งน้องเมิ่ง ก็มีเพื่อนร่วมสำนักวิหารถกสัจธรรมต่างก้ออาสาไปเป็นพยานฝั่งน้องเมิ่งเพียบ

ที่ยอดเขาฉางซุน น้องเมิ่งถือถ้วยชาพร้อมบ่นว่าคราวหน้าไม่ไปลานสำแดงกระบี่แล้ว ที่นั่นหนาวละเกิน จี้เซียวเลยย้อนถามว่าที่นั่นหนาวมาก แล้วไปเสียเวลาพูดมากอยู่ที่นั้นนานๆทำไม น้องเมิ่งเลยบอกว่ามันเป็นหน้าที่เขาในการชี้แนะศิษย์รุ่นหลัง จี้เซียวว่าถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ สามีของน้องยังจะอยากได้ศิษย์แบบนี้ไหม น้องเมิ่งเลยเผลอพูดตามใจคิดไปว่าจี้เซียวไม่รู้หรอกเพราะโง่ จี้เซียวเลยบอกว่า..ใช่เพราะมะก่อนเขาคิดว่าทุกเรื่องล้วนทุกควบคุมภายใต้มือของเขา สุดท้ายนี่มันแค่ความคิดของคนโง่นะเอง น้องเมิ่งเพิ่งได้สติว่าจี้เซียวในร่างเซียวถิงอวิ๋นกำลังด่าจี้เซียวสามีของเขานิน่า555 น้องเลยโมโหทันทีกำลังจะต่อว่าจี้เซียว แต่จี้เซียวกลับชิงลากลับก่อน555 

เหตุการณ์นี้ทำให้จี้เซียวเห็นมุมมองคนอื่นๆที่มีต่อน้องเมิ่ง ว่าหลังเขาถูกเข้าใจว่าตายไปแล้ว ขนาดศิษย์เล็กๆแบบนี้ยังกล้ามาดูแคลนน้องเมิ่งได้ขนาดนี้ ช่างต่างกับตอนเขายังอยู่ ระหว่างที่เดินบนยอดเขาฉางซุน จี้เซียวก้อนึกถึงมะก่อนที่เขาเฝ้าเก็บตัว ปล่อยให้น้องเมิ่งจัดการยอดเขาด้วยตัวเอง มาตอนนี้ก็กลายเป็นยอดเขาที่สวยงามที่สุดในหานซาน ไม่พอน้องเมิ่งยังเลี้ยงหนูผีเก็บทรัพย์ฝูงหนึ่งกับให้จี้เซียวทำบ่อปลาแล้วไปหาปลาไนสามตัวมาให้น้องเลี้ยง จี้เซียวก้อทำตามใจน้องเมิ่ง ทั้งที่เขาไม่ได้เชื่อในเรื่องที่น้องเมิ่งบอก ว่ามันจะช่วยเสริมดวงให้พวกเขา555

เพราะจี้เซียวมุ่งฝึกแต่กระบี่มาทั้งชีวิต ไม่เคยมีอารมย์ปรารถนาใดๆมาก่อน จึงไม่เข้าใจเรื่องราวความรัก เขาจึงสงสัยมาก ว่าที่จริงตัวเขากับน้องเมิ่งแทบไม่เคยมีปฎิสัมพันธ์ใดๆเลย แต่ทำไมต่อหน้าคนอื่น น้องเมิ่งถึงแสดงออกถึงความรักมากมายที่มีต่อสามีให้คนอื่นรับรู้555 แต่ว่าใบหน้าจี้เซียวที่เย็นชาเสมอมา เมื่อใดที่เขาคิดถึงน้องเมิ่งมักจะทำให้เกิดรอยยิ้มบนใบหน้าได้ตลอด เมื่อจี้เซียวเดินมาถึงสะพานก้อเจอะหลินเสี่ยวไหวกับอวี๋ฉี่ซูกลับมาจากสำนักคุ้มกฎพอดี จี้เซียวเลยได้รู้ว่าก่อนหน้านี้เพื่อนสนิทของน้องเมิ่งมาเยี่มมที่นี่ คงคิดจะชวนน้องเมิ่งให้ลงเขาจากไป คิดแล้วจี้เซียวก้อหาทางเสริมค่ายเวทให้แข็งแกร่งขึ้นอีก เพื่อกันน้องเมิ่งคิดจะหนีออกไป555

เช้าวันต่อมาข่าวที่น้องเมิ่งสู้ชนะศิษย์ฝ่ายในที่ฝึกกระบี่มาสิบปี ก้อมีชื่อเสียงดังไปทั่วสำนักศึกษา ทำให้เพื่อนต่างห้องมาพูดคุยด้วยไม่หยุด ทำให้ข่าวลือว่าที่จริงน้องเมิ่งเก่งกาจขนาดนี้ ก็เพราะเป็นคู่ฝึกบำเพ็ญของท่านจี้เซียวนะเอง555 ส่วนโจวอู่นั่นโดนแฉว่าเขาฝึกหนักจนสามารถข้ามขั้นดับอาสวะด้วยตัวเองนั้น ที่จริงเป็นเพราะเขากินยาเร่งปราณไปจำนวนมากเพื่อข้ามขั้นได้เร็วขึ้น เลยทำให้ฝีไม้ลายมือจริงๆนั่นก็ไม่เท่าไร

น้องเมิ่งแกล้งไม่สนใจเซียวถิงอวิ๋นทั้งวัน เพื่อบีบให้เขามาขอโทษตัวเอง แต่จนเย็นยังไม่เห็นท่าที น้องเมิ่งทนไม่ไหวเลยหันไปทวงจดหมายสรรเสริญสามีจากเซียวถิงอวิ๋น จี้เซียวเลยรีบเขียนส่งน้องเมิ่งพร้อมแอบกระซิบข้างหูว่าขอโทษ ทำเอาน้องเมิ่งหูแดงเขินเลย555 นับจากนี้เซียวถิงอวิ๋นก้อเป็นสมาชิกพรรคคนที่สามเต็มตัว555

คืนนี้เกิดปรากฎการณ์ที่ทางสำนักหมิงเยวี่ยหู กุยชิงที่อายุเกือบห้าร้อยปี ยามนี้ได้บรรลุถึงขั้นปรมัตถ์ ทำให้บารมีของสำนักหมิงเยวี่ยหูขยับสูงกว่าทางสำนักหานซาน ทำให้ข่าวนี้กระจายไปทั่วดินแดน ที่สำนักวิหารถกสัจธรรม ทุกคนต่างพูดถึงเรื่องนี้กัน มีเพียงจี้เซียวที่ยังคงนิ่งเฉยไม่สนใจ อวี๋ฉี่ซูสงสัยว่ากุยชิงจะมาแทนที่ในตำแหน่งแดนมนุษย์ไร้พ่ายของจี้เซียวหรือป่าว เซียวถิงอวิ๋นตอบกลับว่าไม่มีทาง555

หนึ่งเดือนต่อมาเหนือน่านฟ้าทะเลไห่หนาน ก็เกิดปรากฎการณ์ว่ามีผู้บรรลุระดับปรมัตถ์ขึ้นอีกคนก้อคือหูซื่อประมุขแดนสรวง ทำให้ชื่อจี้เซียวผู้บรรลุปรมัตถ์คนแรกเริ่มกลายเป็นอดีต

ตอนนี้ถึงเวลาสอบคัดเลือกเพื่อเป็นศิษย์ฝ่ายในของสำนักหานซาน น้องเมิ่งโดนเหล่าเพื่อนร่วมสำนักซักถามปัญหาหนักมากจนรู้สึกเหนื่อยล้า เซียวถิงอวิ๋นจึงอาสาตอบปัญหาให้แทน ทำให้น้องเมิ่งแอบหลบมาพักข้างนอก อวี๋ฉี่ซูเลยตามมาพูดคุยด้วย อยู่ๆน้องเมิ่งก้อบอกว่าเขามั่นใจว่าจี้เซียวยังไม่ตาย อวี๋ฉี่ซูได้ยินก็น้ำตาไหลจนน้องเมิ่งตกใจ555 อวี๋ฉี่ซูจึงบอกเรื่องในใจว่าเขาจะไม่สอบเป็นศิษย์ฝ่ายในแล้ว แต่จะไปสมัครเป็นบ่าวผู้รับใช้ ที่จริงเขาไม่ได้เป็นลูกรักเจ้าเมืองไป๋ลู่หรอก แค่พ่อเขาอยากสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับสำนักหานซานเพราะสำนักยังมีจี้เซียวอริยะกระบี่อยู่ ถึงส่งเขามาเข้าสำนักหานซาน แล้วบอกว่าวันใดเขารู้แจ้งจะให้เขาสืบทอดเป็นเจ้าเมืองไป๋ลู่ แต่เมื่อไรที่เขาจะได้บรรลุละ ยามนี้สำนักหมิงเยวี่ยหูมีปรมัตถ์ใหม่เกิดขึ้นมาแล้ว พ่อเขาต้องเปลี่ยนท่าทีไปเข้ากับทางสำนักหมิงเยวี่ยหูแน่ๆ ถ้าเกิดศึกขึ้นมาระหว่างสำนักหมิงเยวี่ยหูกับสำนักหานซานเขาคงวางตัวลำบาก

น้องเมิ่งสงสารเพื่อนเลยให้ทางออกใหม่กับอวี๋ฉี่ซู ว่าตัวน้องเมิ่งเองถือได้ว่าเป็นผู้อาวุโส สอบคราวนี้เขาจะเลือกรับอวี๋ฉี่ซูเป็นศิษย์เพียงคนเดียว อวี๋ฉี่ซูได้ยินก็ดีใจทันที

ฝั่งจี้เซียวที่ไขปัญหาให้ผู้อื่นหมดแล้ว ยามนี้ค่อยๆนั่งเก็บของบนโต๊ะ หลังกลับมามีชีวิตใหม่คราวนี้ ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตต่างไปจากชีวิตก่อน ตอนแรกเข้าสำนักที่ตัวเองกับหูซื่อเพิ่งเข้าวิหารถกสันจธรรม ยามนั้นหูซื่อมีปัญหามากมายถามไถ่เอากับผู้สอน จนหูซื่อโดนผู้สอนโมโหที่ตอบปัญหายากๆไม่ได้ ก็มักจะไล่ให้หูซื่อออกไปจากสำนักแทน จนสุดท้ายพวกเขาสองคนเลือกไปคำนับอาจารย์คนเดียวกัน จึงกลายมาเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องนับแต่นั้น 

อาจารย์ของพวกเขาเป็นศิษย์น้องของไท่ซั่งจั่งเหล่า แต่กลับไม่เคยปิดกันวิถีการฝึกมรรคาใดๆของพวกเขา มีแต่ไท่ซั่งจั่งเหล่าที่มีปัญหากับพวกเขา และหูซื่อที่โดนไท่ซั่งจั่งเหล่าเล่นงานหนักสุด ถึงขั้นด่าหูซื่อว่าไม่คู่ควรเป็นศิษย์หานซานเพราะเขาไม่ศึกษาวิชากระบี่ เอาแต่หมกมุ่นศึกษาวิชาอื่น ทำให้หูซื่อโมโหจนแตกหักกับไท่ซั่งจั่งเหล่า จนเขาสาบานว่าชาตินี้จะไม่มาเหยียบพื้นที่หานซานอีก ส่วนจี้เซียวที่มุ่งฝึกวิถีกระบี่จนบรรลุปรมัตถ์ได้ก่อนไท่ซั่งจั่งเหล่า จึงทำให้ไท่ซั่งจั่งเหล่าถอยกลับไปกักตนเองเงียบๆในหุบเขาไม่ยอมปรากฎตัวออกมาอีกเลย พรรคพวกของไท่ซั่งจั่งเหล่าก้อหุบปากเงียบเสียงลง

จี้เซียวที่กลายเป็นอริยะกระบี่แล้ว จึงวางรากฐานใหม่ให้สำนักหานซาน ไม่ให้ใช้กฎเดิมที่บังคับให้ทุกคนฝึกกระบี่เพื่อบรรลุมรรคา แต่ให้ทุกคนหาหนทางมรรคาที่เหมาะกับตนเองแทน พร้อมคัดเลือกคนใหม่มาเป็นเจ้าสำนัก เพื่อดูแลศิษย์หานซานรุ่นใหม่ๆ หูซื่อที่ออกจากสำนักหานซานก้อไปบำเพ็ญตามวิถีตนเองจนบรรลุกลายเป็นประมุขแดนสรวง

ถึงวันสิ้นปีก้อเป็นวันคัดเลือกรับศิษย์ใหม่สำนักหานซาน มีแต่คนลุ้นว่าเซียวถิงอวิ๋นจะเลือกใครเป็นอาจารย์ ถึงเวลาสอบเขียนบทความ จี้เซียวเจอะหัวข้อให้เขียนนิวรณ์ของตนเอง พร้อมวิธีทำลายนิวรณ์นั้น เขากลับเขียนไม่ออก เพราะชีวิตนี้ไม่เคยเจอะปัญหาภาพหลอนลวงตาใดๆ555 จนถึงตอนส่งคำตอบ เหล่าอาจารย์จะเลือกช้อนรับตัวลูกศิษย์จากการประเมินคำตอบที่พึงพอใจ ตอนนี้เหล่าลูกศิษย์ต่างๆเริ่มทยอยส่งคำตอบ บ้างคนได้รับคัดเลือก บางคนก้อพลาดรอสอบปีหน้า จนมาถึงเซียวถิงอวิ๋นที่ส่งกระดาษเปล่า555 

ก้อพอดีมีเรือเหาะของไท่ซั่งจั่งเหล่าลอยลงมาจอดที่ลาน โจวอวี้ศิษย์คนโตของไท่ซั่งจั่งเหล่าเดินมาหาเซียวถิงอวิ๋น พร้อมบอกว่าไท่ซั่งจั่งเหล่าให้มารับเซียวถิงอวิ๋นเป็นศิษย์ แต่เซียวถิงอวิ๋นปฎิเสธทันที พร้อมบอกว่าเขาเลือกน้องเมิ่งเป็นอาจารย์5555 โจวอวี้มีท่าทีไม่พอใจมาก เจินเหรินเจ้าสำนักเข้ามาขวาง แล้วบอกว่าเซียวถิงอวิ๋นได้รับคำนายว่าจะเป็นผู้บรรลุอริยะกระบี่ ทั้งยังต้องเลี่ยงหิมะ ยามนี้เขาคำนับเมิ่งเสวี่ยหลี่เป็นอาจารย์ ยามนี้ต้องพำนักนักที่ยอดเขาฉางซุนที่ไม่มีหิมะ จึงเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว โดนคำพูดสะขนาดนี้ โจวอวี่ถึงยอมจากไป เจ้าสำนักก้อเพ้อๆว่าเซียวถิงอวิ๋นช่างมีวาสนากับยอดเขาฉางซุนจริงๆ เพราะแซ่เดิมของจีเซียวก้อคือแซ่เซียว แล้วนี้เซียวถิงอวิ๋นยังแซ่เซียวเหมือนกันอีก

ระหว่างที่มีแต่คนอิจฉาน้องเมิ่งที่โคตรโชคดี เริ่มแรกอาศัยบารมีจี้เซียวคู่บำเพ็ญ ครึ่งหลังยังได้อาศัยศิษย์อนาคตไกลได้อีก555 แต่น้องเมิ่งกลับได้ยินคำพูดของเจ้าสำนัก ก็สติแตกคิดไปได้อีกทาง...ว่าเซียวถิงอวิ๋นคือลูกนอกสมรสของจี้เซียว5555 เพราะวันที่จีเซียวพาน้องเมิ่งไปที่สุสานกระบี่ แล้วบอกว่าที่นี้คือที่เขาบรรลุแจ้งเป็นปรมัตถ์ แล้วจับมือน้องเมิ่ง เพื่อถามความสมัครใจว่าจะยินยอมเป็นคู่บำเพ็ญของเขาไหม น้องเมิ่งตอบตกลงทันที จี้เซียวจึงบอกแซ่ที่แท้จริง ว่าเขาแซ่เซียว....มิน่า เซียวถิงอวิ๋นถึงมีพรสวรรค์หมือนจี้เซียวขนาดนี้ น้องเมิ่งจึงให้สัญญากับตัวเองว่าจะรักและปกป้องลูกชายของจี้เซียวด้วยชีวิต555

น้องเมิ่งจึงรับจี้เซียวเป็นศิษย์คนแรก แล้วประกาศว่าเขาจะรักและดูแลประหนึ่งเป็นพ่อลูกกันชั่วชีวิต...จี้เซียวในร่างเซียวถิงอวิ๋นยืนงง555

เมื่อถึงคิวอวี๋ฉี่ซูที่มายืนหน้าน้องเมิ่งเพื่อตอบรับเป็นศิษย์ กลับเห็นเซียวถิงอวิ๋นอยู่ด้านหลังน้องเมิ่ง แถมยังมารับเขาพร้อมเรียกขานว่าเป็นศิษย์น้องอีก....เขาอดเป็นศิษย์พี่แล้ว555 จนเสร็จสิ้นพิธีเตรียมแยกย้ายกลับที่พัก เจินเหรินเจ้าสำนักกลับเรียกเซียวถิงอวิ๋น อวี๋ฉี่ซูให้พวกเขาช่วยกันดูแลน้องเมิ่งด้วย โดยเฉพาะเซียวถิงอวิ๋นให้หมั่นศึกษาตำราและฝึกฝนกระบี่ให้มาก จากนั้นก้อปล่อยพวกเขากลับไปยอดเขาฉางซุน

หลังพวกน้องเมิ่งออกไปแล้ว เจ้ายอดเขาทั้งห้าต่างถกกันเรื่องที่คนจากสำนักของไท่ซั่งจั่งเหล่าที่เหิมเกริมจนแทบทนไม่ไหว หลังสิ้นจี้เซียวพวกมันก้อแทบจะขึ้นมาเหยียบหัวพวกเขาแล้ว เจ้ายอดเขาหลิวหลันถึงกับบอกว่าเซียวถิงอวิ๋นรับน้องเมิ่งเป็นอาจารย์ ยังดีกว่าไปยอมรับไท่ซั่งจั่งเหล่าเป็นอาจารย์ เจินเหรินเจ้าสำนักรีบห้ามพวกเขาพูดจาว่าร้ายใส่กัน เพราะตอนนี้พวกเขาควรจะสามัคคีกันต้านภัยจากคนนอกมากกว่า

น้องเมิ่งพาสองศิษย์ใหม่กลับยอดเขาฉางซุน จากนั้นให้ทุกคนเรียกหาเป็นสหายตามเดิม แค่ต่อหน้าผู้อื่นก้อเรียกเขาว่าอาจารย์ก้อพอ555 น้องเมิ่งให้หลินเสี่ยวไหวพาอวี๋ฉี่ซูไปเดินดูรอบๆเขาฉางซุน ส่วนตัวเองพาจี้เซียวไปนั่งที่กลางสวนพร้อมชงชาให้อีกแนะ จี้เซียวรู้สึกว่าน้องทำตัวแปลกๆไป ก้อพอดีได้ยินน้องเมิ่งถามถึงแม่ของเขาว่าท่านยังอยู่ดีไหม555 จี้เซียวตกใจแต่ก้อบอกไปตามจริงว่าแม่เขาตายจากไปนานมากแล้ว น้องเมิ่งเอ่ยสัญญาว่าจะดูแลเขาเป็นอย่างดี หลังน้องเมิ่งกลับจากแดนสนธยาแล้ว จะประกาศให้เขาเป็นผู้สืบทอดอุษาไร้เขตขัณฑ์แน่นอน จี้เซียงถึงขั้นไอไม่หยุดเมื่อได้ยินน้องเมิ่งกล่าวจบ555 น้องเมิ่งรีบเอามือไปตบหลังจี้เซียวเบาๆ555 จนจี้เซียวทนไม่ไหวรีบบอกน้องเมิ่งอย่ามาทำตัวราวเขาเป็นเด็กน้อยยังงี้ น้องเมิ่งได้คิดไปอีกทางว่า ใช่แล้วต้องห้ามไม่ให้ใครรู้ว่าเซียวถิงอวิ๋นคือบุตรชายของจี้เซียว เพื่อกันศัตรูจะตามกลับมาฆ่าทำลายทายาทของจี้เซียว ยิ่งคิดความเป็นพ่อของน้องเมิ่งก้อพุ่งปรู๊ด5555

ค่ำนี้ทั้งสี่คนนั่งจิบชาฉลองผ่านคืนปีใหม่ จี้เซียวถามว่าทำไมน้องเมิ่งต้องไปแดนสนธยาให้ได้ อวี๋ฉี่ซูรีบบอกว่ามันเป็นเพราะความรักที่น้องเมิ่งมีต่ออริยะกระบี่ไง จึงต้องทุ่มเทเพื่อปกป้องของจีเซียวไว้ให้ได้ จี้เซียวเลยบอกว่าเขาจะไปแดนสนธยาเป็นเพื่อนน้องเมิ่งเอง แต่น้องเมิ่งกลับให้เขารีบฝึกฝนตนอยู่ที่ยอดเขาฉางซุนแทน และตั้งจะจะสอนให้สองลูกศิษย์ให้ได้ดีให้ได้ จึงสั่งทั้งคู่ในเริ่มต้นฝึกวิชา จากนั้นก้อพาเขาไปเรือนพัก จี้เซียวเลือกเรือนพักใกล้น้องเมิ่ง ใกล้เพียงแค่ผนังกันเท่าน้น555 ส่วนอวี๋ฉี่ซูเลือกเรือนน้อยใกล้ริมลำธาร น้องเมิ่งเลยบอกว่าเรือนนั้นใกล้ที่พักกักตนของอริยะกระบี่ไอดอลของอวี๋ฉี่ซู555

อวี๋ฉี่ซูตื่นมาเพราะหนูผีเก็บทรัพย์ตัวหนึ่งมาปลุกเขา จึงทำให้ตื่นทันเวลาตอนเช้าที่นัดไปหาน้องเมิ่งที่ลานทัศนา เพื่อเริ่มบนเรียนแรก เมื่อไปถึงลานทัศนา น้องเมิ่งก้อเล่าว่าเมื่อก่อนเขาอยากได้ลานกว้างไว้นั่งชมดาว ลานนี้สามีทำให้ด้วยการตวัดกระบี่เพียงครั้งเดียว จากนั้นน้องเมิ่งก้อเริ่มสอนวิชากระบี่ให้อวี๋ฉี่ซูอย่างจริงจังจนเขาหมดแรง ก้อจะปล่อยให้อวี๋ฉี่ไปพัก ก้อพอดีเซียวถิงอวิ๋นเดินมาพอดี เซียวถิงอวิ๋นเลยถามว่าอวี๋ฉี่ว่าผู้อาวุโสสอนอะไรให้เขา น้องเมิ่งรู้สึกว่าแก่เลยบอกเซียวถิงอวิ๋นให้เรียกเขาว่าพี่เมิ่งดีกว่า แต่จี้เซียวกลับเรียกเขาว่าเสวี่ยหลี่....น้องเมิ่งอึ้ง แต่ก้อยอมให้เขาเรียก555 จากนั้นน้องเมิ่งพาจี้เซียวลงเขาไปในเมืองหานเหมินที่อยู่ด้านล่างเชิงเขาหานซาน บอกว่าจะพาจี้เซียวไปเอาของวิเศษ

เพราะวันนี้เป็นวันที่หนึ่งเดือนหนึ่ง ในเมืองล้วนคึกคัก แถมสามปีที่ผ่านมาน้องเมิ่งไม่เคยออกจากเขาฉางซุนเลย ทำเอาน้องเมิ่งตื่นตาตื่นใจและตื่นเต้นวิ่งไปมาตลอดทาง สุดท้ายน้องเมิ่งเลยจับจูงมือจี้เซียวไว้ตลอดทาง555 จนมาถึงโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน น้องเมิ่งคิดถึงสามปีก่อน ที่น้องเมิ่งมากับจี้เซียว แต่น้องอยู่ในร่างเพียงพอนน้อยซุกอยู่ในอกเขาตลอดทาง น้องเห็นในโรงรับจำนำมีคนเอาสัตว์อสูรมาแลกเป็นเงิน เลยคิดฟุ้งซ่านว่าจี้เซียวจะเอาน้องมาขาย น้องเลยถามว่าจี้เซียวรีบใช้เงินหรอ จี้เซียวงงๆแต่ก้อบอกว่าเขาไม่รีบ น้องเพียงพอนเลยเลียหน้าเลียตาขอบคุณจี้เซียวแล้วกลับไปนอนซุกอกเขาเหมือนเดิม555

ยามนี้ไม่มีจี้เซียวแล้ว น้องเมิ่งถามหาพ่อบ้านเฉียน (เพราะจี้เซียวเคยบอกน้องเมิ่งว่าพ่อบ้านเฉียนดูแลคลังสมบัติของเขา) จากนั้นน้องเมิ่งก้อโดนเชิญขึ้นไปบนชั้นสูงสุดของอาคาร เพื่อไปพบเฉียนเจินเหรินผู้ดูแลกิจการโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน ที่พอเห็นหน้าน้องเมิ่งก้อทักถูกทันที ว่าน้องเมิ่งคือคู่บำเพ็ญของจี้เซียว เฉียนเจินเหริน เขาจึงเฉลยว่าเพราะเสื้อคลุมแสนสวยเต็มไปด้วยอาคมที่น้องเมิ่งใส่นั่น จี้เซียวมาเอาเสื้อคลุมจากที่นี้ไป แถมทักเซียวถิงอวิ๋นเป็นใครสันฐานกระดูกดีมาก น้องเลยบอกว่าเป็นลูกศิษย์ตัวเอง น้องเมิ่งอยากดูคลังสมบัติของจี้เซียว เฉียนเจินเหรินเลยบอกว่าคลังสมบัติของจี้เซียวมีมากตามจำนวนโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน น้องเมิ่งเพิ่งรู้ตัวว่าสามีตัวเองนั่นรวยมา.....ก ยิ่งดูกองบัญชีที่จดรายการสินทรัพย์มากมายจนตาลายแทน555

เฉียนเจินเหรินเป็นศิษย์น้องของจี้เซียว เพียงแต่เขาไม่สนใจในมรรคากระบี่ แต่กลับชอบทำการค้า จี้เซียวจึงส่งเสริมเขาด้วยการเปิดโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนให้เขาดูแลกิจการไป555 เฉียนเจินเหรินมองเห็นน้องเมิ่งใสซื่อเป็นเด็กน้อย ว่าแล้วก้ออดตำหนิศิษย์พี่จี้เซียวไม่ได้ที่หลอกกินเด็ก555 เลยเล่าที่มาตามที่น้องเมิ่งถาม แต่ยิ่งเล่ายิ่งคุยกลายเป็นทั้งคู่ต่างคุยถูกคอจนติดลม จนจี้เซียวขี้เกียจจะฟังเลยไปสะกิดน้องเมิ่ง แต่น้องเมิ่งหันมาตบมือจี้เซียวพลางปลอบเบาๆ แถมพูดเป็นนัยๆว่าต่อไปจี้เซียวต้องดูแลกิจการของพ่อเจ้าต่อนะ555 

ว่าแล้วเฉียนเจินเหรินก้อเตือนน้องเมิ่งให้ระวังตัว เพราะจี้เซียวมีทรัพย์เยอะมาก แค่ยึดครองโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนได้ ก้อสามารถสร้างสำนักหานซานได้เพิ่มอีกไม่รู้กี่แห่ง ตอนนี้จี้เซียวสิ้นชีวิตลง มีคนอยากยึกทรัพย์เขาอยู่แล้ว คนแรกที่แสดงอาการออกมาคือไท่ซั่งจั่งเหล่า เขาเป็นคนที่มาจากตระกูลโจวแห่งไหวสุ่ยที่มีคนอยู่ใต้อาณัติมากมาย ย่อมต้องการใช้เงินจำนวนมาก เพราะถ้าจี้เซียวไม่ระบุทายาท ตามปกติทรัพย์สมบัติต้องตกไปสู่สำนักหานซาน แต่ไท่ซั่งจั่งเหล่ากลับอยากได้ใช้เองมากกว่าอยู่แล้ว น้องเมิ่งได้ยินแล้วยิ่งจับมือจี้เซียวมาลูบปลอบโยน แล้วตั้งมั่นจะคุ้มครองลูกชายจี้เซียวให้รอดปลอดภัยให้ได้ จี้เซียวเลยเตือนน้องเมิ่งว่าจะค่ำแล้ว เดียวจะลำบากเวลากลับเขาฉางซุน 

เฉียนเจินเหรินเริ่มเล่าข่าวซุบซิบที่ดังไปทั้งเมืองว่า น้องเมิ่งเป็นเจ้าแห่งความโชคดี ครึ่งชีวิตแรกมีสามีหนุนนำ ครึ่งชีวิตหลังมีศิษย์ฟ้าประทานมาให้พึ่งพาอีก555 ตอนนี้เขาอยากทำการค้ากับน้อง ด้วยการขายกิ่งต้นจินซือเถาที่เติบโตบนยอดเขาฉางซุน เพื่อเป็นการแบ่งโชควาสนาของน้องเมิ่งให้กับผู้ซื้อกิ่งต้นจินซือเถา โดยให้ราคากิ่งละหกสิบศิลาศักดิ์สิทธิ์ น้องเมิ่งเห็นช่องทำมาหากิน เลยบอกว่าพรุ่งนี้จะให้อวี๋ฉี่ซูเอามาลองขายยี่สิบกิ่งดูก่อนละกัน55

ก้อพอดีเฉียนเจินเหรินจำได้ว่าจี้เซียวเคยฝากกล่องหยก ที่เป็นของขวัญไว้ให้น้องเมิ่งใบหนึ่ง เขาเลยไปหยิบมาให้น้องเมิ่ง จี้เซียวเลยจำได้ว่านี้เป็นของขวัญที่เขาทำเอง ไว้มอบเป็นของขวัญต้อนรับให้คู่บำเพ็ญเพียร แต่ว่าตอนนั้นน้องเมิ่งยังร่างกายบาดเจ็บอยู่ เขาเลยไม่ได้มอบให้น้องสักที ซึ่งมันไม่ใช้ของขวัญที่เขาบอกน้องเมิ่งก่อนไปแดนนอกพิภพนะ555 จากนั้นทั้งคู่ก้อลาเฉียนเจินเหรินกลับไปเขาฉางซุน

ข่าวน้องเมิ่งไปพบเฉียนเจินเหรินที่โรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน ส่งไปถึงหุบเขาจิ้งซือที่พำนักของไท่ซั่งจั่งเหล่า โจวอวี้รายงานไปก็นึกถึงตอนจี้เซียวสิ้น เขาได้เดินทางลงไปหาเฉียนเจินเหริน เพื่อบีบให้เขาส่งมอบโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนให้สำนักหานซาน หรือจะแบ่งผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งให้คนตระกูลโจวแห่งไหวสุ่ยครึ่งหนึ่ง แล้วอีกครึ่งแบ่งให้เฉียนเจินเหริน แต่กลับเจอะเฉียนเจินเหรินปฎิเสธพร้อมบอกว่าคู่บำเพ็ญของจี้เซียวยังอยู่ ทุกสิ่งของจี้เซียวย่อมตกเป็นของน้องเมิ่ง ถ้าไท่ซั่งจั่งเหล่าคิดกำจัดเขา ลูกน้องของเขาจะเปิดถุงผ้าแล้วทำตามคำสั่งเสียในถุง แน่ว่าจะต้องเปิดโป่งแผนร้ายพวกเจ้าแน่นอน5555 ไท่ซั่งจั่งเหล่าสั่งการให้โจวอวี่เตรียมตัวให้พร้อม นอกจากศิษย์ตัวเองต้องชนะการประลองครั้งนี้ให้ได้ ยังต้องกำจัดน้องเมิ่งในตอนประลองแดนฮั่นไห่ให้สิ้นซากด้วย

ก่อนกลับเฉียนเจินเหรินได้มอบป้ายหยกให้น้องเมิ่งถือไว้อันหนึ่ง เป็นป้ายที่สามารถเบิกถอนเงินหรือเบิกสิ่งของได้หมดที่โรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนทุกสาขา แต่น้องเมิ่งกลับมอบให้จี้เซียวถือเก็บป้ายหยกไว้ จี้เซียวปวดใจว่าทำไมน้องเมิ่งถึงซื่อมาก ที่ไว้ใจลูกศิษย์มากขนาดนี้ ทั้งที่เพิ่งรับศิษย์เองนะ โชคดีที่เป็นเขาเองที่ถือป้ายหยก555 จี้เซียวถือกล่องหยกตามเมิ่งเซียวจนมาถึงเรือนพัก ก้อจะแยกจากให้น้องเมิ่งดูของขวัญด้วยตัวเอง แต่น้องเมิ่งชวนจี้เซียวมาเปิดกล่องดูด้วยกันแทน (ในฐานะเจ้าเป็นลูกชายของสามีไง555)

พอเปิดกล่องมาเป็นท่อนเหล็ก น้องเมิ่งจับท่อนเหล็กแล้วมองดูงงๆ จนจี้เซียวแสดงวิธีใช้ให้ เมื่อกดปุ่มลับมันก็กลายเป็นทวนยาว พอกดอีกทีกลายเป็นดาบสั้นสองอันทันที ไม่พอยังเป็นไม้พลอง หรือมีดบินก็ได้ น้องเมิ่งพอเห็นก้อตื่นตาตื่นใจกับอาวุธวิเศษที่สามีทำให้เขา รีบขอเอามาลองมือทันที จนจี้เซียวต้องเตือนน้องเมิ่งให้ระวัง แต่น้องเมิ่งกลับสนุกกับการใช้อาวุธวิเศษไม่เลิก จนสนามลานทัศนาพังกระจาย หลังสนุกจนสะใจเต็มที่ น้องเมิ่งนั่งลงแล้วเล่าว่าก่อนจี้เซียวจะลงเขาไป เขาบอกกลับมาจะมอบของสิ่งหนึ่งให้น้อง ตอนแรกน้องเมิ่งคิดว่าเป็นเซียวถิงอวิ๋นลูกชายของจี้เซียว แต่ของสิ่งนั้นกลับเป็นอาวุธเทพที่จี้เซียวทำให้เขา แถมยังบอกวิธีใช้ผ่านทางลูกชายมาด้วย

ว่าแล้วน้องเมิ่งก้อน้ำตาไหล ทำเอาจี้เซียวตกใจ555 แต่เขาปลอบใจใครไม่เป็น เลยบอกว่านี่มันแค่อาวุธธรรมดายังเทียบอุษาไร้เขตขัณฑ์ไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่น้องเมิ่งสวนกลับว่าค่าของมันไม่ใช่มูลค่าวัตถุดิบที่ใช้สร้างอาวุธ แต่ค่าของมันอยู่ที่ใจของจี้เซียวมีน้องเมิ่งอยู่ต่างหาก จี้เซียวได้ยินน้องบอกก้อคันยุบยิบในใจละเกิน เลยเอื้อมมือจะไปเช็ดน้ำตาให้ แต่น้องเมิ่งหลบหน้าจะเช็ดน้ำตาเอง จี้เซียวเลยบอกให้น้องเมิ่งตั้งชื่ออาวุธชิ้นนี้ น้องเมิ่งเลยตั้งชื่อว่ากาลมิสิ้นผ่านผันไว้คู่กับอุษาไร้เขตขัณฑ์ของจี้เซียว ทำเอาจี้เซียวยิ้มออกมา

หลังจากน้องเมิ่งหายสะเทือนใจ น้ำตาหยุดไหลแล้ว น้องเมิ่งก็ประกาศว่าจะใช้อาวุธเทพนี้สืบหาเหตุการตายของจี้เซียว คุ้มครองทรัพย์สินและปกป้องทายาทคนเดียวของจี้เซียวให้ได้ ไม่พอยังตั้งชื่อเล่นให้อาวุธเทพว่าเรือนพำนัก จี้เซียวเริ่มกลุ้มใจ แต่เห็นภรรยาตัวน้อยชมชอบอาวุธที่เขาทำให้มากขนาดนี้ ก้อปล่อยผ่านไปละกัน555

หลังจากน้องเมิ่งคิดตกแล้ว ก้อเลิกสะกดสภาวะปราณตัวเอง ปลดปล่อยเข้าสูสภาวะรวมจิตทันที จี้เซียวรีบยืนคุ้มครองน้องเมิ่งทันที ในที่สุดน้องทำลายสภาวะสำเร็จ น้องเมิ่งก็กระโดดโลดเต้นเพราะตื่นเต้นดีใจ จนอดไม่ได้ที่จะอวดลูกศิษย์ว่าอาจารย์เก่งมากใช่ไหม จี้เซียวบอกว่าเก่งมาก เห็นหน้าน้องเมิ่งแล้วก้อเอ็นดูน้องมากละเกิน เลยอดใจไม่ไหวใช้มือลูบหัวลูบคอน้องเมิ่งทันที น้องเมิ่งรู้สึกราวโดนสายไฟอุ่นลากผ่านตามมือที่ลูบผ่านผิวจนตกใจ มันเป็นความรู้สึกเดียวกับที่จี้เซียวแปรงขนให้เขาเลย น้องเมิ่งตกใจห้ามจี้เซียวมาสัมผัสเขาอีก จี้เซียวไม่พอใจ ทำไมพอน้องเมิ่งเป็นคนแล้วถึงลูบตัวน้องไม่ได้ละ ที่ตอนเป็นร่างเพียงพอนน้อยออกจะชอบให้เขาลูบขนออก555

แต่ยามนี้จี้เซียวอยู๋ในร่างเซียวถิงอวิ๋น จึงพูดได้เพียงขออภัย เป็นศิษย์ยั้งใจไม่อยู่ ทำเอาน้องเมิ่งได้ยินถึงกับหูแดงทันที555 ก็พอดีอวี๋ฉี่ซูวิ่งเข้ามาโวยวายที่สนามลานทัศนาที่เละเทะกระจุยกระจายขนาดนี้555 พอตั้งสติได้ก้อพบว่าน้องเมิ่งก้าวพ้นเข้าสู่สภาวะรวมจิตแล้ว ก้อตื่นเต้นดีใจคาดหวังว่าตัวเองก้อมีสิทธิ์ก้าวพ้นสภาวะบ้าง แต่กลับเจอะน้องเมิ่งสั่งให้ไปส่งกิ่งต้นจินซือเถาที่โรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนเพื่อทำการค้า อวี๋ฉี่ซูนึกว่าน้องเมิ่งขาดแคลนเงิน เลยจะยกถุงสมบัติตัวเองให้ แต่กลับเจอะน้องปฎิเสธพร้อมบอกว่าสามีทิ้งเงินไว้เป็นภูเขา ใช้สามชาติก้อไม่หมด555 แต่ตอนนี้มีหนทางค้าขายก้อทำกันไปก่อน555

เมื่อถึงเวลาอวี๋ฉี่ซูก้อลงเขาฉางซุนไปส่งกิ่งต้นจินซือเถา ได้พบกับเฉียนเจินเหริน หลังส่งกิ่งต้นจินซือเถายี่สิบต้นแล้ว เฉียนเจินเหรินก็บอกว่าคราวหน้าแบกมาสักร้อยกิ่ง เพราะวันหน้าโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนจะทำสินค้าที่ทำจากต้นจินซือเถาจากฉางซุน จะวางจำหน่ายทั่วทุกทิศ หนทางร่ำรวยมีแต่ขยับขยาย555

น้องเมิ่งสอนทักษะการต่อสู้ให้อวี๋ฉี่ซูได้ไม่มีปัญหา แต่กับเซียวถิงอวิ๋นน้องไม่มั่นใจ เลยถามก่อนว่าเขาเคยเรียนวิชากระบี่มาก่อนไหม จี้เซียวไม่อยากโกหกจึงยอมรับว่าเคยเรียน น้องเมิ่งเลยโล่งใจเพราะเข้าใจไปเองว่าสงสัยจี้เซียวคงสอนมรรคากระบี่ให้เซียวถิงอวิ๋นมาก่อนแล้ว จึงปล่อยให้เขาเรียนรู้วิชากระบี่ด้วยตัวเองต่อไป555 น้องเมิ่งเลยตัดสินใจสอนหนังสือให้แทน ว่าแล้วน้องเมิ่งก็หยิบหนังสือปฐมบทมรรคาที่สามีเขียนไว้ให้ตัวเอง แต่น้องเอามาสอนลูกชายของจี้เซียวต่อ555 จี้เซียวเห็นหนังสือก็ทำหน้าสุดจะฝืน5555

จี้เซียวเริ่มคิดได้ว่าที่จริงหนังสือเล่มนี้ยังไม่สมบรูณ์ งั้นใช้วิถีถามตอบเพื่อจะได้ช่วยน้องเมิ่งเข้าใจมรรคาได้มากยิ่งขึ้นในทางอ้อม จี้เซียวเลยตั้งใจถามปัญหาจนบางครั้งน้องเมิ่งก้อตอบไม่ได้ แต่ขอเวลาไปคิดแล้วจะมาให้คำตอบแทน ตกกลางคืนน้องเมิ่งไปนั่งบนหลังคาขบคิดปัญหา จี้เซียวยืนมองดูน้องเมิ่ง จนน้องเมิ่งรู้ตัวเลยถามว่ามองอะไร จี้เซียวก้อตอบว่ามองคนงาม น้องเมิ่งเขินกระโดดลงหลังหลบหน้าทันที555

อวี๋ฉี่ซูหลังส่งกิ่งต้นจินซือเถา ก้อกลับมาดูแลลานทัศนาให้หญ้ากลับมาขึ้นงดงามเหมือนเดิม พร้อมขยันฝึกกระบี่หวังจะประลองกับน้องเมิ่งอีก แต่เจอะจี้เซียวเบรกความคิดที่จะไปรบกวนน้องเมิ่ง โดนให้มาฝึกกระบี่กับเขาให้ผ่านก่อน น้องเมิ่งก้อเห็นด้วย นับจากนั้นอวี๋ฉี่ซูก้อเรียนวิชากระบี่กับจี้เซียวโดยตรง แต่อวี๋ฉี่ซูยังคงพ่ายแพ้จี้เซียวทุกวัน ทุกคืนเขาปลอบประโลมจิตใจด้วยการลูบขนหนูผีเก็บทรัพย์ ที่มันชอบมานอนซุกใต้ผ้าห่มเขาทุกคืนแทน

จนวันหนึ่งน้องเมิ่งไปเจอะเจ้าหนูผีตัวนั้นที่หัวเริ่มบางจวนจะโล้น ก้อโมโหอุ้มหนูผีไปถามสองศิษย์ที่กำลังประลองกระบี่ ว่าใครไปแกล้งเจ้าหนูผีตัวนี้555 ไม่มีใครยอมรับ น้องเลยปล่อยหนูผีลงพื้น เจ้าตัวดีวิ่งไปซุกอกอวี๋ฉี่ซู ก้อเลยโป๊ะแตก5555 น้องเมิ่งโมโหต่อว่าที่อวี๋ฉี่ซูถอนขนเจ้าหนูผีจวนจะไร้ขนหมดตัว ช่างอัปลักษณ์สิ้นดี จี้เซียวก้อเรียกชื่อน้องเมิ่งเบาๆว่า...เสวี่ยหลี่เดียวต้องไปเรียนหนังสือต่อนะ น้องเมิ่งถึงหยุดต่อว่า แต่ก้อดีใจที่ศิษย์พี่รักใคร่ศิษย์น้อง แล้วน้องเมิ่งก็นึกได้ว่าตอนนี้ตัวเองก็ไร้ขน เลยหันไปถามจี้เซียวว่าตอนนี้เขายังงดงามอยู่ไหม จี้เซียวตอบรับว่าน้องเมิ่งงดงามที่สุด555

วันที่สิบห้าเดือนหนึ่ง น้องเมิ่งพาสองศิษย์ลงมากินหม้อไฟฉลองตามเทศกาล อวี๋ฉี่ซูดีใจได้ใช้จ่ายด้วยเงินตัวเอง จี้เซียวเลยกระซิบบอกน้องเมิ่งว่าของๆอริยะกระบี่ก็คือของๆน้องเมิ่ง ส่วนน้องเมิ่งก้อหันไปกระซิบบอกจี้เซียวว่ามันก็เป็นของเจ้าด้วย5555

เดือนสองที่สำนักหานซานมีการประชุม น้องเมิ่งพาสองศิษย์ติดตามลงเขาฉางซุนมารวมประชุมด้วย หลังมาถึงก้อทักทายพอเป็นพิธี ก้อนั่งตามลำดับชั้น ลูกศิษย์แต่ละยอดเขาเริ่มมายืนเต็มลาน น้องเมิ่งเริ่มสังเกตุว่ามีผู้อาวุโสสายไท่ซั่งจั่งเหล่ามาเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้เยอะมาก จากนั้นเสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้น เมื่อมีคนรับรู้ได้ว่าน้องเมิ่งก้าวผ่านสภาวะรวมจิตแล้ว เลยสงสัยว่าน้องเมิ่งใช้วิถีไหน แถมข่าวว่าน้องเมิ่งลงเขาไปพบเฉียนเจินเหรินมา รึน้องไปขอยาเร่งปราณมากิน แต่ตอนข้ามพ้นสภาะวะใครเป็นคนคุ้มครองน้องเมิ่งอีก555 เพราะมีน้องเมิ่งเป็นเป้าหลัก จี้เซียวในร่างของเซียวถิงอวิ๋นที่ฝึกปราณถึงขั้นสุดท้าย จึงไม่ได้ผิดสังเกตุนอกจากคำชมว่าสมแล้วที่เป็นว่าที่อริยะกระบี่555

จากนั้นเจินเหรินเจ้าสำนักกล่าวอบรบให้ศิษย์ที่ได้รับคัดเลือกไปประลองแดนสนธยาฮั่นไห่ ให้ทุกคนมั่นฝึกตน และใช้สติให้มากในการประลอง หวังว่าทุกคนจะรอดกลับมาอย่างปลอดภัย  จากนั้นก้อเป็นการแจกป้ายหยกประจำตัวเพื่อแดนสนธยา อีกห้าวันจะออกเดินทาง ให้ทุกคนมารวมตัวกันที่ลานนอกตำหนักเพื่อออกเดินทางพร้อมกัน น้องเมิ่งหงุดหงิด ตอนแรกตั้งใจจะออกเดินทางไปคนเดียว หวังจะแวะเที่ยวเล่นเมืองมนุษย์สะหน่อย เลยบ่นว่าใครเป็นคนออกกฎงี่เง่านี้นะ จี้เซียวเลยบอกว่าเป็นคู่บำเพ็ญของท่านที่ออกกฎนี่เอง น้องเมิ่งเงียบทันที5555

หลังแจกป้ายหยกให้ศิษย์ที่ได้คัดเลือกจนหมดแล้ว จนห้องโถงไม่เหลือศิษย์คนอื่นๆ เจ้าสำนักก้อมอบป้ายหยกให้น้องเมิ่ง พร้อมกล่าวเตือนให้น้องระมัดระวังตัวเองให้ดี แล้วหันไปบอกเซียวถิงอวิ๋น อวี๋ฉี่ซูว่าตอนที่น้องเมิ่งไม่อยู่ที่เขาฉางซุน ถ้ามีปัญหาอะไรให้เข้ามาบอกกับเจินเหรินเจ้าสำนักได้โดยตรง

จากนั้นน้องเมิ่งก้อพาสองสหายกลับยอดเขาฉางซุน มานั่งเศร้าๆว่าต้องจากเพื่อนไปตั้งหลายวัน แต่สักพักน้องเมิ่งรู้สึกแปลกๆ ก้อเดินหาความผิดปกติ จนไปเจอะว่าอวี๋ฉี่ซูแอบตัดกิ่งต้นจินซือเถามากไป จนบางต้นโกร่นเชียว ก้อโมโหจะต่อว่าอวี๋ฉี่ซูที่ตัดกิ่งต้นจินซือเถาแบบไม่ถนอมเลย แทนจะตัดกิ่งเฉลี่ยๆกันไปในป่าต้นจินซือเถา เจ้าหนูผีตบทรัพย์รีบร้องปกป้องอวี๋ฉี่ซู ทั้งที่ตัวเองขนบนหัวบางเชียว555 จนจี้เซียวมาช่วยออกหน้า ด้วยการมาจูงน้องเมิ่งให้ไปเตรียมตัวเก็บของเพื่อเดินทาง อาวุธที่พกไปมีเพียงกาลมิสิ้นผ่านผัน ที่เหลือล้วนเป็นขนมขบเคี้ยวของน้องเมิ่งทั้งนั้น ที่จี้เซียววุ่นวายจัดหาให้555 น้องเมิ่งมองดูเขาจัดการให้ก้อรู้สึกอุ่นใจเอามือลูบหัวจี้เซียว แล้วบอกว่าน้องจะรีบกลับมาหานะ จี้เซียวตัวแข็งแทน555

ถึงวันออกเดินทาง ทุกคนต่างมารอส่งน้องเมิ่งเดินทาง ทุกคนต่างโอบกอดน้องเมิ่ง พอถึงจี้เซียวกอด น้องเมิ่งก้อรู้สึกร้อนวูบทันที555 เลยรีบบอกลาทันที แต่จี้เซียวกลับบอกว่าไว้พบกันใหม่แทน จากนั้นน้องเมิ่งลงไปที่ลานนอกตำหนักพร้อมขึ้นเรือเหาะไปนั่งกับเจ้ายอดเขาจื่อเยียน

ที่ยอดเขาฉางซุง จี้เซียวบอกเจินเหรินเจ้าสำนักว่าตนเองจะกักตน เพื่อหาหนทางเข้าสูสภาวะรวมจิตสักสามเดือน อวี๋ฉี่ซูเลยสงสัยว่าตัวเองต้องกักตัวด้วยไหม555 แต่เจ้าสำนักบอกให้จี้เซียวไปลานสำแดงกระบี่ให้เอาชนะศิษย์พี่แถวนั้นสักสิบครั้งค่อยกักตน จี้เซียวบอกว่าแค่ส่งอวี๋ฉี่ซูไปลานสำแดงกระบี่ อวี๋ฉี่ซูก็สามารถชนะศิษย์พี่ได้ยี่สิบครั้งรวดเดียว ไม่นับว่ามีปัญหาอันใด555 อวี๋ฉี่ซูตกลงยอมรับจะไปลานสำแดงกระบี่เอง

ฝั่งน้องเมิ่งก้อได้ศิษย์พี่แพคสามจางซู่หยวน เหอหมิง หลี่เหวยมาเป็นศิษย์คุ้มกันให้แทนคนของไท่ซั่งจั่งเหล่า เมื่อถึงแดนสนธยาฮั่นไห่ ก็พบเรือเหาะมากมายต่างจอดรอเวลาในการเข้าด่านพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีเรือเหาะของประมุขแดนสรวงลอยดูเห็นการณ์ใกล้ๆด้วย จากนั่นก้อมีเสียงหูซื่อดังออกมาเรียกน้องเมิ่งให้ขึ้นไปคุยที่บนเรือเหาะตัวเอง น้องเมิ่งที่ตอนนี้คือน้องสะใภ้ของประมุขแดนสรวง ก้อโดนสาวใช้ของหูซื่อมารับ พร้อมประกาศออกมาว่าก่อนจี้เซียวจากไป ได้ตั้งใจทำอาวุธสองชิ้นว่าเบื่อพิรุณกับหน่ายวายุ ไม่รู้ว่าน้องเมิ่งรู้จักไหม น้องเมิ่งก้อบอกไปว่าไม่รู้อะ สาวใช้เลยบอกงั้นคงต้องไปคุยกับประมุขแดนสวรวงเองแล้วละ 

น้องเมิ่งสงสัยว่าทำไมของชิ้นนี้ถึงไปอยู่ที่หูซื่อ แล้วมันไม่ใช่กาลมิสิ้นผ่านผันหรอกรึ แต่หลังขึ้นไปพบกับหูซื่อ ความรู้สึกระแวงภัยของน้องเมิ่งที่มีต่อหูซื่อยังคงมีเหมือนเดิม ตอนจี้เซียวมาขอยาคืนชีพ น้องเป็นเพียงพอนใกล้ตายตัวหนึ่ง จี้เซียวก็เลยโดนหูซื่อว่าเสมอที่โดนอสูรล่อลวง ต่อว่าน้องเมิ่งเป็นพวกอสูรเป็นพวกเชื่อถือไม่ได้ สักวันต้องทรยศหักหลังจี้เซียวแน่ๆ จนถึงวันนี้ หูซื่อยังคงว่าน้องเมิ่งว่าเป็นจอมเสแสร้ง น้องเมิ่งโมโหว่าความรักของน้องเมิ่งเป็นเรื่องจริง หูซื่อเลยบอกว่าอย่ามาโกหกเลย เพราะเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านเมถุน แค่เขามองก็รู้แล้วว่าน้องเมิ่งยังเวอจิ้น555 น้องเมิ่งโมโหเลือดขึ้นหน้าแต่ก้อข่มใจถามถึงเบื่อพิรุณกับหน่ายวายุว่าคืออะไร แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน หูซื่อบอกว่าเขาก้อไม่รู้ถึงได้เรียกน้องเมิ่งมาถามยังไงละ

ตอนนี้น้องเมิ่งรู้แล้วตัวเองโดนหูซื่อหลอกใช้ ให้คนอื่นเข้าใจว่าเขาได้ของวิเศษของจี้เซียวมาเพิ่มอีกสองชิ้น ยามอยู่ในแดนสนธยา ก้ออาจโดนคนชั่วคิดดักปล้นชิงของวิเศษ ถึงแม้เขาจะบอกว่าไม่มี แต่ใครเล่าจะเชื่อว่าเขาไม่มี แถมตอนนี้พอเขาลงด้านล่างไป ก็คงมีข่าวลือออกไปถึงศิษย์สำนักอื่นๆว่าเขาได้เปรียบเพราะมีอาวุธวิเศษจากจี้เซียวอีก น้องเมิ่งก่นด่าหูซื่อตลอดทาง จากนั้นก็ถึงเวลาเปิดด่าน ก้อได้ยินเสียงของสองปรมัตถ์ดังขึ้นให้เริ่มเดินทาง ก็ทำให้บริเวณนี้มีความกดดันจากสองปรมัตถ์เกิดใหม่แผ่ออกมารอบๆบริเวณ 

ที่เขาฉางซุน จี้เซียวเตรียมเริ่มกักตน แต่อวี๋ฉี่ซูเพิ่งได้สติว่าตัวเองต้องไปลานสำแดงกระบี่เพื่อเอาชนะศิษย์พี่ยี่สิบคน ก้อโวยวายว่าจี้เซียวใจร้ายมาก เขาเพิ่งฝึกกระบี่ เพิ่งสามารถรับมือจี้เซียวได้แค่สามกระบวนท่าเองนะ จี้เซียวบอกว่าอวี๋ฉี่ซูก้าวหน้าขึ้นมากแล้ว ขอให้เชื่อใจในตัวเขาผู้สอน555

ที่แดนสนธยาฮั่นไห่ สำนักซงเฟิงกู่มีผู้บำเพ็ญเป็นหญิงสาวหน้าตางดงามจำนวนมาก มะก่อนที่สำนักหานซานยังมีจี้เซียว พวกนางมักหาข้ออ้างมาเยี่ยมสำนักหานซาน เพื่อเล่นไพ่กับเจ้ายอดเขาจื่อเยียน แต่ที่จริงหวังเจอะหน้าจี้เซียว แต่กลับไม่เจอะหน้าเขา สุดท้ายกลับติดใจเล่นไพ่จนลืมเลือนการส่องผู้แทน555 ตอนนี้พวกนางมาตั้งโต๊ะเล่นไพ่กับเจ้ายอดเขาจื่อเยียน พร้อมเมาท์เรื่องเมิ่งเสวี่ยหลี่ ที่ออกสินค้ามากมายที่มีส่วนผสมของของต้นจินซือเถา แถมอยู่ภายใต้การจัดการขายของเฉียนเจินเหริน จนกลายเป็นว่าสินค้าทุกตัวล้วนขายดี ที่ทุกคนต่างแย่งซื้อกันเพราะหวังจะได้แบ่งโชคดีมาจากเขาบ้าง ล่าสุดยังโชคดีได้ของวิเศษสองชิ้นสุดท้ายที่จี้เซียวทิ้งไว้ให้อีก ช่างเป็นคนที่น่าอิจฉาอะไรยังนี้

