เริ่มต้นใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก...ชีวิตเปื้อนฝุ่นของเด็กหนุ่มแสนเท่ ที่ชีวิตตกอับจากเมืองหลวงมาสู้ชีวิตในเมืองเก่าแสนโทรมแทน

เริ่มต้นใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก...นิยายแบบเรียลๆไม่มีการเกิดใหม่ ไม่มีดรรชนีทองคำ เป็นการเล่าชีวิตเจี่ยงเฉิงที่เป็นเพียงนักเรียนม.ปลายที่อยู่ในช่วงต่อต้านทุกอย่างบนโลกนี้ โดยเฉพาะเมื่อพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมาแต่เล็ก กลับกลายเป็นเพียงพ่อแม่อุปถัมภ์ ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวยิ่งดูแปลกแยก ยิ่งแม่อุปถัมภ์ดันมามีลูกชายของตัวเอง ยิ่งทำให้เจี่ยงเฉิงยิ่งรู้สึกแปลกแยก ความขัดแย้งมากมายทำในครอบครัวนี้มีปัญหาบานปลายจนยากจะต่อติด สุดท้ายครอบครัวอุปถัมภ์ก้อแก้ไขปัญหาด้วยการขอยกเลิกการรับเลี้ยงดู คืนเขากลับสู่ครอบครัวเดิม เหมือนชีวิตเจี่ยงเฉิงพลิกกลับ จากที่เคยเป็นวัยรุ่นทันสมัยอาศัยในเมืองใหญ่แสนเจริญสุดๆ แต่จู่ๆถูกส่งกลับมาอยู่ในเมืองเก่าชนบทที่สภาพแวดล้อมเสื่อมถอยไปทุกอย่าง เจี่ยงเฉิงจะปรับตัวใช้ชีวิตให้รอดไปได้ยังไร อ่านแล้วได้ลุ้นไปกับชีวิตของเด็กหนุ่มจริงๆ


เจี่ยงเฉิง..วัยรุ่นหน้าตาดีที่ทนนั่งรถไฟออกจากเมืองหลวง มาสู่เขตเมืองเก่าที่เขาเห็นสภาพแล้วได้แต่สิ้นหวัง สภาพแวดล้อมแถวนี้มีแต่ความทรุดโทรม แถมพ่อที่แท้จริงก้อไม่รับโทรศัทพ์เขาอีก เจี่ยงเฉิงออกมานั่งรอแท็กซี่ที่ไม่มีวี่แววจะมาสักคัน เขาก้อไปเห็นเด็กผู้หญิงผมสั้นๆยุ่งๆตัวเล็กๆคนหนึ่งที่กำลังโดนกลุ่มเด็กผู้หญิงกลั่นแกล้ง เจี่ยงเฉิงที่กำลังอารมย์เสียเลยเข้าไปช่วยเด็กน้อยไว้ แต่เด็กน้อยพูดไม่ได้ แต่สามารถเขียนบอกชื่อตัวเองได้ว่าน้องชื่อกู้เหมี่ยว แถมมีสเก็ตบอร์ดติดตัว เจี่ยงเฉิงจึงต้องโทรหาผู้ปกครองเด็กน้อยกู้เหมี่ยวให้มารับ แต่เบอร์ที่โทรไปเป็นเบอร์พี่ชายที่โคตรกวนตีน เจี่ยงเฉิงเลยต้องนั่งรอกู้เฟยมารับน้องสาว  พอเจี่ยงเฉิงเห็นหน้ากู้เฟยก้อแอบชมในใจว่าหน้าหล่อแล้วยังขายาวตรงสเปกเลย แต่เสียที่โคตรปากหมา555 กู้เฟยอาสาจะไปส่งเจี่ยงเฉิง แต่เจี่ยงเฉิงปฎิเสธ กู้เฟยก้อพาน้องสาวซ้อนมอเตอไซต์กลับทันทีไม่มียื้อ555 

ตอนนี้เป็นฤดูหนาวหิมะตก บรรยากาศพาให้จิตใจหดหู่ ยิ่งเขาได้เจอะหลี่เป่ากั๋ว คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อผู้ให้กำเนิด ยิ่งทำให้เขายากจะทำใจรับได้ หลี่เป่ากั๋วเป็นคนงานในโรงงานโลหะประจำเมืองมาทั้งชีวิต มีบุคลิกชนชั้นแรงงานเต็มรูปแบบ นิสัยหยาบ ทั้งกินดื่มสูบบุหรี่อย่างหนักจนไอตลอดเวลา แล้วยังติดพนันเล่นไพ่เป็นหนี้สินวนลูปจนไม่มีทางจะหลุดพ้น เพราะวิธีคิดวิธีการใช้ชีวิตจนถึงนิสัยสันดานของหลี่เป่ากั๋วทั้งหมด ทำให้เขาเป็นได้แค่คนแปลกหน้าที่ต้องจำยอมทนอยู่รวมกัน

บ้านของหลี่เป่ากั๋วก็สภาพย่ำแย่เหมือนตัวเขา บ้านที่เป็นแค่ห้องพักคนงานช่างโลหะรุ่นแรก ตึกภายนอกดูเก่าโทรมไม่พอ สภาพในห้องยิ่งสุดทน มีกลิ่นอับเหม็นจากซากกองอาหารที่หลี่เป่ากั๋วกินแล้วทิ้งไว้ไม่ล้าง  ส่วนห้องพักที่เขาจะต้องอาศัยอยู่นับแต่วันนี้ยิ่งสุดทน ห้องเหม็นอับ ฝุ่นเขลอะ สภาพที่นอน ตู้ เตียงย่ำแย่จนเจี่ยงเฉิงไม่อยากแม้จะใช้มือหยิบจับ เจี่ยงเฉิงทำใจอยู่นานกว่าจะเริ่มลงมือทำความสะอาดห้อง ก็พอดีอดีตคนที่เคยเรียกว่าแม่โทรมา เพื่อเช็คว่าเขาเดินทางมาถึงที่แล้วใช่ไหม เจี่ยงเฉิงที่รู้สึกโดนทอดทิ้งทำให้รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม พันจื้อเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวก็โทรมาหา เพื่อบอกว่าเขากำลังจะตามมาเยี่ยมเขาที่เมืองนี้

เจี่ยงเฉิงตื่นมาก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มเป็นไข้ เขาเดินออกไปหาซื้ออาหารเช้า แล้วแวะร้ายยา ระหว่างทางกลับก็เข้าไปซื้อน้ำสักขวดในร้านขายของชำ เขาเลยได้พบสองพี่น้องกู้กับกลุ่มเพื่อนที่ดูเป็นคนไม่ดี555 เจี่ยงเฉิงเห็นกู้เฟยกะลังไถผมให้กู้เหมี่ยนจนเกลี่ยง 

เจี่ยงเฉิงที่เพิ่งดื่มน้ำเสร็จกำลังเดินออกจากร้าน อยู่ๆก้อวูบหมดสติลงบนทางเดิน กู้เหมี่ยวที่เดินออกมาพอดีเลยไปตามกู้เฟยมาช่วย เจี่ยงเฉิงเลยได้นอนพักในห้องเล็กหลังร้านชำของกู้เฟย จนเจี่ยงเฉิงได้สติอยากขอบคุณกู้เฟย แต่เจอะวาจากวนตีนของกู้เฟยเลยหันกลับบ้านทันที แต่พบว่าหลี่เป่ากั๋วที่เล่นไพ่เสียมาทั้งคืนป่านนี้แล้วยังไม่ตื่น เจี่ยงเฉิงยิ่งจิตตกได้คิดแต่ว่าทำไมตัวเขาต้องมาอยู่ที่บ้าบออะไรแบบนี้

กู้เฟยเป็นลูกชายคนโตของร้านขายของชำประจำตรอกนี้ พ่อของเขาจมน้ำตายในแม่น้ำตอนฤดูหนาว เพราะบุคลิกกู้เฟยดูเป็นหัวโจก ก้าวร้าวทำให้มีแต่ข่าวลือว่าเขาเป็นคนฆ่าพ่อตัวเอง ส่วนพ่อกู้เฟยก้อเลวตามสไตล์ผัวชั่วชอบซ้อมลูกเมีย โดยเฉพาะกู้เหมี่ยวน้องสาวเขาที่มีอาการออทิสติก เคยโดนพ่อจับทุ่มกำแพงจนได้รับบาดเจ็บหนัก ทำให้มีบาดแผลทางใจ และเพราะไม่ได้รับการแก้ไขปมในใจได้ทันเวลา จนกู้เหมี่ยวที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาอยู่แล้ว เลยทำให้น้องไม่ยอมพูด น้องไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ ส่วนแม่ของกู้เฟยก็มีปัญหา เพราะหลังผัวตายก็กลายเป็นคนที่พยายามจะมีผัวใหม่ตลอดเวลา แต่ก็โดนผู้ชายชั่วหลอกฟันหลอกเอาเงินตลอด บางทียังโดนผัวใหม่ซ้อมอีก ทำให้กู้เฟยต้องตามไปไล่กระทืบผู้ชายชั่วๆพวกนั้น แต่แม่เขาก้อไม่เคยจำยังขยันหาผัวใหม่ไม่เลิก ส่วนร้านชำนี้เป็นกู้เฟยกับกลุ่มเพื่อนที่ดูเป็นคนไม่ดีต้องมาคอยเฝ้า ไม่งั้นแม่กู้เฟยก้อจะขโมยเงินในร้านไปเปย์ผู้ชายอีก ชีวิตที่ต้องแบกรับภาระหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้กู้เฟยไม่สนใจอนาคตว่าจะเรียนอะไร วันๆแค่ตามแก้ปัญหาชีวิตครอบครัวก้อแทบจะใช้พลังชีวิตไปหมดแล้ว

กู้เหมี่ยวเด็กสาวที่พูดไม่ได้ เพราะไม่สามารถสื่อสารผ่านคำพูดได้ สติปัญญาอาจจะช้า แต่ทักษะร่างกายกลับดีเยี่ยม หลังกู้เฟยรู้ว่าน้องสาวเล่นสเก็ตบอร์ดได้ดี เขาจึงซื้อสเก็ตบอร์ดให้น้องสาว มันเลยกลายอวัยวะที่งอกติดตัวไม่เคยห่างกายกู้เหมี่ยวอีกเลย กู้เหมี่ยวมี่ความยึดติดอย่างแรง ไม่ว่าของใช้ส่วนตัว สถานที่พักอาศัย โดยเฉพาะพี่ชายแสนดี กู้เหมี่ยวจะมีระยะปลอดภัยได้แค่แถวที่อยู่กับแถบบริเวณร้านของบ้าน มันเลยกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้กู้เฟยไม่อาจหลบหนีออกไปจากเมืองแห่งนี้