แดนสนธยาเป็นมิติแห่งหนึ่งที่จี้เซียวสั่งให้อสูรเซิ่นโซ่วตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในนี้ แล้วสั่งมันว่าทุกยี่สิบปี ให้พ่นลมหายใจมาสร้างหอลวงกลางสมุทร เพื่อบอกที่ตั้งของแดนสนธยาฮั่นไห่ ถ้าใครไม่มีป้ายหยกติดกายจะโดนอสูรเซิ่นโซ่วเป่ากระเด็นออกไป

เมื่อเข้ามาสู่แดนสนธยาแล้ว เมิ่งเสวี่ยหลี่นำขบวนศิษย์พี่แพคสาม มุ่งหน้าไปที่เมืองจงยางเลย ไม่ต้องไปเสียเวลาหาหญ้าวิเศษที่คะแนนต่ำเกิน เดินทางไปสักพักพวกน้องเมิ่งโดนลอบโจมตี น้องเมิ่งสังกระจายกำลัง แล้วจัดการพวกศัตรูเองจนพบว่าเป็นพวกนักพรตอิสระ ที่ใช้เงินซื้อป้ายหยกเข้ามา ยิ่งข่าวลือว่าน้องเมิ่งมีอาวุธวิเศษในมือ พวกนั้นก้อคิดรวมหัวดักปล้นเอาง่ายๆ สุดท้านก้อพ่ายแพ้ให้น้องเมิ่น ไม่พอยังโดนยึดป้ายหยกและถุงสมบัติอีก แต่ที่สำคัญคือน้องสอบถามจนได้ข่าวจากพวกโจร ว่ามีคนประกาศตั้งค่าหัวน้องเมิ่งด้วยเงินค่าจ้างสูงลิบ ทำให้รู้ว่าต้องระวังตัวยิ่งขึ้น น้องเมิ่งสนใจเสื้อคลุมสีดำเลยให้พวกนั้นถอดผ้าคลุมออกมา เลยพบว่าหัวหน้ากลุ่มดันเป็นหญิงงามนามชิงไต้ นางบอกไม่เชื่อว่าน้องคือเมิ่งเสวี่ยหลี่ เพราะที่ข่าวบอกมาว่าเขาอ่อนแอแถมไม่มีวิชายุทธอีก น้องเมิ่งเลยสวมรอบว่าตัวเองชื่ออวี๋ฉี่ซูแทน555

ฝ่ายอวี๋ฉี่ซูที่อยู่ลานสำแดงกระบี่ ตอนนี้เอาชนะศิษย์พี่ไปได้สามคนรวดละ อยู่ๆก้อจามดังสนั่นคันจมูกยิ่งนัก ก้อคิดว่าต้องโดนใครนินทาอยู่แน่ๆ555

ฝั่งน้องเมิ่งหลังจัดการกลุ่มนักพรตอิสระไปได้ ก้อแบ่งสิ่งของกับป้ายหยกให้กับศิษย์พี่แพคสาม แถมน้องเมิ่งยังคิดแผนตบทรัพย์ได้อีก ด้วยการห้อยถุงสมบัติติดข้างเอวโชว์ชัดๆ เพื่อล่อให้คนมาดักปล้น แล้วตัวเองค่อยตบทรัพย์โจรอีกที555 แผนการนี้สามารถตบทรัพย์มาได้สิบครั้งพอดี ตอนนี้พวกเขามาถึงริมแม่น้ำเฮยสุยละ กลับพบกลุ่มนักพรตที่ผสานรวมตัวกันจากหลายสำนัก และก้อเช่นเคยพวกน้องเมิ่งสามารถตบทรัพย์เพิ่มได้อีกแล้ว 

ก็พอดีหลี่เหวยเห็นเหยี่ยวขาวบินวนไปๆมาๆ ท่าทางดูน่าอร่อย จางซู่หยวนเลยถือโอกาสลองใช้หน้าไม้ที่ยึดมาได้จากลุ่มนักพรตอิสระมาลองยิงนก จนทั้งหมดได้กินนกย่างแสนอร่อย555 แต่น้องเมิ่งกินเจจึงกินแต่อาหารแห้งในถุงส่วนตัว เหล่าศิษย์พี่แพคสามยิ่งซาบซึ้งในความรักของอาวุโสเมิ่งที่มีต่ออริยะกระบี่จี้เซียวมากขึ้นไปอีก ที่ยอมกินเจตลอดชีวิตให้เป็นกุศลกับสามีที่จากไป แต่สักพักกลิ่นนกย่างช่างหอมหวานกว่านกปกติ เลยทำให้รู้ว่ามันคือสัตว์อสูร555 เลยคิดว่าน่าจะเป็นสัตว์อสูรของสำนักเป่ยหมิงซาน ที่แอบส่งมาดูลาดเลาพวกเขารึป่าว น้องเมิ่งปลอบใจว่าไม่เป็นไร กินๆไปเหอะ เนื้อนกอร่อยไม่ใช่รึไง

ระหว่างนั้นเหล่าศิษย์พี่แพคสามก้อเริ่มเมาท์ ว่าพรุ่งนี้ไม่รู้จะเจอะจิงตี๋จากสำนักหมิงเยวี่ยหูรึป่าว  น้องเมิ่งฟังน้ำเสียงเหมือนพวกเขาจะมีเรื่องแค้นกันมา พวกศิษย์พี่เลยแย่งกันเล่าว่าพวกเขาเคยพลาดท่าครั้งหนึ่ง จนเสียว่าที่ลูกศิษย์ที่มีสันฐานกระดูกดีๆให้กับจิงตี๋ ที่ลงทุนวางอุบายแต่งตัวเป็นสาวงามมาล่อหลอกเด็กคนนั้นให้ไปเข้าสำนักหมิงเยวี่ยหู ในการประลองครั้งนี้ จิงตี๋เป็นศิษย์เอกของเจ้าสำนักหมิงเยวี่ย ถือว่าเขาเป็นตัวเก็งว่าจะผู้ชนะในการประลองครั้งนี้

ส่วนจิงตี๋นั้นนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนต่างสำนักห้าคน ตั้งหลักอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ 

วันรุ่งขึ้นน้องเมิ่งยังคงใช้แผนล่อโจรตบทรัพย์อีก แต่คราวนี้ได้เจอะจิงตี๋สะที จิงตี๋ที่เห็นโฉมหน้าน้องเมิ่งครั้งแรกก้อถูกใจคนงามอย่างน้องเมิ่งยิ่งนัก เริ่มแจกขนมจีบน้องเมิ่งทันที555 แต่เจอะน้องเมิ่งชมกลับไปว่าจิงตี๋ก้องดงามเช่นกัน ยิ่งถ้าแต่งกายเป็นหญิง เขาคงงดงามยิ่งกว่านี้ ทำเอาคนหัวเราะจิงตี๋กันหมด จิงตี๋แปลกใจเลยถามว่าทำไมจี้เซียวถึงมีคู่บำเพ็ญเช่นนี้ได้ น้องเมิ่งก็บอกซื่อๆไปว่าจี้เซียวเขามาชวน น้องเมิ่งก้อแค่ตอบตกลง555 อย่าได้อิจฉาวาสนาของคนอื่นเลย จิงตี๋อึ้งในคำตอบยิ่งประทับใจน้องเมิ่งเข้าไปอีก555

ในก๊วนจิงตี๋ใช้โทรจิตติดต่อกันว่าจะบุกปล้นชิงทรัพย์กลุ่มน้องเมิ่ง หรือจะปล่อยผ่านแยกย้ายกันไป แต่จิงตี๋บอกว่าเขาถูกใจน้องเมิ่ง จะตั้งใจจีบน้องเมิ่งมาเป็นคู่รักให้ได้ จิงตี๋เลยเจอะเพื่อนๆในกลุ่มรุมด่าว่าต่ำช้าไร้ศีลธรรม หน้าไม่อาย มาล่อลวงภรรยาม่ายของอริยะกระบี่ หวังตบทรัพย์มรดกของน้องเมิ่งได้ลงคอ555 จิงตี๋ว่าถึงจะไม่มีอาวุธวิเศษของอริยะกระบี่ แค่น้องเมิ่งใสๆซื่อๆน่าเอ็นดูแบบนี้ ก็ถูกใจเขาจนจะตายอยู่แล้ว จิงตี๋เลยเจอะเพื่อนด่า ว่าระวังวิญญาณอริยะกระบี่รู้ถึงจิตสกปรกของจิงตี๋ แล้วจะส่งสายฟ้ามาลงทัณฑ์ให้แทน

ฝั่งน้องเมิ่งก้อโทรจิตคุยกันอยู่เช่นกัน น้องเมิ่งสั่งให้สามศิษย์พี่ใจเย็นๆ ให้ดูท่าทีของกลุ่มของจิงตี๋ก่อนแล้ว ค่อยเปลี่ยนแผนตามก็ยังทัน

จิงตี๋เริ่มกล่อมให้พวกน้องเมิ่งเดินทางไปด้วยกัน จะได้ช่วยกันต้านปีศาจในแม่น้ำ พร้อมแนะนำเพื่อนในกลุ่มให้น้องเมิ่งได้รู้จัก หลิวจิ้งจากสำนักอู้อิ่นกวน เจิ้งมู่จากอารามหนานหลิงซือ ซ่งเฉี่ยนอี้จากสำนักซงเฟิงกู่ สวีซานซานจากสำนักเป่ยหมิงซาน พวกเขามาจากห้าสำนักมารวมตัวรวมตัวกันเพื่อจะทำลายสถิติคราวที่แล้ว ในกลุ่มของจิงตี๋ มีเพียงซ่งเฉี่ยนอี้สาวงามที่มีทักษะแพทย์ ที่ทำแก็งค์ศิษย์พี่มีความรู้สึกดี

จิงตี๋เริ่มตัดไผ่ทำแพล่องแม่น้ำ แล้วชวนน้องเมิ่งลงไปนั่งด้วยกัน เพราะเห็นว่าน้องดูเด็กน้อยแถมสามปีนี้อยู่แต่บนเขาฉางซุนตลอด จิงตี๋จึงเล่าเรื่องน่าสนใจมากมายที่เขาเคยเดินทางท่องเที่ยวไปพบเจอะมา น้องเมิ่งนั่งฟังตาแป๋วจนนึกถึงเรื่องเล่าว่าจิงตี๋เคยเมาหนักถึงขั้นเอากระบี่คู่กายไปจำนำเพื่อเอาเงินมาซื้อเหล้า น้องเมิ่งเลยขอดูคันฉ่องน้ำแข็งจันทรากระบี่คู่กายของจิงตี๋ในตำนาน ซึ่งเขาก้อยอมหยิบมาให้น้องเมิ่งดู 

เจิ้งมู่เลยถือโอกาสนี้ถามหาถึงเบื่อพิรุณกับหน่ายวายุว่ามันคือของวิเศษอะไร น้องเมิ่งก้อบอกว่าตัวเองไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร แถมเพิ่งเคยได้ยินตอนหูซื่อบอกนี่แหละ ทุกคนดูผิดหวัง น้องเมิ่งเลยบอกว่าอาวุธเทพที่จี้เซียให้เขามีเพียงกาลมิสิ้นผ่านผันที่สามารถเปลี่ยนรูแร่างอาวุธได้หลายแบบ แล้วส่งมันให้พวกจิงตี๋ได้จับต้อง ทุกคนต่างตื่นเต้นประทับใจในอาวุธเทพนี้

แก็งเพื่อนจิงตี๋โทรจิตคุยกัน ว่าน้องเมิ่งใสซื่อมาก ขนาดยื่นอาวุธเทพของตัวเองให้คนอื่นง่ายๆ ไม่ระแวงสักนิดว่าจะโดนฉกของเลย ว่าแล้วเริ่มด่าจิงตี๋ว่าได้คิดกระทำต่ำช้ากับน้องเมิ่งเด็ดขาด แต่จิงตี๋กลับยิ่งอยากเอาชนะใจของน้องเมิ่งยิ่งขึ้น55 ซ่งเฉี่ยนอี้ดูเป็นห่วงน้องเมิ่งมาก555

ที่ยอดเขาฉางซุน อวี๋ฉี่ซูที่สามารถเอาชนะศิษย์พี่ยี่สิบคนรวดที่ลานสำแดงกระบี่ ทำให้ชื่อเสียงเขาโด่งดังขึ้นมาทันที ยามนี้อวี๋ฉี่ซูล้มตัวลงนอนเพราะเหนื่อยแทบขาดใจตายแล้ว555 จี้เซียวยืนอยู่หน้าบ่อปลาไน พร้อมสั่งให้เฝ้าบ้านให้ดี เขาจะออกเดินทางแล้ว อุษาไร้เขตขัณฑ์สั่นไหวคล้ายรับคำสั่งทันที ทำให้พื้นดินบนเขาฉางซุนสั่นสะเทือน จนอวี๋ฉี่ซูสะดุ้งตื่นจนต้องอุ้มหนูผีวิ่งออกจากเรือนทันที หนูผีตัวนี้มะก่อนตัวเท่าถ้วยชา แต่หลังจากกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของอวี๋ฉี่ซูแถมโดนถอนขนไปมาก็กลับโตวันโตคืน จนมันตัวใหญ่ขึ้นจนสามารถอุ้มเต็มอ้อมแขนได้แล้ว เฉียนเจินเหรินที่เห็นหนูผีเก็บตัวใหญ่ขนาดนี้ถึงกับขอซื้อจากอวี๋ฉี่ซูทันที แต่อวี๋ฉี่ซูรักมันมากเลยไม่ยอมขาย

ส่วนพวกน้องเมิ่งที่รวมเดินทางกับแก็งจิงตี๋ ระหว่างนั่งแพล่องแม่น้ำไปก็โดนดักซุ่มโตโจมตีไป แต่เพราะจิงตี๋อยากโชว์เหนือให้น้องเมิ่งดู เลยออกไปจัดการกองโจรพวกนั้นคนเดียว ส่วนเพื่อนจิงตี๋ชมวิชากระบี่ของจิงตี๋ให้น้องเมิ่งฟัง555 เหล่าสิษย์พี่ไม่อยากให้น้องเมิ่งดูได้รับการปกป้องจากสำนักหมิงเยวี่ยหู พวกเขาจึงออกไปต่อสู้ ถึงบาดเจ็บก้อมีนางฟ้าซ่งเฉี่ยนอี้ใช้ทักษะแพทย์ในการรักษาให้

จนล่องแพมาใกล้ถึงเมืองจงยางแล้ว จิงตี๋ชวนให้ทุกคนขึ้นฝั่งเต็มพักผ่อนก่อนพรุ่งนี้จึงเดินทางต่อ น้องเมิ่งก็เห็นด้วย แต่หลิวจิ้งสงสัยว่าค่ายเวทยังแข็งแรงดีจะรีบพักทำไม จิงตี๋ว่าแผนกลางวันสร้างความประทับใจ แล้วกลางคืนต้องยิ่งรีบทำคะแนนให้จบในคราวเดียว เลยเจอะสวีซานซานด่าว่าจิงตี๋ต่ำช้าคิดล่อล่วงภรรยาม่ายได้ลงคอ สักวันต้องโดนกรรมตามสนองแน่ๆ ในขณะที่ซ่งเฉี่ยนอี้พยายามจะบอกใบ้น้องเมิ่งให้ระวังตัว แต่น้องเมิ่งดันกลับเข้าใจผิดว่าซ่งเฉี่ยนอี้อาจเคยหลงรักจีเซียว555

ตลอดเส้นทางจิงตี๋ล้วนเป็นคนดูแล แถมตอนนี้ยังจับปลามาย่างให้กินอีก ทำเอาแก็งศิษย์พี่เริ่มคิดว่าตัวเองเข้าใจผิดในตัวจิงตี๋แทน555 ระหว่างที่ทุกคนนั่งล้อมกองไฟกินปลาย่างอย่างอร่อยปาก มีเพียงน้องเมิ่งที่ไม่ได้แตะปลาย่าง จนจิงตี๋ทักว่าน้องไม่ชอบกินปลาหรอ แต่เป็นจางซู่หยวนที่รีบบอกว่านับแต่อริยะกระบี่จี้เซียวลาโลก น้องเมิ่งก้อกินเจมาตลอดเพื่อจี้เซียว ทำเอาเพื่อนสี่คนของจิงตี๋หันไปมองเขาด้วยสายตาตำหนิขั้นสุด555

แต่จิงตี๋กลับฉวยโอกาสขอคุยกับน้องเมิ่งแบบส่วนตัว ซึ่งน้องเมิ่งตกลงเดินไปคุยกับเขาที่ริมลำธาร จิงตี๋กำลังจะเอ่ยปากพูด ที่ท้องฟ้าก้อเกิดการสั่นไหวรุนแรงขึ้นมาแทน

ที่ถ้ำใต้ดิน ปรากฎร่างของจี้เซียวยืนอยู่ตรงหน้าร่างของอสูรเซิ่นโซ่วที่เป็นมังกรวารีสีขาวนอนมองเขาอยู่ จี้เซียวเอามือลูบเขาของอสูรเซิ่นโซ่วแล้วบอกว่าเขากลับมาแล้ว

น้องเมิ่งสงสัยในเหตุการณ์นี้ แต่จิงตี๋กลับว่าเซิ่นโซ่วแค่หายใจเอง พยายามจะพูดต่อ แต่ยังอ้ำๆอึงๆจนน้องเมิ่งเริ่มรำคาญ เร่งให้เขาพูดออกมาเร็วๆ จิงตี๋เลยพยายามจะบอกว่าครั้งแรกที่พบ....

จี้เซียวถามเซิ่นโซ่วว่าเมียเขาอยู่ที่ไหน เซิ่นโซ่วเลยส่งสายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมาแถวที่น้องเมิ่งอยู่ พวกเพื่อนจิงตี๋ตกใจลุกมาดูทันที เริ่มกลัวว่าสวรรค์จะลงทัณฑ์จิงตี๋สะแล้ว555

น้องเมิ่งเห็นสายฟ้าฟาดก็รีบใช้ทวนงัดจิงตี๋ให้หลบสายฟ้าสายแรก แต่โชคร้ายยังมีสายฟ้าเส้นที่สองตามลงมา จิงตี๋เลยโดนสายฟ้าฟาดจนกระอักเลือดทันที พวกเพื่อนจิงตี๋เขามาดูก้อเห็นสภาพจิงตี๋ ก้อบอกให้เขาเลิกล้มความคิดนี้ได้แล้ว ครั้งนี้โดนสายฟ้าฟาด ครั้งหน้าอาจเป็นฝนกระบี่ก็ได้ จิงตี๋กลับไม่ยอมแพ้ กลับคิดท้าทายจะฝืนลิขิตให้ดู ซ่งเฉี่ยนอี้ใช้ทักษะแพทย์ช่วยรักษาจิงตี๋ทันที

แก็งศิษย์พี่แอบคุยกันว่ารีบแยกกันเดินทางดีกว่า ดูท่าจิงตี๋คงคิดไม่ดีกับน้องเมิ่งแน่ๆ แต่น้องเมิ่งกลับคิดว่าตัวเองทำร้ายจิงตี๋ แถมจิงตี๋ยังไม่ได้พูดอะไรเลย น้องเมิ่งเลยแซวแก็งศิษย์พี่ว่าทำใจแยกจากนางฟ้าซ่งเฉี่ยนอี้ได้หรอ555 ส่วนจิงตี๋ที่วางแผนชวนดูดาวพัง เลยคิดวางแผนดูพระอาทิตขึ้นมาแทน เฝ้ารอเวลาต่อไป555

พอถึงเวลาตอนเช้า จิงตี๋ก้อเดินไปชวนน้องเมิ่งมาที่ริมธารอีก แล้วชิงถามว่าเขาดูเป็นยังไงบ้าง น้องเมิ่งบอกก็ดีนะ จิงตี๋ดีใจจะยกมือโอบ แต่เจอะประโยคต่อไปของน้องเมิ่งจนจิงตี๋ไปไม่เป็นว่า...เพียงแต่ทีท่าตอบสนองช้า แต่ก็นับว่าฝึกฝนมาได้ดีไม่เลว อนาคตยังไปได้อีกไกล....จากนั้นเขาก้อโดนน้องเมิ่งเอาทวนฟาดจนตัวลอย พร้อมโดนน้องเมิ่งหิ้วตัวออกมาจากการลอบโจมตี กว่าจิงตี๋จะได้สติงัดกระบี่ออกมา ถึงได้เห็นในแม่น้ำมีคนชุดดำเกือบสามสิบคนรุมล้อมจะมาทำร้ายพวกเขา ทัพเสริมของน้องเมิ่งก้อมาพอดี น้องเมิ่งกระตุ้นพวกเขาให้ฮึกเหิม จึงทำให้สามารถสังหารศัตรูลงไปได้มากกว่าครึ่ง จนพวกนั้นต้องถอยหนีเข้าไปในป่า น้องเมิ่งสั่งไม่ให้ตามเพราะมันอาจเป็นกับดักได้

น้องเมิ่งตรวจสอบศัตรูที่นอนตายริมฝั่งดูแล้วไม่เหมือนนักพรตแต่คล้ายพวกนักฆ่ามืออาชีพ ทั้งดูไม่ออกมาจากสำนักไหน จินตี๋ที่เพิ่งได้สติก้อมองเห็นน้องเมิ่งในมุมมองใหม่ จากคนงามผู้บอบบางกลายเป็นคนงามฝีมือแกร่งก้อยิ่งดึงดันจะคว้าตัวน้องมาครองให้ได้ ทำให้เพื่อนๆต่างกังวลว่าจิงตี๋จะประสบเคราะห์มากกว่าโชคแทน555

แต่น้องเมิ่งกลับเดินมาบอกให้พวกเขาแยกทางกันเดินดีกว่า ดูจากการลอบสังหารมะครู่ มันอันตรายไปหากจิงตี๋และเพื่อนจะมาร่วมเดินทางไปกับเขา แต่จิงตี๋ไม่ยอม ยืนยันจะไปกับน้องเมิ่งให้ได้ แต่น้องเมิ่งตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว หลังรำลาก้อพาเหล่าศิษย์พี่แยกตัวออกมา จนพ้นกลุ่มของจิงตี๋แล้ว ก้อสั่งให้เหล่าศิษย์พี่ให้รีบไปที่ค่ายเวทเพื่อส่งตัวออกไปจากแดนฮั่นไห่ทันที เขาเกรงว่าจะมีคนมาทำลายค่ายเวทเคลื่อนย้ายจนไม่สามารถส่งคนออกไปข้างนอกได้ เหล่าศิษย์พี่ไม่ยอมเพราะได้รับคำสั่งให้อารักขาน้องเมิ่ง แต่น้องเมิ่งกลับบอกว่านี่น่าจะเป็นแผนร้ายที่มากกว่าส่งคนตามมาสังหารเขา น้องเมิ่งสั่งให้เหล่าศิษย์พี่ออกจากค่ายเวทแล้วไปรายงานเจ้ายอดเขาจื่อเยียน ให้นางรีบรายงานเจินเหรินเจ้าสำนักทันทีถึงเหตุการณ์นี้ในแดนฮั่นไห่ เขากลัวว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่สำนักหานซานมากกว่า ทั้งสามคนได้ฟังสาเหตุนี้ก็รีบรับปากแล้วแยกตัวไปหาค่ายเวททันที ส่วนน้องเมิ่งแยกเดินทางต่อคนเดียว

น้องเมิ่งเดินทางไปสักพักก้อรู้ว่ากลุ่มจิงตี๋แอบสะกดรอยตามเขามา แต่เขาไม่สนใจ กลับเดินไปหาถ้ำเพื่อพักผ่อน กลับได้เจอะเซียวถิงอวิ๋นในถ้ำแทน เลยถามว่าเขามาได้ไง จี้เซียวเลยบอกว่าตัวเองรู้จักอสูรเซิ่นโซ่ว ทำเอาน้องเมิ่งน้อยใจมาก ที่จี้เซียวเลี้ยงอสูนตนอื่นมาก่อน แล้วยังแนะนำลูกชายของเขาให้รู้จักกับอสูรตนอื่นก่อนให้รู้จักกับเขา5555 แต่จี้เซียวกลับบอกว่าเขาเป็นห่วงน้องพร้อมเอาเมล็ดสนอบแห้งมาให้ น้องดีใจมากรับมากินทันที(เลี้ยงง่ายจริงลูกเอ๋ย) หลังได้กินของอร่อยก้ออารมย์ดีขึ้น น้องเมิ่งอวดว่าตัวเองสูงขึ้น แต่จี้เซียวยังคงสูงกว่าน้องเมิ่งอยู่ดี555 จี้เซียวล้วงเอาเกาหลัดมาแกะเปลือกใส่ปากน้องเมิ่ง ห่างไปกี่วัน พอกลับมาเจอะกันอีกครั้ง จี้เซียวก้อยิ่งรู้สึกว่าน้องเมิ่งน่ารักมากเหลือเกิน

ส่วนจิงตี๋เห็นน้องเมิ่งหายไปในถ้ำคนเดียว ก้อเป็นห่วงจะตามเข้าไปหา แต่สั่งเพื่อนให้รออยู่ปากถ้ำ.....อึมเจตนาท่านนั้น555 จิงตี๋วิ่งไปตะโกนเรียกชื่อน้องไป ก้อเห็นผู้ชายแปลกหน้ากำลังป้องบางสิ่งให้น้องเมิ่งกิน ก้อโมโหหึงวิ่งชักกระบี่จะเข้าไปแยกน้องเมิ่งออกมา แต่กลับเจอะน้องเมิ่งเอาตัวบังชายคนนั้นแทน จิงตี๋ถึงได้เห็นหน้าชัดๆก้อจำได้ว่าเป็นเซียวถิงอวิ๋น เด็กหนุ่มร่างกระบี่ที่เขาเคยคิดจะแย่งชิงมาเข้าสำนัก ก็เลยเดินมาพูดคุยด้วยว่าให้เลิกแบ่งแยกสำนักมารวมมือกันต้านศัตรูจะดีกว่า ยิ่งกว่านั้นเขากะลังจีบน้องเมิ่งอยู่ น้องเมิ่งตกใจหันไปมองหน้าจี้เซียว แล้วหันไปด่าจิงตี๋แทน5555...

ที่ปากถ้ำ เหล่าเพื่อนต่างถกถึงการกระทำของจิงตี๋ ที่เขาตกบ่วงมารหลุ่มหลงน้องเมิ่งขนาดหนัก แต่เพราะส่วนใหญ่เป็นชายที่ไม่คิดอะไรมาก คิดแค่ผู้อาวุโสเมิ่งต้องจัดการจัดการพวกคนร้ายพวกนั่นได้แน่

ในถ้ำน้องเมิ่งโกธรจิงตี๋มาก ที่ทำเขาชื่อเสียงเสียหายต่อหน้าลูกชายของสามี ดูสิเขาไม่ได้ลงเขามาสามปี พอลงเขามาก้อมาล่อลวงเด็กหนุ่ม...แล้วยังงี้ลูกชายของจี้เซียวจะมองเขาเป็นคนยังไง น้องเมิ่งพยายามพูดให้จิงตี่เลิกคิดแล้วด่าให้ไสหัวไป แต่จิงตี๋กลับดื้อมา...ก พูดกล่อมให้น้องเมิ่งให้โอกาสตัวเองในการรับสามีใหม่555 น้องเมิ่งโมโหจนจะเอาทวนฟาดจิงตี๋ แต่จี้เซียวกลับกุมมือน้องเมิ่งแล้วบอกให้จิงตี๋พูดให้จบ จิงตี๋เลยถือโอกาสร่ายยาวว่า อริยะกระบี่สิ้นไปแล้ว คนตายไม่อาจหวนกลับคืนและทุกอย่างได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว ได้โปรดระงับความเศร้าโศก พูดจบจิงตี๋ก้อเจอะน้องเมิ่งเอามือฟาดกบานจนมึน พร้องเสียงตะโกนว่าระงับความเศร้าโศกบ้านแกนะสิ น้องเมิ่นตะโกนเสียงดังลั่นจนตัวสั่น ว่าถ้าไม่เห็นศฟจี้เซียว น้องจะถือว่าจี้เซียงยังไม่ตาย ใครหน้าไหนก็อย่ามาบอกว่าสามีน้องตายไปแล้ว จี้เซียวยืนกอดปลอบน้องเมิ่งพร้อมตบหลังน้องเบาๆ แล้วหันไปบอกให้จิงตี๋ออกไปก่อน

จินตี๋ที่มึนงงเดินออกมาถึงปากถ้ำก้อเรียกหาให้คนมาช่วยรักษาหน่อย เจอะเพื่อนรุมดูพร้อมยกย่องน้องเมิ่งทันที ตอนแรกพวกเขาคิดว่าจิงตี๋จะโดนตบหน้าซ้ายทีขวาทีออกมา แต่นี้เล่นฟาดกลางกบานแทน555

ในถ้ำจี้เซียวกอดปลอบประโลมใจน้องเมิ่งไป ในใจก้อก้อมีความสุข ยามน้องเมิ่งพูดถึงตัวเขาเอง ถึงปณิธานที่เขาหวังจะสร้างให้โลกมนุษย์ให้สงบสุข จนคนทั่วไปคิดว่าเขาเป็นจอมเผด็จการ และกลัวว่าเขาจะเสียปณิธานเดิม แต่น้องเมิ่งที่เกิดในแดนอสูร ที่เห็นโลกที่ใช้แต่กำลังแก่งแย่งช่วงชิงกันมาก่อน น้องเมิ่งย่อมเข้าใจถึงความหมายของคำว่าเป็นระเบียบและสงบสุขของจี้เซียว น้องมั่นใจว่าจี้เซียวไม่มีวันเปลี่ยนปณิธานตัวเองแน่นอน น้องจะโกธรมากถ้าใครมาว่าร้ายจี้เซียวอีก ถ้าจี้เซียวในร่างเซียวถิงอวิ๋นไม่เชื่อฟัง น้องเมิ่งจะใช้กฎสำนักให้เขียนบทความสรรเสริญจี้เซียวพันอักษร555 จี้เซียวเอาเมล็ดสนให้น้องเมิ่งกินอีก บอกให้เขากินเยอะๆ เพราะเขาพกมามากพอให้น้องกินได้สามเดือน555

น้องเมิ่งบอกพรุ่งนี้จะส่งจี้เซียวออกนอกแดน แต่จี้เซียวไม่ไป น้องเมิ่งคิดอีกทีให้จี้เซียวได้โอกาสเรียนรู้และฝึกทักษะในแดนสนธยาก้อดี เขาจะได้วางใจ หลังคุยกันจนเข้าใจกันดีแล้ว ทั้งคู่จึงพักผ่อนต่อในถ้ำ จี้เซียวนั่งมองน้องเมิ่งหลับไป ก้อชื่นชมว่าน้องเมิ่งหน้าตาน่ารักจริงๆ ใจก้อนึกถึงเรื่องในอดีต ก่อนหน้าเขามีกระบี่ไม้ที่หูซื่อทำให้ ต่อมาโลกมนุษย์เจอะพวกมารบุกเข้ามาในโลก หกสำนักรวมใจหลอมอาวุธเทพให้เขาใช้ต้านพวกมาร ยามเขาได้ครองอุษาไร้เขตขัณฑ์ เขานำกระบี่ไม้พร้อมได้ถ่ายเทพลังส่วนหนึ่งของตัวเองใส่ลงไป แล้วนำมาฝากหูซื่อ พร้อมบอกว่าวันใดเขาเสียปณิธานเดิม ให้หูซื่อเอากระบี่นี้มาสังหารเขาเสีย

ส่วนน้องเมิ่งนั้นหลับฝันว่าตัวเองเป็นเพียงพอนน้อย นอนหนุนตักจี้เซียว แล้วยังได้คำชมว่าเขาดูแลลูกชายได้ดีมาก เพียงพอนน้อยหันไปถามจี้เซียวว่าตัวเขาดีกว่าเซิ่นโซ่วใช่ไหม จี้เซียวบอกว่าเขาดีกว่าเซิ่นโซ่วเป็นพันเป็นหมื่นเท่า ทำเอาเขาดีใจตะกายเกาะบ่าจี้เซียวแล้วหัวเราจนตื่นขึ้นมา5555 เมื่อตื่นมาก้อพบว่าน้องเมิ่งนอนพิงบ่าจี้เซียวอยู่ ถึงจะเสียดายฝันที่สั้นไปหน่อย แต่น้องเมิ่งรีบชวนจี้เซียวออกเดินทาง

ที่ปากถ้ำ จิงตี๋ดักรออยู่ ยังไม่ตัดใจจากน้องเมิ่ง พอเห็นน้องเมิ่งกับจี้เซียวเดินออกมา เพื่อนๆจิงตี๋ถึงได้รู้ว่าลูกศิษย์น้องเมิ่งตามมาสมทบด้วย แต่น้องเมิ่งอยากสกัดจิงตี๋ออกไป ไม่อยากเห็นหน้าเขาอีก จี้เซียวเลยบอกว่ากาลมิสิ้นผ่านผันสามารถใช้เป็นแมงปอไม่ไผ่ยักษ์ใช้พาบินขึ้นฟ้าได้ ว่าแล้วจี้เซียวก้อทำให้น้องเมิ่งดู แล้วให้น้องเมิ่งโอบคอกอดตัวเองแน่นๆ จากนั้นคอบเตอไม้ไผ่ก้อบินข้ามหัวของกลุ่มจินตี่๋ บินหนีขึ้นฟ้าไปต่อหน้าเลย555 น้องเมิ่งสนุกมากที่ได้บินสูงลิบ แถมได้มองเห็นวิวกว้างไกลของแดนสนธยาฮั่นในมุมสูง

ฝั่งจิงตี๋ เหล่าเพื่อนล้วนบอกให้เขาถอดใจ หันไปมุ่งในการแข่งขันดีกว่า แต่จิงตี๋กลับคิดไปอีกทาง ว่าหากเขาเป็นผู้ชนะ ย่อมได้เป็นเจ้าของอุษาไร้เขตขัณฑ์ ยามนั้นค่อยบอกรักแล้วขอน้องเมิ่งมาเป็นคู่บำเพ็ญเพียนของตนน่าจะดีกว่า เพื่อนๆได้แต่ส่ายหน้า แต่คนที่ทนไม่ไหวคือซ่งเฉี่ยนอี้ นางขอแยกทางออกจากกลุ่มแล้วจากไปคนเดียว

ที่ด้านนอกแดนสนธยา แก็งค์ศิษย์พี่ออกมาก้อรีบไปส่งคะแนนที่ลานกลาง หลังนับป้ายหยก สิ่งของมากมายที่เอามากองรวมกัน ปรากฎว่าคะแนนเพวกเขาสูงมาก แถมยังออกมาก่อนเวลากำหนดอีก จากนั้นพวกเขาก็รีบไปรายงานเรื่องทั้งหมดให้เจ้ายอดเขาจื่อเยียนฟังทั้งหมด นางจึงสั่งศิษย์สายตรงพาให้พวกแก็ค์แพคสามขี่กระบี่รีบบินกลับไปรายงานเจินเหรินเจ้าสำนักโดยตรงทันที

บนเรือเหาะของสำนักหมิงเยวี่ยหู อวิ๋นซวีจื่อเจ้าสำนักกำลังชงชาให้ปรมัตถ์กุยชิง พร้อมรายงานที่ส่งกลับมาว่าหน่วยสังหารที่ส่งไป ทำงานล้มเหลว น้องเมิ่งแข็งแกร่งกว่าข่าวลือที่ออกมา ปรมัตถ์กุยชิงบอกว่าน้องเมิ่งมีที่มาน่าสงสัย ถ้าไม่ใช่ปีศาจที่แย่งชิงร่างผู้อื่นมา ก้อต้องเป็นอสูรนอกแดนมนุษย์ แต่ถึงยังไงก้อต่องสังหารน้องเมิ่งให้ได้ในแดนสนธยา

ทางด้านโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน เฉียนเจินเหรินตรวจสอบบัญชีแล้วพบความผิดปกติ ว่าในทุกช่วงของแดนสนธยาเปิด สินค้าขายดีมักเป็นยันต์ทำลายล้าง ยันต์เชื้อเพลิง แต่ปีนี้สิ่งที่ขายดีเป็นสิ่งของใช้ทำค่ายเวทจำนวนมาก ขายดีจนแทบขาดแคลนในบางสาขา เขากังวลว่าในแดนสนธยาอาจกำลังมีภัย อวี๋ฉี่ซูที่มาส่งกิ่งต้นจินซือเถา ก็ถามว่าจะเป็นไปได้ยังไง เฉียนเจินเหรินโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน บอกยังไงก้อต้องเตรียมตัวให้พร้อมไว้ก่อน ว่าแล้วก้อเอาตะเกียงวิญญาณมา แล้วหยดเลือดอวี๋ฉี่ซูลงไป ถ้าอวี๋ฉี่ซูมีภัยเขาจะรู้จากสัญญาณจากตะเกียงนี้ เขาจะได้รีบไปช่วยอวี๋ฉี่ซูได้ทัน

อวี๋ฉี่ซูกลับยอดเขาฉางซุนก้อไปเจอะอสูรนกยูงเชี่ยวเซียนหมิง ที่แวะมาหาน้องเมิ่ง แต่พอรู้ว่าน้องเมิ่งเดินทางไปแดนสนธยาฮั่นไห่แล้ว เซียนหมิงเลยบินไปหาน้องเมิ่งที่แดนสนธยาแทน

ฝั่งน้องเมิ่งเกาะกอดจี้เซียวบินวนเล่นจนถึงเมืองจงยางแล้ว ก้อลงจอดข้างสระน้ำ ไปเจอะกลุ่มนักพรตอิสระเร่งขุดแร่เพื่อนำไปข้างนอกแดน น้องเมิ่งก้อคิดวิธีตบทรัพย์ใหม่ ด้วยการคิดค่าคุ้มครองพวกนักพรตที่อ่อนฝีมือ โดยแบ่งของ70-30 โดยพวกน้องจะคุ้มครองพวกเขาจากการโดนดักปล้น จนคุ้มครองพาพวกเขาไปถึงค่ายเวทเพื่อส่งพวกเขาออกไปอย่างปลอดภัย ระหว่างที่พักผ่อนในตอนกลางคืน เหล่านักพรตอิสระเริ่มเมาท์รอบกองไฟทันที เรื่องเด็ดก้อย่อมเป็นเรื่องของภรรยาม่ายของอริยะกระบี่ น้องเมิ่งตั้งใจฟังน่าดู555 เริ่มข่าวว่ามาจากเขามีหน้าตางดงามมาก จนอริยะกระบี่ลงทุนสังหารจิ้งจอกเก้าหางตัวสุดท้ายของแดนอสูร เพื่อนำมาทำเสื้อคลุมยาวสามฉื่อ ถึงแม้มันจะยาวมากจนน้องเมิ่งเดินไม่ได้ ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะอริยะกระบี่จะอุ้มน้องแทนไม่ว่าน้องอยากจะไป จนถึงทุกค่ำคืนที่อริยะกระบี่พร่ำคำหวานให้น้องฟัง...จนน้องทนไม่ไหวเรื่องติดเรตมาก5555 จนไปโวยคนเล่า ว่าตัวเองคือน้องเมิ่งคนนั้น แต่กลับไม่มีใครเชื่อ555

น้องเมิ่งรีบอธิบายเรื่องจริงให้จี้เซียวในร่างเซียวถิงอวิ๋นฟัง เพราะไม่อยากให้ลูกชายจี้เซียวรู้แย่กับเรื่องเล่าลือพวกนั้น น้องเมิ่งว่าที่จริงแล้วไม่ใช่เลย เขาแค่ตอบแทนบุญคุณที่จี้เซียวช่วยชีวิตเขา เขาและจี้เซียวแทบไม่เคยใกล้ชิดกันสักนิด จี้เซียวเลยถามว่าน้องเมิ่งชอบจี้เซียวไหม น้องเลยตอบตามที่ตัวเองคิดเองเอ่อเอง ว่าเพราะจี้เซียวไม่ชอบเขา เขาก้อไม่ชอบจี้เซียว เรื่องทั้งหมดเขาล้วนโกหก จี้เซียวได้ยินก้อแอบเสียใจแต่ก็บอกว่าที่จี้เซียวทำนั้น ไม่ได้ต้องการให้น้องเมิ่งมาตอบแทนบุญคุณอะไร หากน้องเมิ่งจะชอบใครใหม่ก็ได้นะ แต่ว่าจิงตี๋นั่นยังดีไม่พอ แล้วหันมาบอกว่าเขาดีกว่าจิงตี๋งั้นมาเลือกเขาเถอะ5555

น้องเมิ่งตกใจ555 ว่าห้ามจี้เซียวมาคิดแบบนั้นนะ น้องเป็นผู้อาวุโส แถมแต่งงานกับจี้เซียวแล้วท่ามกลางแขกมากมายทีมาร่วมงาน จี้เซียวบอกไม่เป็นปัญหาสะหน่อย น้องเมิ่งสับสนไปหมด แถมความสัมพันธ์ก็ดูซับซ้อน เพราะนึกว่าจี้เซียวเป็นลูกชายของสามีอีก555 น้องไม่รู้จะทำไง ได้แต่บอกให้จีเซียวขอโทษเดียวนี้ แล้วเขาจะทำเป็นไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน จี้เซียวไม่อยากเห็นน้องเมิ่งไม่สบายใจเลยยอมขอโทษแล้วถอยระยะออกมา

คืนนั้นน้องเมิ่งฝันว่าตัวเองไปนั่งคร่อมเซียวถิงอวิ๋น แล้วจี้เซียมมาจับได้ว่าเขาเล่นชู้กับลูกชายตัวเอง น้องเมิ่งตกใจสะดุ้งตื่น...พบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของจี้เซียวอีกแล้ว555 

เช้ามาน้องเมิ่งยังขัดเขินแต่ว่ากองคาราวานที่เขาคุ้มครองโดนดักปล้นเป็นระยะ แต่ยิ่งเดินทางก็มีคนมาขอให้พวกน้องคุ้มครองเพิ่มขึ้น กองคาราวานก้อเพิ่มจำนวนมากขึ้นตามเส้นทาง รายได้ของน้องเมิ่งก้อมากขึ้น555 จนใกล้ถึงค่ายเวทเคลื่อนย้าย กองคาราวานโดนดักซุ่มโจมตี โดยอสูรจำนวนมาก แถมศัตรูยังมีราชาหมาป่าเป็นสัตว์อสูงจ่าฝูง น้องเมิ่งดูแล้วน่าจะมีพวกผู้ควบคุมสัตว์อสูรบ่งการอยู่เบื้องหลัง จึงวางแผนแยกกันจัดการกับจี้เซียว สุดท้ายน้องจัดการฟาดหมาป่าอสูรจนตาย ผู้ควบคุมสัตว์อสูรได้บาดเจ็บเพราะทำพันธสัญญาไว้กับหมาป่าก็ร่วงตกหน้าผาไป จากนั้นน้องก้อจัดการรวบแก็งผู้ควบคุมอสูรเพื่อตบทรัพย์พวกนั้น เสร็จก็ปล่อยพวกผู้ควบคุมสัตว์ไป จี้เซียวถามทำไมน้องไม่ฆ่าคนพวกนั้น น้องเมิ่งบอกว่าเขาสัญญากับจี้เซียวไว้ว่าจะไม่ฆ่าคนในแดนมนุษย์ ทำเอาจี้เซียวหวามใจมากจนเขาเข้าใจอารมย์ปรารถนาที่อยากกอดน้องเมิ่งตอนนี้แล้ว

ฝั่งจิงตี๋หลังซ่งเฉี่ยนอี้แยกตัวจากไป พวกเขาก้อเริ่มออกเดินทาง แต่กลับโดนศิษย์อาเล็กของจิงตี๋จับกุมเพื่อสอบถามถึงน้องเมิ่ง (ศิษย์อาเล็กของจิงตี๋ก้อ คือหนิงเวยเด็กหนุ่มที่โดนเขาแต่งหญิงล่อลวงให้มาเข้าสำนักคนนั้นนะเอง เพียงแต่พอหนิงเวยเข้ามาในสำนักกลับโดนใจปรมัตถ์กุยชิง รับเขาเป็นศิษย์สายตรง ทำให้ตำแหน่งในสำนักของหนิงเวยจึงสูงกว่าจิงตี๋ทันที) จิงตี๋เริ่มสังเกตุคนชุดดำที่เพิ่มจำนวนล้อมพวกเขา ก้อนึกออกว่าเป็นพวกที่จู่โจมพวกเขาเมื่อเช้า จึงเริ่มเข้าใจเจตนาของหนิงเวยทันที และขัดขืนการจับกุมของหนิงเวย

น้องเมิ่งหลังปล่อยคนไปแล้ว ก้อเดินทางต่อ กลับได้ยินเสียงต่อสู้ดังขึ้น เลยชวนจี้เซียวไปดู ก้อพบว่าเป็นชุยจิ่งศิษย์เอกของเจินเหรินเจ้าสำนัก กำลังประลองฝีมือกับคนสำนักอื่น น้องเมิ่งตาโตชมว่าวิชากระบี่ชุยจิ่งดูสวยงามมาก แต่น้องนึกว่าชุยจิ่งโดนรุมหนึ่งต่อสาม ก้อเข้าไปรวมวงตีคน คิดว่าจะช่วยจัดการให้ชุยจิ่ง กลับเจอะชุยจิ่งหันมาสู้กับน้องแทน แต่เพราะฝีมือต่างกันมากไป แปปเดียวน้องเมิ่งก้อชนะไปแล้ว 

จี้เซียวถามว่าวิชากระบี่ของชุยจิ่งน่ามองหรอ น้องเมิ่งก้อซื่อตอบว่างดงามยิ่ง จี้เซียวบอกว่าคราวหน้าถ้ามีเรื่อง เขาจะเป็นคนลงมือเอง (คิดในใจ...เพราะวิชากระบี่ของข้างดงามยิ่งกว่า555จี้เซียวเริ่มหึงละ) น้องเมิ่งตกลง แล้วบอกว่าน้องเมิ่งจะคอยดูแลให้ นี่น้องดีต่อจี้เซียวมากใช่ไหม จี้เซียวเลยบอกว่าเพราะน้องเมิ่งดีต่อเขา เขาถึงชอบน้องเมิ่ง.....น้องเมิ่งขนลุกซู่5555

ในที่สุดน้องเมิ่งก็พากองคาราวานมาถึงค่ายเวทเคลื่อยย้าน หลังส่งกลุ่มนักพรตอิสระออกไป น้องเมิ่งฝากสิ่งของตัวเองให้พวกเขาเอาไปส่งที่ลานกลางเพื่อนับคะแนนให้น้องเมิ่งด้วย เพราะน้องเมิ่งยังไม่ออกจากแดนสนธยา จากนั้นน้องเมิ่งก้อชวนจี้เซียวเดินทางเข้าเมืองจงยางต่อ

ในถ้ำใต้ดินแดนสยธยา พวกคนชุดดำแอบเข้ามา พร้อมเริ่มตั้งค่ายเวทตาข่ายเพื่อจัดการอสูรเซิ่นโซ่วที่กำลังหลับ แต่เซิ่นโซ่วตื่นมาพอดีเลยดิ้นร้นจะหนี เลยโดนพวกคนร้ายจัดการเปิดค่ายเวทตาข่ายแล้วมัดรัดตัวเซิ่นโซ่วไว้ทันที ขณะที่อสูรเซิ่นโซ่วจะโดนสังหารด้วยหน้าไม้ ก็พอดีอสูรนกยูงเชี่ยวเซียนหมิงบินเข้ามาช่วยได้ทัน พวกคนร้ายเจอะอสูรนกยูงพ่นเพลิงอสูรแผดเผาจนร่างสลายหายไปหมดแก็งค์ จากนั้นเซียนหมิงก็แกะตาข่ายเวทออกให้ พร้อมเอาหญ้าหยกพันปีให้เซิ่นโซ่วกินเพื่อรักษาบาดแผล จากนั้นถามหาน้องเมิ่ง เพื่อจะชวนเขากลับไปแดนอสูร เพราะตอนนี้แดนอสูรกำลังเกิดเรื่องใหญ่แล้ว

ฝั่งน้องเมิ่งจะลองบินกับคอบเตอไม้ไผ่เล่น ก้อให้จี้เซียวเกาะกอดน้องให้ดีๆ ว่าแล้วก้อบินทันที....จบแล้วจ้าเล่ม1


เล่ม2

น้องเมิ่งที่เป็นคนบังคับคอบเตอไม้ไผ่ กำลังพูดจ้อเรื่องแผนการท่องทะเลดวงดาวกับจี้เซียว ส่วนจี้เซียวที่โอบกอดเอวน้องเมิ่งจากด้านหลังอย่างแนบชิด ก้อรู้สึกถึงความสุขยามสัมผัสร่างกายนุ่มนิ่มน้องเมิ่ง แถมยังได้กลิ่นหอมหวานของน้องเมิ่ง ส่วนน้องเมิ่งก้อไม่ได้รู้ตัวเลย...ว่าสามีกำลังเคลิ้มอยู่555 น้องเมิ่งเพิ่งรู้สึกว่าหัวใจของจี้เซียวเต้นแรงผิดปกติ ก้อนึกว่าจี้เซียวกลัวความสูง555 หันหน้ามาขู่จี้เซียวอีก ว่าถ้าไม่เชื่อฟังจะพาเขามาบินอีก ก้อพอดีเขานึกถึงครั้งแรกที่บินคือการขี่หลังเพื่อนสนิทอสูรนกยูงเชี่ยวเซียนหมิง เลยเล่าเรื่องที่เซียนหมิงเคยพาเขาบิน แล้วทำให้เขาตกลงมาจากฟ้าไม่รู้กี่ครั้ง สุดท้ายเขาเลยเมาอ๊วกใส่หัวเซียนหมิง จี้เซียวฟังก้อเริ่มหึง ว่าพอเขาไม่อยู่เซียนหมิงก็ใจกล้านัก แอบขึ้นเขาฉางซุน เพื่อมาล่อลวงภรรยาตัวน้อยของเขาอีก

ระหว่างนั้นน้องเมิ่งก้อดันเห็นเซียนหมิงบินโฉบมาพอดี น้องเลยจะบินตามไป แต่จี้เซียวกลัวน้องบังคับคอบเตอไม้ไผ่ไม่ไหว เลยเอื้อมมือมากุมมือน้องเมิ่งไว้อีกที จนตามไปถึงทุ่งร้างนอกเมือง หลังลงจอดน้องเมิ่งที่โดนจี้เซียวจูงมือไว้ก้อเดินออกมาหาเซียนหมิง กลับเจอะจิงตี๋เดินออกมา แถมยังมาพูดจาแทะโลมเขาอีก ไม่พอยังมาถามว่าน้องเมิ่งชอบจี้เซียวหรือชอบที่เขาเป็นปรมัตถ์ ถ้าตัวเขาเองได้เป็นปรมัตถ์เหมือนกัน น้องเมิ่งก็จะชอบเขาเหมือนกันใช่ไหม น้องเมิ่งบอกว่าเขาชอบจี้เซียว ใครจะไปชอบนกยูงบ้าอย่างเจ้ากันเล่า

จากนั้นเซียนหมิงก้อกลับร่างเดิม น้องเมิ่งแนะนำให้เขารู้จักกับจี้เซียว เซียนหมิงแอบมองเห็นความสัมพันธ์แปลกๆที่ทั้งคู่แสดงออกมา จี้เซียวเลยเดินหลบออกมาบอกให้น้องเมิ่งคุยกับเพื่อนตามสบาย เซียนหมิงเลยเล่าว่าข้างนอกตื่นเต้นกับแต้มคะแนนน้องเมิ่งที่สูงสุด ยามนี้ถ้าไม่มีอะไรเปลียนแปลง อุษาไร้เขตขัณฑ์ต้องเป็นของน้องเมิ่งแน่ๆ น้องเมิ่งคุยไปก้อเอาทวงแทงปลาริมธารไปได้หลายตัว ว่าแล้วก้อให้เซียนหมิงใช้เพลิงนกยูงย่างปลาให้หน่อย น้องเมิ่งจะทำอาหารให้จี้เซียวกิน555

จี้เซียวตามมานั่งล้อมกองไฟ พร้อมกินปลาย่าง จี้เซียวจะป้อนปลาย่างให้น้องกิน แต่น้องเมิ่งไม่กิน ล้วงถุงเอาเมล็ดสนมากินแทน น้องเมิ่งถามว่าเซียนหมิงแปลงร่างเป็นจิงตี๋ได้ แปลว่าเคยเจอะจิงตี๋มาหรอ เซียนหมิงเลยบอกว่าระหว่างบินมาหาน้องเมิ่ง เจอะพวกเขาโดนทำร้ายทุบตี เซียนหมิงเลยลงไปช่วยพวกจิงตี๋ออกมา น้องเมิ่งตกใจเลยชวนจี้เซียวจะตามไปช่วยจิงตี๋ เซียนหมิงเลยบอกว่าช้าก่อนที่เขามาตามหาน้องเมิ่งถึงแดนสนธยาเพราะจะมาตามน้องเมิ่งกลับแดนอสูร น้องเมิ่งรีบปิดปากเซียนหมิงทันที เพราะตัวเองคิดว่าจี้เซียวในร่างลูกชายยังไม่รู้ว่า แท้จริงเขาคือราชาอสูรเพียงพอน555

เลยหันไปบอกจี้เซียวว่ารอก่อนนะ เดียวน้องจะเล่าความจริงบางอย่างให้ฟังด้วยตัวเอง จี้เซียวบอกเขาจะรอ เซียนหมิงรู้สึกว่าตัวเองกำลังกินอาหารหมา5555 เซียนหมิงเลยล้อน้องเมิ่งว่าเป็นผู้เฒ่าคิดล่อลวงเด็กอ่อน น้องเมิ่งเลยวิ่งไล่ทุบตีเซียนหมิง แล้วเถียงว่าพวกเขามีจิตบริสุทธิ์ ไม่ได้คิดทำเรื่องสกปรกอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ ส่วนจี้เซียวเห็นน้องเมิ่งวิ่งไล่ทุบเพื่อนไปมา ก้อยิ่งคิดว่าเมียตัวเองน่ารักมา....ก

จิงตี๋ที่บาดเจ็บหนัก ก้อฟื้นขึ้นมาเห็นซ่งเฉี่ยนอี้กำลังรักษาบาดเแผลให้ ทั้งสี่คนโดนทรมานจับแขวนตัวไม้ เป็นจิงตี๋ที่โดนหนักสุด เพื่อนๆต่างด่าทอหนิงเวยที่ลงมือเหี้ยมโหดมาก ก้อพอดีน้องเมิ่งก้อเดินมาหาถึงพวกเขาพอดี จิงตี๋ที่ยับเยิ่นรีบตะโกนบอกว่าน้องเมิ่งอย่ามามองสภาพเยิ่นๆของเขาในตอนนี้ จี้เซียวเลยมายืนบังหน้าน้องเมิ่งแทน5555 ซ่งเฉี่ยนอี้หันไปบอกน้องเมิ่งถึงคำสั่งลับของอาจารย์ ก่อนที่ยางจะเข้าด่านแดนสนธยาว่า ให้นางพยายามออกมาจากแดนสนธยาก่อนจะถึงสามวันสุดท้าย ซึ่งสีคนที่เหลือก้อได้รับคำสั่งเดียวกันมาแบบนี้เหมือนกัน 