เจี่ยงเฉิงพยายามปรับตัวที่จะอยู่รวมอาศัยกับหลี่เป่ากั๋ว แต่มันกลับเป็นการทรมานปั่นทอนชีวิตตัวเองอย่างถึงที่สุด หลี่เป่ากั๋วนี่สันดานคนชั่วเต็มรูปแบบทั้งขี้โกงได้หน้าด้านๆ เจี่ยงเฉิงรู้ว่าหลี่เป่ากั๋วรู้ว่าเขามีเครดิตการด์ที่เป็นเงินก้อนใหญ่ เงินก้อนสุดท้ายที่ครอบครัวอุปถัมภ์มอบให้เขาไว้ใช้เป็นทุนการศึกษา วันนี้เจี่ยงเฉิงออกมากินอาหารเย็น เลือกได้ร้านปิ้งย่าง ขณะทีเจี่ยงเฉิงกำลังถือจานเนื้อหมูมาที่โต๊ะตัวเอง ก็เจอะกู้เหมี่ยวเดินมานั่งที่โต๊ะเขา สรุปวันนี้กู้เฟยพาน้องสาวมากินปิ้งย่างตามสัญญา แต่ร้านคนเต็มต้องรอคิว กู้เหมี่ยวเห็นเจี่ยงเฉิงได้โต๊ะนั่ง น้องเลยเดินมากะรวมโต๊ะเลยไม่ต้องรอ(ที่จริงกู้เหมี่ยวชอบเฮียเฉิงจนกู้เฟยรู้สึกได้555)

เจี่ยงเฉิงเลยต้องนั่งรวมโต๊ะกับสองพี่น้องกู้ ระหว่างกินเจี่ยงเฉิงก้อปิ้งย่างหมูส่งให้กู้เหมี่ยวกินไปด้วย ทำให้ได้เห็นว่าด้านหลังศรีษะกู้เหมี่ยวมีรอยแผลยาวเกือบ5เซนติเมตร และยังรู้ว่ากู้เหมี่ยวเวลากินปิ้งย่างน้องชอบดื่มเบียร์555 แต่เป็นเพราะกู้เฟยถามว่าหลี่เป่ากั๋วเป็นอะไรกับเขา ทำให้เจี่ยงเฉิงอารมย์ไม่ดี หลังกินเสร็จกู้เฟยอาสาไปส่งเจี่ยงเฉิงกลับบ้าน แต่เขาปฎิเสธ เจี่ยงเฉิงเรียกแท็กซี่กลับไปแทน เพราะยังป่วยอยู่แต่กินอาหารมันขนาดนี้ แท็กซี่วิ่งออกมาได้ไม่นานเจี่ยงเฉิงทนไม่ไหว รีบให้รถจอดแล้วลงไปอ๊วกแตก กลับเจอะกู้เหมี่ยวยื่นทิชชู่ให้ หลังเขาเดินกลับเข้าไปที่ห้องพัก ก็เจอะหลี่เป่ากั๋วอีก เจี่ยงเฉิงที่อารมย์ย่ำแย่ ยังโดนหลี่เป่ากั๋วมาตอแยเล่าเรื่องอดีตของกู้เฟย แล้วสั่งห้ามเขาไปคบค้ากับพวกกู้เฟย

ในที่สุดพันจื้อก้อมาถึง เจี่ยงเฉิงจัดการจองโรงแรมให้พันจื้อพัก เขาเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา ที่รู้ว่าเขาเป็นเกย์แล้วไม่แสดงอาการรังเกียจ โรงเรียนเดิมที่ทั้งคู่เรียนถือเป็นโรงเรียนหรูระดับเกรดเอในเมืองใหญ่ เจี่ยงเฉิงถึงภาพลักษณ์จะเป็นเด็กต่อต้านสังคม ดูเกเรแต่ผลการเรียกกลับเป็นระดับท็อปทรีตลอด เกรดสวยงามอลังตามสไตล์เด็กหัวกะทิที่เรียกฉายาว่าเสวี่ยป้า พันจื้อเพื่อนสนิทอาศัยลอกการบ้านเจี่ยงเฉิงมาตลอดสามปี ยามนี้ร้องไห้ที่ชีวิตจากนี้ต้องลำบากไปอีกหลายปี  คืนนี้เจี่ยงเฉิงนอนค้างเป็นเพื่อนพันจื้อ พรุ่งนี้เขาต้องพาพันจื้อไปดูโรงเรียนที่จะต้องอยู่เรียนต่อไปอีกสองปี 

เช้ามาหลังพาพันจื้อกันไปกินข้าวเดินเล่นแล้ว เจี่ยงเฉิงพาพันจื้อไปสำรวจโรงเรียนด้วยกัน ที่สนามบาสของโรงเรียนเจี่ยงเฉิงได้พบกู้เฟยแอนเดอะแก็งค์ลงเล่นบาสกับพวกนักเรียน เจี่ยงเฉิงเลยได้รู้ว่ากู้เฟยก็เรียนที่นี่ เขาเลยรู้สึกไม่สบอารมย์ลึกๆ

เมื่อส่งพันจื้อขึ้นรถไฟกลับบ้านไป เขาก็ถึงเวลาต้องกลับที่ห้องพักเน่าๆนั่น โชคดีที่เขาไม่ค่อยได้เจอะกับหลี่เป่ากั๋ว จนถึงวันเปิดเทอม เขาได้รู้จักอาจารย์ประจำห้องที่ชื่อเหล่าสวี่ ที่แสดงความยินดีมากที่ห้องตัวเองมีเสวี่ยป้าหลุดมาอยู่ในห้องตัวเอง555 ในห้องเรียนเก่าๆกับบรรยากาศห้องของเด็กไม่รักการเรียน นั่น ทำให้เขาที่เป็นชิ้นส่วนที่แปลกแยก เหล่าสวี่จัดที่นั่งให้เขานั่งกับกู้เฟย เหล่าหลู่คือครูสอนภาษาอังกฤตแสนโหดที่เสียงดังมาก ในมือถือแส้ที่ฟาดกระดานไปด่าไป555 เจี่ยงเฉิงตะลึงในสำเนียงภาษาอังกฤตของเขา555

แต่มันจะมีหัวโจกห้องที่พยายามเบ่งศักดา และหวังซวี่คือคนแบบนั้น เขากะจะเล่นงานเสวี่ยป้าโชว์คนในห้อง แต่เจอะเจี่ยงเฉิงสู้กลับจนเสียหน้าคนทั้งห้องแทน หวังซวี่เลยนัดดวนกับเจี่ยงเฉิงอีกทีหลังเลิกเรียน แต่พอเดินหาสถานที่ปะทะฝีมือ หวังซวี่กลับเจอะไอ้ลิงกับกลุ่มนักเลงที่เดินมายั่วยุแทน เจี่ยงเฉิงจัดการสอยมันจนร่วงแล้วชวนหวังซวี่รีบหนีทันที แต่หวังซวี่คิดว่าไอ้ลิงต้องตามคนมาถล่มแน่เลย เขารีบโทรตามกู้เฟยให้มาช่วย ซึ่งกู้เฟยมาพร้อมกู้เหมี่ยวด้วย

ไอ้ลิงกะพรรคพวกตามถึง กู้เฟยที่นับว่าเป็นพี่ใหญ่แถวนี้เลยออกหน้า บอกให้ทำตามตามกฎให้ไอ้ลิงชกคืนเจี่ยงเฉิงสองที่ ห้ามชกเกินแล้วให้เลิกแล้วต่อกัน หวังซวี่ถึงได้ประจักษ์ความเสวี่ยป้าที่แปลกแหวกแนวของเจี่ยงเฉิง จากนั่นนับว่าหวังซวี่ได้เริ่มเป็นเพื่อนเจี่ยงเฉิงกันแล้ว

กู้เฟยพาเจี่ยงเฉิงไปกินข้าวเย็น กู้เหมี่ยวเลือกร้านปิ้งย่าง ทำให้เจี่ยงเฉิงได้เริ่มคุ้นเคยกับกู้เฟยทีละนิด เขารู้ว่ากู้เฟยทำงานเย็บปักถักร้อยได้ ดูจากหมวกไหมพรมที่กู้เหมี่ยวใส่ เจี่ยงเฉิงทึ่งในตัวกู้เฟยที่มีความสามารถหลายด้าน โดยเฉพาะการถ่ายรูป ตอนที่เจี่ยงเฉิงโดนแอบถ่ายรูป เขาโมโหมากเลยจะไปให้ลบรูปเขาในกล้องของกู้เฟย แต่เจี่ยงเฉิงกลับพบว่ากู้เฟยถ่ายรูปตัวเองได้ดีมากจนพูดไม่ออก เลยโดนกู้เฟยแอดเพื่อนเพื่อเวลาแต่งรูปเสร็จจะส่งรูปไปให้แทน555 กู้เฟยถ่ายรูปวิวของเมืองเก่าได้สวยมาก และโดยเฉพาะภาพถ่ายคนที่ชื่อว่าเจี่ยงเฉิง555

วันหนึ่งหลี่เป่ากั๋วโทรมาตามเจี่ยงเฉิงให้รีบกลับมากินข้าวเย็น เพื่อจะแนะนำพี่ชายพี่สาวแท้ๆของเขา แต่เขากับพบว่านรกมันเพิ่งเริ่ม ครอบครัวเหี้ยๆแบบนี้เขาพึ่งได้สัมผัสเป็นครั้งแรก หลี่ฮุยพี่ชายคนโตที่ถอดแบบมาจากหลี่เป่ากั๋วผู้พ่อที่กักขระหยาบคาย กับพี่สะไภ้ผู้หญิงชั้นต่ำที่ไม่มีกริยามารยาทสักนิดด่าทุกคนไม่เว้นพ่อผัว หลานชายที่คงโตมาเหมือนพ่อมัน พี่สาวที่ชีวิตน่าสงสาร โดนพ่อเหี้ยกะพี่ชายเลวกดขี่เหมือนทาส บนโต๊ะอาหารที่มีแต่เสียงด่าทอไม่หยุด เจี่ยงเฉิงสุดจะทนเลยทุบหน้าต่าง แล้วปีนหนีออกจากบ้านไปด้วยความขมขื่นใจ

เจี่ยงเฉิงเดินออกมาถึงเพิ่งรู้ว่ามือได้รับบาดเจ็บ เลยจะไปหาหมอชุมชนแต่สถานีอนามัยดันปิดทำการ เขาเลยเดินไปร้านของกู้เฟยแทน เลยได้รู้จักติงจู๋ซินที่โดนแนะนำว่าเป็นพี่สาวสนิทของกู้เฟย และติงจู๋ซินเป็นคนทำแผลให้เขา กู้เหมี่ยวออกปากชวนเจี่ยงเฉิงมากินหม้อไฟด้วยกันในร้าน (กู้เหมี่ยวชอบเฮียเฉินจริงๆๆนะ555 กู้เหมี่ยวผู้ชอบคนหน้าตาดี555) หลังกินข้าวเสร็จ เจี่ยงเฉิงยืมเงินกู้เฟยไปเปิดห้องโรงแรมนอนแทน หลังเพิ่มแอดเพื่อน ไอดีของกู้เฟยคือกระต่ายน้อยแสนเชื่อง555

ไม่นานก้อมีชายแปลกหน้าเดินกร่างเข้ามาในร้าน แต่กลับเจอะกู้เฟยจับฟาดต้นไม้จนสลบหน้าร้าน เป็นครั้งแรกที่เจี่ยงเฉิงเห็นพละกำลังของกู้เฟย จากเสียงด่าท่อของชายที่โดนทุบไปนั่น เจี่ยงเฉิงเลยได้รู้ว่าเขาคือหนึ่งในแฟนใหม่ของแม่กู้เฟย คืนนั่นกู้เฟยทะเลาะกับแม่เรื่องชายคนนั่น