จี้เซียวเลยถามว่างั้นสามวันสุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น...ทุกคนเงียบกริบ ซ่งเฉี่ยนอี้เลยบอกว่าเป็นเพราะจี้เซียวจากไปแล้ว ตอนนี้กฎเกณฑ์ในแดนสนธยาฮั่นไห่ไม่รู้ว่าผู้ใดจะเป็นคนคุมกฎ สุดท้ายพวกที่สุ่มโจมตีน้องเมิ่งคือพวกของสำนักหมิงเยวี่ยหู จิ่งตี๋ได้ยินว่าสำนักตัวเองอยู่เบื้องหลังก้อตะโกนว่าเขาไม่เชื่อ ออกจากแดนสนธยาเขาจะไปถามกับอาจารย์ถคงความจริงของเรื่องนี้ ที่จริงจิงตี๋เริ่มไม่มั่นใจว่าสำนักที่ตัวศรัทธากลับอยู่เบื้องหลังเรื่องชั่วช้าเช่นนี้

จี้เซียวบอกว่าถ้าดูจากแผนการนี้ เพียงทำลายค่ายเวทเคลื่อนย้ายสามที่ แล้วไปรวมพลดักรอที่ค่ายเวทแห่งสุดท้ายก้อสามารถดักจับพวกเขาได้แล้ว น้องเมิ่งบอกจะพาพวกจิงตี๋ไปส่งที่ค่ายเคลื่อนย้าย ส่วนตัวเองจะอยู่จัดการเรื่องที่นี้ต่อ แต่ซ่งเฉี่ยนอี้กลับไม่ไป นางจะอยู่เพื่อสืบให้รู้ใครอยู่เบื้องหลังแล้วต้องการจะทำอะไรกันแน่ จิงตี๋ก้อสนับสนุนเช่นกัน สรุปไม่มีใครยอมออกไป เซียนหมิงนึกถึงเซิ่นโซ่วที่โดนลอบทำร้าย ก้อบอกเขาจะอยู่ช่วยน้องเมิ่งด้วย ทั้งหมดหลังพักกันสักครู่ก้อออกเดินทาง จี้เซียวได้ยินเสียงน้องเมิ่งถอนใจก้อถามว่ากังวลอะไร น้องเมิ่งบอกป่าวเพียงแต่สงสารจี้เซียวที่ทำทั้งหมดเพื่อให้โลกสงบสุข แต่เขากลับโดนแดนมนุษย์ทรยศ จี้เซียวปลอบน้องเมิ่งให้ปล่อยวางว่าเรื่องมันผ่านไปแล้ว น้องเมิ่งบอกไม่ ทั้งหมดอยู่ในใจของน้องเมิ่งไม่เคยหายไปไหน

ที่สำนักหานซาน ชื่อเสียงของน้องเมิ่งกลับโด่งดังขึ้นแถมยังในแง่ดีอีก ตอนนี้น้องมีศิษย์สองคนล้วนโด่ดเด่น คนหนึ่งร่างกระบี่อนาคตอริยะกระบี่ ส่วนอีกคนวิชากระบี่เยี่ยมดังไปทั่วลานสำแดงกระบี่ แล้วน้องเมิ่งไม่ใช้กระบี่ ตอนนี้แต้มในแดนสนธยาก้อพุ่งนำ อุษาไร้เขตขัณฑ์ถ้าได้มาย่องต้องตกเป็นของลูกศิษย์หนึ่งในสองของน้องเมิ่งแน่นอน

จางซู่หยวนขี่กระบี่มาถึงสำนักหานซาน ก้อรีบเข้าพบเจินเหรินเจ้าสำนักทันที หลังฟังเรื่องเล่าทั้งหมดแล้ว เหล่าเจ้ายอดเขาปรึกษาเตรียมรับมือศัตรู จัดแจ้งซ่อมแซมค่ายเวททุกจุดในยอดเขาสำนักหานซาน พร้อมพูดถึงน้องเมิ่งว่าจี้เซียวมองคนไม่ผิด น้องเมิ่งเองก้อไม่ใช่คนธรรมดาแต่ยอมอยู่ยังไร้ชื่อเจียมตัวในยอดเขาฉางซุนมาตั้งสามปี แถมยังจิตใจดีงาม ทั้งที่ออกไปแดนสนธยาแล้วโดนคนลอบทำร้ายขนาดนี้ก็ยังเป็นห่วงสำนักหานซาน รีบให้คนมาส่งข่าว เพื่อให้พวกเขาตั้งรับศึกที่สำนัก ไม่ให้พวกเขาแตกตื่นลงเขากันหมด จนเปิดช่องว่างให้คนมาบุกสำนักตลบหลัง

แต่โจวอี้ศิษย์คนโตของไท่ซั่งจั่งเหล่า กลับมาเชิญเจินเหรินเจ้าสำนักให้ไปพบไท่ซั่งจั่งเหล่าที่หุบเขาจิ้งซือด่วน แต่เพราะไท่ซั่งจั่งเหล่ากักตัวอยู่แต่ในหุบเขาจิ้งซือมาหลายสิบปีไม่ออกมาพบผู้คน เจินเหรินจึงตกลงเดินทางไปพบเขา

ส่วนแก็งค์ศิษย์พี่แพคสามไปเยี่ยมอวี๋ฉี่ซูที่ยอดเขาฉางซุน พร้อมเล่าเรื่องของน้องเมิ่งที่แสดงความเก่งกาจในแดนสนธยาให้อวี๋ฉี่ซูฟัง หลังส่งแขกลงเขาไปแล้ว อวี๋ฉี่ซูก็มาให้อาหารปลาไนตามเวลา กลับพบว่าวันนี้ปลาไนสามตัวดูแปลกๆ พวกมันว่ายวนไล่ต่อตัวเชื่อมติดต่อกันจนกลายเป็นวงกลมแล้วกลายวังน้ำวงลากเขาลงไปก้นบ่อที่ลึกมาก 

ฝั่งน้องเมิ่งที่กำลังเดินทาง  สวีซานซานที่เป็นผู้ควบคุมสัตว์ก้อพูดคุยกับเซียนหมิงอย่างถูกคอ ถึงเรื่องสัตว์อสูรใดที่ร้ายกาจสุด สวีซานซานเลยเล่าเรื่องทะเลซีไห่มีเจียวหรือมังกรน้ำสามตัว นิสัยร้ายกาจมาก พวกมันมาจากแดนอสูร เล่ากันว่าใครสามารถจับพวกมันแล้วทำพันธสัญญาได้จะสามารถนับได้ว่าเป็นสุดยอดผู้ควบคุมสัตว์อันดับหนึ่ง จี้เซียวที่เดินข้างน้องเมิ่งได้ฟังก้อรู้สึกอายขึ้นมาพร้อมคิดว่าเขาไม่ได้อยากเป็นสุดยอดผู้ควบคุมสัตว์สักหน่อย เซียนหมิงเลยเล่าว่าเจียวถ้าบรรลุการบำเพ็ญเพียรได้จะสามารถกลายร่างเป็นมังกรล่องลอยขึ้นสู่สวรรค์ได้ 

พวกเขาเดินทางจนมาถึงค่ายเวทเคลื่อนย้านที่อยู่ใกล้สุด พบว่ามีนักพรตที่พยายามจะออกจากแดนสนธยา แต่ค่ายเวทกลับไม่ทำงาน หลิวจิ้งเข้าไปตรวจดูก็พบว่าค่ายเวทโดนสกัดด้วยเวทปิดกั้นอีกชั้น เขาก็รู้ว่าสำนักอู้อิ่นกวนของตัวเองมีส่วนในเรื่องนี้แน่ๆ เขาลองแก้เวทที่อาจารย์ลงอาคมแต่ฝีมือไม่ถึง น้องเมิ่งเลยจะลองใช้กาลมิสิ้นผ่านผันทำลาย แต่จี้เซียวแอบลงมือตัดหน้าก่อนน้องเมิ่งลงมือ แต่กลับกลายเป็นทำลายค่ายเวทนี้จนมันพังแทน555 น้องเมิ่งก้องงๆยังไม่ทันลงมือเลยมันพังได้ไง555 แต่ซ่งเฉี่ยนอี้สงสัยมากว่าน้องเมิ่งทำลายค่ายเวทได้ไง ในเมื่อพวกศัตรูทำลายไม่ได้จึงแก้ด้วยการสร้างค่ายเวทปิดกั้นมาคลุมไว้อีกชั้นแทน จี้เซียวที่ยืนขัดเขินเลยแก้ไขเรื่องนี้ด้วยว่าเป็นเพราะน้องเมิ่งเป็นคู่บำเพ็ญของจี้เซียวผู้สร้างค่ายเวทนี้ เพราะมีไอร่างกระบี่จากรากเดียวกันจังทำได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้นักพรตเด็กพลันเข้าใจและยอมรับ555

หลิวจิ้งถามว่าจะทำยังไงต่อ จี้เซียวบอกให้เดินทางเข้าเมืองจงยางแทน จิงตี๋แอบมองคู่ศิษย์อาจารย์ที่ดูใกล้ชิดมากจนอดคิดระแวงไม่ได้ แต่จิงตี๋ยังปลอบใจตัวเองว่าเขายังมีโอกาสเพราะในฐานะศิษย์อาจารย์ พวกเขาไม่มีวันได้ลงเอยกันได้แน่ จิงตี๋เลยเสนอให้ไปหาค่ายเวทสามแห่งที่เหลือ แต่ซ่งเฉี่ยนอี้ที่ทนจิงตี๋เสนอความเห็นโง่ๆไม่ไหวแล้ว ถึงได้เฉลยว่าพวกเขาต้องเข้าไปเมืองจงยาง เพื่อไปที่ลานกลางประลองที่เป็นกิจกรรมสุดท้ายในการประลองแดนสนธยาหั่นไห่ เพื่อไปตามนักพรตทั้งหมดที่ไปรอต่อสู้ในลานประลองในเมือง เพื่อให้พวกเขารับรู้ข่าวเรื่องมีศัตรูแฝงเข้ามาในนี้ จิงตี๋เลยสวนว่าตัวเองยังเอาตัวไม่รอดจะไปช่วยคนอื่นได้ยังไง แต่น้องเมิ่งประกาศว่าเขามีหนทาง ทำให้คนที่เหลือจะทำตามน้องเมิ่ง จิงตี๋เลยต้องทำตามมติของคนส่วนใหญ๋

เจินเหรินเจ้าสำนักเดินทางเข้าหุบเขาจิ้งซือ ก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ที่โดนเชิญเข้าไปในตำหนักที่มืดสลัวเพียงคนเดียว โดยมีโจวอี้เดินตามหลัง พอไปถึงเบื้องหน้าไท่ซั่งจั่งเหล่า เขากลับโดนโจวอี้ชักมีดแทงเข้าที่ท้องทันที จากนั้นไฟก้อสว่างขึ้นมา มีดสั้นนั้นลงอาคมสำนักหมิงเยวี่ยหูไว้ กำลังทำลายปราณในตัวเจ้าสำนัก แถมตัวเขายังตกอยู่ในค่ายเวทสำนักอู้อิ่นกวนอีก เจินเหรินเจ้าสำนักก็รู้ว่าไท่ซั่งจั่งเหล่ารวมมือกับคนนอกสำนัก เพื่อมาทำลายคนสำนักหานซาน โจวอี้บีบบังคับให้เจินเหรินเจ้าสำนักมอบแกนเวท ที่ควบคุมค่ายเวทคุ้มครองสำนักหานซานมาให้เขา แลกกับการไว้ชีวิต เจินเหรินเจ้าสำนักไม่ยอมให้ ก็โดนโจวอี้แดกดันว่าเขาเป็นคนที่อ่อนด้อยสุดในพวกเจ้ายอดเขา ยังมีสิทธิ์อะไรในการขึ้นมาเป็นเจ้าสำนักหานซาน นอกจากเพราะจี้เซียวมอบตำแหน่งให้เขาเฉยๆ 

ไท่ซั่งจั่งเหล่าลุกมาพร้อมกดดันให้เจินเหรินเจ้าสำนักยอมแพ้ต่อตัวเอง ทั้งทวงความชอบธรรมที่ตัวเองพลังบำเพ็ญสูงสุดในสำนักแล้ว ไม่พอยังบอกแผนกำจัดลูกศิษย์สำนักหานซานที่อยู่แดนสนธยาหั่นไห่ที่ไม่อาจออกมาได้แน่ๆ ไม่ต้องหวังว่าศิษย์เอกชุยจิ่งของเขาจะกลับมาช่วยสำนักได้ทัน ไท่ซั่งจั่งเหล่ายังพูดว่าจี้เซียวต้องตายเพราะคนส่วนมากไม่พอใจในกฎเกณฑ์ที่เขาตั้ง   

อวี๋ฉี่ซูที่อยู่ก้นบ่อเห็นลำแสงสีทองว่ายผ่านตัวไป เขาจึงว่ายน้ำตามไปจนพบว่าเขาอยู่ก้นมหาสมุทรพร้อมเจียวสามตัว อวี๋ฉี่ซูก็บรรลุว่าที่แท้บ่อน้ำคือมหาสมุทร ปลาไนสามตัวที่เคยเลี้ยงคือเจียวสามตัวนี้ แถมตอนนี้เขาโดนกระแสน้ำพัด จนไปพบกระบี่เล่มหนึ่งที่ปักอยู่ที่พื้นก้นสมุทร กระบี่กำลังสั่นไหวจนเกิดคลื่นน้ำรอบกระบี่ อวี๋ฉี่ซูรู้ทันทีว่ามันคืออุษาไร้เขตขัณฑ์

ที่สำนักหานซาน เสี่ยวหยวนเด็กรับใช้ประจำตัวเจินเหรินเจ้าสำนัก วิ่งขึ้นเขาจ้งปี้เพื่อพบเจ้ายอดเขา กลับพบจางซู่หยวนก่อน จึงรีบรายงานว่าเจินเหรินเจ้าสำนักเดินทางเข้าหุบเขาจิ้งซือไปตั้งแต่บ่าย จนป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย จางซู่หยวนรีบเข้ารายงานอาจารย์เจ้ายอดเขาจ้งปี้ จากนั้นเจ้ายอดเขาทั้งหมดประกาศรวมกำลังศิษย์ที่มี ให้ไปรวมกันหน้าหุบเขาจิ้งซือทันที

เจ้ายอดเขาจ้งปี้ใช้ปราณกระจายเสียงเข้าไปในหุบเขาจิ้งซือ ให้ไท่ซั่งจั่งเหล่าเปิดทางเข้า เพื่อให้พวกเขาไปเข้าพบด้วย ก้อมีเสียงระเบิดหน้าหุบเขาจิ้งซือพร้อมเสียงไท่ซั่งจั่งเหล่าบอกให้เข้ามา

ที่โรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน เฉียนเจินเหรินรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ หันไปดูตะเกียงวิญญาณก็พบว่าไฟเริ่มหริหรี่ ก้อตะโกนเรียกพ่อบ้านให้เอากระบี่ประจำตัวมาทันที แล้วขี่กระบี่ไปสำนักหานซานทันที

ใต้ก้นบ่อ เจียวสามตัวคุยกันว่าวันนี้อาจได้กินเนื้อ เพราะอุษาไร้เขตขัณฑ์อารมย์ไม่ดีอาจได้ฟันร่างอวี๋ฉี่ซู เอาแน่ แต่เจียวน้องเล็กไม่อยากกินเนื้อ เขาจำได้ว่าจี้เซียวเคยพูดว่าถ้าพวกเขาทำดี อาจลบล้างความผิดจนสามารถบรรลุได้กลายเป็นมังกรบินขึ้นสู่สวรรค์ได้ พวกมันเลยตัดสินใจจะช่วยอวี๋ฉี่ซูให้พ้นจากการโดนอุษาไร้เขตขัณฑ์ทำร้าย เจียวเบอหนึ่งสั่งให้เจียวน้องเล็กเอาญาณอสูรไปใส่ร่างอวี๋ฉี่ซูเพื่อปกป้องร่างกายมนุษย์ ส่วนอวี๋ฉี่ซูที่นั่งคุยกับอุษาไร้เขตขัณฑ์ ถามมันว่าอยากออกมาหรอ ได้...เขาจะช่วยมันเอง เลยจับด้ามอุษาไร้เขตขัณฑ์พยายามดึงมันขึ้นมา ก้อพลันมีพลังแทรกเข้าร่างจนเหมือนร่างกายเขาจะแหลกเป็นขิ้นๆ เจียวสามตัวตกใจมากกลัวว่าอวี๋ฉี่ซูอาจตายก่อนจี้เซียวจะกลับมา ปรากฎว่าอุษาไร้เขตขัณฑ์บินขึ้นฟ้าพร้อมร่างอวี๋ฉี่ซูที่ห้อยติดกระบี่มาด้วย

เซียนหมิงทนเห็นน้องเมิ่งเดินคุยกระหนุงกระหนิงกับลูกศิษย์ตัวเองไม่ไหว เลยไปถามว่าคุยเรื่องอะไรกัน น้องเมิ่งเลยบอกเรื่องที่เขาคิดว่าจี้เซียวยังไม่ตาย แล้วเซียวถิงอวิ๋นก้อเชื่อเหมือนที่เขาเชื่อ เซียนหมิงไม่เชื่อกลับถามว่าสรุปน้องเมิ่งชอบเด็กเซียวถิงอวิ๋น หรือชอบคนแก่จี้เซียวกันแน่ เลยโดนน้องเมิ่งไล่ตีเอาอีกรอบ555

เมื่อมาถึงกลางเมืองจงยาง น้องเมิ่งก้อเพ้อๆถามเซียวถิงอวิ๋นว่าระหว่างตำหนักทองใต้ดินที่เซิ่นโซ่วพักกับยอดเขาฉางซุน เขาจะเลือกอยู่ที่ไหน จี้เซียวบอกแค่ว่าเขาจะอยูกับน้องเมิ่ง แต่น้องเมิ่งกลับคิดได้อีกแบบว่า ถ้าจี้เซียวเห็นเซิ่นโซ่วดีกว่าเขา ย่อมต้องส่งลูกชายตัวเองไปอยู่กับเซิ่นโซ่วสิ5555

จี้เซียวนำพวกเขามาถึงลานช่องแสง ซ่งเฉี่ยนอี้สงสัยว่าลานนี้มีไว้ทำอะไร จี้เซียวบอกว่าลานนี้มีไว้ดูฟ้าดูดาว น้องเมิ่งชมลูกศิษย์ว่าเก่งกาจรอบรู้แล้วอวยสามีต่อว่าเป็นผู้รู้แจ้งและเข้าใจมรรคาที่สุดถึงได้สร้างสถานที่นี้มา555 ว่าแล้วน้องเมิ่งใช้หลิวจิ้งสร้างค่ายเวทขยายเสียง เพื่อเขาจะได้ส่งข่าวให้นักพรตในแดนสนธยาทั้งหมด

หูซื่ออยู่บนเรือเหาะลอยฟ้า รับรู้ถึงอสูรนกยูงเชี่ยวเซียนหมิงที่เข้ามาในแดนสนธยาฮั่นไห่ ก้อวางแผนดักจับนกโง่555 แล้วก็เล่าเรื่องเด็กน้อยคนหนึ่งที่มีเชื้อสายตระกูลใหญ่อยู่แดนทางเหนือ เด็กน้อยชอบอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับภูติผี ปีศาจและอสูร มีคืนหนึ่งเขาเจอะอสูรนกยูง มันบอกว่าตัวมันเป็นเทพเซียนจากสวรรค์ เด็กน้อยตกใจรีบปิดหน้าต่างคลุมโป่งจนเช้า ก็พบขนนกยูงเส้นหนึ่ง จากนั้นทุกคืนนกยูงก้อมาหาเขาพร้อมทิ้งของให้ไว้ทุกคืนจนผ่านไปหนึ่งเดือน ทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกัน มีคืนหนึ่งนกยูงบอกจะพาเด็กน้อยไปเด็ดดวงดาว นกยูงแบกเขาไปบนยอดเขา แล้วตัวเองบินขึ้นฟ้าไปว่าจะไปเด็ดดาวมาให้ แต่สุดท้ายนกยูงก้อหายไปทิ้งเด็กน้อยไว้บนยอดเขาเพียงลำพัง เด็กน้องร้องไห้กลัว ไม่อยากได้ดวงดาวแล้ว ตะโกนให้นกยูงมากลับบ้าน แต่มันก็ไม่กลับมา ทิ้งเด็กน้อยหนาวสั่นทั้งคืนบนยอดเขา จนเช้าบ่าวรับใช้ถึงมาตามหาตัวเด็กน้อยเจอะ เด็กป่วยเป็นไข้สุดท้ายก็ป่วยตาย

สาวใช้คู่กายไม่ชอบตอนจบ เลยให้หูซื่อเปลี่ยนตอนจบ เขาเลยเล่าเด็กน้อยเติบโตขึ้น เข้าสำนักเล่าเรียนศึกษามรรคาจนพบว่านกยูงนั้นไม่ใช่เทพเซียนแต่เป็นอสูรนกยูง สาวใช้ถามต่อแล้วจากนั้นละ หูซื่อบอกไม่มี555

ในเรือเหาะของสำนักหมิงเยวี่ยหู อวิ๋นซวีจื่อรายงานว่าหน่วยสังหารที่ต้องจัดการสังหารเซิ่นโซ่ว ทำงานล้มเหลวจนตายไปทั้งกลุ่ม รายงานสุดท้ายที่ส่งมามีคำเดียวว่าอสูรนกยูง อวิ๋นซวีจื่อคิดจะส่งคนลงไปอีกกลุ่ม ปรมัตถ์กุยชิงบอกไม่ต้อง เขาคิดว่าอสูรนกยูงเข้ามาช่วยน้องเมิ่ง แปลว่าน้องเมิ่งต้องเป็นอสูรแน่ๆ ปรมัตถ์กุยชิงหยิบกระจกแปดเหลี่ยมออกมาให้อวิ๋นซวีจื่อเก็บไว้ แล้วบอกว่ามันคือของวิเศษแดนอสูรชื่อคันฉ่องสะท้อนเงา มันสามารถสะท้อนจิตที่แท้จริงของเจ้าของร่างได้ ใช้ได้กับคนหรืออสูร ปรมัตถ์กุยชิงให้อวิ๋นซวีจื่อเก็บกระจกนี้ไว้แล้วส่งต่อให้ไท่ซั่งจั่งเหล่า เพื่อเอาไว้ส่องน้องเมิ่งเพื่อประจานฐานะตัวตนที่แท้จริงของน้องเมิ่ง หวังหลอกใช้ไท่ซั่งจั่งเหล่าทำลายความน่าเชื่อถือของจี้เซียวที่สมคบคิดกับอสูร

อวิ๋นซวีจื่ออดคิดเสียดายของวิเศษ ที่ต้องไปตกอยู่ในมือของไท่ซั่งจั่งเหล่า เลยอดถามปรมัตถ์กุยชิงไม่ได้ว่าถ้าไท่ซั่งจั่งเหล่าทำงานพลาด แล้วมาซัดทอดว่าทางสำนักหมิงเยวี่ยหู ว่าเป็นคนสั่งการจะทำยังไง ปรมัตถ์กุยชิงบอกไม่ต้องห่วงเขาจะลงมือฆ่าไท่ซั่งจั่งเหล่า เพื่อปกป้องชื่อเสียงสำนักหมิงเยวี่ยหู แล้วบอกว่าไท่ซั่งจั่งเหล่าเป็นคนวางแผนร้ายสังหารจี้เซียว จากนั่นสั่งให้อวิ๋นซวีจื่อส่งข่าวไปบอกหนิงเวย ยกเลิกแผนสังหารน้องเมิ่ง

ที่หุบเขาจิ้งซือ ในตำหนักด้านใน เจินเหรินเจ้าสำนักได้ยินเสียงของเหล่าเจ้ายอดสำนัก ที่พาศิษย์เดินทางมาถึงที่ลานหนอกตำหนัก พร้อมส่งเสียกทักทายไท่ซั่งจั่งเหล่า โจวอี้ออกไปรับหน้าพร้อมสั่งให้ทุกคนปลดอาวุธ ไท่ซั่งจั่งเหล่ายังคงบีบบังคับให้เจินเหรินเจ้าสำนักมอบแกนเวท เพื่อแลกกับชีวิตทุกคนของสำนักหานซาน เพราะยามนี้ไม่มีกระบี่ใดทำร้ายเขาได้แล้ว แต่อุษาไร้เขตขัณฑ์กำลังบินพาอวี๋ฉี่ซูทยานออกจากยอดเขาฉางซุน   

หน้าลานหุบเขาจิ้งซือ โจวอี้นำศิษย์สายไท่ซั่งจั่งเหล่าให้ชักอาวุธประจันหน้า กับเหล่าเจ้ายอดเขาและศิษย์ ทั้งสองแบ่งฝ่ายชัดเจน โจวอี้ประกาศว่าจี้เซียวสมคบอสูร เจินเหรินเจ้าสำนักรู้สึกสำนึก จึงประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าสำนักแล้วมอบสำนักหานซานให้ตัวเองเป็นคนดูแล เจ้ายอดเขาจ้งปี้สวนกลับว่าเหลวไหล สั่งให้โจวอี้ส่งคืนเจินเหรินเจ้าสำนักคืนมา โจวอี้ใช้กฎเคารพผู้อาวุโสบีบบังคับให้เจ้ายอดเขายอมทำตามไท่ซั่งจั่งเหล่า แต่เจ้ายอดเขาจ้งปี้ปฎิเสธไม่ยอมรับคำสั่ง 

โจวอี้ประกาศว่าไท่ซั่งจั่งเหล่าสั่งคนไปดักจับน้องเมิ่งแล้ว จะใช้หลักฐานพิสูจน์จิตดั้งเดิมของน้อง ถึงตอนนั้นคนที่ต่อต้านไท่ซั่งจั่งเหล่าต้องถูกกำจัด ดังนั้นยอมรับคำสั่งไท่ซั่งจั่งเหล่าเสียแต่ตอนนี้จะดีกว่า แต่ยังพูดไม่จบ อุษาไร้เขตขัณฑ์ที่พาอวี๋ฉี่ติดมาด้วย ก้อพุ่งเข้าชนโจวอี้จนร่างกระเด็นเข้าไปในตำหนักทันที ทำให้เห็นว่าภายในตำหนัก มีเจินเหรินเจ้าสำนักนั่งบาดเจ็บอยู่กลางค่ายเวท ตรงหน้าไท่ซั่งจั่งเหล่า

อุษาไร้เขตขัณฑ์พุ่งเข้าใส่ไท่ซั่งจั่งเหล่า แต่ไท่ซั่งจั่งเหล่าซัดจิตกระบี่เข้าสกัด อวี๋ฉี่ซูที่ยามนี้ถืออุษาไร้เขตขัณฑ์ แถมตอนนี้เขายังมีญาณของเจียวปกป้องร่างกาย จึงไม่ได้แผลใดๆจากจิตกระบี่ของไท่ซั่งจั่งเหล่า อุษาไร้เขตขัณฑ์พุ่งเข้าฟาดฟันใส่ไท่ซั่งจั่งเหล่าไม่เลิกลา จนอวี๋ฉี่ซูทำกระบี่หลุดมือไปแล้วก้อตาม

ฝั่งน้องเมิ่งส่งเสียงท้าสู้ ให้ทุกคนมารวมตัวที่ลานประลองช่องแสง โดยอ้างว่าเขาคะแนนสูงสุด ถ้าตอนนี้ใครสู้จนชนะเขาได้ น้องจะยอมมอบสมบัติที่อริยะกระบี่ทิ้งไว้ให้เขาไปครอบครองทันที ใครมาถึงก่อนได้สู้ก่อนนะ จะสู้ตัวต่อตัว หรือจะรวมกลุ่มมาสู้ก้อได้ ยังไงน้องเมิ่งก็มั่นใจว่าตัวเองชนะแน่นอน พูดจบน้องเมิ่งหันไปถามเพื่อนๆว่าเขาพูดได้ดีมะ เซียนหมิงบอกพูดดีจนเขาอยากอัดน้องเมิ่งตอนนี้เลย555

จี้เซียวหันไปถามน้องเมิ่งว่าสมบัติที่อริยะกระบี่ทิ้งไว้ให้คืออะไร น้องเมิ่งบอกสมุดจดคลังสมบัติของเหิงทงจวี้หยวนไง วันหน้าเป็นของเซียวถิงอวิ๋นนะ จีเซียวบอกมีสิ่งหนึ่งที่ไม่ใช่ของเขา น้องเมิ่งเลยนึกถึงเบื่อพิรุณกับหน่ายวายุ น้องเมิ่งเลยบอกว่าตัวเองไม่รู้จักและไม่เคยเห็นมาก่อน แต่จี้เซียวบอกว่าที่จริงน้องเคยเห็นมันนะ น้องเมิ่งแปลกใจทำไมเซียวถิงอวิ๋นถึงรู้จักเบื่อพิรุณกับหน่ายวายุ ก้อพอดีจิงตี๋บอกว่ามีคนมาแล้ว

พวกที่เดินทางมาตามคำท้า พอเจอะแก็งค์น้องเมิ่งก้อกลัวจะโดนรุม จนน้องเมิ่งบอกว่าเป็นเขาคนเดียวที่จะต่อสู้ จี้เซียวมองไปทิศที่ตั้งเขาหานซาน แล้วลงมือวาดวงกลมค่ายเวทปกป้องกลางลาน จากนั้นก็เริ่มการประลองทันที ระหว่างประลองกัน น้องเมิ่งก้อชี้แนะไป จนคนเริ่มทยอยเข้ามาเต็มลานต่อสู้ หลิวจิ้งจัดการระเบียบสถานที่ว่าใครแพ้ให้ถอยมาด้านนี้ ในขณะเดียวกันจี้เซียวรับเป็นผู้บรรยาสภาพในลานประลอง ยิ่งเวลาผ่านไป คนแพ้ในวงเวทป้องกันก้อมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่พ่ายแพ้ก้อมาถามข้อบกพร่องของตนเองกับจี้เซียว ที่เขายังคงเมตตาพูดชี้แนะให้ทุกคน อย่างไม่เหนื่อยหน่าย ทำให้คนที่แพ้กลับได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากมาย ตอนนี้ทุกคนถามไถ่ถึงอาวุธเทพคู่มือของน้องเมิ่ง ว่ามันคืออะไร จี้เซียวตอบด้วยความภูมิใจว่ามันคือกาลมิสิ้นผ่านผัน อาวุธที่อริยะกระบี่ตั้งใจทำเพื่อมอบให้กับคู่บำเพ็ญของเขา

ตอนนี้จากลานประลองกลายเป็นสถานที่ชุมนุมถกมรรคาแทน พวกนักพรตอิสระอยากถามปัญหา ก้อโดนสวนว่าให้ลงมาจากลานประลานถึงจะได้คำตอบ แถมยังมีคนเป็นห่วงน้องเมิ่งแทน ที่สู้กันมาข้ามวันแล้ว จะให้น้องลงมาพักก่อน แต่น้องเมิ่งยังคึกคักพลังไม่ลด ชุยจิ่งก็ก้าวเข้าลานประลอง แต่เจอะน้องเมิ่งทักว่าเขาเคยแพ้น้องเมิ่งมาแล้ว จึงไล่เขาลงไป แต่ชุยจิ่งยืนยันว่าเขาก้าวหน้าขึ้นแล้ว อยากทดสอบอีกครั้ง คนอื่นที่อยู่ในกลุ่มแพ้ไม่ยอม เพราะผิดกฎที่ให้ทุกคนสู้ได้คนละหนึ่งครั้งเท่านั้น จี้เซียวเลยจะเข้าไปสู้กับชุยจิ่งแทนน้องเมิ่ง ถ้าชุยจิ่งชนะเขาได้ถึงมีสิทธิ์ไปประลองกับน้องเมิ่งอีกครั้ง น้องเมิ่งมอบกาลมิสิ้นผ่านผันให้จี้เซียวแต่จี้เซียวแบ่งมันออกเป็นดาบคู่ แต่เขาถือไว้แค่เล่มเดียว อีกเล่มให้น้องเมิ่งถือไว้ น้องเมิ่งลงจากลานพร้อมบอกว่าตัวเองจะเป็นคนบรรยาแทน555

ด้านในตำหนักหุบเขาจิ้งซือ อวี๋ฉี่ซูที่ทำอุษาไร้เขตขัณฑ์หลุดมือ เลยเจอะกระบี่ของไท่ซั่งจั่งเหล่ามาจ่อคอ แต่เจอะกระบี่ของเฉียนเจินเหรินปัดออก พร้อมกับกอดอวี๋ฉี่ซูมาวางลงที่พื้น เจินเหรินสำนักตะโกนให้อวี๋ฉี่ซูหยิบอุษาไร้เขตขัณฑ์มาทำลายปราณคุ้มกายของไท่ซั่งจั่งเหล่า อวี๋ฉี่ซูเดินไปหยิบอุษาไร้เขตขัณฑ์ปุป กระบี่ก้อพุ่งเข้าไปซัดไท่ซั่งจั่งเหล่าทันที วันนี้ไท่ซั่งจั่งเหล่ากลับเจอะสิ่งที่เหนือการคาดเดา บุคคลที่ไม่เคยมีใครนึกนึก กลับสามารถสกัดและทำลายแผนการของไท่ซั่งจั่งเหล่าลงได้ (อวี๋ฉี่ซูกับเฉียนเจินเหรินนะเอง)

จี้เซียวและชุยจิ่งประลองกันโดยมีน้องเมิ่งบรรยาย(ที่จริงจี้เซียวอยากโชว์เพลงกระบี่ตัวเองว่างดงามกว่าเพลงกระบี่ของชุยจิ่ง...คือจริงๆแล้วอยากจะอวดเพลงกระบี่ต่อหน้าเมียนะแหละ555) ภาพการออกกระบี่ของจี้เซียวสัมพันธ์กับอุษาไร้เขตขัณฑ์ในมืออวี๋ฉี่ซู ในขณะที่จี้เซียวเป็นฝ่ายออกกระบี่เพื่อชักนำการต่อสู้ของชุยจิ่ง 

ฝั่งไท่ซั่งจั่งเหล่าที่ตอนนี้เจอะภาวะสองรุมหนึ่ง มีอุษาไร้เขตขัณฑ์ในมืออวี๋ฉี่ซูกับเฉียนเจินเหรินประสานกระบี่เข้าใส่ไม่หยุด แถมปราณคุ้มกายโดนอุษาไร้เขตขัณฑ์ฟาดทำลายลงไปแล้ว ไท่ซั่งจั่งเหล่าจึงตะโกนสั่งให้ศิษย์ตัวเองเตรียมปล่อยเรือเหาะเพื่อหลบหนี แต่เจอะอุษาไร้เขตขัณฑ์ฟาดไท่ซั่งจั่งเหล่าจนกระเด็นไปกระแทกหลังคาตำหนักจนแตกกระจาย ส่วนลูกศิษย์สายไท่ซั่งจั่งเหล่าก้อล้มตายไปกว่าครึ่งแล้ว พอเรือเหาะลงจอด พวกผู้อาวุโสสายตระกูลโจวรีบต้อนลูกศิษย์ขึ้นเรือเหาะแล้วบินหนีทันที ไท่ซั่งจั่งเหล่าที่หนีขึ้นเรือได้ก็ส่งปราณเสียงออกมา ว่าน้องเมิ่งคืออสูร วันที่เขาออกมาจากแดนสนธยาคือวันที่ความจริงจะปรากฎออกมา

จี้เซียวชนะชุยจิ่ง พอเขาลงจากลานประลอง ก็รีบไปถามน้องเมิ่งว่าตัวเองแสดงท่วงท่ากระบี่งดงามไหม น้องเมิ่งเขินเกาจมูกว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็น จี้เซียวน้อยใจ555

เจ้ายอดเขาปี้จ้งประคองเจินเหรินเจ้าสำนักออกมา พร้อมชมเชยอวี๋ฉี่ซูที่สามารถปลุกอุษาไร้เขตขัณฑ์ จนสามารถช่วยเหลือสำนักหานซานจนพ้นวิกฤตินี้ได้พอดี อวี๋ฉี่ซูพยายามบอกว่าเป็นอุษาไร้เขตขัณฑ์ที่ตื่นเอง เขาไม่ได้ทำอะไร อวี๋ฉี่ซูกลับยิ่งโดนชมหนักเข้าไปอีกว่าช่างเป็นคนที่ถ่อมตัวยิ่งนัก

ในบ่อน้ำ เจียวตัวที่สามร้องไห้ที่สละญาณอสูรตัวเองส่งให้อวี๋ฉี่ซูไป จนถึงตอนนี้อวี๋ฉี่ซูยังไม่กลับมาเลย เจียวสามตัวคุยกันอยู่ดีๆ ก้อรู้สึกถึงไอกระบี่ เป็นอุษาไร้เขตขัณฑ์ที่บินกลับมาปักลงที่ก้นทะเลดั้งเดิม ส่วนหุบเขาจิ้งซือโดนทำลายพังยับเยิ่น เฉียนเจินเหรินขี่กระบี่มาส่งอวี๋ฉี่ซูที่ยอดเขาฉางซุน ด้วยสภาพสะบักสะบอม หลินเสี่ยวไหววิ่งมาถามไถ่ แต่อวี๋ฉี่ซูบอกเขาไม่เป็นไรแล้วเดินไปที่บ่อน้ำ ก็ได้ยินเสียงเจียวดังขึ้นมาเพื่อทวงญาณอสูรจากเขา อวี๋ฉี่ซูจึงกระโดลงบ่อว่ายไปหาเจียวน้องเล็กแล้วถอดไอสีทองออกจากร่างคืนให้ไป แต่เพราะร่างจริงบาดเจ็บหนัก พอไม่มีญาณอสูร อวี๋ฉี่ซูก้อกระอัดเลือดออกมาทันที เจียวน้องเล็กเลยส่งญาณอสูรให้อวี๋ฉี่ซูสวมใส่อีกครั้ง เพราะกลัวอวี๋ฉี่ซูตายก่อนจี้เซียวมา แล้วพวกเขาจะโดนทำโทษเอา

พออวี๋ฉี่ซูฟื้นขึ้นมา ก้อเจอะแก็งค์สามเจียว พวกมันขอให้เขาพูดเรื่องดีๆของตัวเองกับจี้เซียว เช่นว่าที่พวกเขามอบญาณอสูรให้อวี๋ฉี่ซูสวมใส่คุ้มกาย อวี๋ฉี่ซูบอกจี้เซียวตายไปแล้ว เลยเจอะแก็งค์สามเจียวว่าศิษย์พี่ของเจ้าไงคือจี้เซียว อวี๋ฉี่ซูตกใจว่าจี้เซียวยังไม่ตายแต่กลับมาอยู่ในร่างของเซียวถิงอวิ๋นแทน แก็งค์สามเจียวจึงเล่าว่า มะก่อนพวกมันอยู่อาศัยที่ทะเลซีไห่ แต่เพราะสู้แพ้จี้เซียวเลยต้องกลายมาเป็นปลาไนสามตัวเพื่อให้น้องเมิ่งเลี้ยง ทะเลซีไห่โดนจี้เซียวใช้ค่ายเวทเชื่อมเทศะผนึกอยู่ ก่อนจี้เซียวจะออกไปได้ฝากบ้านไว้กับอุษาไร้เขตขัณฑ์ และใช้ค่ายเวทเทศะออกไป พวกมันไม่รู้ว่าค่ายเวทนี้เชื่อมออกไปสู่ที่ไหน

อวี๋ฉี่ซูได้ฟังก็นั่งตาลอยรับความจริงไม่ไหวในยามนี้ ว่าในที่สุดตัวเป็นได้เป็นศิษย์ของอริยะกระบี่จี้เซียวแล้ว555 หลังอวี๋ฉี่ซูพักรักษาอาการบาดเจ็บไปครึ่งเดือน ถึงจะมีแรงเดินลงเขาไปเล่าความจริงที่ตัวเองเพิ่งรู้ให้เฉียนเจินเหรินฟัง 

แต่กลับเจอะเรื่องเล่าที่โด่งดังตอนนี้ คือเรื่องอวี๋ฉี่ซูผู้ถืออุษาไร้เขตขัณฑ์ที่แสนเก่งกาจ จนขนาดไท่ซั่งจั่งเหล่าไม่สามารถทำร้ายเขาได้ อวี๋ฉี่ซูไม่เข้าใจว่าเฉียนเจินเหรินไม่สกัดข่าวลือนี้ เฉียนเจินเหรินเลยบอกว่าเพราะทางไหวสุ่ยแดนของตระกูลโจวและเมืองรอบๆ กลับปล่อยข่าวว่าเจินเหรินเจ้าสำนักหานซานกับห้าเจ้ายอดเขาโดนอสูรหลอกลวง จนไท่ซั่งจั่งเหล่าทนร่วมมือกับคนชั่วไม่ได้ จึงยอมออกมาจากหานซาน รอน้องเมิ่งออกมาจากแดนสนธยาฮั่นไห่ก่อน พวกเขาจะพิสูจน์ให้เห็นร่างที่แทนจริงของน้องเมิ่งให้ดู ดังนั้นนี้คือศึกชิงพื้นที่ข่าวลวง เฉียนเจินเหรินมีโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนมากมายในมือ สามารถส่งข่าวได้ครอบคลุมทุกที่ เพื่อช่วงชิงศูนย์กลางการกระจายข่าวสาร

อวี๋ฉี่ซูกำลังซึ้งใจที่เฉียนเจินเหรินปกป้องชื่อเสียงของจี้เซียวกับน้องเมิ่ง เจอะเฉียนเจินเหรินบอกว่าถ้าชื่อเสียงของสองคนนี้โดนทำลาย สินค้าของเขาในนามของสองคนนี้ก้อขายไม่ออก เขาก้อขาดทุนตายสิ อวี๋ฉี่ซูโมโหความพ่อค้าหน้าเลือดของเฉียนเจินเหริน เลยกลับเขาฉางซุนทันที555 ระหว่างเดินออกมาจากโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน อวี๋ฉี่ซูเดินชนชิงไต้นักพรตอิสระสาวสวย ที่เคยปะมือกับน้องเมิ่ง แล้วเจอะน้องเมิ่งสวมรอยใช้ชื่ออวี๋ฉี่ซูแทน นางไปดักประลองกระบี่กับอวี๋ฉี่ซู แต่กลับไม่สามารถอ่านพลังที่แท้จริงของอวี๋ฉี่ซูได้ เพราะอวี๋ฉี่ซูยังสวนญารอสูรของเจียวอยู่ ตอนนี้นางกำลังคิดทำการค้ากับโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน เลยมารอพบกับเฉียนเจินเหริน

ในแดนสนธยา ลานประลองหมดสิ้นผู้ท้าประลองแล้ว แต่ละคนหลังได้รับการชี้แนะก้ออยากกักตนทำลายสภาวะมากกว่า เพราะตอนนี้คนชนะได้ครองอุษาไร้เขตขัณฑ์ก้อเป็นน้องเมิ่งอยู่แล้ว พอน้องเมิ่งได้ยินว่าทุกคนอยากทำลายสภาวะเพื่อบรรลุอีกขั้น ก็เลยชวนทุกคนมาทำลายสภาวะพร้อมกันแทน แต่หลายคนไม่มั่นใจเพราะไม่มีใครคุ้มกันเวลาตัวเองทำลายสภาวะ แต่น้องเมิ่งไม่สนใจ หลังเก็บกาลมิสิ้นผ่านผันแล้วก็นั่งลงทำสมาธิทันที จี้เซียวมายืนด้านหลังคุ้มครองทันที จิงตี๋หันไปดูก้อเห็นไอทิพย์บนฟ้าและปฐพีรวมตัวม้วนตัวรวมกันมาที่ช่องแสง น้องเมิ่งเริ่มดูดซับไอทิพย์ทันที จี้เซียวรีบบอกให้ทุกคนเข้าญาณเพื่อจะได้ดูดซับไอทิพย์ได้ทัน ทุกคนรีบทำทันที555 ศิษย์สำนักหานซานล้อมตัวชุยจิ่ง เพื่อให้เข้าเข้าญาณอย่างสบายใจ แต่จี้เซียวบอกมีเขาอยู่ ให้ทุกคนเข้าญาณตอนนี้ได้เลย จิงตี๋รีบทำทันที จี้เซียวรู้ว่ารอบนอกลานช่องแสงมีกลุ่มคนชุดดำกำลังรอโจมตีอยู่ 

น้องเมิ่งเข้าสู่ญาณ ทำให้เขาหวนไปถึงยามแรกที่กำเนิดเป็นเพียงพอนน้อยบนเขาเสวี่ยซานศักดิ์ศิทธิ์จนกลายมาเป็นจอมอสูร มีเพื่อนสนิทสองตัวเป็นอสูรนกยูงกับงูยักษ์ ทั้งสามเป็นเพื่อนสนิท ท่องเที่ยวไปด้วยกัน จนพากันมาเที่ยวแดนมนุษย์ น้องเมิ่งเคยเจอะจี้เซียวก่อนที่จะเป็นปรมัตถ์ ตอนนั้นจี้เซียวถูกยกย่องให้เป็นแดนมนุษย์ไร้พ่าย อสูรเพียงพอนอยากเห็นหน้าว่าเขาเป็นยังไง ก้อไปปลอมตัวเป็นคนถ่อเรือ เที่ยวถ่อเรือส่งคนข้ามฟากเป็นร้อยเป็นพันเที่ยว เพื่อจะยลโฉมชายงามเดินข้ามสะพานตรงหน้าสักครั้ง555 เพื่อเอาไปพูดโอ่อวดกับเพื่อนว่าจี้เซียวงดงามน่ามองยิ่งนัก555 

พอพวกเขาพากันกลับแดนอสูรก้อพบว่าเกิดเรื่องใหญ่ เมื่อมีอสูรตนหนึ่งตั้งตัวเป็นจอมอสูรแล้วกวาดล้างคนเห็นต่าง ไม่ฆ่าก้อจับกินญาณอสูร ทำให้อสูรใหญ่น้อยหนีตายมาขอความช่วยเหลือจากน้องเมิ่ง เพราะรู้ว่าน้องเมิ่งไม่กินญาณอสูร นับวันจำนวนอสูรที่มาเข้าพวกกับน้องเมิ่งมีมากมาย และแล้วน้องเมิ่งก็กลายเป็นจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน ซึ่งมีกฎในการเข้ากลุ่มว่าห้ามจับกินอสูรที่มีจิตนึกคิดแล้ว ห้ามฆ่าอสูรเพื่อมากินญาณอสูร ซึ่งกฎข้อนี้ทำให้อสูรตนอื่นไม่พอใจน้องมากที่สุด เพราะการกลืนกินญาณอสูรตนอื่นจะช่วยทำให้พลังอสูรเพิ่มขึ้นได้รวดเร็วกว่ามาบำเพ็ญเพียรเอง แต่เพราะตอนนั้นน้องเมิ่งมีพลังแกร่งสูงสุด จึงไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย น้องเมิ่งเลยกลายเป็นราชาอสูรเขาเสวี่ยซาน ที่หวังจะรวบแดนอสูรให้เป็นหนึ่งเดียว 

แต่สุดท้ายน้องเมิ่งกลับโดนเพื่อนงูรวมหัวกับอสูรตนอื่นมาหักหลังน้อง น้องเมิ่งที่หนีตายมาถึงรอยต่อของสามดินแดน จึงได้มาพบกัยจี้เซียวอีกครั้ง น้องเมิ่งกำลังส่งเสียงเรียกจี้เซียวให้ช่วยเหลือ แต่จี้เซียวกลับเดินหันหลังจากไปไกลขึ้นเรื่อยๆ....ฉับพลันจิตตระหนักรู้ของน้องก็บอกว่านี่คือภาพลวงตา 

ภาพตัดมาที่จี้เซียวจับหลังคอเพียงพอนน้อยแล้วถามว่านี่คือจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน น้องก้อตัวอ่อนลงไปซบกับคอจี้เซียว จากนั้นน้องก็กลายเป็นมนุษย์ ใช้ชีวิตงดงามที่ยอดเขาฉางซุน จากนั้นถึงวันที่จี้เซียวจะลงจากเขาแล้วบอกให้รอ เพราะเขามีสิ่งหนึ่งจะมอบให้น้อง แต่น้องดึงแขนเสื้อจี้เซียวไว้ไม่ยอมให้เขาไป จากนั้นพวกเขาก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จิตตระหนักรู้ของน้องก็บอกว่านี่คือภาพลวงตาอีกครั้ง เร่งให้น้องตื่นรู้

แต่ภาพกลับไปที่จี้เซียวกำลังจับมือน้องเมิ่งหัดเขียนพู่กัน ในบรรยากาศอบอุ่น ฉับพลันเป็นน้องเมิ่งถือกาลมิสิ้นผ่านผันแล้วปาดคอตัวเอง พร้อมก้มหน้ามองกระบี่เย้ยหยันที่ตัวเองกล้าคิดถึงเพียงนี้

ข่าวไท่ซั่งจั่งเหล่าทรยศสำนักหานซาน จนหนีกลับไปอยู่ตระกูลโจวทีไหวสุ่ย เพราะสู้อวี๋ฉี่ซูที่ถืออุษาไร้เขตขัณฑ์ไม่ได้ และไท่ซั่งจั่งเหล่ายังประนามว่าน้องเมิ่งเป็นอสูรอีก ดังมาถึงแดนสนธยาฮั่นไห่ มีคนเชื่อและไม่เชื่อ ต่างหาเหตุผลมาหักล้างกันไปมา แบ่งออกเป็นสองฝ่ายชัดเจน แต่สุดท้ายกลับมีหนังสือเรื่องบันทึกฉางซุน หรืออีกเล่มก็อัตชีวประวัติเสวี่ยหลี่ ที่เล่าเรื่องราวได้มหัศจรรย์พันลึกพิมพ์ขายเต็มท้องตลาด

พออวี๋ฉี่ซูได้อ่าน ก็โมโหด่าว่าเป็นเรื่องเหลวไหลแล้วฉีกหนังสือทิ้งทันที แต่เฉียนเจินเหรินกลับเห็นโอกาศทำเงิน สั่งพ่อบ้านตีพิมพ์หนังสืออัตชีวประวัติน้องเมิ่งฉบับเหิงทงจวี้หยวนทันที เพื่อจัดจำหน่ายแข่งในท้องตลาด ไม่พอยังออกหนังสือเพิ่มอีกหลายเล่มเช่น ฉางซุนนิรันดร์ เมิ่งเสวี่ยหลี่สอนเจ้าปลูกต้นจินซือเถางี้ หรืออาภรณ์หรูหรางดงามเยี่ยงเมิ่งเสวี่ยหลี่ มีโปรโมชั่นซื้อหนังสือแถมสุรารสจินซือเถาหรือดอกจินซือเถอทันที ทั้งหมดจัดจำหน่ายที่โรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนทุกสาขา555

เจินเหรินเจ้าสำนักบาดเจ็บหนัก ต้องกักตัวอีกนาน ก่อนจะกักตัวได้เรียกเจ้ายอดเขาทุกคนมาสั่งการ ให้ทุกคนเตรียมพร้อมระแวดระวัง อาจมีคนอยู่เบื้องหลังไท่ซั่งจั่งเหล่าอีกที เพราะไท่ซั่งจั่งเหล่าอดทนตั้งนาน ทำไมถึงเลือกลงมือทำการในตอนนี้อย่างเอิกเกริก แถมยังกล้าประกาศว่าน้องเมิ่งเป็นอสูร คาดว่าในมือไท่ซั่งจั่งเหล่าอาจมีหลักฐานบางอย่าง แม้ว่าไท่ซั่งจั่งเหล่าจะตีข่าวใส่ไข่แค่ไหน แต่เจินเหรินเจ้าสำนักยังคงเชื่อใจน้องเมิ่งและเชื่อใจจี้เซียว หลังสั่งการเสร็จ เจ้าสำนักก้อเข้ากักตน และบอกให้ส่งข่าวไปเจ้าสำนักจื่อเยียนที่แดนสนธยา ให้นางอดทนและให้เฝ้ารักษาความปลอดภัยให้อาวุโสเมิ่งด้วย เจ้าสำนักจื่อเยียนส่งลูกศิษย์เฝ้าที่ทางออกทุกทาง เพื่อเตรียมตัวรับน้องเมิ่งเวลาออกมาจากแดนฮั่นไห่

จี้เซียวยืนคุ้มครองเบื้องหลังน้องเมิ่ง แต่แอบเงยหน้ามองฟ้า ยามนี้มีสองปรมัตถ์คุ้มอยู่บนฟ้า รอบนอกลานมีคนชุดดำเดินล้อมใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  ส่วนมากเป็นคนของสำนักหมิงเยวี่ยหู อีกส่วนเป็นศิษย์ของไท่ซั่งจั่งเหล่า จี้เซียวส่งเสียงทักว่า ถ้าพวกเขาถอยออกไปตอนนี้ยังทัน..แค่กๆๆๆ ยังพูดไม่ทันไรจี้เซียวอาการคันคอดันโผล่ออกมา555 โจวอู่เป็นรุ่นหลังของไท่ซั่งจั่งเหล่าได้ยินเสียงไอของจี้เซียว ก้อจำได้ว่าเป็นเซียวถิงอวิ๋นร่างกระบี่ ที่ไท่ซั่งจั่งเหล่าอยากรับเป็นศิษย์  เขาถือโอกาสกระจายข่าวว่าน้องเมิ่งเป็นอสูรออกมา ตอนนี้ไท่ซั่งจั่งเหล่ามีคันฉ่องสะท้อนเงาอยู่ในมือ จึงหวังว่าเซียวถิงอวิ๋นจะตกใจแล้วย้ายข้างมาอยู่ฝั่งไท่ซั่งจั่งเหล่า แต่จี้เซียวแค่ถอนหายใจว่า...เฮ้อ แล้วใช้สองนิ้วประกบเป็นรูปกระบี่ แล้วส่งมันออกไปทะลุร่างผู้รับใช้แซ่โจว แล้วพาร่างไปกระแทกกับต้นไม้จนหัก หนิงเวยเห็นท่าไม่ดีสั่งถอยทันที 

แต่สายไปแล้ว น้องเมิ่งบรรลุตื่นมาพอดี พร้อมบอกศิษย์รักว่าอาจารย์มาแล้ว555 พร้อมมายืนบังจี้เซียวที่ยังไออยู่555 ผู้รับใช้โจวที่ยังไม่ตาย ตะโกนว่าจี้เซียวก้อเป็นอสูรให้ทุกคนรุมจับตัวไปให้ไท่ซั่งจั่งเหล่าพิสูจน์ พวกที่รุมเข้าไปที่ลานแสงมีแต่ลูกศิษย์ท่ซั่งจั่งเหล่า ส่วนคนของหนิงเวยยืนเฉยรออยู่รอบนอกแทน หนิงเวยเงยหน้ามองบนฟ้า เหมือนมีเส้นเงาบางๆทอดตัวลอยอยู่เกือบครึ่งแผ่นฟ้า มันคือร่องรอยไอกระบี่แปลงรูป เมิ่งเสวี่ยหลี่เพิ่งเห็นก็ตื่นตะลึง เซียวถิงอวิ๋นยังไม่สามารถฝึกถึงขั้นนี้ได้ นี้มันคือฝีมือของจี้เซียว น้องเมิ่งคิดว่าจี้เซียวยังไม่ตาย แต่อยู่คอยคุ้มครองเขากับลูกชายเซียวถิงอวิ๋นแน่ๆ(..5555ขำน้อง)

นักพรตหนุ่มสาวทยอยเริ่มตื่นจากญาณ ต่างก้อพากันยกระดับสภาวะสูงขึ้นกันหมด จิตใจแจ่มใสร่างกายเบาสบาย แต่พอหันไปดูรอบตัวกลับพบคนสวมชุดคลุมดำมาล้อมลานช่องแสงเต็มไปหมด เหล่านักพรตที่เพิ่งตื่นต่างถือโอกาสจัดการทดสอบฝีมือที่เพิ่มขึ้นกับพวกคนชุดดำทันที พวกคนชุดดำตกใจที่ฝีมือพวกเขาพัฒนามากขึ้นจนรับมือแทบไม่ไหว เลยตะโกนสวนไปว่าน้องเมิ่งเป็นอสูร แต่เจอะพวกเขาด่ากลับไปแล้วไล่ให้ไปเข้าแถว555

หนิงเวยเห็นค่ายเวทวงกลมที่มีคนนั่งเข้าญาณอยู่ เลยสั่งให้ลูกน้องตัวเองเดินเข้าไป ปรากฎว่าพวกสำนักหมิงเยวี่ยหูเจอะอาวุธไร้รูปจัดการตัดแขนขาขาด จนถึงตัดอาวุธกระเด็นทั้งที แต่กับพวกนักพรตที่นั่งในวงกลมเวทมาก่อนกลับสามารถเดินเข้าออกได้อย่างอิสระได้ ในที่สุดชุยจิ่งกับจิงตี๋ก้อบรรลุแจ้งตื่นขึ้นมา ยิ่งทำให้การจู่โจมของคนชุดดำตกเป็นรองแทน พวกเขาเลยตัดใจสั่งถอยกลับเข้าป่า น้องเมิ่งสั่งไม่ให้ตามเพราะมันน่าจะเป็นกับดัก 

หลังจบการต่อสู้ เหล่านักพรตที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับห้าสำนักใหญ่ ก้อเริ่มฉุกคิด ว่าคนชุดดำดูมีอายุ แถมยังอยู่ในสภาวะระดับสูง บางคนเหมือนเป็นคนจากสำนักหานซานอีก จิงตี๋ได้แต่เงียบ น้องเมิ่งเลยเฉลยว่ามีใครเคยได้รับคำสั่งให้ออกจากเขตแดนฮั่นไห่ก่อนสามวันสุดท้ายไหม ก้อเริ่มมีบางคนยอมรับเจ้าสำนักสั่งมาจริง เขาพยายามไปที่ค่ายเวทเคลื่อนย้ายแล้ว แต่ค่ายเวทไม่ยอมทำงาน พอได้ยินเสียงน้องเมิ่งท้าประลองเลยเดินทางมาชมเรื่องสนุกแทน บางคนก้อไม่เคยได้ยินคำสั่งนี้ น้องเมิ่งเลยบอกว่ามีคนตั้งใจละเมิดกฎกระประลองนี้ ตอนนี้ทางที่ดีที่สุด คือให้ทุกคนมารวมตัวกันให้หมด แล้วน้องเมิ่งจะพาทุกคนไปยังค่ายเวทเคลื่อนย้ายอีกที่ ที่คู่บำเพ็ญของน้องเป็นคนสร้างไว้ ในที่สุดคนก็เก็ตว่าน้องส่งเสียงท้าประลองทำไม

น้องเมิ่งพาทุกคนไปยังค่ายเวทเคลื่อนย้ายที่อยู่ตรงสวนดอกไม้ ที่น้องรู้เพราะเคยมากับจี้เซียวตอนน้องยังเป็นเพียงพอนน้องที่ซุกอยู่ในอกสามี ได้แต่โผล่หัวออกมาดู พอรู้ว่าตรงนี้คือค่ายเวทเคลื่อนย้ายเสร็จ น้องก้อมุดหัวลงไปซุกอกจี้เซียวนอนต่อ555 น้องเมิ่งอวดอวยสามีไม่ได้ว่า จี้เซียวสร้างสวนดอกไม้แห่งนี้เพื่อเตือนว่ามรรคขึ้นสู่สวรรค์มีจริง ชุยจิ่งกลับว่าจี้เซียวคือคนที่เกือบได้ขึ้นสู่สวรรค์เพียงแต่ตกกลับมายังโลกเพราะไปมีคู่บำเพ็ญเช่นน้องเมิ่ง น้องเมิ่งเถียงกลับว่าเพราะจี้เซียวมีคู่บำเพ็ญ เขาถึงได้กลับมามีความเป็นคนจนมีความรักเผื่อแผ่ให้มนุษย์มากมายไง จี้เซียวค้นพบปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขาเองกับภรรยาตัวน้อยแล้ว ว่าน้องเมิ่งเชิดชูเขาเสียสูงส่ง แต่กลับกดคุณค่าตัวเองเสียต่ำเตี้ยเรี่ยดิน...ต้องรีบแก้ปัญหานี้สะแล้ว

ทั้งหมดมาถึงค่ายเวทกลางสวนแล้ว หลิวจิ้งให้น้องเมิ่งกระตุ้นให้ค่ายเวททำงาน น้องเมิ่งเหงื่อตก รอบที่แล้วทำค่ายเวทพังโดยบังเอิญ ตอนนี้จะเอาอะไรมากระตุ้นละนี้ ก้อมีเสียงจี้เซียวดังขึ้นมาว่าเดียวเขาจะพาน้องเมิ่งไปค่ายเวทที่ถ้ำใต้ดิน มันจะทะลุไปถึงที่เขาฉางซุนตรงบ่อปลาไนพอดี ตอนนี้น้องเมิ่งต้องทำค่ายเวทกลางสวนให้ตื่นก่อน เลยถือกาลมิสิ้นผ่านผันทำท่าฟาดลงค่ายเวท ส่วนจี้เซียวก้อแอบวาดนิ้วใต้แขนเสื้อแล้วดีดอาคมออกไป ค่ายเวทเริ่มทำงาน เหล่านักพรตต่างค่าย แต่เมื่อมาได้อยู่รวมกันพร้อมฝ่าฟันด้วยกันอีก ต่างก้อรู้สึกผูกพันกันขึ้นมา ต่างร่ำลากันอย่างอาลัย แต่ทั้งหมดให้สัญญาว่าจะไม่ยอมเจอะคนจากสำนักหานซานในสนามรบเด็ดขาด 

หลังทุกคนเข้าไปอยู่ในค่ายเวทกันหมดแล้ว หลิวจิ้งเห็นประกายแสงค่ายเวทเริ่มเปลี่ยนสี จึงรีบให้คนรีบเบียดกันเข้ามาในค่ายเวทให้หมด น้องเมิ่งกับจี้เซียวจัดการส่งคนทั้งหมดออกจากแดนสนธยาฮั่นไห่ในทันที น้องเมิ่งกับจี้เซียวเดินมาตามริมลำธารเจอะเซียนหมิงนั่งกินปลาย่างรอ เซียนหมิงรอคุยเรื่องแดนอสูรกับน้องเมิ่ง จี้เซียวเลยบอกให้น้องเมิ่งไปคุยส่วนตัวได้เลย เขาจะรออยู่ด้านนอก

เซียนหมิงเล่าว่าในแดนอสูรกำลังจะเกิดเหตุร้ายครั้งใหญ่ จอมอสูรเขาหลิงซานกำลังจะจัดงานชุมนุมหมื่นอสูร ในขณะเดียวกันลูกน้องสองตนในจำนวนห้าแม่ทัพของจอมอสูรเขาหลิงซานได้แยกตัวออกมาต่อต้านเขาแล้ว นี่เป็นโอกาสดีที่จะลอบเข้าไปในแดนอสูร เพื่อติดต่อร่วมมือกับสองแม่ทัพกบฎ จะได้มาร่วมมือกันกำจัดจอมอสูรเขาหลินซาน ตอนนี้น้องเมิ่งโด่งดังในแดนมนุษย์ ก้อสามารถยืมกองกำลังจากแดนมนุษย์ไปถล่มกองทัพของจอมอสูรเขาหลิงซานได้สบายๆ แล้วพวกเราก้อจะกลับมาเป็นราชันอสูรเหมือนเดิม

น้องเมิ่งฟังแล้วได้แต่บอกว่าที่เขาทำทั้งหมดในแดนสนธยา ไม่ใช่เพื่อหวังชื่อเสียง แต่มันเป็นเพราะสถานที่นี้เป็นที่ที่จี้เซียวสร้างขึ้น เขาต้องดูแลรักษา ตอนนี้หลังจากเขาส่งเซียวถิงอวิ๋นกลับไปยอดเขาฉางซุนแล้ว เขาจะออกเดินทางไปยังแดนนอกพิภพเพื่อตามสืบหาจี้เซียว และคนที่วางแผนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แล้วตอนนี้เขาไม่ได้อยากเป็นราชันอสูรอะไรแล้ว เซียนหมิงได้ฟังก้อโมโหที่น้องเมิ่งเปลี่ยนไป แถมยังดูคลั่งรักจี้เซียว จนยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา เซียนหมิงบินจากไปด้วยด้วยความโกธรและผิดหวังอย่างแรง

น้องเมิ่งเซ็งที่ต้องทะเลาะกับเซียนหมิง เลยไปนั่งบ่นกับจี้เซียวแทน จี้เซียวเลยถามว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร น้องเมิ่งก้อบอกตรงๆว่าเป็นเรื่องของจี้เซียว น้องจะไม่ยอมใก้จี้เซียวตายอย่างไม่เป็นธรรม จะตามสืบให้ได้ จี้เซียวได้ฟังก็เริ่มจับความจริงได้บางอย่าง เลยถามน้องอีกว่าสรุปน้องเมิ่งไม่ชอบจี้เซียวจริงๆใช่ไหม คราวนี้น้องเมิ่งที่กำลังสะเทือนใจอยู่ ก็เลยระเบิดโมโห ว่าทำไมน้องจะชอบจี้เซียวไม่ได้ ถึงจี้เซียวจะอยู่สูงบนฟ้า น้องไม่มีค่าเป็นเพียงก้อนหิมะบนพื่นก้อตาม ทำไมใครๆก้อชอบบอกว่าพวกเราไม่เหมาะสมกัน ก็น้องกล้าที่จะรักจี้เซียว แล้วมันผิดตรงไหนกัน....หา (น้องเมิ่งระบายความคับแค้นกับความรักจี้เซียวที่อั้นมานาน555)

จี้เซียวได้ยินก้อเดินเข้าไปกอดน้องเมิ่งทันที แล้วเอาหน้าผากมาชนกัน แล้วบอกให้น้องเมิ่งผ่อนคลาย จากนั้นจี้เซียวแบบจิตตระหนักรู้ส่วนหนึ่งของตัวเองส่งไปยังห้วงสำนึกในสมองของน้องเมิ่ง มันเป็นเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนได้พบกันครั้งแรกจนมาถึงตอนที่กลายมาเป็นคู่บำเพ็ญ น้องเมิ่งเริ่มรับว่าว่าในร่างของเซียวถิงอวิ๋นมีจิตวญญาณของจี้เซียว ก้อพอดีจี้เซียวต้องรีบพาน้องเมิ่งหนีออกจากแดนสนธยาตอนนี้ทันที เพราะปรมัตถ์กุยชิงกำลังจะหลอมช่องว่างมิตินี้ เพื่อจะทำให้มิตินี้ถูกเปลี่ยนมือมาเป็นของตัวเอง จี้เซียวขอกาลมิสิ้นผ่านผันจากน้องเมิ่ง แล้วแปลงมันเป็นดาบคู่ อันหนึ่งไว้ขี่กระบี่ อีกอันถือไว้ปกป้อง จากนั้นโอบกอดน้องขี้กระบี่ลงถ้ำที่อยู่ของเซิ่นโซ่ว

ระหว่างบินหนีนั้น จี้เซียวก้อใช้ปราณตัวเองต้านปรมัตถ์กุยชิงที่กำลังปรับเปลี่ยนแดนสนธยา ทำให้แดนนี้เริ่มพังทลายถล่มลงมา ส่วนน้องเมิ่งยังไม่ตื่นจากความจริงที่เพิ่งรู้ว่าจี้เซียวยังไม่ตาย แถมยังบอกรักน้องเมิ่งด้วยละ555 จี้เซียวขี่กระบี่จนมาถึงที่อยู่ของเซิ่นโซ่ว น้องเมิ่งตะโกนให้มันย่อร่าง แล้วก้มไปคว้ามันมากอดเอาไว้ จี้เซียวเร่งขี่กระบี่จนมาถึงสระน้ำกลางถ้ำใต้ดินก้อพุ่งลงสระน้ำไป ที่กลับกลายเป็นใจกลางมหาสมุทร ส่วนแดนสนธยาก้อพังทลายลงหมดพอดี น้องเมิ่งอดเทียบที่อยู่ระหว่างยอดเขาฉางซุนของตัวเอง กับถ้ำใต้ดินแดนสนธยาของเซิ่นโซ่ว....อึม จี้เซียวต้องชอบน้องมากกว่าเซิ่นโซ่วแน่ๆเลย555

จี้เซียวหันไปดูน้องเมิ่งยังเหม่อที่จ้องหน้าเขา เลยถามว่าน้องเป็นอะไร น้องตอบว่าเปล่าแต่กลับได้กลิ่นคาวเลือดที่จี้เซียวได้รับบาดเจ็บ เพราะพยายามเร่งยกระดับบำเพ็ญ ก็เป็นห่วงสามี แถมน้องยังได้กลิ่นอายของอสูรเจียว น้องก้อเริ่มกังวล แต่จี้เซียวบอกเขาไม่เป็นอะไรมาก ส่วนเจียวพวกนั้นก้อคือปลาไนสามตัวที่น้องเลี้ยงมาสามปีไง555 

ส่วนตอนนี้เขามีคำพูดจะบอก ว่าเดิมเขามีกระบี่ไม้ที่หูซื่อทำให้เขาชื่อว่าตระหนกเมฆาพิรุณ แต่เมื่อเขาได้ครองอุษาไร้เขตขัณฑ์ เขาก้อเอากระบี่ไม้ไปฝากที่หูซื่อ จนเขามีคู่บำเพ็ญแล้ว จึงได้ไปขอกระบี่ไม้คืนจากหูซื่อเพื่อเอามาทำเป็นหวีไม้สองอัน แล้วตั้งชื่อว่าเบื่อพิรุณกับหน่ายวายุ ความหมายของหวีคือเขาไม่ปรารถนาสิ่งใดในโลก หวังเพียงได้หวีผมให้น้องทุกเช้าค่ำก้อพอ ว่าแล้วเอาหมีคู่มาให้น้องเมิ่งทันที ยามนี้ จี้เซียวก็ขอน้องเป็นคู่บำเพ็ญอย่างแท้จริง น้องเมิ่งจะรับคำตกลงไหม จี้เซียงมองน้องเมิ่งที่ยืนอึ้งอ้าปากค้าง ก้อเข้าใจว่าน้องเมิ่งไม่โอเคร จี้เซียวเลยว่าถ้าน้องไม่ตกลง งั้นเดียวค่อยหาวิธีอื่นละกัน ว่าแล้วก้อกระอักเลือดออกมา น้องเมิ่งร้องไห้โฮ่ทันที...ที่จริงแสนจะดีใจ555

ส่วนเซียนหมิงที่โมโหเพื่อนรัก ก้อบินทะลุฟ้าออกไป แต่บินไปสิบวันก้อไม่ถึงสักที่กว่าจะรู้ตัวก้อกลายเป็นโดนดักขังในกรงสะแล้ว หูซื่อถูกใจนกยูงในกรงทองมากจนเดินถือไปมาด้วยตัวเอง555 จากนั้นประมุขแดนสรวงก้อสั่งเรือเหาะบินกลับไปทันที 

ที่หน้าทางออกแดนสนธยา เจ้ายอดเขาจื่อเยียนยังคงเฝ้ารอน้องเมิ่งเดินทางออกมา จนพวกของชุยจิ่งเดินทางออกมา เจ้ายอดเขาจื่อเยียนจึงถามหาอาวุโสเมิ่งทันที ชุยจิ่งจึงเล่าเรื่องเล่าทั้งหมดว่าพวกเขาได้รับการชี้แนะจากน้องเมิ่งและจี้เซียว จนทำให้พวกเขาทำลายสภาวะเดิมขึ้นมาได้ แถมในแดนสนธยามีคนละเมิดกฎ ส่วนสองคนนั้นเดียวคงตามออกมา แต่ยังไม่ทันจะถามมากไปกว่านี้ บริเวณนั้นก้อเกิดการสั่นไหวรุนแรงผิดปกติ จนเจ้ายอดเขาจื่อเยียนเรียกทุกคนขึ้นเรือเหาะ แล้วรีบบินหนีออกจากบริเวณนั้นทันที จึงได้เห็นภาพช่องมิติระเบิดหายไปกับตา จากนั่นก้อมีเสียงดังรอบทิศว่าผู้อาวุโสเมิ่งกับเซียวถิงอวิ๋นยังไม่ได้ออกมา

อวี๋ฉี่ซูที่ยังสวมใส่ญาณอสูรก้อทำให้ระดับบำเพ็ญสูงขยับสูงขึ้นไวกว่าเดิม ทั้งยังทำให้พละกำลังก้อมากขึ้นผิดปกติ ทุกวันนี้เขายังคงนั่งพูดกับปลาไนทุกวัน เรื่องที่ต้องนี้เขากลายเป็นลูกศิษย์ของอริยะกระบี่จริงๆ แถมจี้เซียวก็ยังไม่ตายอีก ฉับพลันน้ำในบ่อน้ำก้อสั่นน้ำกระเพื่อมจนมีคลื่นน้ำ เจียวบอดสองรีบร้องตะโกนว่าจี้เซียวโดนคนอุ้มมา แถมยังบาดเจ็บด้วย พร้อมยังมีอสูรเซิ่นโซ่วติดตามมาด้วยตัวหนึ่ง 

เจียวเบอหนึ่งบอกว่าตัวเองจะลงไปดูคนก่อน แต่เจียวเบอสองแฉว่าพี่ใหญ่หวังจะลงไปกินจี้เซียวที่บาดเจ็บอะดิ อุษาไร้เขตขัณฑ์ก้อสั่นไหวทักขึ้นมาทันที เจียวเบอหนึ่งข้าไม่ได้คิดแบบนั้นทันที555 น้องเมิ่งอุ้มจี้เซียวพร้อมแหวว่ายกลางทะเล จนเห็นเจียวสีทองสามตัวว่ายวนมาใกล้ๆ เจียวเบอหนึ่งช้อนตัวน้องเมิ่งและจี้เซียวช่วยยกตัวพวกเขาขึ้นเหนือน้ำ อวี๋ฉี่ซูเห็นแขนพ้นขึ้นจากน้ำก็ตกใจร้องลั่น จนน้องเมิ่งบอกข้าเอง555 จากนั้นน้องเมิ่งก็อุ้มจี้เซียวเข้าห้อง แล้วขว้างเซิ่นโซ่วให้อวี๋ฉี่ซูช่วยดูแลมันต่อ 

จากนั้นน้องก็วางจี้เซียวลงเตียง แล้วตัวเองนอนเคียงข้างเอาหน้าผากแตะกับหน้าผากจี้เซียว ส่งจิตตระหนักรู้ของตัวเองเข้าไปในห้วงสำนึกของจี้เซียว จี้เซียวแม้หมดสติแต่ก้อยอมให้จิตตระหนักรู้ของน้องเมิ่งเข้ามาในห้วงสำนึกของเขา ในห้วงจิตตระหนักรู้ของจี้เซียวเป็นมหาสมุทรกว้างใหญ่ ที่ริมทะเล มีหิมะโปรย จี้เซียวยืนอยู่ในร่างเดิมของเขา ส่วนน้องเมิ่งในห้วงจิตของจี้เซียวคือเพียงพอนน้อยสีขาวสะอาด น้องเมิ่งเข้าไปซุกซบคอจี้เซียวทันที จี้เซี่ยวอุ้มน้องเมิ่งแล้วใช้หวีไม้เบื่อพิรุณบรรจงหวีขนให้น้องเมิ่ง สบายตัวยิ่งนักจนน้องถึงกับครางด้วยความสุข ไม่พอยังหงายท้องให้จี้เซียวหวีต่ออีก555 สุขยิ่งนักจนไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน น้องเมิ่งถึงได้ลืมตาขึ้นมาพบจี้เซียวนอนอยู่ตรงหน้าน้องเมิ่งอยู่อิอิ

หลังแดนสนธยาฮั่นไห่พังทลายลง สำนักอื่นๆล้วนแต่คิดว่าสำนักหมิงเยวี่ยหูต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่ๆ แต่เพราะเกรงใจปรมัตถ์กุยชิง จังไม่มีใครกล้ากล่าวถามตรงๆ แต่ลูกศิษย์มากมายแต่ละสำนักที่เคยได้รับการชี้แนะจากน้องเมิ่งและจี้เซียว ต่างก้อกลับไปซักถามแผนการร้ายในแดนสนธยากับอาจารย์ของตนเอง แต่พวกเขากับโดนสั่งให้กักตนแทน เรื่องทั้งหมดจึงเงียบหายไป 

เรือเหาะของสำนักหานซานกำลังเดินทางกลับ แต่บรรยากาศในเรือกลับหนักอึ้ง ในเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นติดต่อกันในยามนี้ ข่าวแดนสนธยาโดนทำลายและน้องเมิ่งหายหายสาปสูญดังไปถึงโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน พ่อบ้านกำลังเดือดร้อนใจที่ไม่รู้ใครจะมาเป็นเจ้าของคนใหม่ แต่เฉียนเจินเหรินกลับไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด

น้องเมิ่งนอนมองหน้าจี้เซียว เลยลองเป่าลมใส่ตา จี้เซียวก้อไม่ตื่น น้องเมิ่งเลยเลียสันกรามจี้เซียวแบบสมัยเป็นเพียงพอนน้อยชอบทำ เลียไปมากลับได้ยินลมหายใจสับสนของจี้เซียว น้องเลยเงยหน้าขึ้นก้อพบว่าจี้เซียวตื่นแล้ว555 เลยเขินเลย จากนั้นน้องก็ถามอาการบาดเจ็บของเขา แต่จี้เซียวบอกไม่เป็นไรอีก จนน้องเมิ่งน้อยใจตัดพ้อว่าจี้เซียวมีอะไรก้อไม่ยอมบอกเล่าให้น้องฟัง จี้เซียวเลยเล่าเรื่องที่เขาตายมาเข้าร่างของเซียวถิงอวิ๋นจนมาถึงตอนนี้ น้องเมิ่งกังวลว่าจี้เซียวดูรับพลังปราณในแดนสนธยาเพื่อรีบยกระดับขนาดนี้ ปรมัตถ์กุยชิงจะจับได้ไหมว่าจี้เซียวยังไม่ตาย จี้เซียวบอกว่าปรมัตถ์กุยชิงหลอมแดนสนธยาไม่สำเร็จเลยโดนพลังโจมตีย้อนกลับ ช่วงนี้ควรต้องกักตนรักษาตัวด่วน เขาไม่น่าจะมีแรงออกมาเคลื่อนไหวอะไรมาก

น้องเมิ่งเลยถามว่าจี้เซียวไปแดนสนธยา เพื่อไปดูดพลังแล้วก็ไปดักรอทำร้ายปรมัตถ์กุยชิงละสิ จี้เซียวบอกเป็นเรื่องจริงแค่ครึ่งหนึ่ง น้องเมิ่งถามแล้วอีกครึ่งละ จี้เซียวบอกไปเพื่อเจ้า.....กร๊ด น้องเมิ่งรีบบอกว่าเขาไปแดนสนธยาก็เพื่อจี้เซียวเหมือนกัน จี้เซียวตัดพ้อว่าคงไม่ใช่ไปตอบแทนบุญคุณอะไรอีกนะ น้องเมิ่งเลยเล่าว่าตัวเองเคยเจอะจี้เซียวก่อนที่ตัวเองจะบาดเจ็บนะ สมัยน้องยังไม่เป็นจอมอสูร เป็นแค่อสูรเพียงพอนที่มาปลอมตัวเป็นคนถ่อเรือ เพื่อไปแอบส่องจี้เซียวมาละ555 

จี้เซียวตกใจอุทานว่าเป็นเจ้านะเอง น้องเมิ่งตกใจทำไมจี้เซียวจำน้องได้ละ จี้เซียวบอกว่าเขาไม่เคยเห็นอสูรใจดีถ่อเรือฟรีๆให้มนุษย์นั่งนะ555 ไม่นึกเลยว่าวาสนาของสองเราล้วนถูกกำหนดให้คู่กันอยู่แล้ว น้องเมิ่งได้ยินพี่จี้พูดมาแบบนี้ก้อรู้สึกหวานละเกิน เลยต่อคำว่าเราควรแล้วที่ได้เป็นคู่บำเพ็ญ พี่จี้แซวควรคู่เป็นศิษย์อาจารย์ด้วย555 น้องเมิ่งเลยสารภาพว่า ตอนแรกเข้าใจว่าพี่จี้เป็นลูกชายของจี้เซียวสะอีก พี่จี้อึ้ง5555 น้องเมิ่งอายหนักมาจนเอาผ้าห่มมาคลุมตัว จนพี่จี้ต้องตบๆให้น้องออกมา แต่น้องเมิ่งไล่พี่จี้ออกไป น้องอยากอยู่คนเดียว พี่จี้บอกนี้มันห้องของพี่น้า น้องเมิ่งรีบวิ่งกลับห้องทันที พี่จี้เพิ่งได้สติ นี้เขาทำอะไรผิดอีกแล้วใช่มะ ถึงได้แยกห้องกันนอนอีกละ555

น้องเมิ่งวิ่งออกมาหน้าเรือนกลับเจอะอวี๋ฉี่ซูอุ้มเซิ่นโซ่ว ท่าทางเคลิ้มเหมือนสูบยา ก็รู้ว่าเจอะภาพมายาของเซิ่นโซ่วแล้วเลยตีอวี๋ฉี่ไปสักทีจนเขาตื่น น้องเมิ่งสั่งให้เซิ่นโซ่วหัดบังคับตัวเองไม่ให้พ้นลมหายใจซี้ซัว ไม่งั้นจะเกิดปัญหา จี้เซียวเดิมตามออกมา น้องเมิ่งบอกไม่รู้วิธีบำเพ็ญของเซิ่นโซ่ว พี่จี้เลยบอกเป็นหน้าทีเขาเอง น้องเมิ่งเลยโยนเซิ่นโซ่วให้พี่จี้แล้วทำไหน้ำส้มแตกเดินงอนจากไป พี่จี้ยังคงไม่เข้าใจว่าน้องเมิ่งโกธรอะไรพี่จี้อีกแล้ว555 อวี๋ฉี่ซูปากสั่นไม่รู้จะเรียกจี้เซียวยังไงดี จี้เซียวกลับบอกให้เรียกเหมือนเดิม พร้อมชวนเขาไปหาเจินเหรินเจ้าสำนักด้วยกัน

ฝั่งหูซื่อยังคงนั่งเล่นกับนกไม่รู้เบื่อ นอกจากนกยูงถูกขังในกรงทองล้ว ยังมีโซ่ทองที่สามารถสะกดญาณอสูรเส้นยาวล่ามข้อเท้ามันอีก สาวใช้ถามมีกรงแล้วทำไมต้องล่ามโซ่มันอีก หูซื่อบอกนกถูกขังในกรงนานๆมันจะขนร่วงได้ บ้างครั้งต้องปล่อยออกจากกรงให้มันได้บินบ้าง จะได้ไม่เครียด ตอนนี้หูซื่อตั้งชื่อมันว่าเสี่ยวหยวน สาวใช้ว่ามันไม่ได้ดูอวบอ้วนเลยนะ หูซื่อบอกอีกไม่นานเดียวก้ออ้วน5555

จากนั้นให้บ่าวรับใช้ตั้งโต็ะที่มีอาหารมามาย จากนั้นก็เปิดกรงให้นกยูงออกจากกรงก้อกลายร่างเป็นเซียนหมิง ที่กำลังโมโหเพราะโดนจับใส่กรงจนขาอ่อนแรงไปหมด เซียนหมิงรู้ว่าหูซื่อคือศิษย์พี่ของจี้เซียว แต่เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองไปล่วงเกินหูซื่อเมื่อไร เลยเจอะหูซื่อย้อนว่าจำไม่ได้หรอ เซียนหมิงที่อดอาหารมาสิบวัน (เวลาในกรงเร็วกว่าข้างนอก) ทำให้เซียนหมิงหิวมากจัดการซัดอาหารเต็มที่ สมความตั้งใจหูซื่อมาก หูซื่อเลยถามจะรีบกินเพื่อไปงานชุมนุมหมื่นอสูรหรอ เซียนหมิงตกใจว่าหูซื่อรู้ได้ยังไง คิดแล้วยังแค้นเคือนเพื่อนรักต่อที่ปฎิเสธไม่ยอมไปแดนอสูรกับตัวเอง แต่หูซื่อกลับบอกว่าเขาสามารถส่งเซียนหมิงไปที่งานนั้นได้

นับจากนั้นทุกวันก็จะมีการตั้งโต๊ะอาหารอลังการยิ่งกว่าเดิมเพื่อให้เซียนหมิงเอ็นจอยในการกินอาหาร แต่ทักษะการด่าคนของเซียนหมิงกลับพัฒนาขึ้นมาก สาวรับใช้คนสวยมาบ่นว่าหูซื่อไม่รำคาญเสียงด่าของเจ้านกยูงบ้างเหรอ หูซื่อบอกเขามีวิธีให้เซียนหมิงเลิกด่าก่อนงานชุมนุมหมื่นอสูร

จี้เซียวกับอวี๋ฉี่ซูเดินผ่านบ่อน้ำ แก็งค์สามเจียวรีบบอกให้อวี๋ฉี่ซูรีบชมพวกมันกับจี้เซียวเร็วๆ อวี๋ฉี่ซูเลยบอกว่าเพราะได้ญาณอสูรของเจียวมาสวมร่าง จึงทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็กหนักตอนรับมือกับไท่ซั่งจั่งเหล่า จี้เซียวเลยบอกว่าเขาเคยอ่านคัมภีร์โบราณของสำนักเป่ยหมิงซาน ว่าถ้าผู้บำเพ็ญพรตเอาญาณอสูรมาหล่อเลี้ยงบำเพ็ญติดต่อกันสี่สิบเก้าวันแล้วคือให้อสูรผู้เป็นเจ้าของ จะเท่ากับลดเวลาบำเพ็ญของอสูรไปหนึ่งปี อวี๋ฉี่ซูรู้สึกดีใจว่าเจียวน้องเล็กช่วยชีวิตเขา เขาย่อมยินดีช่วยเหลือมัน เจียวเบอหนึ่งกะเจียวเบอสองได้ฟังก้ออิจฉาเจียวน้องเล็กในวาสนาของคนโง่5555 

เดินสักพักก้อใกล้ถึงตำหนักเจ้าสำนัก แต่ยามนี้อวี๋ฉี่ซูกลายเป็นคนดังหลังผ่านศึกปะทะกับไท่ซั่งจั่งเหล่า ภายในตำหนักจี้เซียวเรียกเจี้ยนเวยชื่อเดิมของเจินเหรินเจ้าสำนักทันที เจี้ยนเวยตกใจรีบถามจี้เซียวให้บอกชื่อดั้งเดิมของเจ้ายอดเขาทั้งหมดออกมา เจี้ยนเวยตื่นเต้นดีใจน้ำตาไหลทันที บอกว่าไท่ซั่งจั่งเหล่ากับปรมัตถ์กุยชิงรวมมือกัน จี้เซียวว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เจี้ยนเวยยังติดใจในคำด่าของโจวอี้ว่าเขาไร้สามารถทำไมถึงได้เป็นเจ้าสำนักจึงถามจี้เซียวตรงๆ จี้เซียวจึงบอกว่าคนเป็นเจ้าสำนักไม่จำเป็นต้องเก่ง ขอแค่เป็นคนที่ทำอะไรนึกถึงสำนักนึกถึงส่วนรวมก่อนถึงจัมีคุณสมบัติเป็นเจ้าสำนัก ให้เทียบกับเจ้ายอดเขาทั้งห้ายัง พวกเขายังทำงานได้ไม่ดีเท่าเจี้ยนเวยเลย ทำเอาเจี้ยนเวยตื้นตันใจน่าดู

ฝั่งน้องเมิ่งที่โกธรจี้เซียว อิจฉาเซิ่นโซ่ว ก้อเอาผ้าคลุมชุดดำมาใส่แล้วลงเขาไปหาเฉียนเจินเหรินทันที พอถึงโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน พ่อบ้านเห็นคนสวมผ้าคุมชุดดำก็นึกว่าเป็นชิงไต้ ก้อรีบพาไปพบเฉียนเจินเหรินทันที พอน้องเมิ่งไปถึงเฉียนเจินเหรินก้อทักว่าแม่นางชิงไต้555 น้องเมิ่งเลยถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทั้งคู่เลยแลกเปลี่ยนข่าวสารทั้งหมดที่ผ่านมา เฉียนเจินเหรินแนะนำให้น้องเมิ่งเก็บตัวเงียบๆก่อน เพราะข้างนอกเต็มไปด้วยข่าวลือมากมาย น้องเลยถามว่าข่าวอะไร เฉียนเจินเหรินเลยให้พ่อบ้านไปตามซื้อหนังสือที่วางขายทั่วไปในตลาดมาให้น้องเมิ่งอ่าน จากนั้นก้อขอตัวไปคุยกะชิงไต้ตัวจริงที่รอสนทนาที่ห้องด้านข้าง

น้องเมิ่งเริ่มอ่านบันทึกฉางซุนกับอัตชีวประวัติเสวี่ยหลี่ กลับพบว่านี้มันหนังสือติดเรท ที่บรรยายความรักทุกท่วงท่าจนจินตนาการเห็นภาพได้เลย อ่านไปน้องก็โมโหไป ทั้งยังอิจฉาเสวี่ยหลี่ในนิยายที่ได้รับการโปรดจากจี้เซียวขนาดนั้น555 แต่เพราะตอนนี้น้องเมิ่งหึงเซิ่นโซ่วหนักมาก ที่จี้เซียวอุ้มมันได้แต่กับเขา..ชิ ว่าแล้วเก็บหนังใส่เสื้อไว้ แล้วบอกเฉียนเจินเหรินให้รีบหาเสื้อผ้ามาให้เขาด่วน55 เอามาให้ครบทั้งรองเท้าเครื่องประดับ55 กว่าจะกลับถึงยอดเขาก้อเย็นค่ำ ก้อเจอะอวี๋ฉี่ซูนั่งคุยกับปลาไนอยู่ น้องเมิ่งก็รีบสั่งการให้อวี๋ฉี่ซูลงเขาไปพักด้านนอกสำนักที่เหิงทงจวี้หยวนสักสองสามวันไปก่อน แล้วค่อยกลับขึ้นมาใหม่ อาจารย์มีเรื่องสำคัญต้องจัดการ555 อวี๋ฉี่ซูได้ฟังก็กลับเรือนพักเพื่อเก็บของทันที จากนั้นอุ้มหนูผีเก็บทรัพย์ตัวโปรด กับเอาเซิ่นโซ่วยัดใส่อกแล้วเดินทาลงเขาไปเหิงทงจวี้หยวนทันที555

ครั้นถึงย่ำค่ำ จี้เซียวนั่งเขียนหนังสือที่โต๊ะ ก้อได้ยินเสียงเคาะหน้าต่าง เขาก็เลยไปเดินเปิดหน้าต่างแต่กลับตะลึง เจอะน้องเมิ่งปากแดงคาบดอกจินซือเถา ใบหน้าสวยสดงดงามแถมสวมชุดแดง จี้เซียวบอกให้น้องเข้ามา น้องเมิ่งกระกระโดดเข้ามาซุกในอ้อมอกจี้เซียวทันที แต่จี้เซียวไอจนเลือดออกปากแทน555 น้องเมิ่งเลยประคองจี้เซียวไปที่เตียงแล้วลูบหลังเบาๆให้ ถามจี้เซียวทำอะไรอยู่ จี้เซียวบอกกำลังเขียนหนังสือมรรคาเล่มสองให้น้องอยู่5555

จี้เซียวเลยถามน้องเมิ่ง ว่าวันนี้ทำไมใส่ชุดแดง น้องเมิ่งก้อบอกในหนังสือบอกว่าน้องต้องใส่ชุดแดงนี่น่า จี้เซียวเลยถามหาหนังสือที่น้องอ่าน น้องเมิ่งเลยหยิบหนังสือให้จี้เซียวดู แต่เขากลับไม่โกธรแถมบอกน้องเมิ่งว่าอย่าอ่านหนังสือแบบนี้ให้มากนัก555 น้องเมิ่งเซ็งเลยขอตัวจะกลับห้องละ แต่จี้เซียงรั้งตัวน้องไว้ น้องเมิ่งตาเป็นประกาย...จี้เซียวบอกว่าไหนๆเจ้าก็มาแล้ว มิสู้....มาอ่านคัมภีร์เต๋าด้วยกันดีกว่า555555

ตกดึกคืนนั้นสองผัวเมียนั่งถกมรรคากันไป ฝ่ายน้องเมิ่งจิตเริ่มฟุ้งซ่าน นั่งมองหน้าจี้เซียวแล้วเคลิ้ม จู่ๆพี่จี้ถามหากาลมิสิ้นผ่านผัน น้องบอกอยู่ในห้อง(ในใจขัดเคือง วันนี้จะมาล่อลวงพี่จี้ แล้วเขาจะพกอาวุธมาทำไม555) พี่จี้ยิ้มแล้วยืนมือมาตรงหน้าแล้วกล่าวว่า...มา น้องเมิ่งดีใจจะลุกเดินไปหาพี่จี้ ทันใดนั้นกาลมิสิ้นผ่านผันมันรีบพุ่งมาอยู่บนมือพี่จี้เสียแล้ว5555 คราวนี้น้องเมิ่งทั้งเขินทั้งเปิ่นอาย5555 

แต่พี่จี้ยังมุ่งมั่นสอนสั่ง บอกทักษะการขี่กระบี่คือพื้นฐานการรวมสมาธิ จะให้น้องลองขี่กาลมิสิ้นผ่านผัน แต่วันนี้น้องเมิ่งแต่ชุดแดงแบบจัดหนักจัดเต็มแต่ก้อยังไม่อาจปลุกเร้าพี่จี้ได้สักนิด555 น้องโมโหวางกาลมิสิ้นผ่านผันลงบนโต๊ะแล้ว แล้วลุกไปนั่งตัก พร้อมหันหน้าไปหาพี่จี้ วงแขนโอบรอบคอ พร้อมตัดพ้อว่าที่พี่จี้บอกว่าชอบน้อง อยากให้น้องมาเป็นคู่บำเพ็ญเพียร นี่คือเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก พี่จี้งง...เราทำอะไรผิดอีกแล้วหรอ555 น้องเมิ่งเลยระบายความในใจมาหมด...ว่าเซิ่นโซ่วเป็นอสูร ปลาไนก้อเป็นอสูร นี่พี่จี้จะรอให้พวกมันบำเพ็ญจนแปลงร่างได้แล้วตั้งฮาเร็มมาอยู่กะพวกเราใช่ไหม พี่จี้รีบอธิบายเรื่องปลาไนว่าเป็นเพราะน้องเมิ่งอยากเลี้ยงปลา พี่จี้เลยไปจับมาให้น้องไง ส่วนเซิ่นโซ่วพี่จี้เจอะมันก่อนจะได้รู้จักน้อง แล้วน้องตอนนี้เป็นร่างมนุษย์แล้วยังจะเอาตัวไปเทียบกะอสูรพวกนั้นทำไม 

น้องเมิ่งไหน้ำส้มแตกรัวๆ55ว่า น้องเองก้อเป็นอสูรเพียงพอนบาดเจ็บที่พี่จี้เก็บมารักษาเหมือนพวกมัน น้องยังกล้าคิดจะรักพี่จี้เลย แล้วพวกนั้นจะไม่หวังเคลมพี่จี้เหมือนน้องเมิ่งหรอ5555 พูดไปน้องก้อเอาหน้าไปซุกไซ้อกพี่จี้ไปอ้อดอ้อนไป จนพี่จี้ใจสั่นรับรู้ได้ว่าน้องเมิ่งมีใจและความปรารถนาในตัวพี่จี้จริงๆ555 พี่จี้ต้องจับเอวน้องเมิ่งไม่ให้ซน แล้วบอกว่าน้องยังทำเรื่องบำเพ็ญคู่ไม่ได้ แค่สื่อสารจิตวิญญาณขั้นพื้นฐานน้องยังทำได้ลำบาก พี่จี้ถึงพยายามสอนน้องเรื่องวิธีหล่อหลอมวิญญาณ เพราะหวังว่าน้องจะได้รีบเติบโตไวๆ555 น้องเมิ่งเลยบรรลุ...อ้อ ว่าแล้วรีบลุกจากตัก บอกพี่จี้ว่าน้องจะรีบไปตั้งใจฝึกฝนให้เต็มที่ พี่จี้เลยบอกออกมาตรงๆ ว่าความรู้สึกของพี่จี้มีต่อน้องเมิ่งมีแค่หนึ่งไม่มีสอง น้องเมิ่งดีใจมากบอกตัวน้องเองก็เช่นกัน....พี่จี้สบายใจสะที5555

ฝั่งอวี๋ฉี่ซูไปขออาศัยอยู่ที่โรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน เฉียนเจินเหรินสงสัยว่าเขาโดนน้องเมิ่งไล่ออกจากสำนักหรอ อวี๋ฉี่ซูบอกไม่ใช่ อาจารย์บอกมีเรื่องสำคัญต้องทำต่างหาก เฉียนเจินเหรินจำได้ว่าน้องเมิ่งเพิ่งเอาชุดแดงไปจากที่ร้าน หรือจะแต่งชุดแดงไปท้าประลองกับใครอีก เฉียนเจินเหรินจะคิดเงินค่ากินอยู่กับค่าที่พักแบบไม่ปราณี อวี๋ฉี่ซูเลยโกรธมากรีบเดินออกไปหาที่พักเอาดาบหน้า 

ก้อเจอะพ่อบ้านมาตามให้ไปพักที่เรือนใน พร้อมปลอบขวัญว่าเฉียนเจินเหรินแค่ล้อเล่นนะ555 พร้อมเล่าว่าถึงเบื้องหน้าเฉียนเจินเหรินจะดูงกเค็มหน้าเลือดขนาดไหนก็ตาม แต่เบื้องหลังคือคนที่ใจดีสุดในแผ่นดินแล้ว เพราะยามมีภัยพิบัติเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่แคว้นไหน โรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนจะบริจาคข้าวปลาอาหารให้ตลอดทุกครั้ง ยังเวลาอวี๋ฉี่ซูฝากจดหมายกลับถึงบ้าน เฉียนเจินเหรินก็จะสั่งให้เตรียมขนมกับชาแอบส่งพร้อมจดหมายไปให้แม่ของอวี๋ฉี่ซูทุกครั้ง

พอพ่อบ้านกล่าวจบก้อแอบไปรายงานเฉียนเจินเหริน ว่าได้พูดตามบทสร้างภาพจนครบแล้ว555 แต่ดูเหมือนอวี๋ฉี่ซูยังคงโกธรเล็กน้อย555 แล้วพ่อบ้านรายงานว่ากลุ่มการค้าอสูรมอบเทียบเชิญ เพื่อไปงานชุมนุมหมื่นอสูรให้สองฉบับ ที่เมืองเฟิงเยวี่ย เฉียนเจินเหรินหน้ามีแววกังวลแต่สั่งให้พ่อบ้านพาหัวหน้าพ่อบ้านสาขาลับมาเข้าพบด่วน

สองวันต่อมาน้องเมิ่งกับพี่จี้ก้อแวะมาที่เหิงทงจวี้หยวน เพื่อมารับอวี๋ฉี่ซู เพราะเรื่องดีๆที่จะทำกะพี่จี้ต้องใช้เวลาอีกนาน555 เฉียนเจินเหรินตามาคุยด้วย เห็นน้องเมิ่งกับพี่จี้ส่งตากันวิ้งว้าง ก็เกิดมองเห็นความสัมพันธ์นี้น่าเกินศิษย์อาจารย์เป็นแน่แท้ พี่จี้เลยเรียกเฉียนเจินเหรินด้วยชื่อจริง...อวี้จือ แล้วบอกให้เขามองพี่จี้ดีๆ เฉียนเจินเหรินตกใจและดีใจในคราวเดียว พี่จี้ขอบคุณที่ดูแลคลังสมบัติเขาจนงอกงามขนาดนี้ เฉียนเจินเหรินบอกไม่เป็นไรแบ่งกันยุติธรรม50-50ขนาดนี้อะ5555

เฉียนเจินเหรินดีใจจี้เซียวยังมีชวิตอยู่ เพียงแต่ตอนนี้ข่าวน้องเป็นอสูรสิน่าเป็นห่วง แต่น้องเมิ่งบอกไม่เป็นไรเพราะเป็นอสูรมาก่อนจริงๆ เพียงแต่ได้กินยาคืนชีพจนสร้างร่างมนุษย์ได้สำเร็จ ตอนนี้เขาเป็นมนุษย์แล้วนะ เฉียนเจินเหรินกับอวี๋ฉี่ซูตกใจกับข่าวนี้555 เฉียนเจินเหรินถามน้องเมิ่งว่ามะก่อนเขาเป็นอสูรอะไร น้องบอกเขาเป็นจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน เฉียนเจินเหรินตกใจอีกรอบ....แล้วค่อยถามไม่มีอะไรให้ตกใจอีกแล้วใช่ไหม555 น้องเมิ่งบอกเขาอยากไปงานชุมนุมหมื่นอสูรที่เมืองเฟิงเยวี่ย เฉียนเจินเหรินบอกงานเริ่มอีกเดือน ให้พวกน้องเมิ่งกลับไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาคุย เขาขออยู่เงียบๆคนเดียวสักพัก5555

ที่ทางแดนใต้ ณ.สำนักหมิงเยวี่ยหู หลังจากกลับมาจากแดนสนธยาฮั่นไห่ จิงตี๋กลับโดนสั่งกักตัว แต่ที่จริงถูกขังในคุกน้ำ โทษฐานมีความคิดเห็นขัดแย้งกับอวิ๋นซวีจื่อเจ้าสำนัก ที่เป็นอาจารย์ของตัวเอง ที่ศาลากลางทะเลสาบ อวิ๋นซวีจื่อเจ้าสำนักกำลังชงชาให้ปรมัตถ์กุยชิง ที่แอบซ่อนอาการบาดเจ็บของตัวเองไม่ให้ใครรู้แม้กระทั้งลูกศิษย์ตัวเอง เขาคิดว่าได้รับบาดเจ็บจากการแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจควบคุมแดนสนธยาฮั่นไห่กับน้องเมิ่งที่เป็นอสูร จนตอนหลังแดนสยธยาพังลงมาทำให้เขาโดนพลังโจมตีสะท้อนกลับเล่นงานจนกบาดเจ็บ แต่ในตอนนั้นเขารับรู้ได้ถึงลมหายใจของจี้เซียว แต่เพราะน้องเมิ่งเป็นคู่บำเพ็ญจี้เซียวมาหลายปี การมีลมหายใจของจี้เซียวติดกายย่อมเป็นเรื่องปกติ เขาถึงไม่สงสัยในจุดนี้ 

จากนั้นเขาก้อเรียกหนิงเวยเข้ามารับคำสั่ง ให้เขาไปส่งของขวัญให้จอมอสูรเขาหลิงซาน ที่เมืองเฟิงเยวี่ย ในงานชุมนุมหมื่นอสูร แล้วให้สัญญาว่ากลับหนิงเวยมาจะแต่งตั้งให้หนิงเวยเป็นศิษย์พี่ใหญ่แทนจิงตี๋

กลับมาถึงยอดเขาฉางซุน พี่จี้พาน้องเมิ่งไปคุยส่วนตัว ถามเรื่องจะไปงานชุมนุมหมื่นอสูรเพราะจะไปตามคืนดีกับเซียนหมิงละสิ น้องเมิ่งเลยตกใจที่ลืมบอกเรื่องนี้กับพี่จี้ พี่จี้เอามือลูบคอน้องเมิ่งว่าตอนนี้เป็นคู่บำเพ็ญเพียรด้วยกันแล้ว แปลว่าน้องเมิ่งมีคู่ที่พร้อมจะไปทุกที่กับน้องนะ น้องรับปากพี่จี้แต่ใจคิดไม่อยากให้พี่จี้ไปเสี่ยงตายหรือบาดเจ็บอีก...หึ

พี่จี้พาน้องเมิ่งไปเล่นไพ่เป็นเพื่อนเจ้ายอดเขาจื่อเยียน ไปถึงก้อทักทายเจ้าสำนักกับเจ้ายอดเขาอื่นๆที่รับรู้ว่าจี้เซียวกลับมาแล้ว ตอนนี้วางแผนจะปิดเขาหานซาน เพื่อเตรียมรับศึกที่อาจจะเกิดขึ้น น้องเมิ่งขี้เกียจเล่นไพ่ เลยชิ่งกลับเขาฉางซุนก่อน กลับมาครั้งนี้เขาถึงรู้สึกว่าเขาฉางซุนคือบ้านของเขาจริงๆ หลินเสี่ยวไหวเห็นเหมือนดาวตกพุ่งมาเลยชวนน้องเมิ่งคุกเข่าอธิฐาน แต่ปรากฎว่าเป็นมีเรือเหาะของหู่ซื่อพุ่งตรงมาอย่างเร็ว หูซื่อตะโกนออกมา ว่าไม่ต้องทำความเคารพเขาขนาดนั้นก็ได้ น้องเมิ่งอายหน้าชาอีกครั้ง555  เป็นหูซื่อที่แบกเซียนหมิงเตรียมโยนเขาลงเขาฉางซุน เพื่อข่มขู่ให้เขาเลิกด่า เพราะรู้ว่าตอนนี้เซียนหมิงทะเลาะกับน้องเมิ่ง ยามนี้ตกอยู่ในกำมือหูซื่อ เขาย่อมไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าน้องเมิ่ง จึงสัญญาว่ายอมเลิกด่า555 น้องเมิ่งตะโกนถามว่าวันนี้หูซื่อมาทำอะไรแถวนี้ หูซื่อบอกไม่มีไรแวะผ่านเฉยๆ จากนั้นเรือเหาะก้อจากไป5555 น้องเมิ่งยังไม่ไว้ใจหูซื่อเหมือนเคย สัญชาตญาณอสูรของเขามันเตือนให้ระวังคนผู้นี้ให้มากๆ 

จี้เซียวกลับมาที่เรือนพัก น้องเมิ่งก็รายงานว่าศิษย์พี่หูซื่อขี่เรือเหาะแวะมาแปปหนึ่ง แล้วก้อจากไปแล้ว น้องเมิ่งสารภาพกัยพี่จี้ว่าเขาไม่ชอบหูซื่อเลย พี่จี้บอกปกติเพราะคนไม่ชอบหูซื่อมีเยอะ แต้น้องเมิ่งยังซักไม่หยุดว่าหูซื่อเกี่ยวข้องกับการตายของเขาไม่ พี่จี้ก้อตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ก้อดูไม่อยากขุดขุ้ยเรื่องของหูซื่อ จนน้องเมิ่งต้องถามว่าถ้าน้องเมิ่งกะหู่ซื่อตกอยู่ในอันตรายทั้งคู่ พี่จี้จะชวยใคร ซึ่งพี่จี้ก้อมีวิธีช่วยทั้งสองตลอดจนน้องเมิ่งเหนื่อยจะถาม5555

น้องเมิ่งไปนั่งมองฟ้าที่ลานทัศนา พี่จี้ตามมานั่งข้างๆโอบกอดพร้อมลูบคอปลอบน้อง แล้วถามด้วยความเป็นห่วงว่าน้องนอนไม่หลับหรอ น้องเมิ่งเพิ่งตื่นจากฝัน ว่าพี่จี้ยกยอดเขาฉางซุนขึ้นฟ้า แต่ไม่เหมือนกับมหรรณพแดนสรวงของหูซื่อ เพราะสวยกว่าเยอะ พวกเขาอยู่กันเพียงสองคนอย่างมีความสุขไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใด น้องหันไปถามพี่จี้ว่าจะมีวันนั้นไหม พี่จี้คิดแล้วก้อตามตรงว่าไม่มี555 น้องเมิ่งโมโหว่าพี่จี้จะโกหกให้น้องสบายใจได้บ้างไหมเนี่ย555

น้องเลยถามว่าทำไมพี่จี้ถึงรู้จักวิธีบำเพ็ญของพวกอสูรจนสามารถชี้แนะพวกน้องได้ พี่จี้บอกยามเป็นศิษย์ เขากับหูซื่อล้วนมีแต่คำถามจึงไปถบปัญหากับอาจารย์ แต่อาจารย์ตอบไม่ได้จึงไล่พวกเขาสองคนไปศึกษาอ่านตำราหาคำตอบเอาเอง จึงทำให้พี่จี้เรียนรู้ด้วยตัวเองมาตลอด น้องเมิ่งฟังแล้วได้แต่อับอายที่ตลอดชีวิตก่อนมาเป็นคู่บำเพ็ญ ชีวิตนี้มีแต่ต่อยตีท้ารบจนทำให้เซียนหมิงเข้าใจว่าน้องเมิ่งอยากเป็นจอมอสูร พี่จี้ปลอบใจไม่เป็นไร สุดท้ายพี่จี้ก้อตอบคำถามที่ทำให้น้องคาใจว่า ถ้าต้องให้เลือกที่จะช่วยชีวิตคนสำคัญสองคนของเขา เขาจะช่วยน้องเมิ่งก่อน ทำเอาน้องเมิ่งดีใจมาก

ตื่นมาด้วยความสดชื่น น้องเมิ่งลงเขาไปหาเฉียนเจินเหริน เพื่อจะให้เขาช่วยให้เข้าไปในงานชุมนุมหมื่นอสูร เฉียนเจินเหรินเลยบอกตัวเองมีเทียบเชิญเข้างานสองใบ แต่น้องเมิ่งจะเอาใบเดียวเพราะจะแอบไปแดนอสูรเองคนเดียว เฉียนเจินเหรินรีบถามว่าทำแบบนี้ไม่กลัวพี่จี้จะโกธรเอาหรอ น้องเมิ่งมั่นใจประกาศว่าพี่จี้ไม่มีวันโกธรน้องเด็ดขาด ขอเพียงเฉียนเจินเหรินอย่าไปบอกพี่จี้ เพราะน้องจะเขียนจดหมายหลอกพี่จี้ไปที่อื่นก่อน รอน้องไปสู้ชนะกลับมาก้อไม่มีปัญหาใดๆแล้ว เฉียนเจินเหรินพยายามขยิบตาส่งให้น้องเมิ่งเป็นระยะๆ แต่สุดท้ายน้องเมิ่งก้อไม่เข้าใจ ถามว่าเฉียนเจินเหรินตาเป็นอะไร ป่วยรึ5555 สุดท้ายเฉียนเจินเหรินทำใจบอกว่าเขาช่วยน้องไม่ได้แล้ว แล้วหลบออกไปทันที