หลังเริ่มเรียนไปได้หลายวัน เจี่ยงเฉิงไม่คิดว่าที่นี่จะเรียนอ่อนขนาดนี้ เมื่อเทียบกับข้อสอบที่พันจื้อแอบถ่ายส่งมาให้เขาช่วยเขียนคำตอบให้555 จนเหล่าสวี่เรียกเจี่ยงเฉิงให้ช่วยดูแลการเรียนของกู้เฟยหน่อย พร้อมบอกว่าที่จริงกู้เฟยหัวดี เพียงแต่ปัญหาที่บ้านเยอะทำให้เขาไม่สนใจเรียนจริงจัง เช้านี่เจี่ยงเฉิงโดนเพื่อนในห้องมองด้วยความสงสัย เพราะมะวานเขายืมเสื้อผ้าของกู้เฟยมาใส่ ทำให้หลังเรียนเขาต้องรีบไปห้างเพื่อหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ทันที

ยิ่งอาศัยอยู่กับหลี่เป่ากั๋ว ยิ่งทำให้เจี่ยงเฉิงได้รู้สันดานของหลี่เป่ากั๋ว นอกจากสันดานหยาบ บ้าพนันจนหนี้สินเต็มตัว ติดเหล้าติดบุหรี่ ยังเป็นคนที่โกงได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะชอบไปขโมยของในร้านของกู้เฟยแล้วไม่ยอมจ่าย เจี่ยงเฉิงรู้สึกอับอายในสายเลือดที่อยู่ในร่างตัวเอง

เจี่ยงเฉิงนึกถึงบ้านที่เขาจากมา ถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวจะไม่ราบรื่น แต่ความเป็นอยู่จนสภาพแวดล้อมดีกว่าที่นี่ไม่รู้กี่เท่า โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เขาไม่เคยต้องเรียกร้องก้อมีมาให้ไม่เคยขาดมือ ตอนที่ความสัมพันธ์ของครอบครัวสิ้นสุดลง อดีตแม่คนนั้นยังได้มอบการด์ที่มีเงินก้อนหนึ่งมากพอให้เขาใช้จนถึงตอนเข้ามหาลัย แต่ตอนนี้เจี่ยงเฉิงต้องคิดลู่ทางหารายได้พิเศษ เพื่อประคองชีวิตช่วงนี้ เพราะเขาเริ่มรู้ว่าหลี่เป่ากั๋วมีปัญหามากเกินไป เขาไม่อาจถมทะเลนี้ได้ เขาไม่อาจใช้เงินก้อนนี้ไปจ่ายหนี้สินที่หลี่เป่ากั๋วสร้างไว้ได้

แต่กู้เฟยกลับกลายเป็นแหล่งหลบภัยของเจี่ยงเฉิง และกู้เหมี่ยวที่เริ่มสนิทกับเขามากขึ้นทุกที่ และแก็งคนไม่ดีที่เจี่ยงเฉิงตั้งชื่อไว้ก็กลายมาเป็นคนสนิทของเขา หลี่เหยียน หลิวเฟยคือเพื่อนก๊วนสนิทของกู้เฟย ทรงผมของกู้เหมี่ยวก็ได้หลี่เหยียนเป็นคนตัดให้555

วันหนึ่งมีกล่องพัสดุมากมายมาส่งที่ห้องพักของหลี่เป่ากั๋ว แต่ทั้งหมดเป็นสิ่งของเจี่ยงเฉิงที่เคยใช้ทั้งหมด มันถูกส่งคืนมาจากบ้านอุปถัมภ์นั่น เจี่ยงเฉิงรู้แล้วว่าเขาไม่สามารถกลับไปบ้านนั่นได้อีกแล้ว เขารู้สึกเสียใจจริงๆในครั้งนี้ แต่ชีวิตนี้มันผ่านไปแล้ว เจี่ยงเฉิงจึงจัดการเอาของที่ไม่จำเป็นขายทิ้ง เพื่อไม่ให้เหลือร่องรอยของอดีตอีก ยกเว้นหนังสติ๊กของเขา

วันนี้เป็นวันครบวันตายของพ่อกู้เฟย เขาจึงไปที่ริมแม่น้ำนั่น แต่เขากลับพบเจี่ยงเฉิง กำลังระบายความในใจด้วยการยิงหนังสติกยิงก้อนหินลงแม่น้ำ พร้อมพากย์เสียงไปด้วย แต่สุดท้ายกู้เฟยกลับเห็นเจี่ยงเฉิงกำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้ กู้เฟยจึงเดินเลี่ยงไป

ชีวิตของเจี่ยงเฉิงหมุนผ่านไปจนใกล้ถึงวันแข่งกีฬา เหล่าสวี่ให้เจี่ยงเฉิงกับกู้เฟยจับคู่ลงแข่งบาส โดยมีหวังซวี่อาสาเป็นหัวหน้าทีม เริ่มฝึกซ้อมโดยมีเหล่าสวี่เป็นผู้จัดการทีม หลังซ้อมบาสเจี่ยงเฉิงกลับบ้านพร้อมกู้เฟย เขาก้อพบว่าหลี่เป่ากั๋วกำลังโดนรุมกระทืบจากกลุ่มคนงาน เจี่ยงเฉิงเข้าไปช่วยหลี่เป่ากั๋วจนตัวเองโดนทำร้าย กู้เฟยเข้าไปช่วยเจี่ยงเฉิงจนพวกนั้นยอมรามือจากไป เจี่ยงเฉิงโคตรผิดหวังยิ่งขึ้นกับชีวิตบัดซบนี้

กู้เฟยเริ่มเปิดใจกับเจี่ยงเฉิงจนพาเขาไปที่แหล่งหลบภัยลับของพวกเขา ในห้องรับแขกที่โรงงานโลหะร้าง พวกของกู้เฟยลากโซฟา โต๊ะที่พอใช้ได้มาวางไว้เพื่อใช้สอย ในนั้นยังมีอาหารแห้ง พร้อมเครื่องปรุงที่วางทิ้งไว้เพื่อใช้อีกในรอบหน้า วันนี้กู้เฟยพาเจี่ยงเฉิงมากินหม้อไฟง่ายๆ คืนนั้นทั้งคู่กินหม้อไฟพร้อมดื่มเหล้า จนสามารถพูดคุยเปิดอก กู้เฟยเล่าถึงปัญหากู้เหมี่ยวที่ไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ กู้เฟยเองก้อได้รู้เรื่องส่วนตัวของเจียงเฉิงมากขึ้น ว่านอกจากเขาเป็นเสวี่ยป้าบ้าเรียนแล้ว ยังเป่าขลุ่ยเป็น เล่นเปียโนได้อีก ที่นั้นเจี่ยงเฉิงเห็นเนื้อเพลงในเศษกระดาษที่ทิ้งๆแถวนั้น เขาสงสัยว่ากู้เฟยจะเป็นคนแต่ง แต่กู้เฟยไม่ยอมรับ เจี่ยงเฉิงเป่าขลุ่ยให้กู้เฟยฟัง คืนนั้นด้วยความมึนเมาและอารมย์พาไปทำให้ทั่งคู่เกือบจูบกัน แต่สติกลับมาก่อนเลยไม่เกิดอะไร นอกจากเจี่ยงเฉิงเมาจุ๊ฟแกมกู้เฟยไปที555

เช้ามากู้เฟยเอาขลุ่ยมาคืนให้เจี่ยงเฉิงที่โรงเรียน พร้อมมอบกุญแจเข้าห้องหลบภัยให้เขาไว้ เจี่ยงเฉิงตอบแทนความดีของกู้เฟยด้วยการเล่มเกมCraze3 Match จนทะลวงด่านให้กู้เฟย เพื่อจะเอาชนะอับดับของหลี่เหยียนที่นำอยู่555 บ้านของหวังซวี่เปิดเป็นร้านปิ่งสอดไส้เนื้อชื่อดังของเมือง เป็นร้านโปรดของกู้เหมี่ยวด้วย หวังซวี่นัดให้พวกเขามากินที่ร้าน แถมยังอิจฉาเจี่ยงเฉิงที่ดูกู้เหมี่ยวจะชอบเจี่ยงเฉิงมาก 

ใกล้ถึงวันแข่งบาส หวังซวี่ไปรับชุดแข่งบาสจากเหล่าสวี่ ที่ไปยืมชุดจากสมาคมต่างๆ เจี่ยงเฉิงถึงกับทรุดที่เสื้อแข่งบางตัวด้านหลังพิมพ์ชื่อว่าร้านบะหมี่เส้นสด555 กู้เฟยทนไม่ไหวบอกให้หวังซวี่เอาไปคืน เดียวเขาจัดการเรื่องเสื้อแข่งเอง55

ถึงวันแข่ง ห้องแปดที่อ่อนสุดของโรงเรียนต้องแข่งกับห้องห้าที่ดูเก่งกว่ามาก แต่เพราะไม่มีใครคาดว่าปีนี้กู้เฟยจะลงแข่ง แถมยังมีเจี่ยงเฉิงเสวี่ยป้ารูปหล่อมาจับคู่ลงด้วย ทำให้ผู้หญิงมาดูแข่งครั้งนี้ตรึม ไม่พอห้องแปดยังสามารถชนะขาดลอยอีก เหล่าสวี่กับเหล่าหลู่ภูมิใจในตัวพวกเด็กๆมาก ถึงประกาศเลี้ยงข้าวเย็นให้พวกเด็กๆ 

กู้เฟยรับงานถ่ายแค็ตตาล็อกของร้านติงจู๋ซิน เลยชวนเจี่ยงเฉิงมาเป็นนายแบบเพื่อหาเงินพิเศษ วันนั้นทั้งคู่แอบลาป่วยโดดเรียนไปร้านติงจู๋ซินแทน กู้เฟยพาเจี่ยงเฉิงนั่งรถบัสไปที่สตูดิโอ เจี่ยงเฉิงกลับคิดถึงความสัมพัธ์ระหว่างกู้เฟยกับติงจู๋ซิน ในใจก็รู้สึกปั่นป่วน ตัวเขาเองแอบยอมรับในใจมานานแล้วว่าเขาน่าจะชอบผู้ชาย แต่เขาไม่ชอบความฉาบฉวยในการสับเปลี่ยนคู่ง่ายๆแบบนั่น แต่กับกู้เฟยเขากลับรู้สึกถึงบางอย่างในใจ