ปรากฎว่าพี่จี้ยืนหลบหลังฉาก ยืนฟังน้องพูดมาตั้งแรกที่เข้ามาในห้องแล้ว5555 น้องเมิ่งใจหายวา...บ พี่จี้เดินมาถามว่าน้องจะไปไหนหรอ น้องเมิ่งรีบบอกว่าน้องไม่อยากให้พี่จี้ที่ตอนนี้ยังบาดเจ็บไม่หายดี ต้องไปเสี่ยงอันตรายกับน้องที่แดนอสูร แถมมันเป็นเรื่องส่วนตัวของน้องกับเพื่อนรัก พี่จี้ถามหากาลมิสิ้นผ่านผัน น้องเมิ่งตัวสั่นทันทีคิดว่าที่จี้จะเอากาลมิสิ้นผ่านผันทาทำโทษน้องแน่ๆ แต่ก้อยื่นกาลมิสิ้นผ่านผันให้พี่จี้แต่โดยดี พี่จี้จับน้องหันหน้าเข้าโต๊ะแล้วกดร่างน้องลงโต๊ะ จากนั้นเอากาลมิสิ้นผ่านผันมาฟาดก้นน้องเมิ่งทันทีรัวๆ555 จนน้องเมิ่งร้องไห้ออกมา พี่จี้ก้อใจอ่อนถามน้องว่ายังคิดจะโกหกพี่จี้อีกไหม น้องรีบรับคำจะไม่โกหกพี่จี้แล้วถึงได้โดนปล่อยตัว 

น้องเมิ่งหนีไปซุกตัวร้องไห้น้อยใจที่มุมห้อง พี่จี้หยิบขวดยามาแล้วเรียกน้องให้มาทายา น้องเมิ่งโกธรไม่ยอมไป ต้องให้พี่จี้จูบน้องก่อนถึงจะยอมให้พี่จี้ทายาให้ พี่จี้เขินสั่งให้กลับยอดเขาฉางซุนเดียวนี้ น้องเมิ่งโวยวายว่าเมื่อคืนเพิ่งโอบกอดรักใคร่ พอเช้ามาก็ทุบตีน้องแล้ว นี่อยากให้น้องเป็นคู่บำเพ็ญจริงๆใช่ไหม พี่จี้เลยเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาน้องแทน น้องเมิ่งก้อเริ่มกลัวว่าพี่จี้จะโกธรมาทุบตีน้องอีก แต่ไหนๆก้อมาถึงขั้นนี้แล้ว ก้อพูดท้าทายต่อ ว่าคู่บำเพ็ญอื่นเขามีแต่สามปีมีลูกสามคน แต่นี้อะไร สามปีของน้องเมิ่งแม้แต่จูบ พี่จี้ยังไม่เคยมอบให้น้องเลยสักครั้ง งั้นกลับไปเป็นศิษย์อาจารย์กันเหมือนเดิมยังดีสะกว่า อย่างน้อยลูกศิษย์ตีก้นอาจารย์ไม่ได้ พี่จี้เลยบอกว่าเป็นความผิดของพี่เอง แล้วจับหน้าน้องเมิ่งมาจูบจนน้องเมิ่งตัวอ่อนลงในอ้อมกอดพี่จี้... พี่จี้ถามว่ายังอยากเป็นศิษย์อาจารย์กันอีกไหม น้องเมิ่งบอกไม่อยากเป็นแล้ว555 พี่จี้ก้อจูบต่อจนน้องเมิ่งแทบสุขจนตาย55

พี่จี้ก้อจูบไปลูบคลำเอวน้องเมิ่งไป พร้อมเรียกน้องว่าอาจารย์ไป555 จนน้องเมิ่งคิดฟุ้งซ่านว่ายามนี้เขาเหมือนศิษย์อาจารย์ที่กำลังลักลอบมีสัมพันธ์ต้องห้าม ก้อให้ความรู้สึกไม่ดี รีบร้อนบอกพี่จี้อย่ามาเรียกขานน้องว่าอาจารย์อีก555 พี่จี้ลูปไปถึงก้นที่โดนตีของน้องเมิ่ง ก้อสงสารคิดว่าน้องคงไม่กล้าทำอีกแล้ว ก้อเลิกจูบพร้อมบ่นว่าน้องเมิ่ง ตัวเองเป็นคนอยากให้พี่จี้จูบเองแท้ๆ พอพี่จี้จูบก้อมาร้องไห้อีก ทำเอาพี่จี้ไปไม่ถูกเลย น้องเมิ่งรีบชวนพี่จี้กลับยอดเขาฉางซุนแทน555 แต่พี่จี้ยังบอกว่าเรื่องน้องคิดหนีไปแดนอสูรคนเดียวยังคงมีความผิดอยู่ น้องเมิ่งตัวแข็งทันที แต่พี่จี้บอกมาทายาก่อน555

ส่วนเฉียนเจินเหรินที่หนีมาหลบอยู่ที่ห้องข้างๆ มานั่งคิดว่าข้าวของพังพินาจไปถึงไหนแล้วในห้องนั้น แต่ความรู้สึกเขาที่มีต่อน้องเมิ่งเปลี่ยนไป เพราะน้องเมิ่งต้องการไปแดนอสูรเพราะเป็นห่วงเพื่อน ไม่ได้คิดจะไปแย่งชิงตำแหน่งจอมอสูร พอได้ยินเสียงประตูเปิด เขาจึงรีบเข้าไปในห้อง แต่สภาพในห้องเรียบร้อยเช่นเดิม มีเพียงน้องเมิ่งที่ยืนด้านหลังจี้เซียว ในสภาพตาแดงฉ่ำ ปากก้อบวมเจ่อเชียว เขานึกสงสารว่าอดีตจอมอสูรเขาเสวี่ยซานผู้ยิ่งใหญ่ ยามนี้กลับเจอะจี้เซียวด่าจนร้องไห้หมดสภาพเช่นนี้ ก้อหันไปต่อว่าพี่จี้ ว่าน้องเมิ่งถึงทำผิด ก้อต่อว่าน้องสักแค่สองสามประโยคก้อพอแล้ว ไม่เห็นต้องด่าท่อกันจนขนาดนี้ เลยโดนพี่จ้ย้อนถามว่าเขาเคยมีคู่บำเพ็ญด้วยหรอ เฉียนเจินเหรินจุกทันที เลยสวนไปว่าถึงเขาไม่เคยมีคู่ แต่เคยอ่านนิยายโว้ย555 (แต่ที่จริงในห้องนั้นพี่จี้จับน้องเมิ่งนอนพาดตักพี่จี้ แล้วลงมือทายาที่ก้นจนน้องครวญครางสะพี่จี้แทบทนไม่ไหวเลย...อะนะ ปากน้องเมิ่งเลยเจ่อสะ555)

เฉียนเจินเหรินเอาเทียบเชิญเข้างานมาสองใบ แล้วว่าแดนอสูรไม่เหมือนเดิมแล้วนะ น้องเมิ่งเข้าใจ  เฉียนเจินเหรินว่าน้องเมิ่งเป็นอสูรอยู่แล้ว ทำให้ปลอมตัวง่ายขึ้น แต่จี้เซียวจะปลอมเป็นอสูรได้หรอ น้องเมิ่งได้ทีกลั่นแกล้งเลยบอกจะให้พี่จี้ปลอมตัวเป็นบ่าวรับใช้น้อง  เฉียนเจินเหรินรับลูกเห็นด้วยทันที พอน้องได้สติก็รีบหันไปมองพี่จี้ด้วยความกลัว555 กลับเห็นพี่จี้บอกแล้วแต่น้อง ถ้าน้องทำแล้วมีความสุข555

ฝั่งหูซื่อที่กำหราบเซียนหมิงให้เลิกส่งเสียงด่าได้ ก้อปล่อยสาวใช้คนสวยลำเลียงอาหารอร่อยออกมาเรื่อยๆ เพื่อให้เซียนหมิงกินแล้วก้อนอนไปเรื่อยๆทุกวัน กว่าเซียนหมิงจะรู้ตัวก็กลายเป็นนกยูงอ้วนๆที่จะขยับปีกจะบินก็เหนื่อยไปก่อนสะแล้ว555 สาวใช้ที่เริ่มสนิทกับเซียนหมิงก้อถามว่าเขาไปล่วงเกินอะไรหูซื่อมารึป่าว แต่เซียนหมิงจำไม่ได้เลยว่าตัวเองเคยรู้จักหูซื่อมาก่อนด้วยซ้ำ จะไปล่วงเกินหูซื่อได้ยังไง จนถึงวันหนึ่งหูซื่อก้อบอกว่าจะปล่อยเซียนหมิงให้ไปเข้าร่วมงานชุมนุมหมื่นอสูร

ว่าแล้วหูซื่อก้อปล่อยโซ่ล่ามขา แต่เซียนหมิงกลับไม่มีแรงจะบิน เพราะโดนล่อหลอกให้กินอาหารอร่อยจนอ้วนปัก ก้อโมโหด่าหูซื่อ แต่หูซื่อกลับยื่นขนนกยูงเส้นหนึ่งคืนให้เขา ทำให้เซียนหมิงนึกถึงเรื่องเมื่อสองร้อยปีก่อน หูซื่อคือเด็กอ้วนเสี่ยวหยวนคนนั้น ที่เขาเคยเล่าให้สาวใช้ฟัง และนกยูงบัดซบตัวนั้นก้อคือเซียนหมิง ตอนเด็กเพราะหูซื่อเป็นเด็กอ้วน จึงทำให้ไม่มีใครยอมมาเล่นกับเขา จนมีนกยูงที่มาพูดคุยยอมคบเขาเป็นเพื่อน แต่สุดท้ายนกยูงก้อหลอกเขาจนเกือบตาย ป่วยคราวนั้นทำให้หูซื่อผอมลงทันที แล้วตั้งใจศึกษาเข้าสำนักนักพรตแทน เพราะปมนี้จึงทำให้หูซื่อเกลียดชังอสูรที่สันดานแท้จริงชอบหลอกลวง จนพาลมาถึงเกลียดน้องเมิ่ง

เซียนหมิงที่ตกใจในความจริง ที่ว่าหูซื่อคือเด็กน้อยที่เขาไปล้อเล่นด้วย เขานึกถึงตอนนั้นที่เขาสัญญาว่าจะไปเด็ดดวงดาวมาให้เสี่ยวหยวน ตอนนั้นเขาเป็นเพียงอสูรเด็กหนุ่มที่ห้าวไม่กลัวสิ่งใด เลยบุกจะไปเอามุกฉลามใต้ทะเลมาให้เสี่ยวหยวน เลยเกือบได้ตายในทะเลซี่ไห่แทน ดีที่อสูรเพียงพอนน้อยมาช่วยเขาไว้ได้ทัน น้องเมิ่งก้อด่าเซียนหมิงที่ไม่ควรไปล้อเล่นกับความรู้สึกของคน ระวังกรรมจะลงทัณฑ์ เซียนหมิงรู้สึกผิดมาก อยากกลับไปหาเสี่ยวหยวนเพื่อขอโทษ แต่พอทั้งคู่กลับไปที่แคว้นนั้น กลับได้ยินข่าวว่าเด็กน้อยป่วยหนักเกือบตาย พ่อแม่จึงพากันย้ายบ้านเพื่อหนีสิ่งอัปมงคล เซียนหมิงยังอยากจะตามไปหาเสี่ยวหยวนแต่น้องเมิ่งกลับว่าเขาไม่ควรข้องแวะกับมนุษย์อีก ทำให้เขาตัดใจเรื่องของเสี่ยวหยวน จนตอนนี้กรรมตามมาทันสะแล้ว

สาวใช้คนสวยยกอาหารมาให้เซียนหมิง เพื่อเร่งให้เขากินให้เสร็จ เพราะเดียวต้องรีบออกเดินทางไปแดนอสูรเพื่อเข้าร่วมงานชุมนุมหมื่นอสูร เซียนหมิงถามว่าหูซื่อไปด้วยหรือป่าว สาวใช้บอกนายท่านไม่ไป แต่ฝากให้พวกนางไปส่งคันฉ่องจิ่งหงแทน เซียนหมิงเห็นอาวุธวิเศษของแดนอสูรได้แต่นึกสงสัยว่ามันตกมาอยู่ในมือหูซื่อได้ยังไง แต่เขาตกลงเรื่องกลับแดนอสูรกับสาวใช้ของหูซื่อแต่โดยดี โดนต้องกลายเป็นนกยูงอ้วนๆในกรงทองให้สาวใช้หิ้วไป เพราะตอนนี้เขาอ้วนจนบินไม่ไหว555

เฉียนเจินเหรินที่เริ่มหมั่นไส้จี้เซียวที่ลูบคอปลอบโยนภรรยาตัวน้อยคนงามตรงหน้า ก้อบอกว่าจะแนะนำพ่อบ้านสาขาลับแดนอสูรให้ทั้งคู่รู้จักกันไว้ก่อน พอน้องเมิ่งเห็นก้อพบว่าพ่อบ้านรองแดนอสูรเป็นเด็กน้อยชื่อหร่วนฮุ่ยเป็นลูกครึ่งอสูรกระต่ายสีเทา เด็กน้อยอีกคนเป็นพ่อบ้านใหญ่สาขาแดนอสูรชื่อปี้โหยวลูกครึ่งอสูรนกกินปลาตัวน้อย น้องเมิ่งก้อรู้สึกโกธรเฉียนเจินเหรินที่เขาใช้แรงงานเด็ก555

ปี้โหยวให้หร่วนฮุ่ยเอาแผนที่แดนอสูรมากางให้น้องเมิ่งกับพี่จี้ดู ว่ายามนี้แดนอสูรเปลี่ยนไปมากมายขนาดไหน พร้อมบอกระยะเวลาในการเดินทางถึงเมืองเฟิงเยวี่ยใช้เวลาครึ่งเดือน หลังพวกน้องเมิ่งเข้าเมืองเพื่อเข้างานชุมนุมหมื่นอสูร พวกเขาจะรอนอกเมืองเป็นเวลาสามวัน ถึงจะพาพวกน้องเมิ่งกลับแดนมนุษย์

หร่วนฮุ่ยพูดเรื่องน่าสงสัยว่าจอมอสูรเขาหลิงซานเป็นงู น่าจะชอบที่เย็นๆ แต่ทำไมถึงมาจัดงานในเดือนที่ร้อนที่สุดของปี น้องเมิ่งเลยบอกว่าหลิงซานต้องการโชว์ว่าตัวเองแข็งแกร่งต่อหน้าอสูรนับหมื่นนะสิ หลังถกกันถึงรายละเอียดในการเดินทางจนครบหมดแล้ว เฉียนเจินเหรินหันไปถามพี่จี้ว่ายังต้องการอะไรเพิ่มเติมไหม พี่จี้เอาใบรายการมาให้เฉียนเจินเหรินพร้อมสั่งให้จัดการตามนี้ด้วย เฉียนเจินเหรินหยิบมาดูล้วนเป็นเม็ดสน เมล็ดแตง เกาลัดคั่ว ถั่วกรอบ....ล้วนอาหารโปรดน้องเมิ่งทั้งสิ้น5555

พี่จี้จับจูงมือน้องเมิ่งพากันเดินเล่นในเมืองหานเหมิน ทั้งคู่ไปยืนรำลึกอดีตที่สะพานหิน น้องเมิ่งยืนมองหน้าสามีจนเคลิ้ม เพ้อว่ามะก่อนต้องมาทำตัวลับๆล่อๆเพื่อแอบส่องกูหน้าพี่จี้ ยามนี้จะมองเท่าไรก้อได้ พี่จี้ว่ายังมองไม่เบื่ออีกหรอ น้องก้อเพ้อไม่มีวันเบื่อ พี่จี้ก้อว่าน้องงามมองเท่าไรพี่จี้ไม่วันเบื่อเหมือนกัน555 สุดท้ายน้องเมิ่งเขินขอแวบไปซื้อนิยายตัวเองเล่มใหม่มาอ่าน

ที่ยอดเขาฉางซุน อวี๋ฉี่ซูขุดเซิ่นโซ่วออกจากรังหนูผี เพราะทั้งวันมันเอาแต่นอน น้องเมิ่งกลับมาก็เห็นอวี๋ฉี่ซูกำลังกรีดต้นจินซือเถาเพื่อเอาน้ำยางจากต้นไม้ เพราะเฉียนเจินเหรินรับซื้อน้ำยางต้นจินซือเถาแถมให้ราคาดีมาก น้องเมิ่งมองศิษย์ตัวเองเมื่อเทียบกับชุยจิ่ง ก็เห็นภาพลักษณ์ชัดเจนยิ่งระหว่างอวี๋ฉี่ซูหนุ่มชาวสวนบ้านนอก กับชุยจิ่งนักพรตหนุ่มผู้หล่อเหล่า555 

น้องเมิ่งอุ้มเซิ่นโซ่วแล้วบอกให้มันลองพ่นไออสูร เพื่อทดสอบการควบคุมไออสูรสถาวะญาณของมัน ซึ่งตอนนี้นับว่าใช่ได้ เลยบอกให้เซิ่นโซ่วเตรียมตัวให้พร้อม น้องเมิ่งจะพามันกลับแดนอสูร เพื่อให้มันแปลงร่างให้พวกน้องเวลาที่อยู่ในแดนอสูร แต่เซิ่นโซ่วไม่อยากไปเพราะอดีตที่เมื่อก่อนมันอยู่ที่แดนอสูรแล้วเจอะอสูรตัวอื่นไล่โดนทุบตีมันตลอด พี่จี้เลยบอกไม่ต้องกลัว เพราะจะให้เซิ่นโซ่วอยู่ในแขนเสื้อพี่จี้ น้องเมิ่งได้ยินก้อไหน้ำส้มแตกอีกรอบ แต่เซิ่นโซ่วบอกว่าอยากอยู่ในแขนเสื้อน้องเมิ่งมากกว่า ทำเอาน้องเมิ่งอารมย์ดีทันที555

น้องเมิ่งบอกอวี๋ฉี่ซูว่าพวกเขาจะไปแดนอสูรสักพัก ฝากเขาฉางซุนให้อวี๋ฉี่ซูดูแล และเจ้าสำนักจะปิดเขาหานซานเพื่อเตรียมรับศึก แต่อวี๋ฉี่ซูไม่ต้องกลัวเพราะเขาฉางซุนมีค่ายเวทและอุษาไร้เขตขัณฑ์คุ้มครองอยู่ อวี๋ฉี่ซูรู้สึกภูมิใจรับปาก เพียงแต่ถ้าปิดเขาหานซานเขาจะลงไปหาเฉียนเจินเหรินได้ยังไง เฉียนเจินเหรินน่าสงสาร ถ้าเขาไม่ลงไปเฉียนเจินเหรินก็จะเหงาไม่มีคนคุยด้วย เพราะไม่มีใครคบ555 พี่จี้เลยบอกที่ยอดเขาเจ้าสำนักมีค่ายเวทเคลื่อนย้ายไปถึงเมืองหานเหมิน อวี๋ฉี่ซูแอบเข้าไปใช้ได้ พี่จี้ถามอวี๋ฉี่ซูว่าถ้าหานซานเกิดศึกที่ไม่อาจสู้ได้ อวี๋ฉี่ซูจะทำยังไง อวี๋ฉี่ซูบอกจะสู้จนตัวตาย แต่พี่จี้กลับบอกว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ให้พาศิษย์หานซานทั้งหมดหลบหนีให้พ้นภัย จากนั้นให้หาหุบเขาใหม่เพื่อสร้างสำนักหานซานขึ้นมาใหม่ ประมาณว่าคนรอดก็สามารถสร้างสำนักขึ้นใหม่ได้ ถ้าคนตายสำนักก้อเท่าตายไปด้วย พี่จี้กับน้องเมิ่งจะสอนวิชาให้อวี๋ฉี่ซูเพิ่มเติมก่อนพวกเขาจะไปแดนอสูร

เมื่อถึงฤดูร้อน สำนักหานซานประกาศปิดเขา พร้อมเรียกตัวลูกศิษย์ทั้งหมดกลับเข้าสู่สำนัก ทำให้เกิดข่าวลือว่าสำนักหานซานได้รับความเสียหายหนัก หลังเกิดเหตุไท่ซั่งจั่งเหล่าก่อกบฎคิดล้มล้างเจ้าสำนักหานซาน แต่ที่จริงภายในสำนักหานซานกลับคึกคัก เพราะได้ตำราเรียนใหม่จากจี้เซียว แถมยังมีการแข่งขันประลองฝีมือเพื่อชิงรางวัลมากมายจากน้องเมิ่งที่เอามาจากโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนอีก555

เดือนเจ็ดถึงเวลาเดินทางกลับแดนอสูร เฉียนเจินเหรินนั่งรถม้ามาส่งน้องเมิ่งกับพี่จี้ที่ชายแดน จากนั้นทั้งหมดก็นั่งเรือเหาะเดินทางต่อไป ระหว่างเดินทางปี้โหยวกับหร่วนฮุ่ย เล่าแผนการเดินทางและกฎของอสูรที่เปลี่ยนไป 

ในเมืองเฟิงเยวี่ย เหล่าอสูรชั้นต่ำแต่หน้าตาสะสวยก็เตรียมฝึกซ้อมการแสดง เพื่อโชว์ตัวอวดโฉมพร้อมทักษะการแสดงทั้งหลายในงานชุมนุมหมื่นอสูร มีนกหลวนสาวที่เป็นนางรำ เพราะเบื่อหน่ายและได้ยินเพื่อนเล่าถึงภาพเขียนที่สวยเกินจริงในตำหนักใน นางจึงแอบบินเข้าไปเข้าในตึกโดม เสี่ยวหลวนได้พบภาพเขียนที่เป็นรูปอสูรมากมายนับหมื่นที่เหมือนจริงจนน่าตกใจ ทั้งยังเจอะจิตรกรผู้เขียนภาพทั้งหมด เขาเป็นชายหนุ่มรูปงาม นิสัยอ่อนโยนจนนางไม่รู้สึกกลัวเขาเลย 

จนนางออกไปแล้ว ก็มีทหารรีบเข้ามารายงานจากสำนักหมิงเยวี่ยหู ว่าน้องเมิ่งอาจจะยังไม่ตายและมีแนวโน้มว่าเขาจะมาป่วนงานชุมนุมหมื่นอสูร หลิงซานยิ่มรับพร้อมสั่งแม่ทัพอสูรไม่ต้องขัดขวางน้องเมิ่ง ให้ปล่อยน้องเข้ามาในงาน เพราะเขาหวังจะจัดการน้องเมิ่งด้วยตัวเอง

หลังนั่งเรื่อเหาะจนสามารถข้ามแดนนอกพิภพได้อย่างราบลื่นแล้ว ทั้งหมดก็มาถึงแดนอสูร เพื่อติดต่อกับอสูรที่จะมาช่วงนำทางให้เขาเดินทางต่อไปให้ถึงเมืองเฟิงเยวี่ย น้องเมิ่งเห็นคนมารับแล้วก้อสะเทือนใจเพราะลูกครึ่งอสูรในสังกัดเหิงทงจวี้หยวนล้วนดูเหมือนเป็นแรงงานเด็กเกือบหมด555 คนนำทางคือฉู่ฮวาเป็นอสูรแมวเสือดาวตัว คราวนี้พวกเขาต้องเดินทางผ่านเมืองไป๋เหอมีจอมอสูรไป๋เหอเป็นผู้ดูแลเมือง 

หร่วนฮุ่ยก็เมาท์ว่าเจ้าเมืองไป่เหอมีรูปโฉมงดงามมาก ถือได้ว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของแดนอสูร พี่จี้เลยถามน้องเมิ่งว่าเคยเจอะนางไหม น้องเมิ่งก้อตอบซื่อๆว่าไม่แน่ใจเรื่องความสวย แต่ถ้าเทียบความขาว นางขาวหมดทั้งตัว ขาวกว่าน้องที่เป็นเพียงพอนขนขาวสะอีก พี่จี้ได้ฟังก็หน้าอึมครึมทันที ถามว่าน้องเห็นนางหมดทั้งตัวเลยหรอ น้องยังคงตอบแบบซื่อๆว่าใช่มะก่อนนางชอบเรียกพวกเขาไปคพูดคุยปรึกษากันไป นางก้ออาบน้ำไป.....พี่จี้ไหน้ำส้มแตก555 น้องเมิ่งเพิ่งได้สติ รีบจับมือพี่จี้ทันทีแล้วบอกว่าตอนนี้น้องเป็นมนุษย์แล้วไม่สนใจจะดูอสูรตนไหนอาบน้ำแล้ว555

ส่วนปี้โหยวก็เล่าว่าไป่เหอตอนนี้ติดประกาศรับสมัครอสูรที่สามารถบินได้เป็นจำนวนมาก ไม่รู้ว่านางคิดจะทำอะไรอีก ทั้งๆที่นางเป็นอสูรที่อยู่ใต้แม่น้ำ ทั้งหมดเดินทางจนใกล้แม่น้ำ น้องเมิ่งก้อให้เซิ่นโซ่วปล่อยไออสูรมาแปลงโฉมพวกเขา แล้วเดินทางเข้าไปในเมืองทันที พร้อมว่าจ้างอสูรปูยักษ์เป็นพาหนะในการเดินทางในเมือง(น่ารักอะ555) แล้วไปพักกินข้าวที่หอเจินจูที่มีชื่อเสียงดังสุดในเมือง น้องเมิ่งใช้จ่ายพร้อมเปย์เต็มที่ แก็งค์เด็กลูกครึ่งอสูรที่เพิ่งเคยมากินในโรงแรมระดับห้าดาวตื่นเต้นสุดๆ มื้อนี้ทั้งหมดได้ลองชิมอาหารทะเลสุดหรู แต่น้องเมิ่งยังคงกินอาหารแห้งในถุง พี่จี้มองน้องก้อสงสารที่น้องยังคงทำตามสัญญามาสามปีไม่เว้นเลยสักวัน เลยบอกให้น้องกินอาหารทะเล บอกให้กินเพื่อพี่จี้ แล้วพี่จี้ก้อสั่งอาหารโปรดในอดีตให้น้องเมิ่งมามากมาย

ระหว่างกินข้าว ก็มีอสูรโต๊ะอื่นมานั่งโม้เรื่องอดีตของจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน ว่าเมื่อก่อนคิดอยากเป็นคนกำหนดกฎเกณ์ให้เหล่าอสูร ราวกับเขาอยากเป็นพ่อแม่พวกเขา ไม่พอเขายังเคยมาที่เมืองไป๋เหอหลายครั้งเพราะใจคิดไม่ซื่ออยากได้เจ้าเมืองไป๋เหอเป็นเมีย....น้องเมิ่งตกใจหันไปบีบมือพี่จี้ทันทีว่าไมจริ....งน้า555 พร้อมหันไปด่าอสูรโต๊ะนั้นว่าอย่าพูดจาซี้ซัว หลังออกจากร้านอาหาร ระหว่างนั่งรถกลับที่พัก สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย น้องเมิ่งยังเอาใจแก็งค์เด็กน้อยด้วยการให้พวกเขาออกไปซื้ออะไรก็ได้ที่อยากได้ แล้วเดียวน้องเมิ่งจ่ายให้หมดเลย 

จอมอสูรไป๋เหอ ร่างเดิมเป็นอสูรหอยพัด5555 ที่กำลังอาบน้ำในสระน้ำ อสูรปลาไนพ่อบ้านก็เข้ามารายงานว่าวันนี้มีอสูรชั้นสูงเดินทางเข้ามาในเมืองพร้อมบริวาร ทั้งยังใช้เงินมือเติบมาก แต่ไม่อาจสืบที่มาว่าเป็นอสูรตนใด ไป๋เหอสงสัยว่าหรืออสูรตนนี้จะมาสมัครงาน555 หลังนางอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก้อเดินออกมาที่ริมแม่น้ำ เหม่อไปที่ทิศตะวันออกของแม่น้ำไป๋เหอไปยังเขาเฮยซาน ที่ตรงนั้นมีเจดีย์สูงตั้งอยู่ พร้อมเอ่ยมาเพียงเบาๆว่าถ้าจอมอสูรเขาเสวี่ยซานยังอยู่ เขาต้องช่วยนางได้แน่ๆ

น้องเมิ่งที่กำลังเมาได้ที ก้อมอบสร้อยไข่มุกให้พี่จี้พร้อมขอจูบพี่จี้เป็นของแลกเปลี่ยนทันที พี่จี้ต้องกอดรวบตัวน้องไว้ แล้วบอกว่าไว้คุยกันต่อที่ห้องพัก ทั้งหมดไปพักที่โรงเตี๊ยมวั่งเจียงโหลวสุดหรู พวกแก็งค์เด็กหลังได้ของมากมายก้อรีบแยกย้ายไปพักผ่อนห้องของตัวเองทันที555 พร้อมกรีดร้องกับวิวดีๆแต่ดันมาสะดุดตากับเจดีย์สูงที่ดูไม่เข้ากับวิวรอบๆสักนิด และเป็นปี้โหยวที่เล่าที่มาของเจดีย์ว่า เจดีย์เจิ้นเยาคือคุกแรกของแดนอสูร และในวันชุมนุมหมื่นอสูรจะทำพิธีเผาอสูรกบฎโชว์ต่อหน้าเหล่าอสูรทั้งหลาย ตอนนี้แม่ทัพกระสาขาวกับแม่ทัพจิ้งจอกม่วงคือสองแม่ทัพที่คิดก่อกบฎจอมอสูรเขาหลิงซาน แต่กลับโดนหลิงซานจับมาขังไว้ในเจดีย์เจิ้น เพื่อรอจัดการพวกเขาในงานวันนั้น นอกจากนั้นหลิงซานยังจะเผาหนังอสูรเพียงพอนยักษ์ ที่เล่ากันว่าเป็นหนังของจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน

เสี่ยวหลวนยังคงแอบมาดูภาพเขียนในตึกโดม แถมยังดูจนพบว่าในหมู่ภาพอสูรกลับไม่มีภาพของอสูรเพียงพอนในภาพ จิตรกรหัวเราะบอกว่าเขาเคยวาด ว่าแล้วก็หยิบม้วนกระดาษออกมาให้นางดู เป็นภาพเพียงพอนขาวตัวน้อยที่กำลังหลับใหลในกองหิมะภายใต้บรรยากาศค่ำคืน เสี่ยวหลวนชื่นชมภาพวาดที่สวยงามจนนางชมไม่หยุด นางอดไม่ได้ที่จะบอกว่าเสียดายภาพในกำแพงนี้ขาดรูปเพียงพอน จิตรกรรีบบอกว่ามีอสูรกำลังเข้ามา เสี่ยวหลวนรีบบินหลบออกไปทันที เป็นแม่ทัพหมาป่ามารายงานว่าแม่ทัพพยัคฆ์ฝ่าฝืนคำสั่งมุ่งหน้าไปเมืองไป๋เหอ จะให้ทหารออกไปสกัดเขาไว้ก่อนไหม หลินซานบอกปล่อยให้เขาไปเถอะ จะได้เจอะกับตัวเองแล้วจะได้รู้ฝีมือตัวเองสะที

น้องเมิ่งที่เริ่มสร่างเมาก้อเริ่มเดาเรื่องของไป๋เหอได้ ว่านางต้องการอสูรที่บินได้ไปเพื่ออะไร แก็งค์เด็กเลยคิดออกว่าไป๋เหอนางอยากช่วยคนออกจากคุกเจดีย์เจิ้นเยานะเอง พี่จี้รู้ว่าน้องเมิ่งกำลังคิดอะไรก้อพูดออกมาว่าพี่จี้ยินดีช่วยน้องเมิ่งทุกอย่าง น้องเมิ่งเลยบอกว่าอยากช่วยอดีลูกน้องของหลิงซานเพื่อจะได้สอบถามถึงแผนการที่หลิงซานวางแผนหลังหักน้องในครั้งนั้น แก็งค์เด็กหลังแยกตัวมาเข้าห้องพักผ่อน ก้อมาคุยแผนปล่อยสินค้าในเมืองไป่เหอในคืนนี้ก่อนวันพรุ่งนี้จะออกเดินทางต่อ

ส่วนอีกห้องนั้น น้องเมิ่งลากพี่จี้ไปนอนบนเตียงน้ำ พร้อมรีบลงมือแก้เสื้อผ้าพี่จี้เองกับมือ เพราะกลัวพี่จี้จะเอ่ยปากชวนน้องมาอ่านคัมภีร์เต๋าสะก่อน555 จากนั้นรีบปลดเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็ว พี่จี้ก้อเอามือลูบคอลูบหลังน้องเมิ่งก้อตัวอ่อนเหลวลงไปนอนซบอกพี่จี้ เลยโดนถามว่าฝึกจิตตระหนักรู้ขับเคลื่อนสรรพสิ่งไปถึงไหนแล้ว สุดท้ายพี่จี้ก้อบอกน้องเมิ่งยังฝึกไม่ถึงขั้นไม่อาจบำเพ็ญคู่ได้ น้องเมิ่งเสียใจ555 พี่จี้เลยบอกยังมีอีกวิธี เป็นวิธีธรรมชาติแบบดั้งเดิม ขณะทั้งคู่กำลังนัวเนียร่างกายของกันและกัน จวนจะถึงขั้นสุดท้าย เซิ่นโซ่วดันตื่นออกมาจากเสื้อของน้อง....น้องเมิ่งอายมากจนเอาหัวซุกผ้าห่ม555 พี่จี้ต้องสั่งให้เซิ่นโซ่วออกไปข้างนอกที่ดาดฟ้า แล้วอุ้มน้องเมิ่งไปอาบน้ำแล้วถามว่าน้องเมิ่งไม่ชอบหรอ น้องเมิ่งรีบบอกทันทีว่าชอบ555 แล้วน้องสัญญาว่าจะรีบฝึกฝึกจิตตระหนักรู้ขับเคลื่อนสรรพสิ่ง พวกเขาจะได้บำเพ็ญคู่กันสะที พี่จี้ยิ้มแล้วกล่อมน้องเมิ่งให้รีบนอนแทน555

น้องเมิ่งที่รอให้พี่จี้หลับ(ที่จริงพี่จี้รู้ตัวตลอด555) แล้วก็ย่องออกมาหาเซิ่นโซ่ว แล้วจับให้มันสัญญาว่าอย่าโผล่ออกมาดูแบบนี้อีก เซิ่นโซ่วกลับบอกว่าตอนอยู่ที่รังหนูผีเก็บทรัพย์ เขาเห็นพวกมันทำกันออกจะบ่อย ยังไม่เห็นว่าโดนหนูผีว่าเลย ก้อได้ยินเสียงร้องฉู่ฮวาที่ดูเจ็บปวดมาก น้องเมิ่งจะกระดดไปช่วย แต่พี่จี้กลับมายืนข้างหลังน้องเมิ่งแล้วสั่งให้เซิ่นโซ่วปล่อยไออสูร ทำให้ฉู่ฮวาลอยลงมาในมือของหร่วนฮุ่ยพอดี

น้องเมิ่งกับพีจี้ไปหาพวกแก็งค์เด็กที่ห้องข้างๆ ก็พบร่างแมวเสือดาว ขาหลังขวาบาดเจ็บจนเลือดออก ฉูฮว่าเล่าว่าเขาโดนอสูรจระเข้หลอกยืดเอาสินค้าไป อสูรจระเข้เป็นลูกน้องของไป๋เหอ น้องเมิ่งถามถึงลักษณะของอสรูจระเข้ พี่จี้ก้อยิ้มเพราะรู้แล้วว่าน้องเมิ่งคิดจะทำอะไร555 พอกลับห้องพัก น้องเมิ่งก็รีบบอกพี่จี้ทันทีว่าจะไปสั่งสอนอสูรจระเข้ แต่เจอะพี่จี้ดักคอว่าที่จริงน้องจะหาเรื่องไปพบไป๋เหอเพื่อไปแย่งชิงนักโทษมากกว่า เมื่อแผนตัวเองโดนเปิดโป่ง 

น้องเมิ่งตกใจแต่พี่จี้กลับโกธรมาก แล้วพูดเรื่องที่น้องเมิ่งยังคงไม่เชื่อใจพี่จี้ กันตัวพี่จี้ออกจากน้องเมิ่งตลอด พี่จี้เลยว่าถ้างั้นพวกเรามาเลิกกันดีกว่า ต่างคนต่างไปหาคู่บำเพ็ญเพียรคนใหม่ละกัน น้องเมิ่งตกใจที่พี่จี้จะไล่น้องไปหาคนแต่งงานใหม่ น้องโกธรมากแล้วบอกว่าถ้างั้นก้อไปด้วยกัน ตายก้อตายด้วยกัน รอดก็รอดด้วยกันก้อแค่ปล้นคุกเจดีย์เจิ้นเยาเอง พี่จี้ถึงจะพอใจแล้วพาน้องมานั่งหน้ากระจก แล้วเอาหวีไม้หน่ายวายุมาสางผมให้น้องเมิ่งจนสบายไปทั้งหัว จากนั้นทั้งคู่ก็คุยเรื่องแผนการพรุ่งนี้

อสูรจระเข้เอาสินค้าที่ยึดมาได้เมื่อคืน เอาของมาส่งส่วยให้อสูรตะพาบน้ำ แล้วพาอสูรสาวเข้าห้อง กลับโดนพี่จี้ฟาดจนกลายร่างเดิมเป็นจระเข้ แถมพี่จี้ใช้เวทปิดปาก ส่วนน้องเมิ่งก้อเริ่มทุบตีจระเข้จนน่วม555 หลังสะใจก้อข่มขูจระเข้ให้ส่งจดหมายนี้ใส่ในกองสมบัติที่มันปล้นไปมะคืน ให้ส่งไปให้ไป๋เหอ จระเข้หลังโดนสั่งสอนแถมเห็นสัญญาลักษณ์ของจอมอสูรเขาเสวี่ยซานบนจดหมาย ก้อไม่กล้าบิดพริ้วรีบรับคำตามสั่งทันที จากนั้นสองสามีภรรยาก้อเดินไปหาอะไรอร่อยๆกินตามทางต่อ555

หลังน้องเมิ่งซื้ออาหารเช้าไปฝากแก็งค์เด็กที่โรงเตี๊ยม หลังกินข้าวมื้อเช้าเสร็จ ก็มีขบวนทหารสัตว์น้ำของไป๋เหอมารับพวกเขาเข้าไปพบนางที่ตำหนัก แก็งค์เด็กตกใจกลับร่างเดิมกันหมด น้องเมิ่งไม่อยากให้พวกมันไปซุกอยู่ในเสื้อพี่จี้(น้องหวงพี่จี้มาก555) เลยให้พวกมันมาซุกในแขนเสื้อของน้องแทน

ทหารพาพี่จี้กับน้องเมิ่งเข้าตำหนักใน และเช่นเคยไป๋เหอกำลังอาบน้ำอยู่555 น้องเมิ่งได้ยินก้อร่างเซทันที พี่จี้รีบมารับโอบน้องไว้ แถมบอกว่าน้องเมิ่งตื่นเต้นที่จะได้พบเพื่อนเก่าขนาดนี้หรอ(พี่จี้ไหน้ำส้มแตกอีกรอบ55) พี่จี้เอาสร้อยไข่มุกมาเล่นทำให้น้องเมิ่งถึงเรื่องที่กระทำในคืนนั้น ก้ออายทันที555 พี่จี้เลยถามว่าทำไมเวลานางเรียกน้องไปคุยด้วยที่ไร นางจะต้องอาบน้ำเวลานั้นทุกที น้องเมิ่งเลยบอกว่าเวลานางอาบน้ำ นางจะกลายร่างไปเป็นร่างดั้งเดิม แล้วชี้พี่จี้ให้ดูหอยพัดยักษ์ที่อ้าๆหุบๆอยู่ในสระ55555 พี่จี้เห็นร่างของไป๋เหอแล้วก็ได้แต่ขอโทษน้อง แต่น้องเมิ่งคาดโทษพี่จี้ ว่าพอกลับที่โรงเตี๊ยมแล้วพี่จี้ต้องยอมให้น้องจูบหนึ่งที555

หอยพัดยักษ์ทักทายแล้วกลายร่างเป็นสาวงามขึ้นมาจากสระน้ำ แล้วถามว่าจอมอสูรเขาเสวี่ยซานตายแล้วจริงหรือ น้องเมิ่งบอกตายแล้ว แต่ไป๋เหอกลับบอกว่านางไม่เชื่อ ให้เขาไปบอกจอมอสูรเขาเสวี่ยซานให้กลับมาแต่งงานกับนางสะดีกว่า น้องเมิ่งรีบหันไปมองพี่จี้...555 แล้วบอกว่านางอยากช่วยแม่ทัพกระสาขาวกับแม่ทัพจิ้งจอกม่วงไม่ใช่รึไง ไป๋เหอบอกเจดีย์เจิ้นเยามีสามชั้น ชั้นล่างไม่มีคน ใต้ดินมีเซิ่นโซ่วพันปีปล่อยไออสูรสร้างภาพมายาลวงใจคน จนทำให้พลาดตกลงไปในทะเลเพลิงจนตาย นางเสียผู้ช่วยฝีมือดีไปสามคน นางจึงเลิกล้มจะเข้าไปข้างในเจดีย์เจิ้นเยา แต่ด้านบนมีแม่ทัพเหยี่ยวคุ้มกันยากจะตีฝ่าเข้าไป 

ไป๋เหอถามความมั่นใจในการลงมือน้องมั่นใจแปดส่วน ไป่เหอถามข้อแลกเปลี่ยน น้องเมิ่งขอร้านค้าทำเลๆในเมืองไป๋เหอเป็นของตอบแทน แล้วปล่อยแก็งค์เด็กออกมาให้ไป๋เหอได้เห็นหน้าตาไว้ก่อน ไป๋เหอตกลง พร้องสั่งบ่าวจัดโต๊ะอาหารเลี้ยงต้อนรับพวกของน้องเมิ่งทันที

ไป๋เหอถามว่าน้องจะลงมือเมื่อไร พี่จี้บอกว่าคืนนี้555 ไป๋เหอถูกใจมาก จากนั้นทังหมดนั่งวางแผนพร้อมให้ดูแผนที่เพื่อกำหนดตำแหน่งที่จะหนีต่อ พี่จี้ถามจะให้ทำยังไงกับสองแม่ทัพ ไป๋เหอบอกแล้วแต่พวกเขา ขอแค่พวกเขาสองคนปลอดภัยออกมาจากคุกก็พอ แล้วไป๋เหอให้พลุไฟไว้ยิงเพื่อบอกว่าชิงนักโทษสำเร็จ นางจะพาทหารของนางไปช่วยล่อหลอกของทหารเฮยซาน เพื่อให้พวกน้องได้มีเวลาหนี หลังตกลงแผนการได้แล้ว ก้อไปเตรียมตัวรอเวลา แก็งค์กรรมกรเด็กตกใจหลังน้องเมิ่งบอกว่าตัวเองคืออดีตจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน555

ที่เจดีย์เจิ้นเยามีแม่ทัพเหยี่ยวดำดูแล ที่ชั้นล่างของเจดีย์มีอสูรทหารยามเฝ้าอยู่ หร่วนฮุ่ยกลับร่างเป็นกระต่ายทำทีเดินหลงมา ทำให้อสูรทหารยามที่อดยากอาหารมานานวิ่งไล่ตามจะจับน้องมาย่างกิน555 หร่วนฮุ่ยวิ่งหลอกให้ทหารยามตามออกมาสองตน จนโดนเซิ่นโซ่วพ่นไออสูรสะกดพวกมันไว้พร้อมได้กุณแจประตูเจดีย์ พี่จี้กับน้องเมิ่งให้เซิ่นโซ่วแปลงร่างแล้วกำลังจะเดินกลับไปที่เจดีย์ทันที ก้อเจอะยามอสูรตามมาทวงเนื้อกระต่าย น้องเมิ่งเลยยื่นถุงที่ใส่มุกวิเศษยื่นให้ บอกว่ากระต่ายหนีไปได้ แต่ดันทำถุงนี้หล่นไว้ ยามอสูรได้กลิ่นกระต่ายจากทั้งคู่เลยไม่เชื่อ กลับคิดว่าทั้งคู่แอบกินเนื้อกระต่ายจนหมดแล้วมากกว่า มันเลยคว้าถุงสมบัติไปเป็นของตัวเองทันที เพื่อเป็นค่าปิดปากที่ทั้งคู่แอบกินกระต่ายแล้วไม่แบ่งเพื่อน แล้วตกลงให้พี่จี้กับน้องเมิ่งไปแลกเวรส่งอาหารให้นักโทษในเจดีย์แทน เพื่อจะไม่ให้ใครได้กลิ่นกระต่ายจากทั้งคู่แทน ส่วนตัวเองจะได้ไม่ต้องแบ่งสมบัติให้ใคร

ทั้งคู่เดินผ่านชั้นหนึ่งได้อย่างสบายๆ มีเซิ่นโซ่วพ่นไออสูรเพื่อไม่ให้ผิดกลิ่น อากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ เพราะสระเพลิง เดินมาจนถึงสะพานข้ามสะเพลิง เซิ่นโซ่วรีบบอกว่าเฒ่าเซิ่นพันปี รู้ตัวแล้วว่ามีไออสูรแปลกปลอมเข้ามา พี่จี้เอาผ้าไหมมาปิดตาน้องเมิ่งทันที่ เพื่อกันน้องเมิ่งจะโดนภาพลวงตาของเฒ่าเซิ่นพันปีเล่นงานเอา พี่จี้เดินจูงมือน้องเมิ่งข้ามสะพาน เพราะโดนปิดตาทำให้น้องเมิ่งจิตสำนึกทั้งหมดคิดถึงแต่การเคลื่อนไหวของพี่จี้แทน เฒ่าเซิ่นพันปีเริ่มพ่นไออสูรออกมา ปี้โหยวกับหร่วนฮุ่ยโดนไอมายาจะวิ่งออกมาเจอะน้องเมิ่งฟาดจนสลบแล้วเก็บทั้งคู่ลงแขนเสื้อ55

พี่จี้โดนภาพมายาของเฒ่าเซิ่นพันปี ทำให้เห็นภาพสำนักหานซานกำลังโดนรุมทำร้ายจากคนนอกสำนักมากมาย  โดยมีปรมัตถ์กุยชิงกับไท่ซั่งจั่งเหล่าเป็นหัวโจกนำคนนอกขึ้นมาโจมตีหานซาน แล้วเห็นตัวพี่จี้มาช่วยโดยมีอวี๋ฉี่ซูโยนอุษาไร้เขตขัณฑ์มาให้เขาทันที แต่พี่จี้กลับแค่ใช้จิตทำลายอุษาไร้เขตขัณฑ์แทน ภาพมายาก้อบิดเบี้ยวสลายไป กลับมีห่าธนูยิงออกจากผนังสี่ด้านแทน พี่จี้ตวัดกระบี้ปัดลูกธนูออกจนหมด หมอกควันกลับก่อเป็นภาพที่ผาเจียเทียน หูซื่อที่ยังเยาว์วัยแต่ร่างกายกลับอ่อนแอ เพราะผ่านการเจ็บป่วยหนักมากก่อน กำลังโดนเพื่อร่วมสำนักเหยียดหยาม ว่าทั้งศิษย์และอาจารย์ล้วนขี้ขลาด หูซื่อจึงท้ากระโดดลงหน้าผาทดสอบความกล้า ระหว่างที่หูซื้อกะลังตกลงไป พี่จี้กลับยังคงจิตแกร่งจูงมือน้องเมิ่งเดินต่อไป 

เฒ่าเซิ่นพันปีเริ่มสนใจมนุษย์สองคนนี้ ที่สามารถทนต่อภาพมายาที่มันพ่ออกมาได้ เริ่มพ่นไออสูรออกมาอีก พี่จี้เห็นอาจารย์ที่เดินออกมาเรียกเขา แต่เจอะพี่จี้เอากระบี่ฟันจนภาพสลายไป ก้อมีภาพน้องเพียงพอขาวที่ได้รับบาดเจ็บในกองหิมะกำลังเรียกให้พี่จีช่วยเหลือ แต่พี่จี้ก้อไม่หวั่นไหวจูงน้องเมิ่งเดินไปเรื่อยๆ ภาพกลับมาเป็นประตูสวรรค์ที่เปิดออกพร้อมเสียงชวนเชิญให้ก้าวขึ้นสู่สรวงสวรรค์ พี่จี้ก้อใช้ไอกระบี่ตัดทำลายช่องประตูสวรรค์แทน ในที่สุดพี่จี้จูงมือน้องเมิ่งข้ามสพานมาถึงอีกฝั่งสำเร็จ พี่จี้แกะผ้าผูกตาให้น้องเมิ่ง แล้วโดนน้องเมิ่งชมว่าสามีน้องเก่งที่สุด555 แล้วพี่จี้ถามว่าน้องเมิ่งท่องคาถาบทไหน น้องเมิ่งบอกว่าแค่ท่องชื่อพี่จี้เอง...หวานสะ

เพราะพี่จี้ไม่โดนภาพมายาลวงทำร้ายได้เลย ทำให้เฒ่าเซิ่นพันปีโมโหมากจึงยอมโผล่ตัวจริงขึ้นมาจากสระเพลิง พี่จี้ให้น้องเมิ่งล่วงหน้าไปช่วยนักโทษก่อน ตัวพี่จี้หันไปจะสุ้กับเฒ่าเซิ่นพันปี แต่เซิ่นโซ่วกลับนับถือและชื่นชมเฒ่าเซิ่นพันปีแทน เซิ่นโซ่วกระโดออกจากแขนเสื้อพุ่งตัวลงไปหาเฒ่าเซิ่นพันปี เพื่อจะถามว่าถ้าตัวเองขยันหมั่นเพียรมากๆ แล้วเขาจะสามารถเก่งได้แบบเฒ่าเซิ่นพันปีได้ใช้ไหม55 เฒ่าเซิ่นพันปีตอนแรกพ่นไฟออกมาต่อต้านสิ่งที่พุ่งมาตรงหน้า แต่พอเห็นว่าเป็นเซิ่นโซ่วที่เป็นเผ่าเดียวกันแถมยังตัวเล็กกระจิ๋ว ก้อรีบเปลี่ยนลูกไฟเป็นเมฆเพื่อรองรับตัวของเซิ่นโซ่วแทนแทบไม่ทัน พอเห็นหน้าตาเซิ่นโซ่วน้อยที่ตัวขาวรูปร่างหน้าตาน่าเอ็นดู ก็รู้สึกอายตัวเองที่หน้าตาและรูปกายอัปลักษณ์ 

เพราะเฒ่าเซิ่นพันปีฝึกบำเพ็ญในสระเพลิง ทำให้รูปกายแต่เดิมเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิมจนอัปลักษณ์ ทำให้มันต้องหลบซ่อนตัวอยู่ใต้เจดีย์ แต่เซิ่นโซ่วน้อยกลับมองตอบเฒ่าเซิ่นพันปีด้วยตาแป๋วแหว๋วที่เต็มไปด้วยความศรัทธา พร้อมสาบานว่าเขาอยากเป็นเหมือนเฒ่าเซิ่นพันปีแทน เซิ่นโซ่วน้อยเอื้อมมือไปสัมผัสหน้าเฒ่าเซิ่นพันปีด้วยสายตาลุ่มหลง แต่กลับโดนเกล็ดที่ร้อนจากสระเพลิง ทำให้เจ็บปวดจนต้องร้องออกมา ทำให้เฒ่าเซิ่นพันปีได้สติสั่งเมฆที่เซิ่นโซ่วน้อยนั่งอยู่ให้ลอยออกไป แล้วไล่ให้เซิ่นโซ่วน้อยออกๆป ส่วนตัวเองก้ออายมุดลงใต้ดินแทน แต่เซิ่นโซ่วน้อยตะโกนตามหลังว่าเขาหลังบำเพ็ญเพียรอีกพันปี แล้วเขาจะกลับมาหาเฒ่าเซิ่นอีกครั้ง พี่จี้และน้องเมิ่งเดินขึ้นชั้นสอง

กองกำลังอสูรที่มาจากเมืองเฟิงเยวี่ยเดินทางมาถึงเขตเฮยซาน ทหารกองนี้เป็นของแม่ทัพพยัคฆ์ ที่ออกมาตามล่าอสูรเพียงพอน ก็เพื่อจะเอาใจเอาหน้ากับจอมอสูรเขาหลิงซาน ส่วนไป๋เหอพากองกำลังมายืนข้างแม่น้ำ แล้วเหม่อมองดูเจดีย์ตรงหน้า

ที่ชั้นสอง ไม่มีทหารเฝ้า น้องเมิ่งทำลายประตูนอก พี่จี้ไขกุญแจประตูเหล็กเข้าไป ก็มีไอเย็นออกมา ข้างในมืดมากจนน้องเมิ่งต้องใช้กาลมิสิ้นผ่านผันเป็นคบไฟทส่องทาง ก้อมีเสียงด่ารัวๆๆออกมาไม่หยุด555 เป็นแม่ทัพนกกระสาขาวที่โดนโซ่เจาะกระดูกพันธการร่างกายตรึงไว้ที่กลางห้อง พี่จี้บอกว่าโซ่เจาะกระดูกเป็นอาวุธเวทจากแดนมนุษย์ แม่ทัพนกกระสาขาวตกใจที่พี่จี้สามารถใช้กระบี่ตัดโซ่ขาดออกมาได้ง่ายๆ น้องเมิ่งเอาสัญญาลักษณ์ของจอมอสูรเขาเสวี่ยซานมาให้แม่ทัพดู ทำให้เขาเข้าใจผิดนึกว่าพวกน้องเป็นลูกน้องเก่าของจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน ที่มารวมตัวกันมาโค่นจอมอสูรเขาหลิงซาน แม่ทัพนกกระสาขาวเลยปฎิเสธที่จะร่วมมือกับน้องเมิ่ง 

แต่กลับเจอะน้องเมิ่งถามเรื่องสาเหตุของแผนการร้าย ที่จอมอสูรเขาหลิงซานหักหลังจอมอสูรเขาเสวี่ยซานแทน แม่ทัพนกกระสาขาวกลับบอกว่าถึงจอมอสูรเขาหลิงซานไม่ทำ ก็จะมีอสูรตนอื่นลงมือแทนอยู่ดี เป็นเพราะแนวคิดน้องเมิ่งที่จะเปลี่ยนโลกอสูรให้อยู่อย่างเท่าเทียม ทำลายกฎอสูรที่ใครแกร่งคนนั้นได้คุมอำนาจต่างหาก ที่ทำให้อสูรส่วนมากไม่พอใจจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน จนทำให้เกิดการร่วมมือของเหล่าอสูรในการหาทางสังหารจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน ส่วนเขาเองที่ก่อกบฎก้อเพราะทนไม่ได้ที่จอมอสูรเขาหลิงซานจิตใจเหี้ยวโหดเกินไป ก็พอดีได้ยินเสียงทหารกำลังเดินขึ้นมา แม่ทัพนกกระสาขาวบอกเพดานมีทางขึ้นชั้นสาม พี่จี้ใช้กระบี่ฟันเพดานถล่มลงมา555

น้องเมิ่งให้แม่ทัพนกกระสาขาวย่อตัวให้เล็กลงแล้วจับยัดใส่แขนเสื้อ เมื่อขึ้นมาที่ชั้นสามกลับเจอะป่าไผ่ บ่อปลากับกระท่อม ข้างๆมีจิ้งจอกม่วงตัวอ้วนนั่งหลับเฝ้าหม้อต้มน้ำแกงอยู่555 เฟยอวี่แม่ทัพนกกระสาขาววิ่งไปตบหัวของชื่อชูจิ้งจอกม่วงทันที พอทั้งคู่เห็นหน้ากันก็ทักทายกันเสียงดังลั่น ชื่อชูถามว่าพวกน้องเมิ่งเป็นใครถึงมาช่วยเหลือพวกเขา น้องเมิ่งเลยบอกว่าไป๋เหอส่งพวกเขาให้มาช่วย ชื่อชูกลับนึกถึงเมนูหอยพัดนึ่งกระเทียมแทน555 แต่ก็มีเสียงทหารมากมายกำลังมาทางนี้ น้องเมิ่งจับคอชื่อชูเพื่อพาหนี กลับพบว่ามันตัวหนักมากแถมยังมีโซ่ล่ามขาอีก พี่จี้ใช้กระบี่ฟันโซ่ที่ล่ามขาจนขาด

ชื่อชูเล่าว่าตัวเองโดนจอมอสูรหลอกให้สร้างเจดีย์เจิ้งเย่าขึ้นมา สุดท้ายพบว่าตัวเขากลับโดนจับมาขังไว้ในที่นี้เอง ชื่อชูเลยพาพวกเขามาซ่อนตัวที่อุโมงค์ลับ เพื่อหลอกพวกแม่ทัพเหยี่ยวให้ออกตามหาพวกเขาไปทั่วภายในเจดีย์ จากนั้นพี่จี้ก้อระเบิดกำแพงขี่กระบี่หนีขึ้นฟ้า

ทหารยามสองตนที่คลายจากไออสูรของเซิ่นโซ่ว ก้อรีบวิ่งไปรายงานแม่ทัพเหยี่ยวทันที กว่ามันจะนำทหารตามขึ้นมาต้องเจอะกับทะเลเพลิงที่ปั่นป่วนหนักมาก จากเฒ่าเซิ่นพันปีที่ดูจะอารมย์ไม่ดี พอมาถึงคุกที่คุมขังก็พบว่านักโทษหายไปแล้ว

เหนือเจดีย์เจิ้งเย่ามีพลุดอกไม้ไฟถูกยิงขึ้นท้องฟ้า จอมอสูรหมีดำเฮยซานที่กำลังเมาได้ที่ก็เจอะทหารวิ่งเข้ามารายงานด่วนว่านักโทษในเจดีย์เจิ้งแหกคุกหนีออกไปได้แล้ว จอมอสูรหมีดำเฮยซานรีบสั่งทหารรวมพลเตรียมออกตามล่านักโทษ ส่วนแม่ทัพพยัคฆ์ที่เห็นพลุยิงขึ้นฟ้าได้ ก็แน่ใจว่ามีนักโทาหลบหนีออกมาเจดีย์แน่ๆ ก็รีบสั่งทหารให้เตรียมไล่ล่านักโทษเพื่อเอาหน้าทันทีเหมือนกัน ไป๋เหอที่ยืนรอดูสัญญาณจากพวกน้องเมิ่ง ก็มีทหารมารายงานนางว่าที่เจดีย์เจิ้งเย่าเกิดไฟไหม้หนักมาก ไป๋เหอสั่งเคลื่อนพลตามแผนทันที 

ตอนที่พี่จี้ขี่กระบี่พาทุกคนหนี น้องเมิ่งคิดแผนได้ให้พี่จี้บินเฉียวให้น้องเมิ่งไปคว้าคบไฟ้ จากนั้นก้อวางเพลิงเจดีย์เจิ้งเย่า เซิ่นโซ่วน้องก้อตะโกนเรียกหาเฒ่าเซิ่นพันปี บอกว่าตัวเองต้องจากไปก่อน แต่ว่าน้องเซิ่นโซ่วจะกลับมาหาเฒ่าเซิ่นแน่ๆ ให้รอน้องเซิ่นโซ่วด้วย เฒ่าเซิ่นกลับตะโกนไล่ให้น้องเซิ่นโซ่วรีบจากไปเร็วๆ ส่วนตัวเองก้อดินหนีไป(เพราะอายที่ตัวเองขี้เหล่ส่วนเซิ่นโซ่วน้อยนั้นหน้าตางดงามมาก) 

ระหว่างที่บินหนี ชื่อชูเห็นทองกำลังแม่ทัพพยัคฆ์กับแม่ทัพเฮยซานในป่าด้านล่าง แต่น้องเมิ่งกลับไม่กลัว กลับแกล้งส่งปราณเสียงไปหลอกสองทัพของแม่ทัพพยัคฆ์กับแม่ทัพเฮยซาน ว่าต่างฝ่ายต่างเป็นทัพเสริมของนักโทษแหกคุก เลยทำให้แม่ทัพพยัคฆ์กับแม่ทัพเฮยซานยกพวกตีกันเอง เพราะต่างฝ่ายต่างแอบออกมา โดยไม่มีคำสั่งหรือการตกลงกันมาก่อน แถมต่างฝ่ายยังไม่เคยเจอะกันมาก่อนอีก555 ไป๋เหอฉวยโอกาสทำการจับกุมพวกของแม่ทัพพยัคฆ์กับแม่ทัพเฮยซานทั้งหมด ด้วยข้ออ้างว่ามาช่วยปกป้องเจดีย์เจิ้งเย่า แล้วสั่งน้ำมาดับไฟ แต่เจดีย์โดนเผาจนถล่มลงมาแทน555

แต่บินไปได้สักพัก กองกำลังบินได้ของแม่ทัพเหยี่ยวก้อบินตามมาด้านหลังพวกเขา น้องเมิ่งคิดแผนออก  ว่าแล้วตบหัวเฟยอวี่แม่ทัพนกกระสาขาว ให้ด่าแม่ทัพเหยี่ยวให้แรงสุดๆเดียวนี้ แม่ทัพเหยี่ยวโดนด่าพ่อล่อแม่ก็ตกหลุมพราง มันโกธรจัดจนไม่สนใจบัญชากองทัพให้ล้อมบินจับพวกน้องแล้ว แต่กลับบินเข้าหาโจมตีด้วยตัวเอง เพื่อจะได้ทุบตีพวกน้องให้หายแค้นโดยตรง แถมเจดีย์ที่มันทำหน้าที่เฝ้าดูแลก้อมาพังทลายลงกับตา มันจึงต้องสังหารนักโทษให้ได้เพื่อจะได้ขอลดโทษจากจอมอสูรเขาหลิงซาน มันรีบรวมกำลังบินพุ่งเข้าหาพี่จี้ที่ขี่กระบี่ตรงหน้า แต่เจอะน้องเมิ่งกระโดดตัวขึ้นมาขี่หลังมัน.....จบเล่มสองแล้ว...น้า


เล่ม3

ฝั่งที่เมืองเฟิงเยวี่ย จิตรกรกำลังผสมสี เสี่ยวหลวนยังคงลอบเข้ามาพูดคุยกับเขาที่ตึกโดมเหมือนเคย วันนี้นางพยายามทายร่างเดิมของเขา ว่าเป็นอสูรกิ่งก้าเปลี่ยนสีได้ แต่จิตรกรบอกร่างเดิมของเขาคืองู  เสี่ยวหลวนบอกว่าเขาคือเพื่อนคนแรกของนาง นับจากทีนางมาอยู่ที่เมืองนี้ พร้อมยังชวนให้เขามาดูการแสดงของนางในวันงานด้วย ในที่สุดก็มีทหารวิ่งเข้ามารายงานล่าสุด เจดีย์เจิ้งเย่าโดนวางเพลิงจนถล่มลงมาแล้ว นักโทษสองตนหลบหนีออกไปได้ หลิงซานไม่ได้แสดงอาการเกรี้ยวกราดอย่างที่ทหารกลัว เพียงออกคำสั่งเรียกแม่ทัพพยัคฆ์กลับมาเมืองเฟิงเยวี่ยด่วยเพื่อมารับโทษ ให้แม่ทัพเฮยซานกับแม่ทัพเหยี่ยวรวมมือกัน พร้อมปิดพื้นที่ตามล่านักโทษ พร้อมกันนั้นหลิงซานแอบยิ้มดีใจที่น้องเมิ่งมาแดนอสูรแล้วแถมยังเก่งกาจเช่นเดิม

น้องเมิ่งกระโดดขี่หลังแม่ทัพเหยี่ยว แล้วก้อลงมือรัดคอจนมันหันหัวไม่ได้ ทำได้เพียงบินขึ้นลงหวังสลัดน้องเมิ่งให้ตกลงจากหลังมันลงไป แต่น้องเมิ่งที่เคยขี่หลังเซียนหมิงมาก่อน ยอมไม่กล้วการบินโฉบเฉี่ยวขึ้นลงกระทันหัน หรือบินชนสิ่งกีดขวางทั้งหลาย555 หลังมันโดนน้องเมิ่งรัดคอนานจนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ก้อเริ่มออกอาการหน้ามืด จนมันตัดสินใจจะบินชนหน้าผาให้ตกตายไปทั้งคู่ มันเร่งความเร็วจวนจะใกล้หน้าเพียงไม่กี่เมตร น้องเมิ่งก้อถีบตัวออกมาแล้วดีดตัวเองขึ้นไปบนหน้าผาแทน ส่วนแม่ทัพเหยี่ยวก้อกระแทกหน้าผาอย่างแรง จนร่างร่วงตกหน้าผาร่างแหลกทันที

เฟยอวี่กับชื่อชูที่เห็นน้องเมิ่งขี่หลังแม่ทัพเหยี่ยวอย่างมั่นคง ต่างนับถือความเก่งกาจของน้องมาก ชื่อชูที่เดาที่มาของน้องว่าเป็นจอมอสูรเขาเสวี่ยซานยิ่งสับสนที่น้องเมิ่งกลับไม่มีกลิ่นอายอสูรสักนิด แถมยังไม่ยอมเปลี่ยนร่างกลับเป็นจอมอสูรเขาเสวี่ยซานอีก....แต่ถึงกระนั่นน้องเมิ่งก็ก้อยังเก่งเหลือเกิน แต่พวกมันสองตัวยังไม่มั่นใจว่าแม่ทัพเหยี่ยวจะตายจริงไหม เลยอยากให้พี่จี้บินลงไปดูซากแม่ทัพเหยี่ยวหน่อย ถ้ายังไม่ตายจะได้ตีซ้ำให้ตายสนิท พี่จี้บอกไม่จำเป็น ถ้าจะตามมาล้างแค้นก็เชิญ พร้อมต้อนรับ5555 เพียงแต่สั่งให้เฟยอวี่กับชื่อชูว่า ถ้าพบหน้าน้องเมิ่งให้พวกเขาชมว่าน้องเมิ่งเก่งมาก...อย่าลืมชมน้องเด็ดขาด5555

พี่จี้ขี่กระบี่ไปหาน้องเมิ่งที่หน้าผา เฟยอวี่กับชื่อชูก็รีบอวยน้องเมิ่งทันทีจนน้องเมิ่งเขินมาก5555 ส่วนพี่จี้เรียกน้องเมิ่งให้เดินมาหา เพื่อพี่จี้จะได้เอาหวีไม้เบื่อพิรุณมาหวีผมน้องเมิ่งที่ยุ่งๆฟูๆให้กลับมาเรียบสวยดั้งเดิม(อิจฉาน้องเมิ่งละเกิน สามีต้องรักน้องมากขนาดไหนเนี่ย) ส่วนน้องเมิ่งกระโดดดีใจแถมยังสบายหัวที่สามีหวีผมให้อีก น้องก้อเอียงหัวถูไถพี่จี้อย่างมีความสุข ทำให้เฟยอวี่กับชื่อชูสงสัยในความสนิทสนมของทั้งคู่555 น้องเมิ่งเลยถามชื่อชูมีสัญญาลับอะไรกับไป๋เหอหรือเปล่า ชื่อชูเลยให้พี่จี้พาไปที่สถานที่หนึ่งเพื่อจะไปดูว่าไป๋เหอมาพบเขารึป่าว

ที่บริเวณแม่น้ำไป๋เหอติดกับดินแดนเขาเฮยซาน ไป๋เหอเดินถือโคมไปนั่งที่ก้อนหินใหญ่พร้องเปล่งเสียงร้องเพลง ชื่อชูเดินไปหานางพร้อมกับเฟยอวี่ ไป๋เหอปฎิเสธที่จะร่วมมือล้างแค้นจอมอสูรหลิงซาน แถมยังปาของพร้อมด่าพวกเขาตามหลังมาอีก น้องเมิ่งสงสัยทำไมคุยกันเร็วจัง เฟยอวี่บอกโดนนางด่าจนต้องวิ่งหนีกลับมา น้องเมิ่งสงสัยความนางด่าเก่งกว่าเฟยอวี่อีกหรอ เฟยอวี่บอกเหนืออสูรยังมีอสูร555

น้องเมิ่งถามว่าทั้งคู่จะทำยังไงต่อ เฟยอวี่กับชื่อชูบอกจะขอติดตามน้อง น้องเมิ่งบอกเขาไม่ใช่จอมอสูรเขาเสวี่ยซานแล้ว แถมมาคราวนี้เพื่อมาตามหาเพื่อนรักเท่านั้น แต่เฟยอวี่กับชื่อชูถามว่าจอมอสูรเขาเสวี่ยซานไม่คิดแค้นจะเอาคืนหลิงซานบ้างหรอ น้องเมิ่งดูตามแต่สถาณการก่อน55 แล้วน้องเมิ่งก้อขอแยกกับพวกเฟยอวี่กับชื่อชูเพื่อจะรีบเดินทางไปเมืองเฟิงเยวี่ย

พี่จี้รู้ว่าน้องเมิ่งซึมเรื่องที่ตัวเองโดนอสูรรุมหัวกันวางแผนฆ่า เพราะกฎเกณฑ์ที่น้องเป็นคนคิดว่ามันดีกับอสูรทั้งหมดในแดนอสูร แล้วเล่าว่าตัวพี่จี้เองก็เคยสร้างกฎเกณฑ์เพื่อจัดระเบียบใหม่ เพราะพี่จี้ไม่ชอบกฎเกณฑ์ที่ไท่ซั่งจั่งเหล่าเป็นคนตั้ง จนต้องลงมือสังหารคนในหานซานจำนวนหนึ่ง กฎที่พี่จี้คิดว่าทำให้ทุกคนสามารถได้รับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน และยิ่งเข้าสู่การเป็นปรมัตถ์ เพื่อโลกของผู้บำเพ็ญและแดนมนุษย์ พี่จี้ถึงกับต้องลงมือฆ่าคนจำนวนมาก

ทำให้เขากับหูซื่อมีแนวคิดที่ต่างกัน หูซื่อคิดว่ายิ่งบำเพ็ญใกล้ถึงระดับฟ้าดินเตรียมขึ้นแดนเซียน ก็ไม่ควรให้มือตัวเองแปดเปื้อนเรื่องของทางโลก แต่สามารถยืมมือคนอื่นลงมือแทน แต่พี่จี้คิดว่าเราไม่ควรใช้ทางลัด แล้วใช้วิชานอกรีตทั้งหลายมาเป็นตัวช่วยในการบรรลุขึ้นแดนสวรรค์ แต่ในที่สุดพี่จี้ก้อเข้าใจว่าคนเราหากอยากจะคบกันให้ยาวนาน ก็ควรจะเปิดใจยอมรับความแตกต่างของกันและกัน

น้องเมิ่งฟังเรื่องที่พี่จี้เล่าเรื่องทั้งหมด ก็ประมวลผลได้ว่าพี่จี้ทำให้น้องเมิ่งเห็นว่าหลิงซานไม่ใช่จอมอสูรที่ดีไม่ได้ น้องก็ไม่จำเป็นต้องทนมัน ส่วนถ้าเจอะเซียนหมิงอีกครั้ง แล้วยังคงทะเลาะกันอีกเพราะความเห็นที่แตกต่าง ก้อยังสามารถคบเซียนหมิงต่อได้555 พี่จี้พยักหน้ารับน้องเมิ่งสบายใจจนอยากจะจูบพี่จี้ละเกิน น้องเมิ่งเลยเขย่งขาขึ้นจะจูบพี่จี้ ส่วนพี่จี้ก้อจับเอวน้องเมิ่งไว้ แล้วหันหน้าไปถามลอยๆว่ายังตามดูอีกนานไหม5555 เฟยอวี่กับชื่อชูรีบแสดงตัวทันที พร้อมกระจ่างแก่ใจว่าทำไมมะก่อนจอมอสูรเขาเสวี่ยซานถึงไม่มีเมียสักคน ทั้งๆที่มะก่อนน้องเมิ่งยิ่งใหญ่มาก เพราะมาหลงรักผู้ชายเผ่ามนุษย์นี่เอง 5555

ส่วนน้องเมิ่งอารมย์เสียมาก555 พร้อมประกาศก้องว่าพี่จี้คือคู่ร่วมบำเพ็ญอย่างถูกกฎหมายของน้อง น้องเมิ่งจะจูบพี่จี้มันเสียหายหรือผิดตรงไหน ว่าแล้วจับหน้าพี่จี้ลงมาจูบทันที555 หลังจูบจนพอใจแล้ว น้องเมิ่งก้อแนะนำแก็งค์แรงงานเด็กให้เฟยอวี่กับชื่อชูรู้จักกันไว้ จากนั้นก็แนะนำสามีจี้เซียวอริยะกระบี่ในตำนาน เฟยอวี่กับชื่อชูตกใจถามว่าใช่คนในหนังสือที่เขียนไว้หรือเปล่า ชื่อชูบอกตอนที่โดนขังก้อมีทหารส่งหนังสือขายดีจากแดนมนุษย์มาให้อ่านฆ่าเวลา ตั้งแต่อริยกระบี่ตัวร้ายกับคู่บำเพ็ญผู้ไม่เอาไหนยันล่าสุดอัตชีวประวัติเสวี่ยหลี่555 และพี่จี้ก้อยอมรับทุกบทบาทในหนังสือนั้นคือตัวพี่จี้เอง ทำให้สองแม่ทัพอสูรเลื่อมใสพี่จี้มาก ทั้งหมดรีบเดินทางต่อ

สี่วันผ่านไป ไม่ว่าน้องเมิ่งจะวางแผนเดินทางให้วกวนอ้อมไปมาเท่าไร สุดท้ายก็โดนทหารรอดักจับตัวตลอด จนน้องเมิ่งบ่นท้อแท้กับพี่จี้ ว่าคงเป็นหลิงซานที่อ่านความคิดน้องได้ทะลุหมดแล้ว น้องเลยจะให้พี่จี้เป็นคนคิดแผนเองละกัน น้องเมิ่งจะแค่ทำตามที่พี่จี้สั่งพอ555 พี่จี้บอกไม่ต้องเดินทางอ้อมแล้ว เดินทางตรงเข้าเมืองเลย แล้วก็ซื้อบ้านสักหลังแล้วแฝงตัวดูสถาณการณ์ พร้อมออกตามหาเซียนหมิงด้วย

หน้าเมืองเฟิงเยวี่ย เพราะใกล้ถึงวันงานชุมนุม ทำให้มีอสูรมากมายรีบเร่งเดินทางกระจุกรวมตัวที่หน้าประตูเมือง เพื่อรอให้ทหารยามตรวจค้นก่อนเข้าเมือง เพราะข่าวเจดีย์เจิ้งเย่าพังลง แถมนักโทษยังแหกคุกหนีออกมาได้ ทำให้การตรวจตราเข้มงวดมาก อยู่ๆก้อมีรถลากขนาดใหญ่แถมยังเป็นกวางขาวที่ลากรถอีก แสดงว่าเป็นอสูรชั้นสูงแน่นอน ทหารเฝ้าประตูเมืองรีบเข้ามาทำความเคารพทันที ก้อมีเสียงออกมาจากในรถให้ตบรางวัลทันที ทหารยามยิ้มรับพร้อมร้องขอเทียบรับเชิญงาน แต่กลับมีเสียงแสดงความไม่พอใจออกมา ก้อมีบ่าวหน้าตางดงามในชุดขาวหรูหรา ออกมาบอกว่านายท่านในรถคือจอมอสูรเขาคุนซาน มีนัดร่ำสุราจอมอสูรหลิงซานที่ตำหนักนภาคราม ทหารยามก้อใจฝ่อรีบปล่อยให้พวกน้องเมิ่งเดินทางเข้าเมืองทันที

แต่กลับมีแม่ทัพพยัคฆ์เดินออกมาห้าม น้องเมิ่งเลยร้องเรียกให้แม่ทัพอสูรพยัคฆ์ให้เขาเดินขึ้นมาตรวจภายในรถม้า แม่ทัพพยัคฆ์ก็พบว่าข้างกายจอมอสูรเขาคุนซานมีนักพรตหน้าตาดี โดนล่ามโซ่ให้จำต้องนั่งรับใช้ข้างกายด้วยใบหน้าเย็นชา ขณะเดียวกันน้องเมิ่งก้อกระชับกาลมิสิ้นผ่านผันไว้ในมือ ก็ดันมีเสียงตะโกนเรียกทักทายจอมอสูรเขาคุนซานดังลั่น เป็นเถ้าแก่หอคณิกาที่ใหญ่สุดในเมืองเฟิงเยวี่ย เขาขึ้นมาในรถม้า พร้อมรินสุราให้จอมอสูรเขาคุนซานและยังมาพูดคุยอย่างสนิทอีก เลยทำให้แม่ทัพพยัคฆ์ยอมปล่อยรถม้าของน้องเมิ่งเข้าเมืองไป

ระหว่างทางเดินทางเข้าเมือง เถ้าแก่หอคณิกาก็ชวนน้องเมิ่งให้เข้าพักที่หอพักของเขา พร้อมยังอำนวยความสะดวกต่างๆให้อีก เพราะเขาติดใจเฟยอวี่กับชื่อชูที่แสดงตัวเป็นบ่าวรับใช้ที่หน้าตาดีมากทั้งคู่ หวังว่าจะทำการค้าแลกเปลี่ยนเพื่อซื้อตัวบ่าวสองคนนี้กับน้องเมิ่งหลังเสร็จงาน น้องเมิ่งบอกอยากได้ห้องพักที่สงบเป็นส่วนตัว เถ้าแก่หอคณิกาพาพวกน้องเมิ่งไปพักที่หอไผ่สดับพิรุณ ซึ่งเป็นเรือนส่วนตัวแยกออกมาจากเรือนอื่นๆ ระหว่างทางที่มียังที่พัก ก้อผ่านลานที่เหล่าอสูรวิหคต่างมาฝึกซ้อมการแสดง โดยมีอสูรปักษาสวรรค์เป็นคนดูแลการแสดง ที่โดดเด่นคือมีนกยูงอ้วนๆกำลังหัดระบำอยู่ ซึ่งสะดุดตาน้องเมิ่งมาก555 เถ้าแก่หอคณิกาเห็นว่าน้องเมิ่งดูสนใจนางระบำ ก้อเสนอจัดงานเลี้ยงต้อนรับพร้อมจะจัดนางระบำเด็ดมาให้น้องเมิ่งทันที น้องเมิ่งรีบปฎิเสธทันที

เถ้าแก่หอคณิกาบอกว่าเรือนที่พวกน้องพักนั้น คือเรือนที่หลิงซานเคยมาพักก่อน คราวนั้นเขาพยายามส่งอสูรสาวงามมารับใช้ แต่ส่งมากี่คนก็ไม่เข้าตาจอมอสูรเลยสักตน น้องเสิ่งเลยเล่าความลับให้เถ้าแก่หอคณิกาว่า ที่จริงหลิงซานชอบเด็กหนุ่มบริสุทธิ์ต่างหาก ทำให้เถ้าแก่หอคณิกาขอบใจที่ชี้แนะ แล้วพยายามนึกถึงอสูรหนุ่มบริสุทธิ์ที่ดูงดงามในสต๊อกทันที น้องเมิ่งก้อแกล้งดึงโซ่แล้วจับพี่จี้มานัวเนียต่อหน้าเถ้าแก่หอคณิกา เพื่อจะบอกว่าเขาอยากพักผ่อนแล้ว เถ้าแก่หอคณิกาก็รีบร่ำลาอย่างรู้งานทันที555 เฟยอวี่กับชื่อชูเข้ามายกย่องน้องเมิ่งที่รู้ความลับของจอมอสูรหลิงซานขนาดนี้ น้องเมิ่งกลับบอกว่าน้องไม่รู้หรอกว่าหลิงซานชอเด็กหนุ่มรึป่าว แค่พูดส่งเดชไปงั้นเอง555 

ส่วนเซียนหมิงโดนบ่าวหูซื่อลากมาฝึกระบำกับอสูรปักษาสวรรค์ที่ลานนั้นแหละ เซียนหมิงรู้สึกทรมานที่ต้องมาหัดระบำ เขาไม่เข้าใจในแผนการของหูซื่อ เพียงพยายามหาโอกาสที่จะหนี พร้อมคิดจะฉกกระจกวิเศษติดมือไปด้วย

ค่ำนั้นแก็งค์แรงงานเด็กกับสองแม่ทัพตั้งวงปิ้งย่างกินข้าวพร้อมชมจันทร์ในหอไผ่ น้องเมิ่งให้เซิ่นโซ่วพ่นไออสูรกลบกลิ่นครอบหอไผ่ไว้ จากนั้นก้อปลดโซ่ที่ล่ามติดข้อนิ้วพี่จี้ เฟยอวี่กับชื่อชูที่ได้ผ่อนคลายสบายใจก้อพูดคุยถึงจอมอสูรหลิงซาน ที่ป่านนี้น่าโมโหหนักที่ไม่สามารถตามจับพวกเขาได้ แล้วก็เมาท์ว่าเมื่อสามปีก่อน หลิงซานบอกพวกเขาว่าจอมอสูรเขาเสวี่ยซานหลงรักอริยะกระบี่หนักมากคิดจะเป็นคู่บำเพ็ญกับจี้เซียว ตั้งใจจะใช้ดินแดนทางตอนใต้ของเขาเสวี่ยซานศักดิ์สิทธิ์เป็นของรับหมั้นภรรยา เพราะเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน จอมอสูรเขาเสวี่ยซานได้พบรักเขาที่เมืองหานเหมิน พอกลับมาก้อเอาแต่คิดถึงพี่จี้มาตลอด น้องเมิ่งสำลักไอออกมาทันที555 พี่จี้ตะลึงในความลับนี้ ว่าเมียเด็กแอบหลงรักพี่จี้มานานแล้วนะ555 น้องเมิ่งก็บ่นว่า...มิน่าเล่าตอนนั้นถึงชอบมีอสูรมาถามน้อง ว่าน้องรู้สึกยังไงกับจี้เซียวตลอดเลย พี่จี้อยากรู้ว่าน้องตอบกลับอสูรพวกนั้นไปว่ายังไง น้องเมิ่งบอกไปว่าพี่จี้ช่างน่ามองยิ่งนัก555

เฟยอวี่บอกว่า หลิงซานบอกกับพวกเหล่าอสูรว่าเขาต้องชิงลงมือก่อน แล้วเอาตำแหน่งและอำนาจมาล่อหลอกให้คนมาร่วมมือด้วย แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ทยอยตายเพราะถูกฆ่าปิดปาก น้องเมิ่งเล่าว่าวันนั้นหลิงซานชวนเขามางานเลี้ยงวันเกิดตัวเอง พร้อมมอบสุราคารวะให้เขาสามจอก โดยที่เขาไม่รู้ว่าสุราพวกนั้นมีพิษงู หลังดื่มเหล้าไปสามจอก จากนั้นพวกอสูรที่ซ่อนตัวก้อเผยตัว พร้อมเริ่มต้นทำร้ายเขา พิษงูสะกดพลังอสูรของน้องเมิ่ง น้องเลยได้แต่อาศัยแรงกายล้วนๆในการสู้ พร้อมหาทางหลบหนีไปจนถึงแดนนอกพิภพ ชื่อชูว่าน้องเมิ่งโง่ก็รู้อยู่ว่าหลิงซานมันคืองูพิษชัดๆ น้องเมิ่งก้อว่าชื่อชูโง่กว่าที่สร้างคุกมาขังตัวเอง555 สรุปคืนนั้นทั้งหมดต่างกินดื่มจนเมาหลับคาดาดฟ้า555

น้องเมิ่งดูสภาพของเหล่าสมุนแล้วก็ถอนใจ ได้แต่หวังว่าโรคโง่ของชาวอสูรคงไม่ติดต่อมาสู้คน แต่พี่จี้บอกว่าพูดยาก ปกติก็โง่อยู่แล้วไม่ควรจะโง่ไปกว่านี้ น้องเมิ่งร้อนตัวเลยรีบพูดว่าถึงน้องจะโง่แต่น้องเป็นคู่บำเพ็ญของพี่จี้นะ พี่จี้คิดจะหย่าน้องหรอ พี่จี้รีบบอกว่า...ไม่กล้าคิด555 คืนนี้เพราะน้องเมิ่งดื่มเหล่า เลยไม่อยากนั่งสมาธิเลยนอนกอดซุกอกสามีแทน น้องเมิ่งบ่นว่าไม่เข้าใจหลิงซานเลย นิสัยเขาชมชอบวาดรูป เขียนบทกวี แต่ในเมืองเฟิงเยวี่ยกลับเต็มไปด้วยความหรูหราที่หยิบยกมาจากแดนมนุษย์ ไม่ว่าจะรูปแบบตึกจนถึงวิวทิวทัศน์ที่ตระการตาไปทั้งเมือง แถมยังเป็นหวงว่าเซียนหมิงจะโดนจับกุมอยู่ที่คุกที่ไหนสักแห่งไปแล้ว พี่จี้ก้อนอนฟังน้องเมิ่งไปลูบคอน้องเมิ่งไปสไตล์สามีที่แสนดี จนน้องเมิ่งหลับสนิทแล้ว พี่จี้ก็ลุกขึ้นมาพร้อมปล่อยไอกระบี่ไว้เหนือเตียง เพื่อไว้คุ้มครองน้องเมิ่งที่หลับสนิท ส่วนพี่จี้เองก็เดินออกมาเงียบๆพร้อมกำบังกายไม่ให้ใครเห็น แล้วเดินสำรวจรอบเมืองเฟิงเยวี่ยในยามค่ำคืนคนเดียว

พี่จี้พบว่าเมืองนี้สร้างขึ้นตามแนวโครจของไอทิพย์แห่งฟ้าดิน และแนวโคจรไอทิพนี้เหมือนกับค่ายเวทฉางซุนนิรันดร์ แปลว่าเมืองนี้มีค่ายเวทซ่อนอยู่ ตอนนี้ภาพที่กระจัดกระจายเริ่มกลับมาปะติดประต่อกันได้ภาพคร่าวๆ ว่าทำไม่ไท่ซั่งจั่งเหล่าถึงมีคันฉ่องสะท้อนเงาที่เป็นของวิเศษแดนอสูรได้ แปลว่าแดนมนุษย์มีการติดต่อลับๆกับแดนอสูร แล้วยังผู้อยู่เบื้องหลังวางแผลทั้งหมดที่เหนือขึ้นไปจากปรมัตถ์กุยชิงอีก ตอนนี้ทุกเส้นโคจรไอทิพย์ในตัวเมืองมารวมตัวเป็นแกนเวทอยู่ที่ตึกโดมในตำหนักใน

ในตึกโดม จิตรกรวาดรูปจนใกล้จะเสร็จแล้ว เสี่ยวหลวนยังคงถามว่าเขาจะไม่วาดอสูรเพียงพอนลงไปในกำแพงจริงๆหรอ จิตรกรยืนยันเขาจะไม่วาดรูปเพียงพอนลงไปแน่นอน แต่เพื่อนเพียงพอนของเขาจะมางานชุมนุมนี้แน่นอน เสี่ยวหลวนหวังว่าจิตรกรจะคืนดีกับเพื่อนได้ แต่เขากลับบอกว่าเพื่อนเขาคงได้เพื่อนใหม่ไปแล้วละ

พี่จี้กลับเข้าเรือนมาตอนยามเช้า แล้วลงมือวาดผังเส้นโคจรไอทิพย์ที่เดินสำรวจมาเมื่อคืน จนวาดเสร็จแล้วน้ำหมึกก็ยังเหลืออยู่ หันไปดูภรรยาตัวน้อยที่ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง พี่จี้ก้อลงมือวาดรูปเมียตัวเองทันที แต่ภาพที่อยู่บนกระดาษ กลับเป็นรูปเพียงพอนตัวน้อยที่นอนอยู่ในกองผ้าห่ม แขนขากางออกมานอกผ้าห่ม หัวเอียงลงเล็กน้อยเพื่อหลบแสงพระอาทิตย์ที่ส่องทะลุม่านลงมา ท่วงท่าการนอนหลับดูสบายใจมาก จากนั้นพี่จี้ก้อไปชงชาพร้อมแกะเปลือกเมล็ดสนเตรียมอาหารให้เมียตัวน้อย(โอ้ยอิจฉาน้องเมิ่งจริงๆ)

น้องเมิ่งตื่นมาไม่เจอะพี่จี้ข้างกาย แต่น้องได้กลิ่นพี่จี้ลอยอวยอยู่ใกล้ๆก้อสบายใจ ลุกมาใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกมา ก็พบภาพเขียนบนโต๊ะเลยเดินไปดู ก้อเห็นภาพเหมือนตัวเอง น้องก้อทั้งเขินทั้งอายทั้งดีใจรีบม้วนภาพเขียนเก็บใส่แขนเสื้อตัวเอง5555 ก็ถึงได้เห็นอีกภาพที่อยู่ข้างล่างภาพเพียงพอนน้อย พี่จี้ก้อเดินมาซ้อนหลังน้อง ก็ถามว่าเห็นอะไรในภาพบ้าง น้องเมิ่งว่า เห็นว่าวันนี้พี่จี้อารมย์ดีวาดรูป น้องจะเก็บรูปเอาไปขายที่โรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน จะได้เงินมามากแน่ๆเพราะเป็นผลงานภาพเขียนของอริยะกระบี่จี้เซียวเชียวนะ พี่จี้บอกคนไม่เชื่อหรอก เพราะคนเชื่อว่าภาพเขียนของเจ้ายอดเขาปี้จ้งที่แอบเขียนภาพแล้วอ้างว่าเป็นภาพเขียนของอริยะกระบี่ว่ามันคือของจริงมากี่ร้อยปีแล้ว5555

น้องเมิ่งถึงเข้าใจ แล้วถามพี่จี้ว่าเราจะแก้ไขเรื่องนี้ยังไงดี ว่าแล้วน้องเมิ่งก้อคิดถึงแดนมนุษย์ ตอนนี้ยอดเขาฉางซุนคือบ้านที่น้องอยากกลับไปมากที่สุด พี่จี้ก็รู้ใจน้องเมิ่งว่าตอนนี้น้องคิดถึงบ้านแล้ว แถมยังหยิบหวีไม้มาหวีผมพร้อมเกล้าม้วนผมให้น้องอีก น้องเมิ่งก้ออยากตอบแทนพี่จี้เลยขอหวีผมให้พี่จี้ แต่พอต้องเกล้าผมเท่านั้นแหละ เกล้าไม่ได้ไม่พอ แค่หันมาผูกรวบผมธรรมดาก้อยังผูกผมพี่จี้เบี้ยวไปมาอีก555 น้องเมิ่งท้อแท้ใจมาก บอกว่าหวีผมเกล้าผมก้อต้องใช้ทักษะเหมือนกันนะนี่ ว่าแล้วจะแกะผมพี่จี้ที่ผูกออก แต่พี่จี้บอกไม่เป็นไรไม่ต้องแกะออกหรอก555(รักทุกสิ่งทุกอย่างที่เมียทำให้หมดเลยสินะพี่จี้555)

พอทั้งคู่เดินออกมา เฟยอวี่เห็นผมพี่จี้ก้อทักทันทีว่าผมไปโดนนกที่ไหนทึ้งมา ทำเอาปี้โหยวร้อนตัว คิดว่ามะคืนเขาเมาแล้วไปทำรักบนหัวพี่จี้ละป่าว แต่น้องเมิ่งกลับพูดมาก่อนว่านี่คือฝีมือทำผมของน้อง...สวยเป๊ะไหม...เฟยอวี่กลับลำทันทีอวยว่านี้คือสุดยอดฝีมือ ทรงดูคล้ายจะยุ่งแต่แท้จริงกลับไม่ยุ่งรุงรัง(5555เฟยอวี่นี่มันสาริกาลิ้นทองจริงๆ) น้องเมิ่งอารมย์ดีทันตา พร้อมชมว่าเป็นเพราะพี่จี้หน้าตาดี ทำทรงผมไหนก็หล่อหมด(โหมดหลงผัว555)

พี่จี้พาน้องเมิ่งมาหัดดูแนวโคจรไอทิพย์ ให้น้องเมิ่งฝึกแยกแยะ พร้อมสอนมรรคาวิถีให้จิตตระหนักรับรู้สัมผัสถึงไอทิพย์ที่อยู่รอบๆ น้องเมิ่งนั่งสมาธิจนถึงบ่ายยังมองไม่ค่อยเห็น พี่จี้เลยชวนน้องเมิ่งไปเดินเล่นในเมืองแทน จนเย็นก็กลับมารวมงานเลี้ยงที่หอคณิกา แต่วันนี้น้องเมิ่งสามารถมองเห็นเส้นโคจรไอทิพย์แล้ว แม้จะเส้นเดียวก็ตาม

สองสามวันต่อมา น้องเมิ่งยังขยันฝึกเพ่งมองเส้นโคจรไอทิพย์ เซิ่นโซ่วก็ขยันบำเพ็ญเพียรเพราะมีเป้าหมายที่เฒ่าเซิ่นพันปี555 สองแม่ทัพก็ได้รับการสอนมรรคาแบบอสูรจากพี่จี้ ส่วนปี้โหยวกับหร่วนฮุ่ยก้อไปขอให้สองแม่ทัพอสูรสอนทักษะการต่อสู้

ส่วนเซียนหมิงก้อยังฝึกระบำอยู่เพียงแต่ช่วงนี้สนิทสนมกับบ่าวรับใช้ของหูซื่อ จนพวกนางไว้ใจเขาขนาดไม่ล่ามโซ่คล้องขาเขาแล้ว ส่วนหุ่นก้อเริ่มเข้าที่เพราะออกกำลังการด้วยการระบำทุกวัน วันนี้เถ้าแก่หอคณิกาเดินผ่านลานการแสดง ก้อมองเห็นเซียนหมิงที่กลายร่างเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาดี ก้อนึกถึงคำของน้องเมิ่งที่บอกว่าหลิงซานชอบอสูรหนุ่มบริสุทธิ์ ก้อหมายตาเซียนหมิงทันที ก็เดินไปทาบทามเซียนหมิงว่าจะหาอสูรรวยๆให้รู้จักเช่นจอมอสูรเขาคุนซาน แต่เซียนหมิงก้อดันคิดแผนหลอกใช้เถ้าแก่หอคณิกาทันที ว่าตัวเองไม่สนใจความมั่งคั่งร่ำรวย แต่มาตามหารักแท้ต่างหาก เพราะเขาหลงรักจอมอสูรหลิงซานถึงได้ตั้งใจมาแสดงในงานชุมนุมนี้ เถ้าแก่ได้ยินก้อดีใจที่เข้าทางเขาพอดี เลยบอกว่าตัวเองมีเส้นสายที่จะส่งเซียนหมิงให้ได้พบกับหลิงซานโดนตรง เซียนหมิงตกลงร่วมมือกับเถ้าแก่หอคณิกา

ส่วนน้องเมิ่งที่ขยันฝึกดูแนวโคจรไอทิพย์ทุกวัน ระหว่างเดินในเมืองก็ได้กลิ่นอายของเซียนหมิง แต่ไม่รู้ว่าเซียนหมิงซ่อนตัวอยู่ที่ไหน จี้เซียวบอกกลิ่นเบาบางไปยากต่อการค้นหา ชื่อชูบอกให้เถ้าแก่หอคณิกาช่วยตามหาสิ น่าจะหาคนได้ง่ายและรวดเร็วกว่าพวกเรามาตามหากันเอง น้องเมิ่งเลยตามเถ้าแก่หอคณิกามาเพื่อให้เขาตามหานกยูงให้หน่อย เถ้าแก่เข้าใจไปอีกทางว่าน้องเมิ่งอยากได้เด็กใหม่เผ่านกยูง ก้อเลยบอกปัดไม่เห็นทันที เพราะเขาจะเก็บเซียนหมิงไว้ส่งให้เป็นของกำนัลกับหลิงซาน แต่จะส่งมวลอสูรปักษาทั้งหลายมาให้น้องเมิ่งแทน

คืนนั้นนางระบำนักแสดงที่เป็นเหล่าอสูรปักษา ต่างมาในงานเลี่ยงที่เถ้าแก่หอคณิกาจัดให้น้องเมิ่ง แต่ไม่มีอสูรตนใดได้รับเลือก แต่คืนนี้กลับเป็นโอกาสให้ปี้โหยวได้พบกับเสี่ยวหลวนแทน เมื่อกลับมาที่หอไผ่ ปี้โหยวก้อโดนหร่วนฮุ่ยแซวว่าได้พบคนงามที่แอบหลงรักมานาน ปี้โหยวกลับไม่กล้าสารภาพรัก เฟยอวี่กับชื่อชูได้ยินก้อเสนอตัวจะสอนวิธีจีบหญิงให้กับปี้โหยว แต่เจอะพี่จี้เบรกว่าพรุ่งนี้มีสอบมรรคา555

น้องเมิ่งยังขยันบำเพ็ญเพียรด้วยการเพ่งแนวโคจรไอทิพย์ แถมยังได้โอกาสฝึกหลอมจิตตระหนักรู้ได้ดียิ่งขึ้นอีก พี่จี้เดินมาถามว่าน้องเมิ่งมองเห็นเส้นแนวโคจรได้ถึงไหนแล้ว น้องบอกเห็นได้เกือบครึ่งทางละ พี่จี้บอกน้องว่าไม่ต้องรีบ น้องเมิ่งบอกว่าตอนนี้เขาก้าวหน้าขึ้นมาก ถึงขั้นประสาทรับรู้ได้ยินเสียงสามารถรับฟังเสียงได้ไกลมาก...ก พี่จี้ถามวันนี้อารมย์ดีมากหรอ น้องเมิ่งเขินๆก้อเห็นสายโซ่ที่คล้องจับพวกเขาทั้งคู่ไว้ยังไม่ได้ปลดออก ก้อเลยบอกจะปลดโซ่นี้ แต่พี่จี้ดับไฟคะ...แล้วกระชากโซ่ดึงน้องเมิ่งมากอด แล้วพี่จี้ก้อกระซิบข้างหูน้องเมิ่ง น้องเมิ่งหน้าแดงหูแดงเขย่งขารับ...ภาพตัดไปที่โคมหัวเตียง5555

เช้ามาพี่จี้ลุกขึ้นแต่งตัว น้องเมิ่งนั่นซุกตัวกลมในกองผ้าห่ม พี่จี้ถามว่าน้องไม่สบายหรอ น้องเมิ่งโผล่หัวออกมาบอกว่าอยากอยู่เงียบๆคนเดียว พี่จี้ไม่อนุญาติ เพราะตอนเช้าเหมาะกับการเคลื่อนพลังปราณ แล้วพี่จี้จะช่วยทะลวงจุดชีพจร น้องเมิ่งจะได้เลือดลมเดินสะดวกมีประโยชน์ต่อการร่วมบำเพ็ญคู่ น้องเมิ่งโมโหต่อว่าพี้จี้ ว่าพี่จี้ทรมานน้องมะคืนขนาดนี้ ยังจะมีหน้ามาบ่นว่าน้องอีก5555 พี่จี้ขอโทษบอกว่ามรรคานี้พี่จี้ก็เพิ่งเคยฝึก คราวหน้าจะระวัง555 น้องเมิ่งยังงอนนอนหันหลังให้พี่จี้แทน พี่จี้ง้อเมียด้วยการลงไปนอนกอดน้องเมิ่ง แล้วบอกว่าพี่จี้จะเข้าไปในห้วงจิตสำนึกของน้องเมิ่ง แล้วจะแปรงหวีขนให้พร้อมปรับทางเดินเลือดลมไปในตัวดีไหม น้องเมิ่งตกลง5555

ในห้วงจิตสำนึก พี่จี้นั่งบนโขดหิน มือก็ถือหวีไม้ บนตักมีเพียงพอนตัวน้อยนอนซุกซบตัวพร้อมถูไถอยู่บนเข่าพี่จี้ พี่จี้ก้อแปรงขนเพียงพอนน้อยไปทั่วตัว จนน้องเมิ่งสบายตัวยิ่งนัก นอนยืดเหยียดขาไปมาอย่างมีความสุข(โว้ยยยยรักเมียหลงเมียอะไรขนาดนี้) นับจากนั้นมา...กลางวันน้องเมิ่งก้อเดินสังเกตุดูแนวโคจรไอทิพย์ไปกับพี่จี้ในเมืองเฟิงเยวี่ย ส่วนกลางคืนก้อบำเพ็ญคู่กับพี่จี้อย่างชื่นมื่นล้นสุขทุกวันทุกคืน5555

ส่วนพี่จี้นอกจากสอนน้องเมิ่งแล้ว ยังต้องค่อยสอบระดับมรรคาของอสูรทุกตัวในหอไผ่ ตอนนี้คนที่มรรคาก้าวหน้าสุดกลับเป็นเซิ่นโซ่วน้อย ที่หลังจากมีเป้าหมายในการจะกลับไปหาเฒ่าเซิ่นพันปีเร็วๆ จึงทำให้เซิ่นโซ่วขยันฝึกบำเพ็ญมาก...ก

ในที่สุดวันงานชุมนุมหมื่นอสูรก็ใกล้เข้ามา เหลือเพียงอีกวันเดียว เถ้าแก่หอคณิกาก้อเดินหาน้องเมิ่งพร้อมข้อแลกเปลี่ยนบ่าวผู้รับใช้ ผู้ที่เขาหมายตามาตั้งแต่แรกก็คือเฟยอวี่กับชื่อชู ซึ่งสองอสูรนี้ก้อกะรอเล่นเถ้าแก่อยู่เหมือนกัน555 น้องเมิ่งเลยนัดหมายส่งคนให้เถ้าแก่ที่ทะเลสาบหลิวหลีตอนช่วงค่ำ

เถ้าแก่หอคณิกาหลังสมหมายดังใจก้อแวะไปลานการแสดง เพื่อสั่งเหล่าอสูรวิหคให้เตรียมตัวให้พร้อมในวันพรุ่งนี้ เสร็จแล้วก็ตรงไปหาเซียนหมิงเพื่อเตือนให้เขาหลบหน้าแขกคนอื่นให้ดี เมื่อถึงเวลาจบการแสดงค่อยเปิดผ้าคลุมหน้าแล้วเขาจะกล่าวแนะนำเซียนหมิงให้หลิงซานเอง แต่วันนั้นเซียนหมิงหนีออกไปจากหอคณิกาพร้อมกระจกวิเศษ ไม่พอยังแปลงโฉมตัวเองเป็นน้องเมิ่งร่างมนุษย์อีกแนะ สองบ่าวรับใช้ได้แต่กลุ้มใจ ได้แต่กลับไปรายงานหูซื่อทันที

เฟยอวี่กับชื่อชูที่เตรียมตัวจะออกไปนัดพบกับเถ้าแก่หอคณิกา ก็แอบเมาท์ว่าวันนี้หลิงซานดวงซวยมาก ส่งเทียบเชิญปรมัคถ์แดนมนุษย์ทั้งสองมาแดนอสูร มีทูตจากแดนมนุษย์จากสำนักหมิงเยวี่ยหูมาพร้อมคันฉ่องสะท้อนเงา แต่กลับพบว่ากระจกที่เอามาคืนมันเป็นของปลอม ส่วนทูตของประมุขแดนสรวงก็บอกว่ากระจกจิ่งหงโดนขโมยก่อนวันงานเพียงวันเดียว ตอนนี้มนุษย์จากสำนักหมิงเยวี่ยหูโดนจับคุมขัง พรุ่งนี้ในงานเลี้ยงจะโดนจับฆ่าเอาเลือดมาเป็นเครื่องสังเวยแทน น้องเมิ่งถามว่าพวกเขารู้ข่าวนี้ได้ยังไง เฟยอวี่บอกข่าวออกมาจากตำหนักในจนคนพูดกันไปทั้งเมืองแล้ว

น้องเมิ่งรู้สึกแปลกๆ น้องคาดเดาอยู่แล้วกระจกส่งต้องเป็นกุยชิงส่งให้ไท่ซั่งเพื่อเอาไว้เล่นงานน้องตอนอยู่แดนมนุษย์ ฉะนั้นแผนการยังไม่สำเร็จย่อมไม่อาจส่งคืนให้เจ้าของ แล้วการส้งกระจกปลอมมาให้เหมือนมีแผนการอะไรบ้างอย่าง ดูเหมือนจะหาเหตุให้อสูรบุกเข้าแดนมนุษย์ เพื่อก่อสงครามหรอ.... น้องเมิ่งเลยถามชื่อคนที่เป็นทูตจากแดนมนุษย์ เฟยอวี่บอกไม่รู้

น้องเมิ่งไปหาพี่จี้ แล้วเล่าเรื่องที่เขาได้ฟังมากับสิ่งที่เขาคาดเดา น้องเมิ่งคิดว่าทูตจากแดนมนุษย์น่าจะเป็นจิงตี๋ แต่พี่จี๋บอกว่าพรุ่งนี้ลองบุกไปช่วยคน เดียวก็รู้ว่าเป็นใคร

เที่ยงคืนที่เมืองหานเหมิน อวี๋ฉี่ซูมาส่งของให้เฉียนเจินเหรินตามเคย อยู่ๆภาพที่เห็นก็ดับมืดลงไป อวี๋ฉี่ซูเงยหน้าขึ้นไปเห็นเมฆดำลอยอยู่ข้างบนหัว อวี๋ฉี่ซูกุมกระบี่พร้อมเคลื่อนตัว เมฆก็เคลื่อนตาม บรรยากาศรอบๆไม่มีกระแสพลังปราณ แต่เขาผู้นั้นกลับบรรลุถึงขั้นกลับสู่สามัญ อวี๋ฉี่ซูเอยถาม...ปรากฎว่าเป็นหูซื่อ ที่กำลังจะไปโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวน อวี๋ฉี่ซูเลยชวนหูซื่อไปด้วยกัน เฉียนเจินเหรินออกมาเปิดประตูต้อนรับทั้งคู่ พร้อมแนะนำอวี๋ฉี่ซูให้รู้จักหูวื่อที่เป็นศิษย์พี่ของจี้เซียว เฉียนเจินเหรินถือโอกาสทวงของขวัญแรกพบจากหูซื่อให้อวี๋ฉี่ซู(ไถ่ของกันตรงๆนะแหละ555) แต่อวี๋ฉี่ซูไม่กล้าขอ เฉียนเจินเหรินรู้สึกขาดทุน55 

เฉียนเจินเหรินรำคาณหูซื่อที่ขี่เมฆตลอดเวลา เลยบอกให้หัดเดินสะมั้ง หูซื่อเลยสลายเมฆออก เฉียนเจินเหรินถามเขามาทำไม หูซื่อบอกมาขายของ แต่จะขายให้อวี๋ฉี่ซูเท่านั้น มันคือตำราที่เขาเขียนเคล็ดวิชาที่ทั้งหมดที่เขาทดลองปฎิบัติจนเขียนสรุปออกมาเป็นเล่มนี้ แล้วก็ยัดเหยียดให้อวี๋ฉี่ซูรับไป โดยแลกกับศิลาศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำสิบก้อน แต่อวี๋ฉี่ซูบอกเขาไม่มีตังค์เลย เพราะทุกบามฝากอยู่กับเฉียนเจินเหรินหมดเลย ตอนนี้มีแต่กิ่งต้นจินซือเถอ เอามาแลกกับตำราได้ไหม555 หูซื่อกลับหยิบกิ่งต้นจินซือเถาไปจริงๆแล้วก้อขี่เมฆกลับแดนสรวงทันที เฉียนเจินเหรินนับถืออวี๋ฉี่ซูที่ทำการค้าที่ได้กำไรมหาศาล กิ่งต้นจินซือเถาแลกกับความรู้ตลอดชีวิตของปรมัตถ์แดนสรวงได้

เฉียนเจินเหรินคุยกับอวี๋ฉี่ซู ว่าที่หูซื่อรีบร้อนหาคนรับมอบวิชาความรู้ ต้องเกี่ยวกับประตูสวรรค์ใกล้จะเปิด ถ้าหูซื่อโชคดีสามารถผ่านประตูสวรรค์ได้ ก้อจะเป็นคนแรกของแดนมนุษย์ที่บรรลุเป็นเซียนสวรรค์ แต่หากโชคไม่ดีก็คงต้องไปเกิดใหม่ ว่าแล้วอวี๋ฉี่ซูก้อโกธรเฉียนเจินเหรินที่ไม่ยอมให้เขายืมสิลาสิบก้อน ตอนนี้เลยไถ่ตังค์สิลาสิบก้อนจากเฉียนเจินเหริน แต่เฉียนเจินเหรินไม่ยอมให้ยืม อวี๋ฉี่ซูเลยเอาหนูผีให้เขายืมกอด เฉียนเจินเหรินให้อวี๋ฉี่ซูยืมศิลาห้าก้อนแทน555

บนเรือโหลวฉวนในทะเลสาบ เฟยอวี่กับชื่อชูมาพบเถ้าแก้หอคณิกาตามนัด หลังบ่าวปิดประตูห้องจนผ่านไปถึงตอนค่ำของอีกวัน บ่าวรับใช้ของเถ้าแก่หอคริกายืนรออย่างกังวล จะขึ้นไปตามก้อกลัวเถ้าแก่ด่า555 จนน้องเมิ่งมาถึงก็ถามหาเถ้าแก่หอคริกา บ่าวรับใช้เลยบอกว่าเถ้าแก่ยังคงอยู่บนเรือ น้องเมิ่งเลยให้เตรียมเรือ เขาจะขึ้นเรือไปพบเถ้าแก่เอง บ่าวรับใช้ยินดีพร้อมรีบจัดเตรียมเรือให้ทันที 

น้องเมิ่งขึ้นเรือก็เดินเข้าไปในห้องพัก ก็พบว่าเถ้าแก่หอคณิกาได้กลับไปสู่ร่างเดิมคืออสูรนกกระทา ที่นอนตัวสั่นอยู่ใต้เท้าของเฟยอวี่ น้องเมิ่งสอบสวนพร้อมขู่ว่าเถ้าแก่โดนพิษจากแดนมนุษย์แล้ว ถ้าไม่ยอมบอกความจริงก้อต้องตายแน่ๆ เถ้าแก่กลัวตายจึงยินยอมบอกทุกอย่าง น้องเมิ่งถามว่าอสูรนกยูงอยู่ที่ไหน เถ้าแก่บอกว่าเซียนหมิงเดินทางไปตำหนักในตั้งแต่เมื่อวานแล้ว น้องเมิ่งสั่งการว่าคืนนี้จะแบ่งเป็นสามพวก พี่จี้เดินทางไปช่วยคนออกจากคุก ส่วนน้องเมิ่งจะเข้าไปบุกช่วยเซียนหมิงในตำหนัก ส่วนเฟยอวี่ให้อยู่ที่นี่คุมเถ้าแก่ไว้เพื่อรอดูสถานการณ์ เที่ยงคืนให้ดูสัญญาณพลุสีทอง 