วันนี้ถ่ายแบบทั้งวันยันทั้งคืน เจี่ยงเฉิงถอดๆเปลี่ยนๆเสื้อผ้าต่อหน้ากล้องของกู้เฟย มีติงจู๋ซินขนเสื้อดีไซต์ประหลาดๆมากองใหญ่ เจี่ยงเฉิงได้แต่คิดว่าจะมีคนซื้อเสื้อผ้าพวกนี้ด้วยหรอวะเนี้ย555 จนชุดทีเหมือนแหตกปลาทั้งชุด ยังดีวันนี้เจี่ยงเฉิงใส่กางเกงในสีดำมาพอดี ใส่แล้วเจี่ยงเฉิงดูเซ็กซี่มาก จนกู้เฟยวางกล้องไปห้องน้ำหลายรอบ555 ส่วนเจี่ยงเฉิงที่ยังต้องถอดๆเปลี่ยนๆเสื้อตัวใหม่ก้อวิ่งมาให้กู้เฟยช่วยดูว่ามันใส่ยังไง สรุปที่เจี่ยงเฉิงยัดหัวไม่ลง เพราะมันคือแขนเสื้อเลยทำให้ทั้งคู่หัวเราะเป็นบ้ากันอีกรอบ หลังเสร็จงานกู้เฟยเรียกแท็กซี่กลับ ส่วนเจี่ยงเฉิงเหนื่อยมากจนง่วงหลับตลอดทางขากลับ

พอใกล้ถึงทางเข้าบ้าน เจี่ยงเฉิงก้อได้ยินเสียงด่าทอดังลั่นตรอก ก็พบว่าเป็นเสียงของพวกหลี่เป่ากั๋ว หลี่ฮุย หลี่เชี่ยนกับผู้หญิงสูงวัยที่ขากระเผลก พวกเขากำลังทะเลาะด่ากันดังลั่นไปหมด เจี่ยงเฉิงเดาว่าผู้หญิงคนนั่นคงเป็นแม่ที่แท้จริงของเขา เขาไม่อยากกลับไปที่นั่น กู้เฟยเลยชวนเจี่ยงเฉิงกลับไปบ้านตัวเองแทน บ้านของกู้เฟยเป็นตึกใหม่ดูสะอาด อยู่บนชั้นเจ็ดบนสุดของตึก

เมื่อเปิดประตูมาเจี่ยงเฉิงก้อเจอะแม่กู้เฟย แถมโดนทักว่าเป็นแฟนของหลี่เหยียนหรอเห็นแต่งหน้า555 เจี่ยงเฉิงได้รับการต้อนรับอันอบอุ่นจากกู้เหมี่ยว ถึงขั้นน้องเหมี่ยวอาสาล้างเครื่องสำอางบนหน้าให้เฮียเฉิง และยังได้กินอาหารฝีมือแม่ของกู้เฟย ความรู้สึกเศร้าตีตื้นขึ้นมา นานแค่ไหนที่เจี่ยงเฉิงไม่ได้กินอาหารฝีมือคนในบ้าน คืนนั้นเจี่ยงเฉิงก็ได้รู้ว่าหลี่เหยียนเป็นเกย์เหมือนกับเขา เจี่ยงเฉิงจึงกล้าถามว่ากู้เฟยเป็นด้วยไหม เพราะเขายอมรับว่าเขาเป็น สรุปทั้งคู่ต่างกุมความลับของกัน555 กู้เฟยยังได้รู้ถึงเรื่องในอดีตที่เจี่ยงเฉิงใช้ชีวิตก่อนหน้านี้ กู้เฟยนั่งแต่งรูปให้ติงจู๋ซิน พร้อมเรียกให้เจี่ยงเฉิงมาดูโพสที่เขาควรแก้ไขเวลาถ่ายรูปรอบหน้า จากนั้นเสวี่ยป้าก้อกลับไปนั่งทำการบ้านพร้อมอ่านหนังสือทบทวนบทเรียน 

เช้ามาเจี่ยงเฉิงชวนกู้เฟยกับกู้เหมี่ยวไปกินอาหารเช้าที่บ้านหวังซวี่ กู้เฟยเลยขี่มอไซตไฟฟ้านั่งสามคนไปกัน หลังกินเสร็จก้อปล่อยกู้เหมี่ยวเล่นสเก็ตบรอด์กลับบ้านไป ส่วนพวกเขาขี่มอไซตซ้อนสามไปโรงเรียนแทน แต่พอถึงประตูโรงเรียน เจี่ยงเฉิงกลับเจอะผู้หญิงขากระแผลกคนนั้นวิ่งเข้ามาหา เจี่ยงเฉิงเลยบอกให้พวกกู้เฟยไปก่อน ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะบอกว่าตัวเองเป็นแม่แท้ๆของเขา แต่เจี่ยงเฉิงยากจะทำใจยอมรับได้ กลับเจอะผู้หญิงคนนั้นโวยวายว่าเขาอกัตญญู เจี่ยงเฉิงสุดจะทนเลยบอกว่าเขาไม่เคยคิดจะยอมรับใครทั้งนั้นแล้วเดินจากมา

เมื่อเขากลับเข้าโรงเรียนกลับเจอะคนล้อเลียนเรื่องผู้หญิงคนนั้นคือแม่ของเขา มันคือนักบาสห้องห้า เลยเจอะเจี่ยงเฉิงต่อยกระเด็นไปแทน จากนั้นก้อเริ่มเป็นศึกของสองห้องยกพวกรุมด่ากัน กู้เฟยเข้าไปห้าม สุดท้ายเย็นนี้ตัวการต้องไปเข้าห้องฝ่ายปกครอง แต่หลังจากแข่งบาสชนะ ห้องแปดก้อกลายเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยเฉพาะหวังซวี่ ที่ออกหน้าเล่าเรื่องแทนเจี่ยงเฉิงตลอด และเพราะฐานะเสวี่ยป้าของเจี่ยงเฉิงทำให้เหล่าสวี่ปกป้องเขาสุดใจ555 จนสุดท้ายจบลงที่ทั้งหมดต้องเขียนจดหมายสำนึกผิดแทนกับทำความสะอาดห้องน้ำชาย555

เย็นวันนั้นกู้เฟยขับมอไซต์พาเจี่ยงเฉิงไปถ่ายรูปต่อที่สตูดิโอของติงจู๋ซิน วันนี้ยังคงเต็มไปด้วยชุดประหลาด55 แต่มีชุดหนึ่งที่มีหนังสติกประกอบฉาก เจี่ยงเฉิงเลยบอกว่าของนี้มันไม่มีคุณภาพ กู้เฟยเลยหลุดปากว่าให้เจี่ยงเฉิงใช้หนังสติกของตัวเองสิ เลยโป๊ะแตกว่าวันนั้นกู้เฟยเห็นเขาเป็นบ้าเป็นบ้อที่ริมแม่น้ำวันนั้น เจี่ยงเฉิงโมโหเลยเอาหนังสติกไล่ยิงกู้เฟย

จนสุดท้ายเลยได้คุยเปิดใจอีกรอบ ว่าวันนั้นเป็นวันครบวันตายพ่อกู้เฟย เขาต้องไปเผากระดาษเงินกระดาษทองให้พ่อ และยังเล่าอดีตที่แสนเจ็บปวดว่าพ่อของเขาเลวระยำขนาดไหน เพราะชอบตีลูกเมีย ติดเหล้า พอกู้เหมี่ยวเกิดมามีพัฒนาการช้า วันหนึ่งพ่อเขาโมโหไรไม่รู้ จู่ๆก้อจับกู้เหมี่ยวทุ่มใส่กำแพง นี่คือที่มาแผลขนาดใหญ่หลังศรีษะของกู้เหมี่ยว ส่วนวันนั้นกู้เฟยโดนพ่อลากจะมาซ้อมที่ริมแม่น้ำ แต่พ่อเขาพลาดตกลงไปในแม่น้ำ ด้วยความเมาทำให้พ่อเขาขึ้นจากน้ำเองไม่ไหว ส่วนกู้เฟยเองว่ายน้ำไม่เป็น และเขาก้อกลัวว่าถ้าช่วยพ่อขึ้นมาเขาจะโดนซ้อมอีก ไหนจะแม่และน้องสาวที่โดนทุบตีประจำอีก เขาที่มึนงงจึงทำได้แค่ยืนมองดูพ่อจมน้ำตาย เจี่ยงเฉิงที่รับรู้อดีตอันมืดมนของกู้เฟย ทำให้เจี่ยงเฉิงเข้าไปกอดปลอบกู้เฟย ตอนนี้เจี่ยงเฉิงยอมรับว่าเขามีความรู้สึกที่ดีกับกู้เฟย เพราะเขาไม่ได้รังเกียจสัมผัสนี้ และยังรู้สึกสนิทใจกับกู้เฟยมากกว่าพันจื้อสะอีก

วันต่อมาหลังเรียนจบ เจี่ยงเฉิงกับไอ้วอนตีนห้องห้าต้องรับการลงโทษด้วยการไปทำความสะอาดห้องน้ำชาย ตอนนี้เองที่เจี่ยงเฉิงได้ปะทะกับหูเจี้ยนห้องเจ็ด ที่ต้องแข่งบาสกับเขาในรอบต่อไป หูเจี้ยนเข้ามากวนตีนกะข่มเสวี่ยป้า แต่เจอะเจี่ยงเฉิงกระแทกกลับไปแทน กู้เฟยกับหวังซวี่ที่ยืนรอหน้าห้องน้ำ เลยรู้เรื่องกระทบกระทั่งนี้ กู้เฟยบอกให้เจี่ยงเฉิงระวังหูเจี้ยนกับพวก เพราะในทีมแข่งมันต้องแอบใส่คนนอกมาแข่งแน่ แถมยังเล่นเกมสกปรกจนเป็นสันดาน

ในที่สุดก็ถึงเวลาแข่งรอบต่อไปกับห้องเจ็ด กู้เฟยพยายามเซฟเจี่ยงเฉิง แต่ทีมหูเจี้ยนเอาคนนอกมาช่วยจริงๆ เป็นไอ้หมูป่าที่เป็นญาติไอ้ลิง มันเป็นตัวสกัดเกมเจี่ยงเฉิงแบบขี้โกง จนเหล่าหลู่ยืนตะโกงด่าออกโทรโข่ง555 แต่ทีมเทพม้ามืดกู้เฟยกับเจี่ยงเฉิงสามารถเอาคืนแบบถูกกฎ จนทำแต้มชนะจนได้แบบใสสะอาด ทำให้ห้องแปดดีใจจนต้องฉลองต่ออีกมื้อ555 คืนนี้เลี้ยงชาบู บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความครึกครื้น เป็นครั้งแรกที่เจี่ยงเฉิงได้สัมผัสกับอารมย์แบบนี้ โดยเฉพาะหวังซวี่หลังดื่มเหล้าไปก็เริ่มโม้แหลกไม่หยุด

เจี่ยงเฉิงเห็นกู้เฟยออกไปนานเลยกะเดินออกไปห้องน้ำด้วย ก็พอดีที่อดีตแม่คนนั้นโทรมาหาเขา บอกว่าหลี่เป่ากั๋วโทรมาหานาง มาขอเงินอ้างว่าเป็นค่าเทอมค่ากินอยู่ของเขา เจี่ยงเฉิงเจ็บลึกในใจและรู้สึกอับอายจนทนแทบไม่ไหว อดีตแม่เขายังถามว่าเงินก้อนนั้นยังอยู่ใช่ไหม ให้เขาเก็บรักษาเงินก้อนนั้นไว้ดีๆ(เพราะคงจะไม่มีการโอนเงินมาเพิ่มอีกแล้วสินะ) เจี่ยงเฉิงเลยตัดบทอดีตแม่ ก็พอดีเห็นกู้เฟยยืนถือจานผลไม้อยู่ข้างๆ ทั้งคู่เลยยืนปรับทุกข์ไปกินผลไม้ไป จนพวกหวังซวี่จะไปต่อร้องคาราโอเกะต่อ แต่เจี่ยงเฉิงไม่อยากไปและไม่อยากกลับบ้าน กู้เฟยเลยชวนไปห้องหลบภัย แต่ต้องไปส่งกู้เหมี่ยวกลับไปนอนที่บ้านก่อน

ที่ห้องหลบภัยในโรงงานร้าง เจี่ยงเฉิงเลยเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดให้กู้เฟยฟังได้สบายๆ และเพราะดื่มเหล้าจนกรึมๆ จึงทำให้เขากล้าถามกู้เฟยว่ามีความรู้สึกบางอย่างกับเขาใช่ไหม ตอนแรกกู้เฟยปฎิเสธ แต่เจอะเจี่ยงเฉิงแฉเรื่องที่กู้เฟยเป้าแข็งตอนถ่ายรูปเขานะ555 เจี่ยงเฉิงจู่โจมเข้าไปจูบก่อน แต่กู้เฟยก้อตอบสนองทันที คืนนั้นทั้งคู่ก็ก้าวผ่านเกินเพื่อนสนิทไปอีกขั้น ทั้งคืนนอนค้างที่ห้องหลบภัยด้วยกัน

ตอนเช้ากู้เฟยตื่นก่อนเลยไปซื้ออาหารเช้าให้เจี่ยงเฉิง หลังทั้งคู่จัดการอาหารเช้าก็แยกย้ายกลับบ้าน ตรงปากตรอกก่อนเข้าบ้าน เจี่ยงเฉิงได้ยินเสียงผู้หญิงสองคนทะเลาะกับหลี่เป่ากั๋ว สรุปเป็นหลี่เป่ากั๋วรับสมอ้างรับสินค้าจากร้านขายบุหรี่เหล้าจำนวนสองพันกว่าหยวน โดยไม่ยอมจ่ายเงิน จนพนักงานขายคนนั้นเดือดร้อนต้องมาตามทวงเงิน แต่หลี่เป่ากั๋วกลับไม่ยอมจ่ายเงินหน้าด้านๆ เจี่ยงเฉิงจึงขอเบอร์ผู้หญิงคนนั้นไว้ก่อน

หลังเข้าไปในห้องเจี่ยงเฉิงก็ถามหาของที่หลี่เป่ากั๋วโกงเอามา เลยทะเลาะกับหลี่เป่ากั๋วที่ไม่ยอมคืนของ แถมหลี่เป่ากั๋วยังทวงบุญคุณเรื่องต้องส่งเสียเลี้ยงดูเขาแทน ทั้งยังลงไม้ลงมือทุบตีเขาอีก แต่เจอะเจี่ยงเฉินเอาเก้าอี้ฟาดหลี่เป่ากั๋วกลับ เจี่ยงเฉิงสุดจะทนเลยตัดความสัมพันธ์กับหลี่เป่ากั๋ว ว่านับจากนี้พวกเขาไม่เคยเป็นอะไรกัน แล้วเขาก็จะไม่อยู่ที่นี้อีกต่อไป

จนถึงวันเปิดเรียน กู้เฟยสังเกตุเห็นเจี่ยงเฉิงไม่สบายเป็นหวัด เลยปล่อยให้เขานอนพักเที่ยงไป ส่วนตัวเองจะออกไปข้างนอก เลยเจอะเหล่าสวี่เรียกมาคุยส่วนตัว เลยทำให้กู้เฟยรู้ว่าเจี่ยงเฉิงหนีออกมาจากบ้านของหลี่เป่ากั๋วแล้ว ตอนนี้หลี่เป่ากั๋วกำลังตามหาเจี่ยงเฉิงอยู่ แต่เหล่าสวี่ไม่ยอมให้หลี่เป่ากั๋วมาที่โรงเรียน เพราะใกล้สอบแล้ว กลัวจะเกิดผลกระทบกับเจี่ยงเฉิง เลยฝากกู้เฟยให้ช่วยดูแลเจี่ยงเฉิงหน่อย 

พอกู้เฟยออกมานอกโรงเรียนก็เจอะไอ้หมูป่ามาดักรอ กู้เฟยเลยบอกมีไรไว้เจอะหลังสอบละกัน แล้วจึงไปที่ร้ายขายของชำ กลับมาเจอะหลี่เป่ากั๋วมาป่วนเปี่ยนถามหาเจี่ยงเฉิง แถมยังด่าเจี่ยงเฉิงว่าอกัตญญู จู่ๆเก็บของหนีออกจากบ้านไปไหนไม่ยอมบอกเขา กู้เฟยได้แต่มองบน แต่ไม่ได้รับปากจะช่วยหลี่เป่ากั๋วตามหาเจี่ยงเฉิง หลังเลิกเรียนเจี่ยงเฉิงชวนกู้เฟยพาไปซื้อจักรยาน กู้เฟยไม่ถามอะไรแต่พาเจี่ยงเฉิงไปซื้อจนเสร็จ เจี่ยงเฉิงถึงเล่าเองว่าเขาออกมาจากบ้านของหลี่เป่ากั๋วแล้ว ตอนนี้ไปเช่าบ้านอยู่คนเดียว แต่ว่าเขาหาบ้านที่เช่าไว้ไม่เจอะ555(เป็นเสวี่ยป้าจอมหลงทางขนานแท้) 

กู้เฟยเลยเป็นคนพาไปจนเจอะ สภาพตึกเก่าแต่ไม่โทรมเท่าบ้านหลี่เป่ากั๋ว ตอนนี้ห้องว่างเปล่ามีแต่เฟอนิเจอร์เดิมๆที่ติดห้อง เจี่ยงเฉิงขอให้กู้เฟยพาไปซื้อชุดเครื่องนอนพวกผ้าปูเตี่ยง ผ้าห่ม หมอน ปลอกหมอก เจี่ยงเฉิงที่เก็บความเศร้าระคนอดสูใจ ปละตอนนี้ตัวเองเหลือตัวคนเดียวโดดเดียวแล้วจริงๆ ก้อทนไม่ไหวร้องไห้ออกมากับกู้เฟย กู้เฟยกอดปลอบเจี่ยงเฉิง จนกอดไปกอดมาๆเลยลงเอยกันอีกรอบๆ กว่าจะได้ไปซื้อก็เหลือร้านขายเครื่องนอนให้ซื้อไม่กี่ร้าน เจี่ยงเฉิงเลยปล่อยให้กู้เฟยจัดการเลือกของให้หมดไปเลย เจี่ยงเฉิงถามเรื่องไอ้หมูป่าที่มาดักรอหาเรื่องหน้าโรงเรียน กู้เฟยบอกเจี่ยงเฉิงไม่ต้องห่วง หลังสอบเสร็จเดียวเขาจัดการเอง

จนถึงวันสอบ หวังซวี่ตามมานั่งสอบข้างเจี่ยงเฉิง พร้อมเอยปากขอลอกข้อสอบแบบจริงใจ555 ผลประกาศสอบออกมาอีกสองสามวันให้หลัง ห้องแปดหลังได้เสวี่ยป้าจากเมืองใหญ่มา ก็สร้างสถิติทำคะแนนเต็มสามวิชา และควบตำแหน่งอับดับหนึ่งของระดับชั้นเรียนม.ห้าด้วย เหล่าสวี่กับเหล่าหลู่มีความสุขจนไม่อยากด่าใคร555

ถึงวันแข่งบาสที่ไอ้หมูป่านัดไว้ กู้เฟยหลอกเจี่ยงเฉิงว่าจะพากู้เหมี่ยวไปหาหมอ แต่กลับพาแก็งค์คนดูไม่ดีไปรับแข่งบาสที่สอดไส้แทน ไอ้ลิงมายืนคุมเกม และถามหาเจี่ยงเฉิง แต่กู้เฟยออกหน้าแทนเจี่ยงเฉิงเอง เริ่มเกมบาสแต่ที่จริงคือการยกพวกตะลุมบอนตีกัน ไอ้หมูป่าใช้สนับมือกระแทกใส่กู้เฟยเป็นระยะจนกู้เฟยได้แผลไปหลายรอย กู้เฟยรอจังหวัดแล้วตบบ๊องหูทีเดียว ทำให้ไอ้หมูป่าล้มลงไปอ๊วก แถมยังหูอืออีกต่างหาก ไอ้ลิงบอกเรื่องระหว่างไอ้หมูป่ากับกู้เฟยถือว่าจบ แต่ไอ้ลิงบอกมันเป็นตัวแทนของไอ้หมูป่าในเรื่องเจี่ยงเฉิง กู้เฟยเลยรับคำนัดท้ากระโดดข้ามของมัน แต่เป็นหลังวันแข่งบาสรอบชิงของโรงเรียน แก็งค์คนไม่ดีกังวลว่ากู้เฟยจะโดนไอ้ลิงมันเล่นไม่ซื่อ กู้เฟยบอกยังไงก้อหลบเลี่ยงไม่ได้ ไอ้ลิงมันเล็งจะเล่นงานเขามานานละ แข่งให้มันจบๆสะที จะได้ไม่ตามตอแยเขาอีก

เจี่ยงเฉิงรู้สึกเป็นห่วงกู้เฟยที่โทรไปแล้วไม่มีใครรับสาย เลยรอเลิกเรียนรีบกลับไปร้านขายของชำ ก็เจอะกู้เฟยพอดี ดูจากบาดแผลแล้วก็รู้ว่ากู้เฟยไปลุยกะไอ้ลิงกับไอ้หมูป่ามา แล้วยังไม่เรียกเขาไปด้วย กู้เฟยต้องอธิบายจริงจังว่าเขาไม่อยากให้เจี่ยงเฉิงไปยุ่งกะพวกไอ้ลิง พวกนี้มันสวะ มีเรื่องกะพวกมันก็จะมีเรื่องต่อไม่หยุด เจี่ยงเฉิงไม่ใช่คนที่จะมาจมปลักที่นี้ แล้วไอ้ลิงมันก้อรอเล่นเขามานานแล้ว 

กู้เฟยเล่าถึงอดีตตัวเอง ว่าเขาก้อเป็นเด็กที่ก้าวร้าวใช้ความรุนแรง เพราะผลจากพ่อที่ใช้ความรุนแรงในบ้านตลอดเวลา จนพ่อเขาตายไป เขายังควบคุมตัวเองไม่ได้ จนถึงขั้นจับเพื่อนร่วมโรงเรียงทุ่มลงจากชั้นสองบาดเจ็บสาหัส จนตัวเองต้องย้ายไปโรงเรียนดัดสันดานตอนม.สาม เขาเลยเข้าในวังวนของพวกนั้น จนเขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกนั้น จึงมาสอบเข้าม.ปลายที่โรงเรียนธรรมดาแบบซื่อจง เจี่ยงเฉิงทำแผลให้กู้เฟยไปฟังไปก้อตกใจมาก แล้วก็รู้สึกสงสารกู้เฟย เลยถามว่าไอ้ลิงมันนัดอีกเมื่อไร กู้เฟยเลยต้องเล่าความจริงว่าหลังแข่งบาสรอบชิ่ง ไอ้ลิงท้าไปกระโดดข้ามตึก ใครตกตึกก่อนเป็นอันยุติ เจี่ยงเฉิงตะลึง....นี้มันวงสังคมอะไรเนี่ย