หลังตะวันลับฟ้าประตูเมืองเฟิงเยวี่ยนก็ปิดสนิท ในตำหนักใน หลิงซานนั่งรถลากออกมา พร้อมมีรถลากเหล็กบรรทุกหนังเพียงพอสีขาวขนาดใหญ่ตามออกมา จากนั้นทำพิธีเผาหนังจอมอสูรเขาเสวี่ยซานด้วยไฟอสูร มีเสียงเหล่าอสูรพูดถึงจอมอสูรเขาเสวี่ยซานในอดีต จากนั้นตำหนักในก็เปิดประตูให้เหล่าอสูรต่างเข้าไปนั่งที่ลานหน้าตำหนัก น้องเมิ่งดูเส้นโคจรไอทิพพบว่าที่ตรงนี้คือแกนเวทเหมือนตกอยู่ใต้ตำข่ายทองขนาดยักษ์ แถมยังกลิ่นดอกไม้ที่ฉุนขนาดนี้ น้องเมิ่งให้แก็งค์แรงงานเด็กกับชื่อชูให้รีบปิดจมูก แล้วให้เซิ่นโซ่วพ่นไออสูรเปลี่ยนกลิ่นดอกไม้เป็นกลิ่นไผ่หอมอ่อนจางๆแทน

ที่กลางลาน อสูนปักษาเตรียมตัวจะเริ่มการแสดง น้องเมิ่งก้อเที่ยวเดินสำรวจเพื่อมองหาเซียนหมิง ปี้โหยวได้พบกับเสี่ยวหลวนอีกครั้ง เสี่ยวหลวนที่ตัดสินใจที่จะไม่อยู่เมืองเฟิงเยวี่ยต่อ นางพยายามมองหาจิตรกรเพื่อจะบอกลา แต่กลับหาเขาไม่เจอะ กลับเจอะปี้โหยวแทน นางเลยบอกเขาว่าหลังจบการแสดงนี้ นางจะกลับไปบ้านเกิดพร้อมกับปี้โหยว ทำเอาปี้โหยวดีใจมาก ก็พอดีทหารตะโกนบอกว่าจอมอสูรเขาหลิงซานเดินทางมาถึงแล้ว

น้องเมิ่งพยายามมองหาหลิงซาน แต่เขากลับนั่งอยู่หลังฉากม่านโปร่ง ชื่อชูบอกว่านั่นเป็นม่านโปร่งวิเศษที่สามารถสพกดพลังอสูรไม่ให้มองเห็นจากด้านนอก แต่ผู้ที่อยู่ด้านในม่านโปร่งจะมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่ด้านนอก เขาเป็นคนมอบให้หลิงซานเองกับมือ แต่จู่ๆภาพก้อมืดลงต่อหน้าน้องเมิ่ง

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ต้องหลิงซานลงจากรถลาก เหล่านักแสดงอสูรปักษามาตั้งแถวรอรับ ส่วนเซียนหมิงที่ติดต่อเถ้าแก่หอคณิกาไม่ได้ จึงตัดสินใจทำทีเป็นล้มลงตรงหน้าหลิงซาน แล้วหลิงซานก้อมาพยุงตัวเซียนหมิงตามที่คิดแถมยังจูงเขามานั่งด้วยกันต่อที่บัลลังก์ เซียนหมิงลุกมาบอกหลิงซานว่าตัวเองอยากเต้นรำให้เขาดู

ที่คุกใต้ดิน พี่จี้เดินเข้าไปช่วยคนที่ชั้นล่างสุด พบนักพรตชายหนุ่มโดนโซ่ร้อยสะบักกักขังไว้ พี่จี้ช่วยเขาออกมา ก็พบว่าเขาไม่ใช่จิงตี๋ ระหว่างทางเจอะทหารยามดักจับ พี่จี้เลยยืมกระบี่จากหนิงเวย ทหารยามไม่ใช้คู่มือพี่จี้ เลยโดนจัดการได้ง่ายๆ จากนั่นพี่จี้ก้อพาหนิงเวยขี่กระบี่มาจนถึงป่านอกเมือง แล้วคืนกระบี่ให้หนิงเวย พร้อมบอกเขาให้หาทางกลับแดนมนุษย์ไปสะ หนิงเวยถามพี่จี้ว่าช่วยเขาออกมาทำไม ไม่กลัวว่าเขาจะไปประกาศว่าที่จริงอริยะกระบี่ยังไม่ตายหรอ พี่จี้บอกตามสบายเลย555 หนิงเวยสับสนแต่ก้อเอยปากออกมาว่าอยากประลองกระบี่กับพี่จี้ เหมือนตอนที่แดนสนธยาฮั่นไห่ที่เหล่านักพรตต่อคิวเพื่อขอคำชี้แนะจากน้องเมิ่ง พี่จี้ตกลงแล้วไปหักกิ่งไม้มาแทนกระบี่ 

หนิงเวยได้รับคำชี้แนะจากการประลองกระบี่ทั้งซาบซึ้งใจทั้งยินดี ที่พี่จี้ชี้แนะมรรคากระบี่ให้ด้วยตัวเอง เขายังได้ค้นพบว่าตัวเองยังห่างไกลแค่ไหนจากมรรคกระบี่ สุดท้ายหนิงเวยก้อเล่าแผนลับของกุยชิงให้พี่จี้รู้ ว่าเหนืออาจารย์ของเขายังมีคนผู้หนึ่งที่คอยชักใย  

ในลานแสดง เซียนหมิงเข้าไปรวมกลุ่มการแสดงกับอสูรปักษาตัวอื่น เสี่ยวหลวนก็กำลังขับขานเสียงเพลงประกอบการร่ายรำ จู่ๆเซียนหมิงพุ่งเพลิงอสูรนกยูงออกจากปากไปโจมตีหลิงซานทันที ทำให้ม่านโปร่งเปิดขึ้นมา เสี่ยวหลวนเห็นหน้าหลิงซานครั้งแรกใต้ผ้าม่านโแร่งก็ตกใจ นี้คือจิตรกรที่นางมันแอบบินไปพูดคุยกับเขามาตลอด เสี่ยวหลวนพุ่งตัวเองไปบังหลิงซานแทน ทำให้เสี่ยวหลวนโดนเพลิงอสูรโจมตีจนตัวกระเด็นออกมา ปี้โหยวพุ่งไปช่วยเสี่ยวหลวน หลิงซานกลายร่างเป็นงูยักษ์ทันที ทหารตะโกนร้องจับคนร้าย เหล่าอสูรที่มาร่วมงานต่างตื่นตระหนก

น้องเมิ่งใช้กาลมิสิ้นผ่านผันปักหัวงูตรึงไว้ พร้อมตะโกนสั่งให้เซียนหมิงรีบหนี ส่วนชื่อชูให้พาแก็งค์เด็กรีบหนีออกไปจากเมือง พร้อมกันนั้นก้อให้เซิ่นโซ่วพ่นไออสูรสร้างหมอกกำบังกาย เพื่อหาทางหลบหนีหลิงซาน แต่เสียงหลิงซานกลับหลอกหลอนไปมาเรียกให้น้องเมิ่งอยู่คุยกันก่อน ส่วนอสูรก่อนหน้าที่มารวมกินดื่มก้อเริ่มรู้สึกถึงร่างกายตัวเองว่าแปลกๆ เพราะญาณอสูรตัวเองล้วนโดนสะกดกันหมด 

จากนั่นฝนเพลิงก้อตกใส่ในเมืองเฟิงเยวี่ยจนกลายเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่ เสี่ยวหลวนบาดเจ็บหนักจนกลับไปสู่ร่างนก ปี้โหยวประคองร่างของเสี่ยวหลวนไว้บนมือ  ชื่อชูหาถุงผ้ามาเปิดกลับเป็นถุงผ้าที่ไป๋เหอปามาให้เขาวันนั้น พอเปิดปากถุงก็มีสายน้ำหลากไหลออกมาจากถุง ทำให้พวกเขาหนีออกมาจากกองเพลิงได้

น้องเมิ่งปะทะกับหลิงซานในร่างงูยักษ์ น้องเมิ่งต่อว่าหลิงซานที่กระทำการโหดร้ายกับเหล่าอสูร แต่หลิงซานกำลังกล่อมให้น้องเมิ่งกลับมาอยู่กับเขา เพราะในที่สุดหลิงซานก็รู้ว่าน้องเมิ่งเป็นอสูรตนเดียวที่มีสติปัญญาพอที่สามารถพูดคุยกับเขาได้ น้องเมิ่งบอกว่าเขามีคู่บำเพ็ญแล้วแถมยังมีบ้านให้กลับด้วย หลิงซานโกธรราวอกหัก ต่อว่าน้องเป็นอสูรจะไปรักกับมนุษย์ได้ยังไง รู้จักกับพี่จี้แค่กี่ปี มาเทียบกับตัวเขาที่คบเป็นเพื่อนกับน้องเมิ่งมายาวนานขนาดนั้น แถมยังรู้ใจกันอีก น้องเมิ่งกับเขาต่างหากที่คู่ควรจะอยู่ด้วยกัน

หลิงซานบินไปตามที่ต่างๆในเมือง น้องเมิ่งก้อขี่กระบี่ตามไป ถึงได้รู้ว่าทุกทิวทัศน์ในเมืองเฟิงเยวี่ย หลิงซานทำจำลองตามสถานที่ต่างๆในแดนมนุษย์ ที่ในตอนนั้นพวกเขายังเป็นอสูรหนุ่มน้อยได้พบเห็นหรือแวะเที่ยวชม ในสมัยก่อนที่เป็นอสูรหนุ่ม หลิงซาน เซียนหมิงและน้องเมิ่ง ได้คบเป็นเพื่อนสนิทกันแล้วแอบพากันหนีไปเที่ยวที่แดนมนุษย์ หลิงซานบอกว่าเขาสร้างเมืองนี้เพื่อน้องเมิ่ง ให้ลืมความแค้นมาเริ่มต้นใหม่กันดีกว่า จากนั้นหลิงซานก้อมายืนที่ตำหนักโดม พร้อมบอกให้น้องเมิ่งมาอยู่ข้างกายเขา แล้วเขาจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้น้องเมิ่งเอง น้องเมิ่งปฎิเสธทันที

ในตำหนักเต็มไปด้วยซากศฟของอสูรชั้นต่ำที่หนีไม่ทัน เลยโดนอสูรที่แกร่งกว่าวิ่งเหยียบพวกเขาเพื่อเอาชีวิตรอด เซียนหมิงอยู่ช่วยเหล่าอสูรปักษาที่เคยร่วมเรียนรำบำด้วยกันที่หอคณิกา พวกนางเป็นอสูรตัวเล้กตัวน้อยยอมจะหนีฝนเพลิงไม่ทัน ถ้าเขาไม่ตัดสินใจช่วยเหลือ เซิ่นโซ่วเองก้อช่วยพ่นไออสูรออกมาเป็นเมฆคอยเคลื่อนย้ายอสูรบาดเจ็บออกจากเมืองจนตัวเองแทบจะหมดแรง

เซียนหมิงเห็นหลิงซานกลับมาที่ตำหนักโดมก้อยิงเพลิงอสูรใส่ เลยเจอะหลิงซานจับบิดแล้วล้วงเอากระจกจิ่งหงออกมา น้องเมิ่งแปลงกาลมิสิ้นผ่านผันเป็นทวนช่วยปัดเซียนหมิงออกมา แล้วเข้าไปโจมตีหลิงซานต่อ ส่วนเซียนหมิงจะกระเด็นออกมาจวนจะตกพื้น เซิ่นโซ่วก้อลอยเอาร่างตัวเองไปรับเซียนหมิงจนได้รับบาดเจ็บ จนมันคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย เซียนหมิงตกใจมากรีบเอาหญ้าวิเศษให้เซิ่นโซ่วกิน เซิ่นโซ่วบอกว่าจำทำทะเลดอกไม้เป็นครั้งสุดท้ายให้เซียนหมิงดู แต่เซียนหมิงกลับเห็นที่ปลายหางของเซิ่นโซ่วกำลังส่งประกาย เซียนหมิงดีใจรีบบอกเซิ่นโซ่วว่าเขาไม่ได้กำลังจะตาย แต่กำลังจะเปลี่ยนร่างได้ต่างหากแล้วปลอบใจเซิ่นโซ่วว่าเจ้าจะต้องมีร่างที่งดงามมากแน่ๆ

หลิงซานกับน้องเมิ่งต่อสู้กัยถึงด้านในโดม ที่กำแพงล้วนวาดรูปเหล่าอสูรทุกเผ่ายกเว้นเพียงพอนเท่านั้น หลิงซานบอกว่าเขารอคอยมาสามปีเพื่อวันนี้ แล้วให้น้องเมิ่งดูภาพวาดเพียงพอนที่นอนจมกองหิมะ เพื่อบอกความจริงใจของเขา แต่น้องเมิ่งสบัดภาพวาดของพี่จี้ที่วาดตัวเองออกมาข่ม แล้วบอกว่าชอบภาพวาดของสามีที่สุด555 หลิงซานถึงได้รู้ว่าอริยะกระบี่จี้เซียวสามีของน้องเมิ่งยังไม่ตาย หลิงซานโมโหมากจัดการเผาภาพเขียนทั้งสองลงแล้วประกาศจะฆ่าสามีน้องก่อน แล้วจะชิงตัวน้องเมิ่งกลับมาอยู่ข้างกายเขาให้ได้

หลินซานทำลานเพดานโดมแล้วบินขึ้นสู่แกนเวททันที น้องเมิ่งรีบบินตามขึ้นมา หลิงซานหันไปบอกว่า...คนผู้นั้นรู้ว่าน้องเมิ่งทำลายค่ายเวทได้ ดังนั้นจึงสร้างค่ายเวทนี้ที่เริ่มทำงานแล้วจะไม่สามารถย้อนกลับได้ น้องเมิ่งใช้มีดสั้นปักอกหลิงซานทันที แต่หลิงซานกลับบอกว่าเจาจะกลืนกินหมื่นอสูร เพื่อจะเปิดประตูเชื่อมสวรรค์แล้วจากนั้นเขาจะมีร่างอมตะ หลิงซานกระชากมีดสั้นของน้องเมิ่งออก ลำแสงสีทองพุ่งเข้าใส่รอยแผลที่อก หลิงซานกลายร่างเป็นงูยักษ์สองหัว งูยักษ์ทยานขึ้นฟ้าพร้อมมีปีกงอกออกมา

แสงสีทองม้วนกลืนตำหนักแล้วกลายเป็นอสูรยักษ์ตามจำนวนอสูรที่วาดบนกำแพง อสูรที่โดนกักในเมืองก็กลายเป็นอาหารของงูยักษ์ไปแทน เซียนหมิงพาเซิ่นโซ่วที่กลายร่างเป็นเด็กหนุ่มรูปงาม พอฟื้นมาเซิ่นโซ่วก็เห็นภาพไฟเผาเมืองก้อตื่นตกใจจนตัวสั่น เซียนหมิงบอกให้เซิ่นโซ่วรีบหนีไป ส่วนตัวเขาจะไปตามฆ่าหลิงซานต่อ แต่พี่จี้บินมาขอยืมกระจกจิ่งหงจากเซียนหมิงแทน ส่วนเซียนหมิงยังงงว่าสรุปน้องเมิ่งกินลูกศิษย์ตัวเองใช่มะ555

งูยักษ์จับอสูรกินพร้อมดูดกลืนไอทิพย์จนร่างกายขยากใหญ่โตไม่ยอมหยุด และหมื่นอสูรที่เกิดจากแสงสีทองก้ออกมาตามจับอสูรในเมืองกินอย่างเมามัน น้องเมิ่งโดนหลิงซานโจมตีจนกระดูกหัวไหล่แตกจนยกกระบี่ไม่ขึ้น ก็กระเด็นปลิวไปตกอยู่ในอ้อมกอดของพี่จี้พอดี พี่จี้เอายาวิเศษป้อนใส่ปากน้องเมิ่งแล้วให้น้องเมิ่งไปพัก ตัวเองเอากาลมิสิ้นผ่านผันไปต่อสู้กับหลิงซานต่อ พี่จี้ลงมือฟันหัวงูขาดไปหัวหนึ่ง เซียนหมิงก้อรีบบินตามพ่นไฟใส่ตาหลิงซานจนบอดไปข้าง พี่จี้บินอ้อมหลังไปฟันปีกจนขาดไปข้างหนึ่ง น้องเมิ่งส่งปราณขยายเสียงระดมอสูรที่ยังพอมีแรงให้เข้าไปรุมจัดการหลิงซานตอนนี้ เซียนหมิงว่ายากที่จะสั่งให้อสูรลงมือมาช่วย

น้องเมิ่งเลยตัดสินใจเปิดเผยฐานะว่าเขาคือจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน แล้วบอกว่าถ้ามาช่วยกันสู้ยังพอมีทางรอด แต่ถ้าไม่สู้ก้อต้องยอมตาย หลิงซานโกธรน้องเมิ่ง ว่าเขายอมกลืนหมื่นอสูรยกเว้นน้องคนเดียวนะ อย่ามาบังคับให้เขาต้องกลืนน้อง แต่อสูรืั้ที่พอรู้วาจอมอสูรเขาเสวี่ยซานยังไม่ตาย ก้อรีบออกมาจากที่ซ่อนแล้วรวมมือกันโจมตีหลิงซานทันที แต่พลังของอสูรธรรมดาไม่อาจทำร้ายหลิงซานได้เท่าไร เพียงแต่ทำให้เห็นจุดอ่อนของหลิงซานบ้าง แต่ฉับพลันหลิงซานก้องอกหัวขึ้นมาใหม่ พี่จี้รีบบอกให้น้องเมิ่งหลบไป แต่เซียนหมิงหนีไม่พ้นโดนกัดปีกขาดไปครึ่งหนึ่ง น้องเมิ่งขี้กระบี่ไปรับร่างของเซียนหมิง

เซียนหมิงสงสัยว่านี้คือค่ายเวทอะไรทำไมร้ายกาจ พี่จี้บอกมันเป็นสองค่ายเวทที่ทำงานซ้อนกัน...ค่ายเวทชิงวิญญาณกับค่ายเวทกลืนอสูร ส่วนน้องเมิ่งโมโหอุดสาเกิดมาสองชาติถึงจะได้ร่วมบำเพ็ญเพียรกับพี่จี้...น้องเมิ่งไม่ยอมเพิ่งเริ่มต้นบำเพ็ญคู่เอง555 พี่จี้บอกต้องฆ่าหลิงซาน ไม่งั้นแดนอสูรจะถูกทำลาย พี่จี้มองตาน้องเมิ่ง แล้วเดินไปกลางค่ายเวทพร้อมกระจกจิ่งหง หลิงซานรู้ทันทีจะเข้ามาโจมตีขัดขวางพี่จี้ เซียนหมิงพ่นเพลิงอสูรต้านทันที พี่จี้อยู่กลางค่ายเวท เลือดไหลออกปาก เส้นโคจรไอทิพย์เริ่มปรากฎพร้อมขยับเคลื่อนไหวถักทอขึ้นมาใหม่ งูยักษ์บินดิ่งลงมา 

พี่จี้เอาคันฉ่องสะท้อนเงาภาพงูยักษ์ งูยักษ์อ้าปากกว้างจะกลืนตำหนักโดมทั้งหลัง พี้จี้มองน้องเมิ่งพร้อมกล่าว...เสวี่ยหลี่ ขอบใจน้องมาก ตอนนี้พี่จี้เข้าใจความรักระหว่างมนุษย์แล้ว น้องเมิ่งรู้ทันทีว่าพี่จี้จะทำอะไร น้องเมิ่งฟาดพี่จี้กระเด็นออกมา แล้วรับคันฉ่องแทน พี่จี้ตะโกนว่าไม่.....น้องเมิ่งหันหน้ายิ้มรับพี่จี้ว่า ถ้าครั้งนี้น้องกลับมาไม่ได้ งั้นชาติหน้าไม่ว่าน้องจะเกิดเป็นคนหรืออสูร น้องจะขอกลับมาเป็นคู่บำเพ็ญกับพี่จี้อีก หลิงซานในร่างงูยักษ์รีบหุบปาก ตำหนักพังทลาย คันฉ่องลอยตัวขึ้นส่องประกายสีทองออกจากร่างงูยักษ์แล้วสองกระแทกร่างน้องเมิ่งทันที ฟ้าดินแตกดับ แสงสีทองทะลุออกจากร่างงูยักษ์ แล้วก็ระเบิดไม่เหลือซาก เหลือเพียงฝุ่นสีทองจะกระจายหายไป

บนท้องฟ้าครึ่งสว่างครึ่งมืดกลับมีรอยแยกเพิ่มขึ้นมา เผยให้เห็นทะเลดาวที่อยู่ด้านในรอยแยก เหล่าอสูรนึกถึงเรื่องเล่ากำเนิดของจอมอสูรเขาเสวี่ยซาน ที่ถือกำเนิดจากไอทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเสวี่ยซาน ยามกำเนิดมีฝุ่นสีทองโปรยปรายลงมาจากฟ้าเหมือนกัน จี้เซียวใช้จิตสำนึกเฝ้ามองบนฟ้าก็ปรากฎร่างเล็กๆปลิวลอยลงมา พี่จี้ทยายขึ้นไปรับร่างน้องเมิ่งที่มองคล้ายคนกำลังนอนหลับฝันดี พี่จี้น้ำตาไหลจนหยดไปโดนหน้าน้องเมิ่งจนตื่น  น้องเมิ่งช่วยเช็ดน้ำตาพี่จี้แล้วแซวว่าพี่จี้ร้องไห้แล้ว แต่พี่จี้กลับโอบกอดน้องเมิ่งแน่นเข้าไปอีก

เซิ่นโซ่วเห็นพี่จี้ยืนกอดน้องเมิ่งอยู่ไม่ยอมคลายอ้อมกอด ก้อดีใจจะวิ่งเข้าไปกอดกับทั้งคู่ด้วย แต่เจอะเซียนหมิงลากตัวกลับมา บอกเซิ่นโซ่วถ้าอยากกอดให้มากอดเขาแทน55 เซิ่นโซ่วไม่เกี่ยงเดินเข้าไปกอดเซียนหมิง แล้วบอกว่าต่อไปนี้ห้ามเรียกเขาว่าเจ้าตัวไม่เอาไหน เซียนหมิงบอกว่าไม่คุ้นกับร่างนี้เลย เซิ่นโซ่วเลยบอกงั้นกลับร่างเดิมก็ได้ เซียนหมิงมองดูสักพัก แล้วก็ว่าไม่ต้องเปลี่ยนหรอกร่างนี้ดีแล้ว555

ปรากฎการณ์ที่เมืองเฟิงเยวี่ยส่งผลต่อสามแดนดิน โดยเฉพาะแดนมนุษย์ต่างหวาดผวากับท้องฟ้าที่เกิดรอยแยก จนบ้างเมืองบางแคว้นต้องเชิญเหล่าผู้มีวิชามารีบทำพิธีกราบไหว้ขอพรต่อฟ้า ส่วนผู้บรรลุมรรคาต่างพาเรือเหาะ ไม่ก้อขี่กระบี่เข้าไปสังเกตุการณ์ใกล้ๆรอยแยก แต่กลับเจอะมหาพายุรุนแรงโหมใส่จนต้องล่าถอย

เรื่องเล่าในแดนอสูรถูกเล่าผ่านมาจนถึงแดนมนุษย์จนกลายเป็นนิยายได้อีกหลายเล่ม เหล่าผู้บำเพ็ญพรตต่างๆอยากถกมรรคาสวรรค์ในเรื่องนี้ ก็พากันนึกถึงอริยะกระบี่จี้เซียวที่เป็นปรมัตถ์คนแรก แต่เพราะเกิดเหตุร้ายก่อนหน้านี้ทำให้หานซานปิดเขาไม่รับแขก ส่วนมหรรณพแดนสรวงอยู่ไกลสุดขอบฟ้า ยากจะไปหาแถมประมุขแดนสรวงก้อไม่ยินดีต้อนรับแขกแปลกหน้า จึงเหลือแค่ปรมัตถ์กุยชิงที่อยู่แดนใต้

ที่สำนักหมิงเยวี่ยหู อวิ๋นซวีจื่อยังคงนั่งต้มชาให้ปรมัตถ์กุยชิงดื่ม อวิ๋นซวีจื่อปรึกษาว่ายามนี้น่าถือโอกาสสร้างชื่อให้สำนัก ด้วยการประกาศงานชุมนุมในนามสำนักหมิงเยวี่ยหู เพื่อสร้างอีเว้นท์นี้แทนกระประลองแดนสนธยาฮั่นไห่ของหานซาน โดยการเชิญทุกสำนักพรตในแดนมนุษย์มาร่วมชุมนุมในงานนี้ ปรมัตถ์กุยชิงให้ส่งจดหมายไปปรึกษากับไท่ซั่งจั่งเหล่าที่แดนไหวสุ่ย ปรมัตถ์กุยชิงตั้งชื่องานนี้ว่า..ชงชาสารทอุทก  ปรมัตถ์กุยชิงถามถึงจิงตี๋กับอวิ๋นซวีจื่อว่าเขาสำนึกผิดได้แล้วรึยัง อวิ๋นซวีจื่อไม่กล้าตอบ ปรมัตถ์กุยชิงบอกไม่ต้องห่วง อวิ๋นซวีจื่อยังคงมีอายุขัยยืนยาว วันหน้าสามารถรับศิษย์ใหม่อนาคตไกลได้อีก

เจ็ดวันผ่านไปหลังเกิดเหตุท้องฟ้าเกิดรอยแยก สำนักหมิงเยวี่ยหูส่งเทียบเชิญงานชงชาสารทอุทกให้กับทุกสำนักพรตในแดนมนุษย์ ส่วนไท่ซั่งจั่งเหล่าเริ่มปั่นข่าวว่าน้องเมิ่งคืออสูรที่มาล่อลวงจี้เซียว และยังเป็นผู้ทำลานแดนสนธยาฮั่นไห่ด้วย แต่เหล่านักพรตหนุ่มสาวที่อยู่ประลองในวันสุดท้ายก่อนแดนสนธยาจะถล่มมา ต่างก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องโกหก แต่พวกเขากลับโดนอาจารย์หรือเจ้าสำนักของแต่ละคนสั่งให้ปิดปากแทน

ชิงไต้ได้ตั้งสำนักพรตอิสระในนามพรรคซั่นซิว โดยมีโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนให้การสนับสนุน มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองหานเหมิง มีจุดเด่นในการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากเหล่านักพรตอิสระ วันนี้อวี๋ฉี่ซูอุ้มกิ่งต้นจินซือเถามาส่งพอดีเลย เขาได้เจอะกับชิงไต้ที่จะมาพบกับเฉียนเจินเหรินเหมือนกัน เขาเลยรู้ว่าเฉียนเจินเหรินลงทุนให้ชิงไต้เยอะมาก เฉียนเจินเหรินบอกอวี๋ฉี่ซูให้มาพบเขาในพรุ่งนี้

เช้าวันต่อมาอวี๋ฉี่ซูโดนเจ้าสำนักตามให้ไปพบด่วน เพื่อให้เตรียมตัวลงเขาเพื่อไปร่วมงานชงชาสารทอุทก ตกค่ำอวี๋ฉี่ซูลงเขาไปหาเฉียนเจินเหรินตามนัด ถึงได้พบว่าเฉียนเจินเหรินเอากระบี่เดิมเขาไปหลอมใหม่ พร้อมใส่วัสดุวิเศษมากมายตีใส่ลงไปในกระบี่เพิ่ม ทั้งยังเตรียมชุดเสื้อใหม่ที่ดูหรูหรายิ่ง ไม่พอยังใส่อักขรเวทคุ้มครองป้องกันบนเสื้อผ้าด้วย มีจำนาวนมากมายหลายชุด แต่เฉียนเจินเหรินบอกว่าทั้งหมดนี้ล้วนหักจากเงินในบัญชีของอวี๋ฉี่ซูทั้งหมด555 อวี๋ฉี่ซูเลยถามว่าเฉียนเจินเหรินจะเดินทางไปกับเขาไหม เฉียนเจินเหรินบอกเขาเป็นพ่อค้าเลยไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย แต่อวี๋ฉี่ซูกลับเป็นห่วงสำนัก เฉียนเจินเหรินบอกไม่ต้องเป็นห่วงให้เขาเตรียมตัวไปประลองกับนักพรตต่างสำนักดีกว่า 

ว่าแล้วเฉียนเจินเหรินก้อบ่นอิจฉาจี้เซียวที่มีคู่บำเพ็ญที่หน้าตาน่ารัก ทั้งๆที่ตัวพี่จี้เองเย็นชาป่านนั้นไม่สมควรจะมีเมีย คนที่ควรจะมีเมียควรเป็นตัวเองมากกว่า555 แถมพี่จี้ยังมาทิ้งเด็กน้อยมาให้เขาเลี้ยงอีก อวี๋ฉี่ซูโกธรที่โดนว่าเป็นเด็กเลยพุ่งเข้าใส่เฉียนเจินเหริน555(คู่นี้ก้ออยากลุ้นให้ได้กันละเกิน55) ก่อนจะออกเดินทางอวี๋ฉี่ซูก้อฝากยอดเขาฉางซุนให้แก็งค์ปลาไนสามตัวกับอุษาไร้เขตขัณฑ์อยู่เฝ้าดูแลบ้านให้ดีๆ ก้อรีบเดินทางไปกับเหล่าศิษย์หานซานที่ได้รับการคัดเลือก

ในแดนอสูร น้องเมิ่งโดนเหล่าอสูรที่รอดตายในงานเลี้ยงเกลี่ยกล่อมให้เขารับตำแหน่งจอมอสูรขึ้นครองอำนาจแทนจอมอสูรหลิงซานที่ตายไปแล้ว น้องเมิ่งปฎิเสธ เพียงแต่ตอนนี้เขาพยายามปลอบขวัญและช่วยเหลือให้อสูรแดนอสูรที่บาดเจ็บให้ฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น พี่จี้ก้อค่อยดูแลน้องเมิ่งตลอด ไม่ให้เขาใช้พลังจนเกินร่างกายจะรับไหว ข่าวลือว่าน้องเมิ่งมีสามีเป็นนักพรตระดับสูงจากแดนมนุษย์ก้อลือไปทั่วแดนอสูร555 

น้องเมิ่งยังคงพักที่หอไผ่ น้องเมิ่งเล่าเรื่องวันนั้นให้พี่จี้ฟัง โดยมีเซียนหมิงมารวมนั่งฟังด้วย ว่าวันที่น้องเมิ่งเข้าไปจัดการหลิงซานผ่านกระจกจิ่งหงจนกระจกแตกสลาย ตัวเขาได้ผ่านกาลเวลากลับไปตอนที่ตัวเองเพิ่งแปลงร่างจากอสูรเพียงพอนมาเป็นร่างมนุษย์ แล้วเดินลงจากเขาเสวี่ยซานไป จนได้พบเจอะกับหลิงซานที่ยืนเป่าขลุ่นอยู่ในถ้ำที่เขาหลิงซาน นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน จากนั้นน้องเมิ่งก้อลงจากเขามาฟังหลิงซานเป่าขลุ่ยทุกวัน จนวันหนึ่งน้องเมิ่งชวนหลิงซานให้ออกจากถ้ำเพื่อออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าง หลิงซานบอกว่าร่างจริงเขาเป็นงูไม่ชอบอากาศร้อน น้องเมิ่งเลยบอกว่าเขาเป็นอสูรเพียงพอนที่เกิดบนเขาเสวี่ยซานตัวมีไอเย็น หลิงซานมาจับตัวน้องก้อพบว่าเย็นสบาย น้องเมิ่งบอกจะพาเขาออกไปเที่ยวจะได้แนะนำให้รู้จักกับเพื่อนสนิทอสูรนกยูง หลิงซานผิดหวังที่เขาไม่ใช่เพื่อนเพียงคนเดียวของน้องเมิ่ง น้องเมิ่งคิดว่าภาพเหล่านี้คือสิ่งที่หลิงซานสร้างขึ้นมาให้เขารับรู้

หลังจากนั้นน้องเมิ่งก็ปรากฎอยู่ในห้วงความมืดมิด ไม่มีฟ้าไม่มีแผ่นดิน แต่สักพักก็เกิดระเบิดแสงขึ้น เกิดทะเลดาวมากมาย น้องเมิ่งที่อยู่ที่นั้นรู้สึกว่างเปล่าแต่ไม่ได้โศกเศร้า แต่น้องเมิ่งรู้ว่าตัวเองต้องกลับมา ไม่อย่างนั้นน้องจะล่องลอยอยู่ที่นั้นไปตลอดชีวิต พี่จี้เอามือลูบหลังคอน้องเมิ่งปลอบโยนไป เซียนหมิงก้อกินอาหารหมาไป555

ในที่สุดสองผัวเมียก้อได้อยู่กันตามลำพัง น้องเมิ่งเริ่มง้อสามีที่นั่งเงียบๆไม่พูดมานานแล้ว พี่จี้บอกไม่อยากให้น้องมาสละชีวิตแทนตัวเอง พี่จี้ว่าน้องเมิ่งทำแบบนี้ใจร้ายกับพี่เขามาก แล้วถ้ามีคราวหน้าอีกพี่เขาไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว น้องเมิ่งรีบปลอบผัวว่าถ้ามีคราวหน้าจะยอมเลิกกับพี่จี้เอง พี่จี้หันหน้าขวับถามว่าน้องเมิ่งคิดจะเลิกกับพี่จี้หรอ555 น้องเมิ่งลนลานไม่รู้จะทำยังไง เลยพุ่งตัวไประดมจูบพี่จี้รัวๆ จนพี่จี้จับน้องเมิ่งลงเตียงเพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตคู่ทันที5555 เช้ามาน้องเมิ่งสติแจ่มใส สมองเริ่มคิดว่าก่อนน้องจะแย่งกระจกไปถือเอง เป็นพี่จี้ที่ถือกระจกมาสารภาพรักน้องเมิ่ง เพื่อเตรียมตัวจะตายหากผิดแผนนี่น่า จึงหันไปไล่เบี้ยกับพี่จี้ทันที พี่จี้ยอมรับผิดทันที555 น้องเมิ่งสั่งลงโทษให้พี่จี้ไปแปรงขนน้องเดียวนี้เลย555

ที่ศาลาพักร้อนกลางป่าไผ่ เซียนหมิงตั้งวงไพ่ มีเซิ่นโซ่ว เฟยอวี่กับชื่อชูนั่งเล่นครบขา เขายังคงไม่รู้ว่าเซียวถิงอวิ๋นคือพี่จี้ ยังไปถามเพื่อนวงไพ่ว่าสรุปน้องเมิ่งชอบคนแก่หรือเด็กกันแน่555 ชื่อชูเลยปากองนิยายออกมาว่าทุกตัวละครก้อคือพี่จี้นะแหละ เฟยอวี่ยังตอกเข้าไปอีกว่าเซียนหมิงรู้ความจริงเป็นคนสุดท้าย555 เนื่องจากทั้งหมดไม่มีใครมีเงิน ใครแพ้ต้องโดนจับแก้ม รอบที่แล้วๆเป็นเซิ่นโซ่วที่อยู่ในร่างหนุ่มน้อยหน้าใสที่โดนจับแก้มมาตลอด แต่คราวนี้เป็นเซียนหมิงแพ้ เขาเลยจับมือของเซิ่นโซ่วมาลูบหน้าตัวเอง เซิ่นโซ่วเลิกเล่นทันที555

เซียนหมิงพอรู้ความจริงก้อวิ่งไปหาน้องเมิ่งกะจะเมาท์สะหน่อย กลับเห็นภาพพี่จี้ยืนสางผมให้น้องเมิ่งที่นั่งหน้ากระจกอย่างสบายอารมย์ ก็รู้สึกยินดีในวาสนาของเพื่อนรักละเกิน ฝั่งพี่จี้ก้อสีหน้าอิ่มเอิ่มมีความสุข ไม่ได้ดูเย็นชาจนเห็นหน้าทีไร ก็รู้สึกอยากรีบวิ่งหนีแบบเมื่อก่อน พี่จี้เกล้าผมให้น้องเมิ่งเสร็จ น้องเมิ่งก้อจับมือพี่จี้มาเขย่าว่าเดียวน้องกะเซียนหมิงต้องไปจัดการเรื่องของแดนอสูร พี่จี้เข้าใจ บอกเดียวเขาจะขึ้นไปดูรอยแยกบนฟ้าสักหน่อย น้องเมิ่งเป็นห่วงบอกพี่จี้ให้ระวังตัวเองให้มากๆ

น้องเมิ่งซักเซียนหมิงทันทีว่าเขาไปเอากระจกจิ่งหงมาจากใคร เซียนหมิงเลยเล่าว่าเขาขโมยมาจากหูซื่อ แถมก่อนหน้ายังโดนหูซื่อจับตัวไปทรมานจนอ้วน555 เซียนหมิงเล่าว่าหูซื่อคือเด็กอ้วนเสี่ยวหยวน ที่เขาก่อกรรมไปหยอกล้อจนเสี่ยวหยวนป่วยหนักจนเกือบตาย น้องเมิ่งฟังเรื่องทั้งหมดก้อเดาว่าหูซื่อน่าวางแผนคำนวนเรื่องราวทั้งหมดว่าเรื่องจะออกมาแบบนี้ เซียนหมิงตกใจโมโหจะไปถามหูซื่อที่แดนมนุษย์ทันที แต่มีอสูรมาขอพบน้องเมิ่งก่อน เป็นอสูรเถาโลหิต ที่ทำงานเป็นพ่อบ้านให้หลิงซานมาก่อน น้องเมิ่งเลยให้เขาดูแลจัดการเรื่องของอสูรที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ดูจากรายงานที่อสูรเถาโลหิตนำมาให้ น้องเมิ่งก้อถอนใจ คืนเดียวอสูรในแดนนี้ตายไปสามหมื่นกว่าตน 

เซียนหมิงดูรายงานก้อนึกภาพเหล่าอสูรชั้นต่ำที่ตายเป็นกองรอบตัวเขาในคืนนั้น ก้อสะเทือนใจมาก อยากบินไปถามหูซื่อทันที ว่าทำไมเขาถึงได้รวมมือกับหลิงซานคนชั่วได้ลงคอ น้องเมิ่งไม่ให้เขาไปเพราะยังไงหูซื่อก้อไม่มีทางบอกความจริง แถมเซียนหมิงก้อไม่สามารถฆ่าหูซื่อได้ แต่ถ้าเป็นน้องเมิ่งลงมือเองก้อไม่แน่ว่าอาจจะสำเร็จ เซียนหมิงตกใจที่น้องมีความคิดจะฆ่าหูซื่อที่เป็นศิษย์พี่ของสามีตัวเอง น้องเมิ่งบอกเซียนหมิงว่าห้ามบอกให้ใครรู้เรื่องนี้ โดยเฉพาะพี่จี้นี่ห้ามบอกเด็ดขาด เรื่องนี้ยังไม่อาจลงมือในเวลานี้ น้องเมิ่งต้องฟื้นฟูพลังอสูรของตัวเองให้กลับมาก่อน น้องเมิ่งจ้องตาเซียนหมิง ถามว่าเขาจะยอมรวมมือกับน้องไหม เซียนหมิงคิดหนักแต่สุดท้ายก้อตกลงรับปากจะช่วยน้องเมิ่งจัดการหูซื่อ

เจ้ายอดเขาปี้จงนำศิษย์หานซานลงเขามุ่งแดนใต้ เพื่อไปรวมงานชงชาสารทอุทกที่สำนักหมิงเยวี่ยหู ก้อพบคนอีกหลายสำนักล้วนมุ่งหน้าเดินทางมาด้วยจุดหมายเดียวกัน ในขณะที่คนอื่นในสำนักหานซานแต่งกายเรียบง่ายดุจนักพรตผู้สูงส่ง อวี๋ฉี่ซูแต่งกายหรูคล้ายคุณชายจวนใหญ่จากแคว้นไหนสักแคว้น555 เนื่องจากชื่อเสียงของน้องเมิ่งโดนไท่ซั่งจั่งเหล่าใส่ร้ายป้ายสี เลยทำให้ยอดจำหน่ายของกิ่งต้นจินซือเถาตกต่ำลง เฉียนเจินเหรินจึงวางแผนการตลาดให้อวี๋ฉี่ซูนำกิ่งต้นจินซือเถาติดตัวไป เจอะใครที่มีแนวโน้มที่ดีก้อมอบกิ่งต้นจินซือเถาให้เป็นของขวัญ จากเหตุผลนี้เลยทำมห้ชื่อเสียงของอวี๋ฉี่ซูกลายเป็นหนุ่มเจ้าชูขั้นเทพ ที่เจอะหน้าใครก้อมอบกิ่งต้นจินซือเถาแทนใจให้ทุกคนแทน555

ในงานนี้แก็งค์เพื่อนของจิงตี๋ก้อถือโอกาสจะมาสืบข่าวของจิงตี๋ ที่เขาเงียบหายไปหลังจบงานประลองแดนสนธยาฮั่นไห่ มีคนงามซ่งเฉี่ยนอี้เป็นหัวหน้ากลุ่ม ส่วนหลิวจิ้ง เจิ้งมู่  สวีซานซานก็ติดตามนางมาหาอวิ๋นซวีจื่อเจ้าสำนัก เพื่อมาคารวะในนามตัวแทนของศิษย์เอกของแต่ละสำนัก จากนั้นถือโอกาสเข้าเยี่ยมจิงตี๋ตามมารยาท แต่ว่าอวิ๋นซวีจื่อบอกเพียงจิงตี๋ฝึกตนในสถานที่ห้ามคนนอกสำนักเข้าไป

ทั้งสี่คนจำต้องนั่งเรือกลับ จนพ้นจิตตระหนักรู้ของอวิ๋นซวีจื่อเจ้าสำนักแล้ว ซ่งเฉี่ยนอี้มั่นใจว่าต้องเกิดเรื่องกับจิงตี๋แน่ๆ ก้อพอดีขากลับเจอะอวี๋ฉี่ซูยืนบนเรือชมวิวอยู่ นางคิดแล้วว่าเขาน่าจะเป็นศิษย์รองของน้องเมิ่งแน่ๆ ตอนนี้สำนักหมิงเยวี่ยหูคิดจะประกาศความเป็นใหญ่ในงานเลี้ยงนี้ ถึงขนาดกล้าจัดเรือนที่พักใหญ่โตให้กับไท่ซั่งจั่งเหล่าและลูกศิษย์ ส่วนสำนักหานซานได้เรือนหลังเล็กและตำแหน่งที่พักก้อดูแย่กว่าแบบจงใจให้ทุกคนรู้ชัดๆ  ไป

ซ่งเฉี่ยนอี้ส่งเสียงทักทายให้อวี๋ฉี่ซูให้มานั่งคุยบนเรือของพวกนาง อวี๋ฉี่ซูเดินลงบนผิวน้ำ แล้วขึ้นเรือของซ่งเฉี่ยนอี้ทันที ดูเหมือนพวกเขาจะเข้ากันได้ดี หลังพวกเขาทักทายกันแล้วนับเป็นพี่น้องทันที จนถึงเวลาแยกจาก อวี๋ฉี่ซูก็มอบกิ่งต้นจิงซือเถาให้ซ่งเฉี่ยนอี้และเพื่อนอีกสามคน ทุกคนได้คนละหนึ่งกิ่งเป็นของขวัญแรกเจอะ555 ส่วนแก็งค์พี่จางซู่หยวนได้แต่มองซ่งเฉี่ยนอี้ตาละห้อย เพราะหลังจากกลับแดนสนธยาฮั่นไห่แล้ว พวกศิษย์พี่ก้อได้แต่แอบคิดถึงนาง555 ตอนนี้มีโอกาสได้เจอะหน้านางอีกครั้ง เลยมาปรึกษาอวี๋ฉี่ซูถึงวิธีจีบสาวงาม อวี๋ฉี่ซูที่มีตำราหาเมียมาจากหูซื่อ เลยเอาเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆในตำรามาสอนแก็งศิษย์พี่จางซู่หยวน555 แต่พอได้พบหน้านางล้วนผิดแผนหมด ทั้งหมดล้วนกินแห้ว5555

หลังศึกประลองแดนสนธยา ซ่งเฉี่ยนอี้ยังติดต่อกับสำนักนักพรตสตรีสยาซาน หลังแลกเปลี่ยนข่าวสารกันแล้ว ซ่งเฉี่ยนอี้ก็กลับเรือนพัก แต่กลับเจอะชิงเหอเจินเหรินเจ้าสำนักซงเฟิงกู่ที่เป็นอาจารย์ดักรอพบ เพื่อให้นางตัดใจจากจิงตี๋ แล้วบังคับให้ซ่งเฉี่ยนอี้ไปนัดดูตัว โดยเขาจะการจัดงานเลี้ยงชุมนุมกวีมาบังหน้า เพื่อเชิญนักพรตหนุ่มๆมาให้นางได้ดูตัว ซ่งเฉี่ยนอี้กลับยอมรับปากอาจารย์ แต่ที่จริงแล้วนางคิดแผนซ้อนลงไปอีกแผนแทน

พอถึงงานชุมนุมกวี ซ่งเฉี่ยนอี้กลับเลือกผู้ฝึกกระบี่แซ่หลี่นักพรตที่ดูซื่อๆบื่อๆจากสำนักหมิงเยวี่ยหู ด้วยการที่นางเขียนกลอน แล้วให้เขาเขียนกลอนตอบกลับมาคืน เป็นไปตามแผน ผู้ฝึกกระบี่แซ่หลี่ไม่สามารถเขียนกลอนตอบกลับได้ จึงได้แอบเข้าไปในคุกน้ำเพื่อไปหาจิงตี๋ แล้วขอร้องให้เขาช่วยเขียนกลอนโต้ตอบกลับ จิงตี๋พออ่านกลอนก็เข้าใจทันที ว่ามันเป็นโค้ดลับที่ซ่งเฉี่ยนอี้เขียนถามจิงตี๋ จิ่งตี๋แต่งกลอนโต้ตอบให้ผู้ฝึกกระบี่แซ่หลี่ทันที

ซ่งเฉี่ยนอี้ดูกลอนที่ตอบกลับมา แล้วเล่าให้เพื่อนที่หลังฟังว่าจิงตี๋ขอให้พวกเขาเลิกล้ม แล้วแยกย้ายกลับออกไป แต่ในมุมที่พวกเขาแอบสนทนากัน ทั้งที่มีค่ายเวทดักคนไว้แล้ว แต่กลับเจอะอวี๋ฉี่ซูอยู่ใกล้ๆ แถมน่าจะได้ยินที่พวกเขาพูดคุยเรื่องลับกันหมดแล้ว แต่ซ่งเฉี่ยนอี้ดูแล้วเขาน่าจะซื่อมาก เลยไล่อวี๋ฉี่ซูกลับไปพัก ถ้ามีเหตุใดเกิดขึ้นพรุ่งนี้ ให้เขาพยายามหลีกหนีไปให้ไกลแทน

ที่ตำหนักในสำนักหมิงเยวี่ยหู อวิ๋นซวีจื่อยังคงชงชาให้ปรมัตถ์กุยชิง ที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับงานใหญ่พรุ่งนี้ อวิ๋นซวีจื่อยังคงหวาดหวั่นปรมัตถ์กุยชิง ที่สามารถส่งหนิงเวยไปให้จอมอสูรหลิงซานฆ่าปิดปากได้ง่ายๆ ทั้งที่หนิงเวยเป็นศิษย์เอกตัวเองแท้ๆ

ถึงเวลางานชงชาสารทอุทก ศาลาลอยน้ำใหญ่น้อยปรากฎอยู่บนทะเลสาป ท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำ พระจันทร์ลอยเด่น มีเสียงดนตรีไพเราะบรรเลงคลอพร้อมอาหารเลิศรสบนโต๊ะ ปรมัตถ์กุยชิงเปิดตัวด้วยการเดินลงมาจากเรือเหาะอย่างหรูหราหมาเห่า งานเลี้ยงก็ได้เริ่มขึ้น เหล่านักพรตสำนักต่างๆเริ่มถกถึงวิธีเปิดประตูสู่สวรรค์ ปรมัตถ์กุยชิงตอบแต่วาจาลอยๆหาจับต้องแกนแท้ไม่ได้ ทำเอาอวี๋ฉี่ซูนึกถึงจี้เซียว ที่ไม่ว่าเขาจะถามอะไร คำตอบที่ได้มันจะสั้นๆง่ายๆเข้าใจได้เลย ไม่มาพูดจายอกย้อนวกวนแต่สรุปกลับไม่มีสาระอันใดในคำพูดยาวๆหรูๆเหล่านั้น555

ถกปัญหากันไปมากลับเป็นการทวงสิทธิ์ เพื่อให้ปรมัตถ์กุยชิงเป็นคนตัดสินความให้แทน ตอนนี้ก็เข้าทางไท่ซั่งจั่งเหล่าที่ส่งโจวอวี้ศิษย์เอกมากล่าวโทษที่น้องเมิ่งเป็นอสูรไม่พอ ยังทำให้แดนสนธยาฮั่นไห่ถล่มลงมา แล้วลามไปถึงทวงถามสิทธิในการครอบครองอุษาไร้เขตขัณฑ์ แต่เจอะเจ้ายอดเขาจ้งปี้สวนกลับว่าใครทำชั่วยอมรู้ดีแก่ใจ555 โจวอวี้ท้าประลองคนสำนักหานซานเพื่อจะได้สิทธิ์ในการครองอุษาไร้เขตขัณฑ์ เจ้ายอดเขาจ้งปี้ส่งอวี๋ฉี่ซูไปประลองแทนสำนักหานซาน แต่กลับเจอะศิษย์สำนักสำนักนักพรตสตรีสำนักสยาซานแย่งขึ้นเวทีประลองก่อน แต่ยังไม่ทันเริ่ม นางก้อยอมแพ้ก่อน แล้วกล่าวถึงคำสาบานในตอนอยู่ที่แดนสนธยาฮั่นไห่ ที่พี่จี้กับน้องเมิ่งชี้แนะเหล่านักพรตหนุ่มสาวทุกคนในนั้น จนทุกคนสามารถทำลายสภาวะเดิมของตัวเองได้ แล้วพวกเขาประกาศว่าจะไม่ไม่ยอมเจอะหน้าคนจากสำนักหานซานในสงครามใดก็ตาม

แผนของไท่ซั่งจั่งเหล่ากับปรมัตถ์กุยชิงล่มอีกครั้ง ที่ตั้งใจวางแผนยืมมือคนนอกสำนักจัดการสำนักหานซาน แถมยังเจอะแผนซ้อนแผนของซ่งเฉี่ยนอี้ ที่ถือโอกาสจะขอพบจิงตี๋ผู้ที่กล่าวประโยคนี้คนแรกในแดนสนธยาฮั่นไห่อีก อวิ๋นซวีจื่อเจ้าสำนักหมิงเยวี่ยหู หันไปมองปรมัตถ์กุยชิง ก็พบว่าเขาพยักหน้าตอบรับคำขอ จึงให้ลูกศิษย์ไปพาจิงตี๋ออกมาจากคุกน้ำ เพื่อให้เขาได้พบกับแขกต่างสำนัก

จิงตี๋ถูกส่งไปอาบน้ำจับแต่งชุดใหม่ แต่เพราะร่างกายที่โดนทรมานมานานไม่อาจโกหกได้ ทุกคนจึงตกใจกับสภาพร่างกายที่ผ่ายผอมของเขา นักพรตสาวสำนักสยาซานทวนคำสาบานของจิงตี๋ในวันนั่นที่แดนสนธยา จิงตี๋ประกาศว่ามันเป็นความจริง และตอนนี้เขาขอคือมรรคกระบี่ให้สำนักหมิงเยวี่ยหู ด้วยการใช้กระบี่คู่กายคันฉ่องน้ำแข็งจันทราตัดแขนขวาตัวเอง แล้วทำลายวรยุทธตัวเอง และโยนกระบี่ทิ้งลงทะเลสาบ พร้อมประกาศตัดขาดกับสำนักหมิงเยวี่ยหูนับจากวันนี้เป็นต้นไป จากนั้นก้อเดินโซเซจากไป โดยมีซ่งเฉี่ยนอี้วิ่งมาประคองเขา นางและ หลิวจิ้ง เจิ้งมู่ สวีซานซาน ต่างก้อขอลาออกจากสำนักของตัวเองทันที ทั้งๆที่ทั้งหมดล้วนเป็นศิษย์เอกอนาคตไกลทั้งนั้น ตอนที่ทั้งห้าคนต่างเดินออกมาจากสำนักมีชื่อ ตอนนี้ต่างไร้รากที่จะยึดเหนี่ยวป้องกัน ก็มีชิงไต้วิ่งตามมาให้ความช่วยเหลือ เพราะถ้าไม่มีสำนักใหญ่คอยค้ำจุน โอกาสจะโดนลอบทำร้ายก้อสูง ชิงไต้จึงเสนอให้พวกเขาไปหลบพักพิงที่พรรคซั่นซิวก่อน ทั้งหมดตอบตกลง

เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจและสงสัยให้กับอวี๋ฉี่ซู จนเขาต้องตั้งคำถามกับอวิ๋นซวีจื่อเจ้าสำนักหมิงเยวี่ยหูทันทีว่า...เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของพวกเขาห้าคนเลย ทำไมพวกเขาต้องไปด้วย...ทำไม อวิ๋นซวีจื่อที่โกธรจัดเพราะตอบไม่ได้ ก้อลงมือซัดกระบี่ใส่อวี๋ฉี่ซูทันที อวี๋ฉี่ซูคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ แต่น้องเมิ่งใช้ทวนกาลมิสิ้นผ่านผันปัดกระบี่ของอวิ๋นซวีจื่อออกไปทันที

พี่จี้กับน้องเมิ่งมาทันเวลาพอดี อวี๋ฉี่ซูกลืนน้ำตาเก็บแขนขวาของจิงตี๋ใส่ถุงวิเศษไว้ หากได้พบกับจิงตี๋อีกครั้ง เขาจะได้คืนแขนขวาให้จิงตี๋ น้องเมิ่งท้าทายว่าใครกล้ารังแกศิษย์ของเขาอีก ไท่ซั่งจั่งเหล่าโมโหประกาศกร้าวว่าน้องเมิ่งเป็นอสูร แล้วถือโอกาสใช้คันฉ่องสะท้อนเงา เพื่อพิสูจนร่างอสูรของน้องเมิ่ง แต่น้องเมิ่งไม่กลัว555 ประกาศเลยว่าแต่เดิมน้องเป็นจอมอสูรเขาเสวี่ยซานที่โด่งดังในอดีต555 แต่เพราะสามีมอบร่างมนุษย์ให้ แถมน้องยังได้เป็นคู่บำเพ็ญด้วย ตอนนี้น้องย่อมเป็นมนุษย์สิ ไท่ซั่งจั่งเหล่าโมโหหนักกว่าเดิมหยิบกระจกมาทันที แล้วโยนขึ้นฟ้า กระจกส่องสะท้อนร่างน้องเมิ่งทันที แต่ร่างในกระจกนั้นคือเพียงพอนขาวตัวน้อยน่ารักสุดๆ555 น้องเมิ่งเขินเอามือลูบจมูก เพียงพอนน้อยก้อเอามือเล็กๆเกาแก้มตาม555 เหล่านักพรตหญิงทั้งหลายใจอ่อนยวบ เมื่อได้เห็นร่างเพียงพอนน้อยตัวขาวจั๊วแสนน่ารัก555

จากนั้นก็มีเสียงสะเทือนฟ้าสะเทือนดินปรากฎร่างเฟยอวี่ในรูปกายอสูรแม่ทัพนกกระสาขาว กับชื่อชูในร่างอสูรจิ้งจอกม่วงที่ตามมาแดนมนุษย์ด้วย น้องเมิ่งประกาศแผนการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่างแดนอสูรกับแดนมนุษย์ ว่าถ้าน้องเมิ่งยังอยู่ น้องขอรับประกันว่าเผ่าอสูรจะไม่รุกล้ำทำลายในแดนมนุษย์ แต่เผ่าอสูรจะเปิดเส้นทางการค้าขายกับแดนมนุษย์แทน เพื่อทำการค้าขายแลกเปลี่ยนระหว่างสองเผ่า