ถึงวันแข่งรอบชิง เป็นวันเสาร์แต่รอบสนามแข่งบาสเต็มไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะสองหนุ่มหล่อห้องแปด ที่เป็นม้ามืดพาห้องแปดเข้ารอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก เว็บบอร์ดโรงเรียนเต็มไปด้วยกระทู้สองหนุ่มฮอต555 วันนี้หวังซวี่ตื่นเต้นจัด แต่เจี่ยงเฉิงกลับบอกว่าเราเป็นม้ามืด ผลต่อจากนี้ไม่กดดัน แพ้ชนะไม่สำคัญละ ขอเล่นให้เต็มที่พอ กู้เฟยบอกเกมนี้คู่แข่งคือห้องสอง หัวหน้าและคนในทีมเป็นนักกีฬาตัวแทนโรงเรียน เกมแข่งแบบเล่นกีฬาจริงไม่มีสอดไส้ หวังซวี่ฟังแล้วหายเครียด ทำใจเล่นให้เต็มกำลังแทนพร้อมกำลังใจของคนทั้งห้องแปด

งานนี้กู้เฟยให้หลี่เหยียนมาตามถ่ายรูปและพ่วงตำแหน่งโค้ชไปด้วย555 พอเริ่มเกมก็แข่งกันชู๊ดสามแต้ม เกมเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ไม่มีใครคิดว่าห้องแปดจะมีความสามารถเล่นแข่งกับนักกีฬาโรงเรียนได้แบบสูสี จนนาทีสุดท้ายจบลงที่ห้องสองชนะไปแค่1แต้ม แค่นี้เหล่าสวี่กับเหล่าหลู่ก็ดีใจสุดๆละ ส่วนเจี่ยงเฉิงโดนกัปตันทีมห้องสองมาทาบทามให้มาเป็นนักกีฬาโรงเรียนแทน555

หลังแข่งเสร็จ ห้องแปดพากันไปกินเลี้ยงฉลองชัยที่ได้ที่สอง555 แต่เจี่ยงเฉิงรอหลังงานเลี้ยงจบ เขาย่ำเตือนกับกู้เฟยว่าคืนนี้ห้ามเขาบาดเจ็บ ละตัวเขาจะไปแอบดูกู้เฟยแข่ง ไม่ต้องห่วงว่าพวกไอ้ลิงจะหาเขาเจอะ เจี่ยงเฉิงแอบกลับไปสำรวจสถานที่แข่งโดดตึกของพวกไอ้ลิง เขาพกหนังสติ๊กและเดินสำรวจจนได้สถานที่แอบซุ่มโจมตีที่ตึกสูง จากมุมนี้พอมองเห็นทุกจุดในการกระโดดตึกได้ชัด เจี่ยงเฉิงทดสอบหนังสติ๊กด้วยการยิงลูกวอลนัตจากทุกระยะจนมั่นใจ จากนั่นเจี่ยงเฉิงกลับไปเตรียมตัวกลับมาซุ่มตอนเย็นอีกที

เวลาทุ่มหนึ่งเจี่ยงเฉิงเข้ามาซุ่มก่อนเวลา ใกล้สองทุ่มพวกแก็งค์นักเลงเริ่มทยอยเข้ามา ไอ้ลิงมาตอนสองทุ่ม พวกของกู้เฟยตามมาติดๆพร้อมพี่เสือนักเลงรุ่นใหญ่ ที่พวกนักเลงแถวนี้ยอมรับบารมีให้เขามาเป็นกรรมการ การแข่งเริ่มขึ้น พวกทั้งสองฝ่ายเริ่มโยนสิ่งกีดขวางลงพื้น กู้เฟยเดินสำรวจที่ดาดฟ้า ก้อมีลูกวอลนัตยิงมาที่เท้าเขา กู้เฟยรู้ทันที่ว่าเป็นเจี่ยงเฉิงที่มาซุ่มดูเขาแล้ว

จากนั้นพี่เสือส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ออกวิ่ง เจี่ยงเฉิงใช้ลูกวอลนัตเป็นกระสุน ค่อยยิงพวกขวดแก้ว ท่อนไม้ที่อยู่ใกล้เท้าของกู้เฟยเพื่อเคลียร์ทาง รอบแรกผ่านไปไม่มีใครพลาด รอบสองคนทั้งสองฝ่ายโยนของลงพื้นหนักกว่าเดิม เจี่ยงเฉิงได้แต่ด่าในใจไอ้พวกบ้ารนหาที่ตายจริงๆ แต่รอบนี้มีคนโยนไม้ที่มีตะปูเฉียดผ่านหน้ากู้เฟย แต่ได้เจี่ยงเฉิงยิงสกัดเบี่ยงวิถีหลบไป กู้เฟยเลยถือจังหวะนี้แกล้งล้มจนขาหัก ส่วนไอ้ลิงเองก็ล้มจนหน้ากะแขนได้รับบาดเจ็บ พี่เสือมาดูอาการกู้เฟยที่ขาบิดผิดรูป ประกาศว่ากู้เฟยแพ้แล้ว ขอให้ข้อพิพาทของทั้งคู่นี้จบลงในคืนนี้ จากนั้นให้แยกย้ายไปทำแผลกัน

เจี่ยงเฉิงที่ตกใจมากที่เห็นกู้เฟยบาดเจ็บ แต่ต้องรอให้พวกแก็งค์นักเลงพวกนั้นกลับไปจนหมด แล้วถึงรีบกลับไปที่ร้านชำทันที ก็เห็นกู้เฟยที่ขามีไม้ด้ามขาไว้ กู้เฟยรีบอธิบายให้เจี่ยงเฉิงทันที ว่าเป็นแผนแกล้งเจ็บตัวเพื่อจบปัญหาให้ไอ้ลิงเลิกสนใจเขาสะที โดยมีพี่เสือที่เขารับว่าสนิทรู้จักกันดีและยอมออกหน้าช่วยเขา เจี่ยงเฉิงทั้งโมโหทั้งเป็นห่วง หลังเช็คสภาพกู้เฟยว่าไม่มีไรบาดเจ็บร้ายแรงอะไร เจี่ยงเฉิงก้อถามกู้เฟยทันทีว่าสนใจเป็นแฟนหนุ่มของเขาไหม ให้เวลาคิดนะ แล้วเจี่ยงเฉิงก้อกลับบ้านไปนอนอย่างสบายใจ ปล่อยกู้เฟยยืนตาค้างสมองปั่นป่วนไว้555

แปดโมงเช้าในวันอาทิตย์ เจี่ยงเฉิงโดนโทรศัทพ์มาปลุก สรุปเป็นกู้เฟยที่ปั่นจักรยานมาตอบรับเป็นแฟน วันนั้นพวกเขาได้เดตเป็นครั้งแรก ต่างก็เป็นแฟนคนแรกของทั้งคู่555 วันรุ่นเลือดลมร้อนแตะๆก้อไฟสปาค์ตลอด55 เดตแรกไปดูหนังผีกัน555 จากนั้นก้อหวานชื่น เจี่ยงเฉิงขี่จักรยานไปรับส่งกู้เฟยที่แกล้งทำขาหัก เพื่อให้ชาวบ้านรับรู้ว่าเขาขาหักจริง จนวันหนึ่งไอ้ลิงพาลูกน้องมาร้านชำกู้เฟย เพื่อมาแสดงบารมีกับเช็คว่ากู้เฟยขาหักจริง555 กู้เฟยต้องเรียกมันว่าพี่หม่าถึงได้พอใจแล้วจากไปสะที

เหล่าสวี่มาหากู้เฟยที่ร้านชำเลยเจอะเจี่ยงเฉิง เลยถือโอกาสเรียกไปคุยว่าหลี่เป่ากั๋วตามเขาอยู่ และแนะนำให้เจี่ยงเฉิงกลับไปพูดคุยกับหลี่เป่ากั๋วสะหน่อย และบอกว่าหลี่เป่ากั๋วป่วยหนัก เจี่ยงเฉิงรับปากว่าจะลองไปดูหลี่เป่ากั๋ว

วันนี้เจี่ยงเฉิงมีนัดไปรับพันจื้อ และมีเพื่อนเก่าตามมาอีกสามคน ในนั้นเป็นหญิงสองคน แต่พันจื้อจะนอนค้างกับเจี่ยงเฉิง ทำเอากู้เฟยหึง555 เจี่ยงเฉิงต้องรับปากว่าจะให้พันจื้อนอนโซฟา ถึงจะทำให้กู้เฟยพอใจ555 แก็งค์เพื่อนเก่าเจี่ยงเฉิงมาถึงก้อพากันไปเก็บของในโรงแรม เจี่ยงเฉิงเรียกกู้เฟยมากินอาหารรวมกันแล้วแนะนำให้เหล่าเพื่อนได้รู้จัก หนึ่งในสองสาวสนใจในตัวกู้เฟยออกหน้ามาก จนเจี่ยงเฉิงเกิดอาการหึงจนต้องบอกกู้เฟยห้ามรับแอดเพื่อนใหม่ซี้ซัว555 ทั้งหมดตกลงว่าพรุ่งนี้เช้าจะพาไปเที่ยวบ้านผีสิงที่สวนสนุกนอกตัวเมือง

พอถึงเวลาก้อพากันนั่งแท็กซี่กันไป ในบ้านผีสิงพันจื้อจับโป๊ะคนเพิ่งมีแฟนได้555 ทำเอาเจี่ยงเฉิงสบายใจจะได้ไม่ต้องอธิบายให้พันจื้อฟัง จนกระทั่งหมดวันหยุด พันจื้อจึงถามความสัมพันธ์ของเจี่ยงเฉิง แล้วแค่เตือนว่ารักแรกมักจะพ่วงมากับความเจ็บปวดเสมอ แต่พันจื้อยังอยู่นะ555 เจี่ยงเฉิงไปส่งกลุ่มเพื่อนที่สถานีรถไฟเสร็จก็กลับห้อง ถึงได้พบว่าพันจื้อแอบมอบปากกาอย่างดีไว้ให้ เจี่ยงเฉิงซาบซึ้งในน้ำใจของพันจื้อมาก เขาลองใช้ปากกาเขียนประโยคหนึ่ง"หวังว่าเราจะกล้าหาญเหมือนกันและกันนะ"...ประโยคทองของอนาคตจริงๆ