พอเหล่านักพรตรุ่นใหญ่ได้ฟัง ก้อสะท้อนใจว่าจี้เซียวเจินเหรินช่างมองการณ์ไกล ยอมสละตัวเองให้อสูรเพื่อให้แดนมนุษย์ปลอดภัย555 เหล่านักพรตพอเห็นประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนสมบัติล้ำค่าจากทางฝั่งแดนอสูร ก้อเริ่มสนใจที่จะเข้าร่วมกับทางน้องเมิ่ง ไท่ซั่งจั่งเหล่าเห็นท่าไม่ดี ก้อพูดจายุแยงว่าน้องเมิ่งใช้แผนชั่วสังหารจี้เซียวเจินเหริน แล้วมีสำนักหมิงเยวี่ยหูรับลูกต่อว่าน้องเมิ่งยังเป็นตัวการทำลายแดนสนธยาอีก น้องเมิ่งทนไม่ไหวจะลงมือทุบตีคน แต่พี่จี้รั้งมือน้องเมิ่งไว้ก่อน แล้วเดินไปที่ใต้คันฉ่องสะท้อนเงา ก้อปรากฎร่างจี้เซียวในกระจกแทน เหล่านักพรตฮือฮาทันที เสียงตะโกนดังลั่นว่าจี้เซียวเจินเหรินยังไม่ตาย

ไท่ซั่งจั่งเหล่ากับปรมัตถ์กุยชิงตกใจแทบตาย รีบตะโกนว่าจี้เซียวตายไปแล้ว นี้คือเวทอำพรางของน้องเมิ่งที่ทำมาหลอกพวกเราแน่ๆ แต่จี้เซียวกลับบอกว่าเขาแค่ยืมร่างกำเนิดใหม่แค่นั้นเอง พวกนักพรตหนุ่มสาวกลับต่างยินดี ที่พวกเขาได้รับการชี้แนะมรรคาจากจี้เซียวเจินเหรินโดยตรงที่แดนสนธยาฮั่นไห่ สองปรมัตถ์ผู้ยิ่งใหญ่ยืนเผชิญหน้ากันทันที น้องเมิ่งเรียกอวี๋ฉี่ซูให้มายืนดูอย่างตั้งใจ ที่พี่จี้กำลังปะมือกับกุยชิงให้ดีๆ เพราะหลังจากนี้คงไม่มีให้ดูอีก555 จากนั้นก้อแนะนำอวี๋ฉี่ซูให้รู้จักสองแม่ทัพอสูน ถ้าอวี๋ฉี่ซูสู้ไม่ได้ให้ไปหลบหลังสองแม่ทัพอสูร555

ไท่ซั่งจั่งเหล่าดูแนวโน้มแล้วว่า วันนี้ตัวเองน่าจะโดนกุยชิงผลักให้เป็นแพะรับบาป ในเรื่องวางแผนสังหารจี้เซียวแน่ๆ จึงรีบเรียกลูกศิษย์ชิงลงมือก่อน ที่กุยชิงจะกลับคำคืนดีกับจี้เซียวแทน ไท่ซั่งจั่งเหล่าซักไอกระบี่เข้าโจมตีน้องเมิ่งทันที แต่น้องเมิ่งเราเก่งทั้งหลบทั้งล่าไท่ซั่งจั่งเหล่าได้เรื่อยๆ ส่วนลูกศิษย์ของไท่ซั่งจั่งเหล่าก้อตะโกนด่าทอสำนักหานซาน ว่าทำตัวชั่วช้าร่วมมือกับอสูร แล้วไท่ซั่งจั่งเหล่าสร้างคลื่นยักษ์เตรียมโจมตีศิษย์สำนักหานซานทันที พี่จี้ออกไอกระบี่เพื่อทำลายคลื่นยักษ์ให้สลายลง ส่วนไท่ซั่งจั่งเหล่ากระอักเลือดทันที น้องเมิ่งแบ่งกาลมิสิ้นผ่านผันให้เป็นกระบี่คู่ แล้วโยนให้พี่จี้ถือไว้เล่มหนึ่ง

ปรมัตถ์กุยชิงตัดสินใจลงมือสังหารจี้เซียวในร่างเซียวถิงอวิ๋นให้ได้ในคืนนี้ กุยชิงเปิดโป่งชื่อสำนักที่ลงขันสังหารพี่จี้ในวันนั้นทันที ว่าคืนนี้จี้เซียวไม่ตาย พรุ่งนี้จะเป็นวันตายของพวกเขาทุกคนแน่ เพื่อกดดันให้ทุกคนรุมสังหารพี่จี้ในคืนนี้อีกครั้ง กุยชิงรับประกันว่าวันนี้พี่จี้ไม่แกร่งเหมือนเดิมแล้ว กระบี่เดียวยังเอาชีวิตไท่ซั่งจั่งเหล่าไม่ได้ ในที่สุดก็ได้เห็นโฉมคนชั่วทั้งหมด ล้วนเป็นผู้นำของสำนักนักพรตชั้นสูงยี่สิบกว่าคน  ต่างล้วนแต่เคยได้รับความช่วยเหลือจากพี่จี้ กุยชิงเปิดค่ายเวทสังหารทันที น้องเมิ่งขี่กระบี่แล้วประกาศให้นักพรตระดับสภาวะต่ำให้รีบหลบหนีออกจากค่ายเวทนี้ทันที ใครมีขี่กระบี่ได้ ต่างก้อขี่กระบี่ทยานออกทันที ส่วนนักพรตตัวเล็กตัวน้อย น้องเมิ่งให้สองแม่ทัพอสูรช่วยแบกเขาเหล่านั้นหนีออกจากค่ายเวทสังหาร

พี่จี้ใช้กระบี่กาลมิสิ้นผ่านผันรับกระบี่จันทร์กระจ่าง จนกระบี่กาลมิสิ้นผ่านผันบิ่นแตก น้องเมิ่งปวดใจที่อาวุธแสนรักโดนตีจนบิ่นร้าว ส่วนกุยชิงผมเผ้ายุ่งเย้า หน้าตาคลุ้มคลั่งใกล้บ้า กุยชิงเยาะเย้ยว่าพี่จี้ไร้เพื่อนเป็นพวกหัวเดียวกระเทียมลีบ ที่มีแต่คนอยากรุมฆ่า ทั้งบอกเรื่องที่พี่จี้รู้แต่ไม่เคยพูด ว่าหลังพี่จี้ตายญาณมารก็ตกอยู่ในมือของหูซื่อศิษย์พี่ของพี่จี้ ทั้งยังกล่าววาจาปลุกปั่นให้คนรุมโจมตีพี่จี้ พี่จี้ยื่นแขนขวาออกมา เจ้ายอดเขาจ้งปี้โยนกระบี่ในมือตัวเองให้พี่จี้ทันที จากนั้นศิษย์สำนักหานซานต่างโยนกระบี่คู่มือตัวเองให้พี่จี้หมด คราวนี้ลามไปยังนักพรตต่างสำนัก ที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากพี่จี้ ต่างก้อโยนกระบี่ตัวเองให้พี่จี้ ตอนนี้รอบกายพี่จี้มีกระบี่นับพันๆเล่มล้อมกายจนกลายเป็นตาข่ายเกราะกำบังกระบี่แทน

จากนั้นกระบี่ทั้งหมดก็พุ่งเป็นสะพานกระบี่พุ่งเข้าหากุยชิง แต่กุยชิงใช้ศิษย์สำนักหมิงเยวี่ยหูรับกระบี่ ตัวเองอยู่หลบอยู่ด้านหลัง รอจังหวะเพื่อสร้างไอกระบี่แสงจันทร์แล้วฟาดลงไปที่สะพานกระจี้ของพี่จี้ ไอกระบี่แสงจันทร์วิ่งลัดเลาะหมื่นกระบี่พุ่งไปหาพี่จี้ ถึงจะโดนหมื่นกระบี่สกัดตัดกำลังขนาดไหน มันก็ยังส่งวิ่งต่อ จนปลายกระบี่ใกล่ถึงตัวพี่จี้ ที่ใช้เพียงปลายนิ้วสบัดไอกระบี่แสงจันทร์ออก พีจี้เสียเลือดไปเพียวหยดเดียว แต่กุยชิงกลับโดนหมื่นกระบี่ทลวงร่างพรุนเป็นรูใหญ่เจ็ดแปดรูแทน กุยชิงเลือดออกปาก ตาไร้แววถามไถ่ว่าคืนนี้ทำไมพี่จี้ไม่ใช้อุษาไร้เขตขัณฑ์ พี่จี้บอกว่าคืนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้มัน (สะใจมากแปลว่าเจ้าไม่คู่ควรกับอุษาไร้เขตขัณฑ์555) สิ้นคำร่างของกุยชิงก้อแหลกลงทันที พี่จี้มองรอยแยกของท้องฟ้าแล้วก็บ่นเงียบๆว่ารอยแยกฟ้ายังขาดไปอีกนิดหน่อย

คืนนี้เป็นบุญตาของเหล่านักพรตทุกสำนัก ที่ได้มารวมเป็นพยานในการประลองของสองปรมัตถ์ ทั้งยังได้ชมวิชาหมื่นกระบี่จากอริยะกระบี่จี้เซียวตัวเป็นๆอีก ส่วนสำนักหมิงเยวี่ยหูนั่น ศิษย์ในสำนักล้มตายไปจำนวนมาก สภาพทะเลสาบโดนทำลายอย่างหนัก เกาะแก่งน้อยใหญ่จมหายไปเยอะมาก จากผืนน้ำกลับกลายเป็นชายหาดยาวสุดตาแทน ปรมัตถ์กุยชิงสิ้นชีพ ส่วนเจ้าสำนักต่างๆที่รวมมือกับกุยชิงล้วนโดนทำลายบำเพ็ญเพียรจนหมดสิ้นกลายเป็นคนธรรมดาแทน และหมื่นกระบี่หลังหมดหน้าที่ก็บินกลับไปหาเจ้าของมันทันที

หลังจากนั้นสำนักหานซานเปิดเขา เหล่าสำนักนักพรตต่างๆรีบส่งเทียบเชิญขอพบท่านพี่จี้ ทั้งยังส่งของขวัญมากมายมาที่สำนักหานซาน แต่สองผัวเมียรีบกลับไปแดนอสูรแล้ว555 ส่วนโรงรับจำนำเหิงทงจวี้หยวนประกาศยินดีซ่อมกระบี่ฟรี สำหรับกระบี่ที่ได้รับความเสียหายจากการร่วมเข้าต่อสู้กับจี้เซียวเจินเหริน 

จิงตี๋บาดเจ็บหนักจึงไม่มีใครกล้าเล่าศึกคืนวันนั้นให้เขารู้ ชิงไต้รีบพาพวกเขากลับเมืองหานเหมินที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ ซ่งเฉี่ยนอี้วิ่งยังคงดูแลรักษาจิงตี๋ พร้อมนางและ หลิวจิ้ง เจิ้งมู่ สวีซานซาน ก็เริ่มคิดลู่ทางทำมาหากิน เพราะต่างก้ออกจากสำนักแล้ว ค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายต่างๆจึงต้องหามาใช้เอง เพราะไม่มีสำนักคอยจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้อีกแล้ว หลังทุกคนจัดแจงแบ่งห้องที่พักในพรรคซั่นซิว ก็ได้พบเจอะหนิงเวย ทุกคนต่างตกใจกลัวเพราะยังจำได้ว่าโดนหนิงเวยทรมานเจียนตายในแดนสนธยาฮั่นไห่ แต่ชิงไต้กลับบอกว่าหนิงเวยก็เหมือนพวกเขาที่กลายเป็นนักพรตอิสระแล้ว และเขายังทำลายมรรคาเดิมเพื่อสร้างบำเพ็ญเพียนขึ้นใหม่ ตอนนี้สอนและฝึกทักษะกระบี่ทุกวัน

จิงตี๋ได้ยินว่าหนิงเวยอยู่ที่นี้ ก้ออยากออกไปพบเพื่อขอโทษหนิงเวย แต่หนิงเวยนั่งเช็ดกระบี่ไม่ยอมพูดอะไร หลังสิบวันผ่านไปจนบาดแผลของจิงตี๋สมานกันดี อวี๋ฉี่ซูก็หาพวกเขาเจอะเพื่อจะนำแขนขวาจิงตี๋มาคืน แต่กลับพบว่าจิงจี๋ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยสะแล้ว 

อวี๋ฉี่ซูกลับเขาฉางซุนกลับเจอะเด็กหนุ่มหน้าสวยวิ่งเข้ามากระโดดกอดเขา จึงสงสัยว่าเป็นใคร เซิ่นโซ่วจึงเฉลยและเล่าตอนนี้เขากลายร่างได้แล้วตอนนี้ อวี๋ฉี่ซูเขินอายเลยบอกว่าต่อไปนี้เซิ่นโซ่วจะมากอดเขาปุปปับแบบมะก่อนไม่ได้แล้วนะ แถมนอนในรังหนูไม่ได้ด้วย เซิ่นโซ่วบอกว่าตอนนี้เขาจะขยันฝึกบำเพ็ญเพราะจะต้องกลับแดนอสูรไปพบอสูรเฒ่าเซิ่นให้ได้เร็วๆ(มุ่งมั่นมากลูก555)

สิบวันหลังจากศึกนั้น พี่จี้กับน้องเมิ่งก็กลับมาแดนมนุษย์ จัดงานชุมนุมสาธกที่ยอดเขาฉางซุน จึงให้อวี๋ฉี่ซูเตรียมจัดหาเบาะรองนั่งให้เพียงพอ ยามถึงเวลางาน เหล่านักพรตต่างทยอยขึ้นเขาฉางซุง ระหว่างทางก้อชื่นชมวิวงดงามของยอดเขาฉางซุง แต่เมื่อมาถึงลานทัศนา ก้อพบเพียงเบาะนั่งวางเรียงรายเต็มสนามหญ้าเท่านั้น ไม่ได้หรูหราแบบที่กุยชิงโชว์ออฟในงานชงชาสารทอุทกเลย แถมยังไม่ได้ระบุมี่นั่งอีก ล้วนต่างยืนงงไม่รู้ควรนั่งที่ใดดี อวี๋ฉี่ซูจึงชี้พวกเขาให้ดูใต้ต้นไม้ ก็พบพี่จี้กัน้องเมิ่งนั่งสมาธิคู่กันอยู่

น้องเมิ่งลืมตาเห็นพวกของซ่งเฉี่ยนอี้ น้องก้อกวักมือเรียกพวกนางมานั่งใกล้ๆตัว พวกซ่งเฉี่ยนอี้ดีใจจึงเดินไปนังตรงเบาะแถวแรกทันที หลังจากนั่นทุกคนถึงได้สติรีบจับจองที่นั่งกันทันที หลังจากนั่นก็เริ่มพูดคุยกันที น้องเมิ่งก้อเล่าถึงยามเขาตกอยู่ด้านในรอยแยกของแผ่นฟ้า ที่ฝั่งนั้นเป็นทะเลดาว ตัวเขายามอยู่ที่นั้นลอยคว้างไร้สิ้นกาลสิ้นสุด ตกใจกลัว เซิ่นโซ่วก้อพ่นไออสูรสร้างภาพและบรรยากาศจำลองขึ้นมาทันที ทำเอาเหล่านักพรตได้รูจากภาพจำลอง ก้อตื่นตาตื่นใจ ยกย่องน้องเมิ่งว่าเป็นยอดอสูรที่สามารถสร้างภาพเสมือนจริงได้ขนาดนี้ น้องเมิ่งว่าตัวเองบำเพ็ญเพียรมาน้อยได้แค่สามปี จากนี้ให้สามีมาเป็นผู้บรรยาต่อ555 พี่จี้มองหน้าอวี๋ฉี่ซู ให้เตรียมพร้อมบันทึกการบรรยานี้ทันที พี่จี้ก็เริ่มอธิบายถึงแก่นแท้ถึงการบรรลุมรรคา ด้วยภาษาที่เรียบง่ายแต่สามารถเข้าใจได้กระจ่างแจ้ง ทำให้งานนี้เป็นที่กล่าวขวัญถึงทันที 

นับจากนั้นโรงเตี๊ยมเมืองหานเหมินก้อเต็มตลอด เพราะมีเหล่านักพรตจับจองอยู่ เพื่อรอวันเปิดงานชุมนุมสาธกรอบต่อไป ทำให้การค้าในเมืองหานเหมินคึกคันทุกวัน จนผ่านไปหนึ่งเดือนอวี๋ฉี่ซูก็สามารถบันทึกสรุปการบรรยายของงงานชุมนุมสาธกได้ครบหมดทุกประเด็น จากนั้นก้อนำบันทึกลงเขาไปหาเฉียนเจินเหริน เพื่อให้จัดเตรียมหนังสือไว้จัดจำหน่ายกับคนทั่วไป เฉียนเจินเหรินตั้งชื่อว่าสรุปวิเคราะห์ฉางซุน  ราคาของตำราเล่มนี้ก็ไม่แพงเพียงเล่มละหนึ่งก้อนศิลา ทำให้หนังสือกระจายไปทั่วแดนมนุษย์อย่างรวดเร็ว นักพรตอิสระก้อสามารถหาซื้อได้ไม่ยาก อวี๋ฉี่ซูรู้สึกนับถือเฉียนเจินเหรินในวิสัยทันศ์ในการทำการค้ามาก เพราะเขาสามารถได้กำไรจากงานชุมนุมสาธก ไม่พอตำราสรุปวิเคราะห์ฉางซุนที่จำหน่ายในราคาถูกแท้ๆ กลับทำกำไรให้เขาได้อีกมาก 

อวี๋ฉี่ซูจึงนับถือในความฉลาดของเฉียนเจินเหริน จึงได้ถามเหตุผลที่เขาไม่เข้าใจ ว่าพี่จี้เป็นคนดีเช่นนี้ แต่ทำไมถึงมีคนเกลียดจนลงขันสังหารพี่จี้ได้ลงคอ เฉียนเจินเหรินจึงบอกว่ายุคก่อนยังไม่มีใครรู้แจ้ง ล้วนอาศันตัวเองในการฝึกฝนนานนับสิบนับร้อยปี ก็ยังไม่แตกฉาน(ดูตัวอย่างอีไท่ซั่งจั่งเหล่ากับกุยชิง) จนจะหมเอายุขันก็ยังไม่อาจข้ามพ้น แต่จี้เซียวกลับเป็นบุตรคนโปรดของสวรรค์ เขาอายุน้อยมากๆแต่กลับสามารถบรรลุมรรคาก่อนพวกเฒ่าเดนตายพวกนั้น นี้ย่อมเป็นบ่อเกิดของความริษยาที่ตัวเองพ่ายแพ้ให้คนรุ่นหลัง ย่อมทำให้พวกเขาไม่ยินยอมในความสำเร็จของจี้เซียวอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่อวี๋ฉี่ซูเป็นคนรุ่นหลัง ที่มีอาจารย์ที่สามารถตอบข้อสงสัยได้อย่างกระจ่าง ไม่ต้องสู้ฟันฝ่าศึกนับร้อยก้อสามารถรู้แจ้งได้ชัด จิตใจจึงไม่ริษยา เฉียนเจินเหรินชวนอวี๋ฉี่ซูให้มาทำงานกับตัวเอง แต่อวี๋ฉี่ซูบอกว่างานในสวนยังไม่เสร็จ ขอตัวกลับก่อน555 เฉียนเจินเหรินได้แต่ส่ายหัวให้อวี๋ฉี่ซู ที่ตอนนี้เขามีชื่อเสียงโ่งดังในสำนักหานซานแล้วแท้ๆ แต่ยังคงมุ่งมั่นทำสวน แต่งสวนบนยอดเขาฉางซุนอย่างขันแข็ง5555

ซ่งเฉี่ยนอี้หลังเข้าพรรคซั่นซิวแล้วก็กลายเป็นเพื่อนสนิทที่สามารถพูดคุยกับชิงไต้ ทุกวันนี้นางเปิดรับการษาผู้คนเพื่อเป็นการหารายได้ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก้อใช้ความสามารถพิเศษออกไปทำงานเหมือนกัน วันนี้พวกนางก้อพูดคุยเรื่องชีวิตที่ต้องดำเนินด้วยตัวเอง ถึงได้รับรู้ถึงความลำบากในการใช้ชีวิตที่แท้จริง ชิงไต้ก้อนึกได้ว่ามีข่าวจากเฉียนเจินเหริน ว่าหลังจากจัดงานชุมนุมสาธกไปแล้ว พี่จี้กับน้องเมิ่งอยากจัดตั้งสำนักศึกษาที่แยกจากสำนักหานซาน เพื่อให้ทุกคนสามารถมาศึกษาได้โดยไม่มีการแบ่งแยกสำนัก ที่สำคัญยอดเขาฉางซุงเป็นพื้นที่ส่วนตัวของสำนักหานซาน น้องเมิ่งก้อไม่อยากให้คนภายนอกเข้ามาในบ้านตัวเองตลอดเวลา เลยให้พี่จี้จัดตั้งสำนักศึกษาเล็กๆที่เชิงเขาแทน

แต่พอวันที่พี่จี้พาน้องเมิ่งไปดูสำนักศึกษาที่สร้างเสร็จแล้วนั้นกลับเป็นอาคารใหญ่โตมุงหลังคากระเบื้องอย่างแพง ดีที่ชื่อสำนักนั้นพี่จี้ตั้งว่า...ยงเสวี่ย ความหมายคือโอบอุ้มน้องเมิ่ง555 น้องเมิ่งทั้งดีใจปนเขินอาย55 เฉียนเจินเหรินดูแลพร้อมออกกฎการรับ รอบแรกรับคนเพียงหนึ่งร้อยคนไม่จำกัดว่าเป็นคนธรรมดาหรือเป็นนักพรต ขอเพียงสอบข้อเขียนกับสอบภาพลวงตาผ่านก็จะได้รับเลือกให้เล่าเรียนทันที โดยมีอวี๋ฉี่ซูเป็นคนประเมินผลการสอบ พอข่าวนี้ออกไปคนทั่วแดนต่างรีบเร่งมาเมืองหานเหมินเพื่อเข้ารวมสอบในครั้งนี้มากมาย แต่สุดท้ายอวี๋ฉี่ซูกลับคัดเลือกคนมาถึงสองร้อยคน พี่จี้ไม่ได้ว่าอะไรเพียงเปิดห้องเรียนเพิ่ม555

เรื่งนี้ที่จริงสำนักนักพรตอื่นต่างไม่ค่อยเห็นด้วย เกรงว่าสำนักหานซานถือโอกาสคัดคนมีฝีมือไปอยู่สำนักตัวเองจนหมด เจ้าสำนักหานซานเองก้อไม่เห็นด้วยว่าทำไมต้องแยกสำนักศึกษาออกมาอีก จึงถือโอกาสลงเขาไปดู กลับพบว่าวิธีการสอนของพี่จี้นั่นแตกตางจากสำนักหานซาน และผู้มาเรียนส่วนมากก็เป็นคนธรรมดา เจ้าสำนักหานซานจึงปล่อยวางจากไป จนผ่านไปมีศิษย์จบการศึกษาจากสำนักไปได้หลายรุ่น

น้องเมิ่งเริ่มแผนการส่งเซิ่นโซ่วไปแดนอสูร ให้ไปหาเซียนหมิงเพื่อส่งข่าวให้เริ่มแผนการสังหารหูซื่อ เซียนหมิงบินไปหามุกฉลามที่สวยที่สุด จึงยอมทำการแลกเปลี่ยนกับหัวหน้าเผ่าฉลามด้วยการมอบขนปีกของตัวเองทั้งคู่ เซียนหมิงแปลงร่างเป็นอสูรนกยูกแล้วใช้ปากทึ่งขนปีกจนเลือดไหลอาบทั้งสองปีก เขาจึงได้มุกฉลามที่ดีที่สุดจากหัวหน้าเผ่าฉลาม

ส่วนน้องเมิ่งก้อขออนุญาติพี่จี้กลับแดนอสูรเพื่อไปจัดการธุระที่นู่น พี่จี้เริ่มเอ๊ะใจตั้งแต่ที่หมู่นี้น้องเมิ่งชอบนั่งเหม่อลอยอยู่บ่อยๆ แต่ก้อปล่อยให้น้องเมิ่งกลับแดนอสูร

ที่เขาเขาเสวี่ยซาน เซียนหมิงนั่งแช่บ่อน้ำร้อน น้องเมิ่งมาถึงก็เห็นสีหน้าซีดเซียวของเซียนหมิงที่ดูเหมือนคนป่วย น้องเมิ่งลงไปนั่งแช่งน้ำร้อนด้วยพร้อมตกลงเรื่องจะให้เซียนหมิงเป็นคนดึงพี่จี้มาทางนี้ เพื่อเขาจะได้มีเวลาไปจัดการหูซื่อ

ฟากอวี๋ฉี่ซูที่วุ่นวายดูแลสำนึกศึกษามาพักใหญ่ จนตอนนี้สำนักศึกษาสามารถดำเนินกิจการได้ด้วยตัวเองแล้ว อวี๋ฉี่ซูก็ถือโอกาสลามาเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองไป๋ลู่ เมื่อเขาเดินทางมาถึงก้อตกใจ ที่หน้าประตูเมืองมีรูปแกะสลักหยกเป็นร่างนักพรตที่น่าเกลียดตั้งขวางถนน เขาเดินไปถามชาวบ้านถึงได้รู้ว่าพ่อของเขาเป็นคนสั่งเอง  เพราะหลังจากที่เขาได้กลายเป็นลูกศิษย์สายตรงของจี้เซียวเจินเหรินแล้ว ตอนนี้ฐานะเขาในสำนักหานซานก้อนับว่าโด่ดเด่นกว่าใคร จนพ่อเขาถึงกับใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของเขา เอามาอวดอ้างบารมีกับคนทั้งเมืองแทน ทำให้เขารู้สึกแย่กับความเห็นแก่ตัวของคนเป็นพ่อมาก ทั้งที่แต่เดิมเขาเป็นเพียงลูกเมียเล็กๆที่ฐานะไม่ได้ดีอะไร แถมยังโดนส่งจากบ้านไปอยู่สำนักหานซานแสนห่างไกล เพราะพ่อเขาหวังพึงลูกชายคนโตจากฮูหยินใหญ่ที่คุมอำนาจทั้งจวนมากกว่า เมื่อก่อนเขาเป็นเพียงลูกชัง แต่ตอนนี้พ่อเขากลับป่าวประกาศว่าเขาเป็นลูกชายเพียงหนึ่งเดียวไปสะแล้ว 

ตอนนี้อวี๋ฉี่ซูจึงทำได้เพียงหลบซ่อนตัว แล้วเข้าไปหาแม่ของเขาเงียบๆ แต่ว่าเพราะเผลอแสดงวิชากระบี่ให้แม่ดู เลยทำให้พ่อรู้ว่าเขากลับมาแล้ว อวี๋ฉี่ซูเลยโดนพ่อจัดแจงดึงตัวไปอยู่เรือนใหญ่ พร้อมจัดงานเลี้ยงต้อนรับใหญ่โต แล้วเชิญคนมากมายในเมืองมางานเลี้ยงเพื่อโอ่อวด จากนั้นก้อเริ่มพูดยกยออวี๋ฉี่ซูที่ประสบความสำเร็จสุดในจำนวนพี่น้อง แถมตอนนี้อวี๋ฉี่ซูยังมีตำแหน่งใหญ่โตในสำนักศึกษายงเสวี่ยที่โด่งดัง แล้วจึงทวงบุญคุณของความเป็นพ่อ เพื่อจะยัดเยียดลูกชายอีกหลายคนของตัวเอง ให้มีตำแหน่งหน้าที่ด้วยการใช้เส้นอวี๋ฉี่ซู ให้อวี๋ฉี่ซูหาทางให้พวกลูกชายได้เข้าไปอยู่สำนักหานซาน หรือสำนักศึกษายงเสวี่ยก็ได้

เหนือทะเลหนานไห่ น้องเมิ่งขี่กระบี่ไปมหรรณพแดนสรวงคนเดียว เจอะบ่าวสาวใช้คนสวยของหูซื่อ มารอน้องเพื่อจะพาไปพบกับหู่ซื่อโดยตรง ทำให้น้องเมิ่งไม่ต้องต่อกรกับค่ายเวทใดๆของหูซื่อ ระหว่างทางก็พบว่าที่แห่งนี้เงียบมาก ไม่เหมือนที่เขาเคยมาครั้งก่อน บ่าวรับใช้บอกอย่างเศร้าๆว่าหูซื่อปล่อยให้บ่าวทุกคนออกจากมหรรณพแดนสรวงหมดแล้ว เหลือเพียงพวกนางที่มารอส่งน้องเมิ่งเสร็จ พวกนางก้อต้องเดินทางออกจากที่แห่งนี้เหมือนกัน หูซื่อนั่งดีดพิณที่ศาลาเพื่อรอน้องเมิ่งมาพบ หูซื่อถามว่าน้องเมิ่งตั้งใจมาฆ่าเขาละสิ น้องยอมรับว่าจริง แต่หูซื่อบอกว่าน้องเมิ่งฆ่าเขาไม่ได้หรอก แถมหูซื่อยังบอกว่าตอนนี้น้องเมิ่งกะพี่จี้ได้บำเพ็ญคู่กันจริงๆแล้วสินะ ดูออกนะ5555 ร่วมบำเพ็ญกันแล้วคิดหรอว่าพี่จี้จะไม่รู้ถึงจิตสังหารของน้องเมิ่ง

น้องเมิ่งโมโห ถามว่าญาณจอมมารอยู่ที่หูซื่อใช่ไหม หูซื่อยอมรับตรงๆว่าใช่ น้องเมิ่งถึงขั้นถามว่าหูซื่อทำกับศิษย์น้องคนเดียวของตัวเองขนาดนี้ได้ไง แต่หูซื่อกลับบอกว่าเขาทั้งคู่พนันกับสวรรค์ คนที่ควรได้ไปก็สมควรเป็นเขา ที่เป็นคนที่ได้ไป แล้วก้อฉุดน้องเมิ่งเข้าห้องสมุดของตัวเอง เพื่อชี้ว่าสามเผ่าในแดนนี้ มนุษย์ มาร อสูร ล้วนมาจากต้นกำเนิดเดียวกัน ขนาดภายในร่างกายยังมีลักษณะไม่แตกต่างกันเลย หู่ซื่อบอกว่าแดนสนธยาฮั่นไห่ แต่เดิมคือมิติเล็กๆจากแดนนอกพิภพของผู้แข็งแกร่งในอดีตเคยพักอาศัย หลังผู้แข็งแกร่งบรรลุเป็นเซียนบินขึ้นฟ้า โลกในแดนสยธยาก้อแตกสลาย เป็นพี่จี้ที่เอามันมาไว้ที่ฮั่นไห่ หูซื่อได้แต่สงสัยว่าในเมื่ออดีตก็มีคนบรรลุบินเข้าสู่ประตูสวรรค์ได้ แต่ยามนี้กลับไม่มีใครสามารถเปิดประตูสวรรค์ได้ จากที่เขาเพียรอ่านหนังสือมากมาย หูซื่อจึงเชื่อว่าถ้าอยากบรรลุขึ้นสวรรค์ ก้อต้องอาศัยมือตัวเองเท่านั้นที่จะทำให้ประตูสวรรค์เปิด

หูซื่อบอกว่างานชุมนุมหมื่นอสูรทำให้ฟ้าเกิดรอยแยก หลังพี่จี้ต่อสู้กับปรมัตถ์กุยชิงจนถล่มสำนักหมิงเยวี่ยหูจนราบคราวนั้น พี่จี้ยืมพลังหมื่นกระบี่ของมนุษย์สำเร็จ แล้วก้อบอกว่ารอยแยกสวรรค์ยังขาดไปอีกนิดหน่อย หูซื่อหันมาถามน้องเมิ่งว่ายังขาดนี่หมายถึงขาดอะไร น้องเมิ่งก้อบอกว่าขาดพลังของมาร หูซื่อยิ่มที่น้องเข้าใจได้เร็วดี น้องเมิ่งถามว่าแล้วหูซื่อจะไปเอาหมื่นมารมาจากไหน แล้วน้องเมิ่งก้อกลับคิดได้ว่า ครั้งนั้นพี่จี้เดินทางไปแดนนอกพิภพเพื่อกำจัดมารที่คิดจะบุกมาแดนมนุษย์ พี้จี้ได้สังหารจอมมารที่ถือกำเนิดใหม่  หนึ่งจอมมารเทียบได้กับมารหมื่นตน และตอนนี้ญาณมารมันอยู่ในมือของหูซื่อ น้องเมิ่งมองหูซื่อในฐานะผู้วางแผนชักใยเรื่องราวทั้งหมด หูซื่อบอกว่าถึงเขาไม่ทำ ก็ยังมีคนอื่นลงมือทำเรื่องนี้อยู่ดี แถมยังเย้ยน้องเมิ่งว่าพี่จี้เองก้อมือเปื้อนเลือดไม่น้อย น้องเมิ่งรีบบอกว่าพี่จี้ไม่เหมือนหูซื่อ

หูซื่อบอกใช่สิไม่เหมือนนิ พี่จี้เตรียมขุนเจียวสามตัวให้เร่งบำเพ็ญแล้วกลายเป็นมังกรบินขึ้นสวรรค์ มีให้ทดลองได้ตั้งหลายครั้ง น้องเมิ่งถามว่าทำไมทั้งคู่ถึงไม่รู้จักยอมๆให้กัน ทั้งๆที่เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องแท้ๆ น้องเมิ่งถามว่าอีประตูบานนี้ มันคุ้มค่ามากขนาดที่พวกเขาสองคนต้องมาสู้กันจนตัวตายหรอ หูซื่อบอกว่าน้องเมิ่งมีพลังของอสูร มีปราณของมนุษย์ตอนนี้ขาดแค่ญาณมาร แค่นี้ก้อจะสามารถหลอมร่างเป็นหนึ่งเดียว แค่สละร่างรวมมรรคา น้องเมิ่งตกใจเมื่อมองเห็นว่าศาลาที่น้องยืน มันเหมือนศาลาตั้งอยู่เหนือเตาหลอมยักษ์พอดี

ที่สำนักศึกษาเมืองหานเหมิน พี่จี้กำลังสอนมรรคาในห้องเรียน ก็มีลำแสงสายหนึ่งพุ่งมาหาพี่จี้ เป็นลมหายใจเสี้ยวหนึ่งของน้องเมิ่ง ที่เรียกให้พี่เมิ่งไปหาน้องเมิ่งด่วนที่เขาเสวี่ยซาน พี่จี้หันไปบอกนักเรียนว่าพี่จี้ต้องไปรับเมียแล้ว พี่จี้สบัดมือเรียกเมฆมาแล้วขี่ไปเขาเสวี่ยซานทันที แต่พอไปถึงกับเจอะค่ายเวทกักตัวแทน พี่จี้สบันค่ายเวทแล้วถามเซียนหมิงทันที ว่าน้องเมิ่งไปมหรรณพแดนสรวงแล้วสิ พี่จี้ก้อถามเซียนหมิงว่าตัวเซียนหมิงเองก็ไม่อยากให้หูซื่อตาย แล้วทำไมถึงไม่ห้ามพวกเขาละ เซียนหมิงตกใจที่พี่จี้รู้ พี่จี้เลยบอกว่าที่ตัวของเซียนหมิงมียันต์คุ้มกายของหูซื่อทำไว้บนตัวเซียนหมิง พี่จี้ชวนเซียนหมิงไปมหรรณพแดนสรวงเพื่อห้ามพวเขาทั้งสองคน

เซียนหมิงไม่ไป เพราะหูซื่อสัญญาว่าแค่เขาตะโกรเรียกจากตรงนี้ หูซื่อก็จะมาหาเขาทันที เซียนหมิงนึกถึงตอนนี้ที่เขาบุกไปเอามุกฉลากมาให้หูซื่อได้จริงๆ เขาก้อตะโกนเรียกหูซื่อจนคอแทบแตก แต่หูซื่อก็มาหาเขาตริงๆ หูซื่อมาเอามุกฉลามไปแล้วยังเอามือมาจิ้มๆหน้าผากเขา จนรู้สึกเจ็บปวดแทบตายแต่สักพักก้อหายเจ็บ เซียนหมิงบอกให้พี่จี้รีบไปมหรรณพแดนสรวงเถอะ เขาจะรออยู่ที่นี่ พี่จี้ขี่เมฆฝ่าลมพายุเพื่อบุกเข้ามหรรณพแดนสรวง หูซื่อบอกน้องเมิ่งว่าพี่จี้มาแล้ว แล้วหูซื่อก้อแบ่งจิตออกมาเพื่อไปหาพี่จี้ทันที พี่จี้ทวงถามหาเมียทันที แต่หูซื่อไม่ให้ ทั้งคู่ปะมือกันทันที

ที่เมืองไป๋ลู่ อวี๋ฉี่ซูนั่งเบื่อหน่ายในงานเลี้ยง ทั้งไม่ได้รับปากพ่อว่าจะส่งเสริมพี่น้องตัวเอง คิดเพียงอยากออกจากงานเลี้ยงนี่เหลือเกิน แต่กลับมีเสียงฟ้าผ่าพร้อมแสงฟ้าแลบแปร่บๆตรงทิศที่ตั้งของมหรรณพแดนสรวง เหล่านักพรตที่มาร่วมงานเลี้ยงต่างรู้สึกถึงการประลองเวทขั้นสูง อวี๋ฉี่ซูเปรยว่าอริยะกำลังจะออกกระบี่แล้ว และตอนนี้มหรรณพแดนสรวงกำลังลุกไหม้ อวี๋ฉี่ลุกขึ้นเตรียมขี่กระบี่ไปมหรรณพแดนสรวง แต่พ่อของอวี๋ฉี่กลับจะรั้งตัวเขาไว้ที่นี้ พร้อมบอกให้เขาเพียงนั่งรอให้สองปรมัตถ์ลงมือฆ่ากันตายเอง แล้วลูกชายตัวเองจะได้ขึ้นคุมสำนักหานซานทันที อวี๋ฉี่ซูผิดหวังในตัวพ่อตัวเองขั้นสุด อวี๋ฉี่ซูใช้ไอกระบี่ปัดพวกเหล่านักพรตที่มาล้อมเขาไว้ จนพวกนักพรตเหล่านั้นกระเด็นออกไป พร้อมขู่พ่อว่าถ้าทำให้แม่ของเขามีรอยแผลแหมนิดเดียว เขาจะมาจัดการพ่อถึงที่แน่ๆ ว่าแล้วอวี๋ฉี่ซูก้อขี่กระบี่ออกไป พร้อมกับฟันทำลายรูปสลักหยกอัปลักษณ์หน้าทางเข้าเมืองทิ้ง

อวี๋ฉี่ซูขี่กระบี่พร้อมจิตใจที่สับสน น้องเมิ่งถือเป็นอาจารย์คนแรกเทียบได้เท่ากับพ่อ พี่จี้คืออาจารย์ผู้ชี้แนะและหูซื่อก้อนับเป็นอาจารย์ที่มอบเคล็บวิชาให้เขา แล้วตอนนี้เขาสามคนกำลังสู้กันเอง

ที่ยอดเขาฉางซุนมีการสั่นสะเทือน จนทำให้ยอดเขาฉางซุนที่อยู่บนเขาดีๆ จู่ๆยอดเขาก้อบินหายไปบนฟ้า เจียวสามตัวในบ่อน้ำรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนที่มาจากอุษาไร้เขตขัณฑ์ พวกมันสามตัวว่ายวนอย่างตื่นตระหนกที่ตัวเองว่ายน้ำบนฟากฟ้าแล้วตอนนี้ อวี๋ฉี่ซูตอนนี้ขี่กระบี่มาทันอยู่หน้ายอดเขาฉางซุน ที่ยอดเขาบินมาถึงตรงหน้าค่ายเวทมหรรณพแดนสรวงแล้ว หูซื่อหันไปตวาดว่าอวี๋ฉี่ซูมาทำไม อวี๋ฉี่ซูตกใจตกลงมา พี่จี้เลยสบัดเมฆไปรับตัวอวี๋ฉี่ซูไว้ หูซื่อส่งยันต์คุ้มกายให้อวี๋ฉี่ซูที่กลางหว่างคิ้ว แล้วอวี๋ฉี่ซูก็ได้ยินเสียงน้องเมิ่งสั่งให้เขาดูการต่อสู้ครั้งนี้ให้ดีๆ

พี่จี้เรียกอุษาไร้เขตขัณฑ์มาแล้วลงมือทันที ยอดเขาฉางซุนพุ่งเข้าชนกับมหรรณพแดนสรวง อวี๋ฉี่ซูเลยมีบุญได้เห็นวิชากระบี่เคลื่อนภูผา หูซื่อรู้ว่าพี่จี้ซ่อนมหาสมุทรไว้ในบ่อที่ฉางซุน ก้อใช้วิชาคว่ำสมุทรเทน้ำลงไปในหนานไห่ทำให้เจียวสามตัวเห็นอวี๋ฉี่ซู มันสามตัวเลยว่ายน้ำไปหาเขาเพื่อหาที่พึ่งพิง555 ตอนนี้สองค่ายเวทกำลังปะทะกัน หูซื่อก้อเปรยว่าเขาสร้างฉางซุนนิรันดร์เป็นค่ายเวทของการกำเนิด เขาสร้างมหรรณพแดนสรวงเป็นค่ายเวทของการดับสูญ สองค่ายเวทล้วนหนุนส่งกัน แต่ตอนนี้พวกมันกลับต้องมาฟาดฟันจนพินาจลงในคราวนี้ พี่จี้นึกได้ว่าอาจทำให้แดนมนุษย์เบื้องล่างต้องพังหนักแน่ เลยผลักยอดเขาฉางซุนออกไปจากมหรรณพแดนสรวงแทน แต่หูซื่อกลับจับพี่จี้ย้อนอดีตแทน

พี่จี้ย้อนกลับไปตอนหูซื่อเพิ่งสร้างมหรรณพแดนสรวงเสร็จใหม่ๆ พี่จี้ใช้กระบี่ฟาดหูซื่อกระจายจนภาพมายาสลายไป พี่จี้ก้อโดนย้อนไปตอนที่หูซื่อกับพี่จี้ยังเป็นนักพรตน้อยที่เพิ่งเข้าสำนัก พี่จี้ใช้กิ่งไม้สังหารหูซื่อน้อยทันที พี่จี้เริ่มสังหารหูซื่อในทุกช่วงเวลาที่หูซื่อย้อนอดีตของพวกเขาออกมา พี่จี้สังหารหูซื่อไปเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าเท่ากับลบความทรงจำของพวกเขาในเวลาสองร้อยปีที่ผ่านมา พี่จี้มาเพื่อห้ามไม่ให้น้องเมิ่งสังหารหูซื่อ และห้ามหูซื่อมาจับน้องเมิ่งเป็นเครื่องสังเวยบูชาฟ้า ตอนนี้พี่จี้ฆ่าหูซื่อจนกลายเป็นความชินชาแทน ตอนนี้หูซื่อจึงยังไม่ลงมือกับพี่จี้ ส่วนพี่จี้ก็มายืนเรียกเมียกลับบ้าน พร้อมขวางอุษาไร้เขตขัณฑ์ลงไปปักบนกลางศาลา กันน้องเมิ่งกับหูซื่อไว้คนละฝั่งศาลา

น้องเมิ่งบอกขอถามพี่จี้สักข้อสิ พี่จี้บอกทันทีว่าเขาช่วยน้องเมิ่งก่อน555....(น้องเมิ่งยังไม่ทันถามเลยอะ) น้องเมิ่งบอกไม่ใช่ข้อนี้ น้องเมิ่งจะถามว่าภาพมายาสุดท้ายที่เจดีย์เจิ้งเย่า พี่จี้เห็นภาพอะไร พี่จี้บอกภาพประตูสวรรค์ น้องเมิ่งบอกเข้าใจละ พี่จี้เองก้อพนันกับสวรรค์เหมือนกันเพียงแต่คนละวิธีกับศิษย์พี่ หูซื่อที่อ่อนแรงเพราะโดนพี่จี้ฆ่าไป9999 ก้อบอกว่าถ้าเขาเจอะน้องเมิ่งเร็วกว่านี้ พวกเราอาจเป็นเพื่อนกันก็ได้ น้องเมิ่งหยิบญาณมารจากหูซื่อ พร้อมเอาหนังสือมรรคาที่พี่จี้เขียนให้น้อง นำมันออกมาอกเสื้อแล้วเผามันจนไหม้เป็นจุล พี่จี้รู้ว่าน้องเมิ่งจะทำอะไร พี่จี้รีบร้องตะโกนเรียกให้น้องเมิ่งออกมาแล้วกลับไปคุยกัที่บ้านกันก่อน แต่น้องเมิ่งหันไปยิ้มให้พี่จี้ แล้วก็กระโดดลงเตาหลอมด้านล่างศาลา เปลวไฟในมหรรณพแดนสรวงเผาไหม้ร่างน้องเมิ่งจนเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ญาณมารในมือน้องเมิ่งกลับสลายไปกลายเป็นมุกฉลามของเซียนหมิงแทน

อุษาไร้เขตขัณฑ์แทงเข้าที่อกของหูซื่อทันที แต่หูซื่อกลับหัวเราะ ที่อกของเขากลับไม่มีเลือดกลับเป็นญาณมารที่แข็งแกร่งที่รับอุษาไร้เขตขัณฑ์ไว้ ไอมารแผ่ออกมาเป็นหมอกดำหุ้มกายเนื้อของหูซื่อ แล้วมีแสงสีทองออกจากหมอกดำนั้น จิตหูซื่อได้ออกจากร่างขึ้นไปบนฟ้า หูซื่อยอมสละกายเนื้อเหลือเพียงจิตหวังขึ้นไปประตูสวรรค์

ที่เกาะในทะเลหนานไห่ เซียนหมิงเรียกหาหูซื่อ และหูซื่อก็มาหาเขาตามสัญญา หนึ่งอสูรหนึ่งมนุษย์นั่งคู่กันอยู่บนกิ่งไม้ เฝ้ามองมหรรณพแดนสรวงที่ลุกไหม้ แถมทะเลยังมีคลื่นลมปั่นป่วนไม่หยุด เซียนหมิงถามว่าหูซื่อสู้กันเสร็จแล้วหรอ หูซื่อตอบเพียงอือแล้วบอกว่าเซียนหมิงอย่าปล่อยให้ขนตัวเองร่วงอีกมันอัปลักษณ์มาก เซียนหมิงขอร้องหูซื่ออย่าทำเรื่องชั่วร้ายอีกเลย หูซื่อตอบเพียงอือ เซียนหมิงบอกว่า...งั้นหูซื่อสัญญากับเขาแล้วนะ ไว้ประตูสวรรค์เปิด เซียนหมิงจะบินขึ้นไปบนสวรรค์ เพื่อจะไปเด็ดดวงดาวมาให้หูซื่อจริงๆในคราวนี้ หูซื่อตอบอือ...แต่ว่าไม่ทันแล้ว เขาทำไม่สำเร็จ มันยังขาดไปอีกนิดเดียวจริงๆ เซียนหมิงบอกกับหูซื่อว่าเรามาดีกันเถอะนะ...(น้ำตาจะไหล) มาดีต่อกันเหมือนตอนพวกเรายังเป็นเด็กๆในตอนนั้น พร้อมกับที่เซียนหมิงร้องไห้ออกมา เซียนหมิงถามว่าหูซื่อรู้สึกเสียใจไหม หูซื่อบอกว่าเขาพนันกับสวรรค์ไว้ หากทำไม่สำเร็จก้อจะต้องสูญสิ้นทุกสิ่ง เขาไม่เสียใจเลย เพราะได้พยายามเต็มที่แล้ว แล้วร่างหูซื่อก้อสลายกลายเป็นฝุ่นแสงสีทองละเอียดปลิวหายไปทันที 

จิตวิญญาณของหูซื่อขึ้นสู่แดนเซียนไม่สำเร็จ  ร่างกายเนื้อในศาลาก็โดนอุษาไร้เขตขัณฑ์เสียบคาอก โดนทำลายพลังชีวิตเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย หูซื่อบอกว่าหากมีชาติหน้าจะไม่ขอกลับมาเป็นศิษย์พี่ของพี่จี้เด็ดขาด พี่จี้บอกงั้นให้หูซื่อมาเป็นศิษย์น้องเขาแทนแล้วกัน หูซื่อบอกว่าเขาจะเดินทางไปหาอาจารย์แล้ว ตอนนี้คิดถึงอาจารย์เหลือเกิน...(โคตรเศร้า) น้องเมิ่งยืนกอดพี่จี้ มหรรณพแดนสรวงล่มสลายกลายเป็นฝนร่วงลงสู่พื้นดิน เจียวเบอหนึ่งกับเจียวเบอสองรีบชวนกันหนีภัยพิบัติตรงหน้า มีแต่เจียงน้องเล็กที่บินเข้าไปหาอวี๋ฉี่ซู เพื่อให้เขาขี่หลังตัวเองแล้วพาหนีออกไปจากตรงนี้

รอยแยกของฟ้ามีแสงสีทองส่องออกมา พี่จี้รีบอุ้มน้องเมิ่งแล้วรีบขี่เมฆหนีแสงสีทองที่ส่องไล่ตามพวกเขามา แต่เจียวน้องเล็กหนีไม่ทันเลยเอาตัวบังอวี๋ฉี่ซูแทน แสงสีทองอาบร่างเจียวน้องเล็ก แล้วทำให้เกล็ดร่างของเจียวน้องเล็กหลุดลอกออก กลายสภาพกลายเป็นร่างมังกรแทน อวี๋ฉี่ซูเลยได้ขี่มังกรบินขึ้นสู่ประตูสวรรค์แทน นับจากนั้นก็ไม่มีมหรรณพแดนสรวงอีกต่อไป มีข่าวว่าสองปรมัตถ์สู้กันจนกระแทกให้ประตูสวรรค์เปิด แต่คนจะข้ามไปได้ต้องอยู่ในสภาวะปรมัตถ์เสียก่อน และหลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้พี่จี้กับน้องเมิ่งก้อเงียบหายไปช่วงเวลาหนึ่ง

ครึ่งปีหลังจากนั้น ยอดเขาฉางซุนก้อกลับลงมายอดเขาที่สำนักหานซาน อวี๋ฉี่ซูกลับมาจัดการสวนต้นจินซือเถาต่อ และพี่จี้ก็พาน้องเมิ่งกลับมาหานซาน พร้อมกับเริ่มต้นสอนที่สำนักศึกษาตามเดิม แดนมนุษย์หมุนวนเปลี่ยนไปตามเดิม แว่นแคว้นล่มสลายพร้อมก่อเกิดขึ้นมาใหม่

สิบปีต่อมา พี่จี้กับน้องเมิ่งเร้นตัวหายไป อวี๋ฉี่ซูขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าสำนักศึกษา แต่ประตูสวรรค์ยังคงไร้ผู้บรรลุก้าวผ่านเข้าไป

ยี่สิบปีผ่านไป คืนค่ำในฤดูร้อนบนยอดเขาฉางซุน มีแสงสว่างปรากฎบนเขาหานซาน บนฟ้ามีเงาสองร่างบินขึ้นฟ้า ประตูสวรรค์เปิดขึ้นอีกครั้ง.....จบแล้ว จบแบบหน่วงๆเนอะ


อ่านจบแล้วสะเทือนใจสุดในเรื่องคงเป็นคู่รอง เซียนหมิงอสูรนกยูงที่ร่าเริงสดใสชอบเล่นสนุกไปวันๆ ใครจะไปคาดคิดว่าความสนุกในการหลอกเด็กเล็กๆคนหนึ่ง จะไปสร้างหลุมดำหลุมใหญ่ในใจของเด็กน้อยคนนั้น จนมันกลายเป็นความแค้นที่ยิ่งใหญ่ลามไปขนาดนี้ ทั้งที่เซียนหมิงก้อชอบเด็กอ้วนเสี่ยวหยวนมากๆ แต่เพราะการเล่นใหญ่ที่พาเสี่ยวหยวนไปทิ้งบนเขา แล้วตัวเองกลับมาไม่ได้ตามที่โม้ ของก็ไม่ได้ ตัวเองก็เกือบตาย แถมยังทิ้งให้เด็กน้อยเกือบตายบนเขาเงียบๆอีก ทำให้เด็กน้อยต้องมีคิดด้านลบกับเผ่าอสูรฝั่งลึกมากแบบแค้นมาก...ก สุดท้ายเลยกลายเป็นหนี้กรรมจนสุดท้าย....อะนะ แอบคิดถ้าเซียนหมิงไม่เชื่อน้องเมิ่ง แต่เขาออกไปตามหาเสี่ยวหยวนจนเจอะ แล้วไปอธิบายพร้อมแสดงความตริงใจกับเสี่ยวหยวน เรื่องมันคงไม่เลวร้ายแบบนี้เนอะ...แต่มันก้อคงไม่ทำให้เราอ่านจบแล้วใจมันหน่วงๆๆแบบนี้ (เราอ่านแล้วก้อสุขไม่สุดเพราะสงสารหูซื่อมากอะ ทำทุกวิธีเพื่อขึ้นสวรรค์ตามที่อสูรนกยูงมันเคยโม้ไว้ตอนเด็กๆ แต่หูซื่อก้อชั่วมาก....ก ที่ยืมมือฆ่าคนไปมากมายในสามแดนเลยอะ แถมยังหลอกศิษย์น้องตัวเองที่มีคนเดียวแท้ๆ ให้ไปตายในน้ำมือของคนอื่น...แบบโคตรเหี้ยอะ ....แต่พออ่านจบเรื่องก้อเกลียดได้ไม่สุดอีก....เห้อมันหน่วงๆอะ)

ส่วนคู่หลักก้อสนุกนะ ยิ่งตอนที่น้องเมิ่งเริ่มตามล่าหาความจริงถึงสาเหตุสามีตาย โดยที่น้องยังไม่ได้ร่วมบำเพ็ญเลย555 แต่แบบน้องเมิ่งโคตรใสมากอะ หลงรักเขาแต่แรก กลับไม่รู้ว่ามันคือความรัก...แค่ยินดีกับการเป็นสัตว์อสูรของพี่จี้ก้อพอใจมากละ  ส่วนพี่จี้ก้อไม่รู้ตกหลุมรักแรกเพราะร่างน้องที่เป็นเพียงพอนน้อยรึป่าว ก่อนที่น้องเมิ่งจะมีร่างมนุษย์นะ เพราะตอนน้องเมิ่งเป็นร่างเพียงพอน เดียวน้องก้อซุกคอซุกอกพี่จี้ อยากแสดงความขอบคุณพี่จี้ก้อเลียหน้าเขาได้ตลอดอะ555

ความคิดเห็น

  1. ขอบคุณมากนะคะที่รีวิวให้อ่าน เราพึ่งอ่านเรื่องนี้จบหน่วงจุง T^T

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Nirvana in Fire 2 ถิงเซิงจากเด็กน้อยในเรือนทาส...มาสู่การเป็นยอดขุนพลพิทักษ์ต้าเหลียง

สารบัญชุมนุมปีศาจเล่มสอง ตอนพญากวางเก้าสี...อื้อหือ...น้องลู่โคตรน่ารั...ก (ฉบับพิมพ์1ที่แปลมาไม่ครบนะจ๊ะ...รอเล่มที่เขาอีดิทใหม่ไม่ไหว555)

สารบัญชุมนุมปีศาจ...เรื่องราวของมือปราบปีศาจห้าหนุ่มหล่อ จากหน่วยปราบมารแห่งต้าถัง