ใกล้ถึงวันสอบปลายภาคแล้ว พอดีหลิวเฟยเพื่อนกู้เฟยต้องไปผ่าริซซี่ กู้เฟยเลยชวนเจี่ยงเฉิงไปเยี่ยมหลิวเฟยด้วยกัน พอถึงเวลาจะกลับ เจี่ยงเฉิงดันเจอะหลี่เป่ากั๋วโวยวายใส่หมอพยาบาลเสียงดังลั่น แว่วๆจะมาขอเงินค่ารักษาคืน ดูแล้วน่าจะเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เจี่ยงเฉิงจะเดินไปดูแต่กู้เฟยกลับลากเขาออกไป แล้วค่อยๆพูดว่าถึงเขาจะจ่ายเงินค่ารักษาให้หลี่เป่ากั๋ว แต่หลี่เป่ากั๋วคงเอาเงินก้อนนี้ไปเล่นไพ่มากกว่า ดูสภาพแล้วคงไม่คิดจะรักษาอะไรอีกแล้ว เจี่ยงเฉิงได้แต่รับปากกู้เฟยว่าจะไม่ให้เงินหลี่เป่ากั๋ว เพราะเงินก้อนนี้ยังไงก้อไม่มีทางพอให้หลี่เป่ากั๋วเอาไปละลาย เก็บไว้เป็นเงินค่าเล่าเรียนตามเดิมดีกว่า

เจี่ยงเฉิงไปนั่งรอหลี่เป่ากั๋วที่ปากตรอกที่พัก แต่เจอะหลี่เป่ากั๋วแดกดันหาว่าเขาเป็นลูกอกตัญญู เจี่ยงเฉิงรำคาณจนโมโหบอกให้ไปเรียกพี่ชายพี่สาวมาคุยว่าจะตกลงกันยังไง เพราะมันไม่ใช่หน้าที่เขาที่ต้องมารับผิดชอบหลี่เป่ากั๋วคนเดียว ว่าแล้วก้อเดินอารมย์เสียออกไป เดินมาสักพักถึงเห็นว่ากู้เฟยมายืนรอเขาที่ปากซอย กู้เฟยเดินเป็นเพื่อน จนกระทั่งเจี่ยงเฉิงชวนกู้เฟยมานอนค้างด้วยกัน เพราะเขาไม่อยากอยู่คนเดียวตอนนี้ คืนนั่นเจี่ยงเฉิงปรึกษาเรื่องนี้ กู้เฟยแนะนำว่าหลี่เป่ากั๋วไม่คิดรักษาตัวหรอก แต่ถ้าอยากให้เงินช่วยเหลือก้อถือว่าเป็นเงินให้เปล่า อย่าให้เป็นก้อนให้ทีละน้อยพอให้หลี่เป่ากั๋วเอาไปเล่นไพ่ แล้วกู้เฟยชวนเจี่ยงเฉิงไปทำงานพิเศษเป็นนายแบบต่อเพื่อหารายได้เสริม เจี่ยงเฉิงเองก็ได้รู้ว่ากู้เฟยเองทำพอรต์รูปถ่ายเตรียมส่งสตูดิโอเพื่อเป็นช่างภาพจริงจัง

เช้ามาทั้งคู่แยกเวลากันเข้าเรียน เจี่ยงเฉิงไปก่อนก้อยังสายไปคาบเรียนหนึ่ง แต่พอกู้เฟยมาก้อฮือฮาไปทั้งโรงเรียนเพราะเขาโกนผมสะเกลี้ยง555 เพราะก่อนหน้านี้เขาไถผมด้านข้างมีไถลายตัวโน๊ต ซึ่งเขาทำมานานมากสมัยยังทำวงดนตรีกับติงจู๋ซิน ตอนนี้มีแฟนจริงจังแถมแฟนขี้หึงด้วย เลยไถผมล้างอดีตสะหน่อย555

ในที่สุดหลี่เป่ากั๋วก็โทรตามให้เจี่ยงเฉิงกลับบ้าน เพราะหลี่เป่ากั๋วนัดพี่สองคนของเขาได้แล้ว พอไปถึงก็ได้ยินเสียงหลี่เป่ากั๋วทะเลาะกับหลี่ฮุย เลยทำให้รู้ว่าหลี่ฮุยไม่เคยจ่ายค่ารักษาให้หลี่เป่ากั๋ว มีแต่ลูกสาวที่โดนทุบตีประจำที่เป็นคนให้เงินหลี่เป่ากั๋วใช้ เจี่ยงเฉิงสุดจะทนเลยบอกเลยว่าตัวเองมอบเงินให้ได้แค่สองพัน จะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่หลี่เป่ากั๋ว หลี่เชี่ยนเลยเอาเงินให้หลี่เป่ากั๋วด้วยอีกคน เลยโดนหลี่ฮุยด่าว่าอวดดี แล้วยังตบหลี่เชี่ยนอีกที่ทำให้มันดูแย่สุดในสามพี่น้อง เจี่ยงเฉิงโมโหเลยต่อยหลี่ฮุยจนหน้าแหกไปแทน หลี่เชี่ยนเลยลากเจี่ยงเฉิงออกมา แล้วบอกว่าเจี่ยงเฉิงไม่ต้องให้เงินหลี่เป่ากั๋วหรอก เพราะเขายังเรียนหนังสืออยู่เลย แถมยังจะเอาเงินตัวเองมาให้เขาคืน เจี่ยงเฉิงเลยเดินหนีไปไม่ยอมรับเงิน ก็มาเจอะกู้เฟยยืนรออยู่หน้าปากตรอก

ทั้งคู่กลับไปที่ร้านชำ เจี่ยงเฉิงรู้สึกดีกับกู้เฟยมากจนอยากไปสักรอยเขี้ยวคู่กัน กู้เฟยอึ้งอีกแล้วกับความคิดชั่วแว่บของเสวี่ยป้า แต่เขาก็ตอบตกลง แถมยังโทรไปหาหลี่เหยียนให้นัดเวลาช่างสัก เจี่ยงเฉิงดีใจมากถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเขาสองคนยังไม่รู่จะเดินกันไปถึงไหน

ถึงวันนัด กู้เฟยเป็นคนพาไป เจี่ยงเฉิงเป็นคนวางตำแหน่งสักให้กูเฟย เจี่ยงเฉิงกัดทำรอยฟันตรงไห้ปลาร้า กู้เฟยร้องจ๊ากทันที555 เจี่ยงเฉิงนั่งเฝ้าช่างสักไม่ห่าง แอบหึงช่างที่มาลูบๆตรงที่สักกู้เฟยด้วย(น่ารักอะ555) รอยสักเป็นสีดำ สักตามรอยฟันของเจี่ยงเฉิง พอสักของกู้เฟยเสร็จ ช่างขอพักมือครึ่งชั่วโมง ส่วนเจี่ยงเฉิงหลังแวะกินของว่างเสร็จ ก็ไปเตรียมตัวให้กู้เฟยทำรอยกัดที่ต้นขาด้านใน(เสวี่ยป้าหื่นได้หนักมาก555) เจอะกู้เฟยคว้าต้นขามากัดจนเจี่ยงเฉิงร้องจ๊าก เจ็บจนตบหัวกู้เฟยไปที555 ช่างสักเห็นรอยกัดก็อดชมรอยเขี้ยวของกู้เฟยไม่ได้ แถมยังแนะนำว่ารอยเขี้ยวทำเป็นหัวใจดีไหม รอยสักฟันเป็นสีดำ แต่ตรงเขี้ยวเป็นรูปหัวใจใช้สีแดง เจี่ยงเฉิงตกลงทันที กู้เฟยนั่งเฝ้าเจี่ยงเฉิงไม่ห่าง เพราะแฟนใส่แต่กางเกงในตัวเดียว แล้วมานั่งอ้าขาให้ช่างก้มหน้าสักอะนะ555 พอสักเสร็จเจี่ยงเฉิงชอบรอยสักมาก 

พอจะกลับก็มีโทรศัทพ์ด่วนหาเจี่ยงเฉิง เป็นหลี่เชี่ยนโทรมาตามให้เขารีบกลับบ้าน ไปช่วยพูดกล่อมหลี่เป่ากั๋วหน่อย ตอนนี้หลี่เป่ากั๋วอาละวาดหนัก ขู่จะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เจี่ยงเฉิงปวดหัวจี๊ดๆ อารมย์ดีๆหายไปหมด กู้เฟยตามไปเป็นเพื่อนเจี่ยงเฉิง ที่ดาดฟ้าตึกเก่า หลี่เป่ากั๋วนั่งอยู่ริมระเบียงพร้อมตะโกนด่าไม่หยุด สลับกับเสียงร้องไห้ของหลี่เชี่ยนที่ขอร้องหลี่เป่ากั๋วลงมา จนเจี่ยงเฉิงเดินขึ้นไปดาดฟ้า เขาที่ฟังเสียงด่าหยาบคายของหลี่เป่ากั๋วจนทนไม่ไหว เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนี้อีกแล้ว แต่เพราะเขากลัวความสูงจนขยับตัวไม่ไหว กู้เฟยมาช่วยพยุงพาเขาค่อยๆเดินลงไปจนถึงชั้นล่าง หลี่ฮุยก็มาถึงพอดีแถมตะโกนด่าหลี่เป่ากั๋วกลับไป ชาวบ้านที่มามุงก้อตะโกนเชียร์ให้หลี่เป่ากั๋วกระโดลงมาสะที จนหลี่เป่ากั๋วที่ด่าไปมากับหลี่ฮุย ก้อทิ้งตัวดิ่งลงตึกมา กู้เฟยรีบปิดตาเจี่ยงเฉิง แล้วพาเขากลับร้านเขาแทน เจี่ยงเฉิงสะเทือนใจภาพสุดท้ายที่เห็นคือรองเท้าแตะที่กระเด็นมาทางเขา พร้อมเสียงของหนักๆหล่นกระแทกพื้น พร้อมเสียงกรี๊ดร้องของชาวบ้าน

คืนนั้นกู้เฟยอยู่เป็นเพื่อนเจี่ยงเฉิงทั้งคืน คืนนี้เจี่ยงเฉิงอยากหนีไปนอนที่ห้องหลบภัย กู้เฟยตามใจพาเขาไปที่นั่นพร้อมนอนกอดเจี่ยงเฉิงทั้งคืน เช้ามาเจี่ยงเฉิงเริ่มทำใจได้ ถึงแม้จะยังรู้สึกแปลกๆ ที่ในที่สุดหลี่เป่ากั๋วก้อจากไปจริงๆ จากไปแบบไม่มีใครสนใจจะจดจำ ตกเย็นหลี่ฮุยโทรมาจิกขอเงินจากเจี่ยงเฉิงบอกจะเอาไปจัดงานศฟหลี่เป่ากั๋ว เลยโดนเจี่ยงเฉิงด่ากลับไปว่ามาขอเงินจากเขาที่เป็นแค่เด็กม.ปลาย นี่มันทุเรสไปรึป่าว หลี่ฮุยตะโกนด่ากลับจนเจี่ยงเฉิงจะตัดสายรำคาญแม่ง แต่เมียหลี่ฮุยแย่งมาคุยเอง พยายามจะขอเงินค่าทำศฟหลี่เป่ากั๋วให้ได้ เจี่ยงเฉิงเลยบอกว่าเขาให้ได้แค่สามพันเท่านั้น เขาเป็นแค่เด็กนักเรียนนะ จะเอาก็เอาไม่เอาก็ดี แต่ถ้าจะเอาเงินต้องทำใบสัญญาในการรับเงินนี้ด้วย หลี่ฮุยด่าทอกลับมาจนเขาต้องปิดสายไป

ผ่านไปหลายวันหลี่ฮุยกับเมียมันก้อมารอรับเงินหน้าโรงเรียน เจี่ยงเฉิงเอาใบสัญญามาอ่านแล้วให้หลี่ฮุยปั้มลายมือลงในใบสัญญา หลี่ฮุยโมโหจะด่า แต่เจี่ยงเฉิงขู่ว่าไม่งั้นเขาไม่ให้เงิน หลี่ฮุยจึงยอมปั้มลายมือและเอาเงินไปพร้อมกับเมีย เจี่ยงเฉิงคิดในใจว่าแค่เงินสามพันเมียยังตามมาคุมขนาดนี้ นี้มันตระกูลเหี้ยไรเนี้ย โชคดีมีงานถ่ายภาพด่วน เพื่อนของติงจู๋ซินเห็นภาพโคลสอัปปากของเขา เลยอยากให้เจี่ยงเฉิงมาถ่ายภาพสินค้าที่เป็นลิปติกตัวใหม่ ตอนแรกกู้เฟยไม่แน่ใจว่าเจี่ยงเฉิงจะรับทำป่าว แต่เจี่ยงเฉิงรับทันที่จะได้มาทดแทนรายจ่ายที่เพิ่งไหลออกไปที่หลี่ฮุยพอดี 

พอถึงวันนัดถ่ายรูป เจี่ยงเฉิงขอลาตอนบ่ายสองวันเพื่อไปทำธุระส่วนตัว เหล่าสวี่ที่รู้เรื่องของหลี่เป่ากั๋ว เขาเป็นห่วงเรื่องการสอบปลายภาคของเจี่ยงเฉิง แต่ไม่กล้าถามเหตุผล แต่จะเสนอให้ทุนการศึกษากับเจี่ยงเฉิงแทน จนเจี่ยงเฉิงต้องรีบเบรกความคิดของเหล่าสวี่ พร้อมยืนยันว่าเขาไม่ได้มีปัญหาทางการเงินแน่นอน ส่วนกู้เฟยโดดเรียนอย่างมั่นใจแทน สองวันที่เจี่ยงเฉิงเป็นนายแบบลิปติกผ่านไปอย่างราบรื่น เพียงแต่วันสุดท้ายเจี่ยงเฉิงได้เจอะกับพี่หลิน ผู้ชายที่เป็นเจ้าของโมเดลลิ่ง ดูท่าทางจะมีความหลังกับกู้เฟยด้วย กู้เฟยความรู้สึกไวมากเมื่อแฟนหนุ่มเริ่มแผ่กลิ่นน้ำส้มออกมา รีบอธิบายให้เจี่ยงเฉิงโดยเร็วว่า พี่หลินคือคนที่เคยทำวงดนตรีมาพร้อมกับติงจู๋ซิน 

หลังสอบปลายภาคเสร็จ หวังซวี่ชวนไปฉลองสอบเสร็จ แล้วเรียกกู้เหมี่ยวมาด้วย ทั้งหมดไปที่ห้างกลางเมืองที่นั่นมีกลุ่มสเก็ตบอร์ด กู้เหมี่ยวเลยวิ่งไปเล่นในสนามด้วย จนคนในสนามนั่นสนใจกู้เหมี่ยวมาก เลยชวนมาเล่นด้วยกัน แล้วในเวลาเดียวกันก็ใกล้ถึงวันเกิดเจี่ยงเฉิงกับกู้เฟย แค่วันเกิดเจี่ยงเฉิงมาถึงก่อนเขาจึงอายุมากกว่าแฟนหนุ่ม55 นี่เป็นปีแรกที่เขาอยากจัดวันเกิดฉลองบรรลุนิติภาวะ จะได้ทำเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาทำกันได้แล้วสินะ555 เจี่ยงเฉิงตกลงจัดงานวันเกิดร่วมกันที่เดียวกับกู้เฟย เขาอยากทำของขวัญให้แฟนหนุ่มเองไม่อยากซื้อของสำเร็จ เจี่ยงเฉิงได้ไอเดียทำพวงกุญแจจากเม็ดบีต ทำเป็นรูปหนุ่มสองคนจูบกัน (กว่าเสวี่ยป้าอย่างเขาจะทำได้สำเร็จ ก้อทำพลาดไปสามรอบ ชิ้นที่สี่ถึงจะเพอเฟค 555)

จนถึงเวลาจะข้ามคืนถึงวันเกิดที่นัดไว้ เจี่ยงเฉิงโทรมาตามให้กู้เฟยเอาหนังสติ๊กมาด้วย จากนั่นก้อพากู้เฟยไปที่สถานที่ลับที่จะเซอไพรส์วันเกิด แต่เขาเป็นเสวี่ยป้าจอมหลงทาง สุดท้ายกู้เฟยเป็นคนพาไปแทน555 พอใกล้ถึงสถานที่ เจี่ยงเฉิงให้กู้เฟยหลับตาแล้วจูงเขามาที่ลานโล่งๆ พอกู้เฟยลืมตา เขาเห็นแท่งอิตที่เรืองแสงเป็นรูปอินฟินิตี้ แล้วเจี่ยงเฉิงก้อยิงหนังสติกให้แท่งอิตล้มเรียงกันจนจุดสุดท้ายเป็นจุดวางของขวัญ(เจี่ยงเฉิงโคตรเจ๋ง เราเป็นแฟนต้องโคตรดีใจเหมือนกัน55) กู้เฟยอึ้งเดินไปดูของขวัญเป็นพวงกุญแจที่เจี่ยงเฉิงทำเอง เพราะอันนี้ทำให้นิ้วเจี่ยงเฉิงโดนเตารีดร้อนนาบ จนนิ้วเป็นตุ่มพองไปสองนิ้ว555 

ส่วนของขวัญที่กู้เฟยให้เจี่ยงเฉิงคือเขาวงกตที่ทำจากโลหะ มีลูกเหล็กสองเม็ดในนั่น คือลูกเหล็กเจี่ยงเฉิงที่วิ่งชนกับลูกเหล็กกู้เฟย เป็นของที่กู้เฟยทำเองเหมือนกัน เจี่ยงเฉิงดีใจมากๆ (ของก่อนหน้านี้เป็นตุ๊กตาไล่ฝนที่ทำจากไหมพรมเขาก็ยังเก็บไว้อย่างดี) คืนนั้นฉลองวันเกิดด้วยการถวายตัวของกู้เฟย (ขำที่กู้เฟยมาเห็นโน๊ตที่เจี่ยงเฉิงจดวิธีการเมคเลิฟอย่างละเอียด เคล็ดลับที่จะทำให้คู่รักพึ่งพอใจ แต่พอถึงเวลาเสวี่ยป้าไม่ได้ทำไรตามโน๊ตเลย555) กู้เฟยขำแต่หยิบโน๊ตเคล็ดลับพกใส่กระเป๋า เจี่ยงเฉิงอายมากที่กู้เฟยเห็นความจริงจังทุกอย่างแหมกระทั้งเรื่องนี้555

วันรุ่งขึ้นทั้งคู่พากู้เหมี่ยวไปเข้าคอร์สบำบัดรักษาที่กู้เฟยสมัครไว้เป็นวันแรก ผลเป็นที่น่าพอใจ กู้เหมี่ยวสนใจเล่นตามโปรแกรมบำบัด ไม่ได้มีท่าทางต่อต้าน จากนั้นก้อไปนั่งกินข้าวฉลองวันเกิด วันนี้กู้เหมี่ยวทำให้กู้เฟยตกใจมาก เพราะกู้เหมี่ยวจับหน้าของเจี่ยงเฉิงมาจุ๊บหน้าผาก กู้เฟยต้องรีบจับกู้เหมี่ยวมาสอนว่าห้ามทำแบบนี้กับคนอื่นเด็ดขาด แล้วไม่ให้เจี่ยงเฉิงจุ๊บตอบ กู้เหมี่ยวเลยเปลี่ยนเป็นดีดนิ่วแล้วชูนิ้วโป้งแทน เจี่ยงเฉิงเลยทำแบบเดียวกันตอบ (กู้เฟยเองยังแปลกใจมาก ขนาดหลี่เหยียนที่สนิทกับกู้เหมี่ยวมานาน กู้เหมี่ยวยังไม่เคยทำตัวสนิทแบบที่ทำกับเจี่ยงเฉิงเลย แล้ววันนี้ยังจุ๊บเจี่ยงเฉิงอีก สงสัยจะเป็นอนุภาพความหล่อของเจี่ยงเฉิง555)

หลังกู้เฟยไปส่งกู้เหมี่ยวกลับบ้าน ก้อได้เวลากินเค็กวันเกิดฝีมือของกู้เฟยที่แอบไปทำที่ร้าน เจี่ยงเฉิงรู้สึกปลื้มมาก คืนนั้นกู้เฟยจัดการเจี่ยงเฉิงตามโน๊ตที่เจี่ยงเฉิงจดไว้ เจี่ยงเฉิงทนไม่ไหวถามว่านี้ใช่ครั้งแรกของกู้เฟยเหรอดูเชี่ยวมาก555 กู้เฟยบอกป่าวสะหน่อยแค่ทำตามโน๊ตของเจี่ยงเฉิงต่างหาก555 กู้เฟยบอกให้เจี่ยงเฉิงซื้อหมอนใบใหม่มาใช้ เอาแบบหมอนยาวด้วยนะ จะได้นอนหมอนใบเดียวกัน และห้ามให้พันจื้อมาใช้ด้วย555

สรุปเพราะเมื่อคืนใช้แรงหนักวันนี้เลยตื่นสาย ทั้งคู่เลยต้องรีบร้อนไปทำงาน วันนี้ถ่ายแบบของเทนนิสคลับชื่อดัง เจี่ยงเฉิงพอรู้จักเพราะเมืองใหญ่ที่เขาเคยอยู่ก้อมีคลับนี้ วันนี้มีนางแบบสาวมาถ่ายด้วย เจี่ยงเฉิงเลยเห็นมาดปกติของกู้เฟยที่มีไว้ใช้ถ่ายรูปกับคนอื่น กู้เฟยแทบไม่ยิ้มไม่พูด ดูเย็นชาสุดๆ555 แต่ว่าวันนี้กู้เฟยก็เจอะพี่หลินอีก เขาพยายามมาชวนกู้เฟยคุย แต่กู้เฟยกลับไม่สนใจแถมยังเมินใส่ จนพี่หลินต้องรีบไป จนเจี่ยงเฉิงรู้สึกแปลกใจมาก พองานจบกู้เฟยต้องไปรับกู้เหมี่ยวไปเข้าคอร์สต่อ เลยให้เจี่ยงเฉิงไปพักพร้อมเน้นย้ำให้ไปซื้อหมอนใบใหม่ด้วย555 เจี่ยงเฉิงโอเครเพราะเดียวพรุ่งนี้ต้องไปรับพันจื้อด้วย 

วันต่อมาทั้งคู่ต้องมาถ่ายที่สนามเทนนิสต่อ แต่วันนี้ไม่มีใครมาสาย55 วันนี้เจี่ยงเฉิงเจอะพี่หลินอีกแล้ว แถมยังมาชวนเขาคุยอีก ดูเหมือนจะพยายามบอกใบ้อะไรเขาสักอย่าง แถมกู้เฟยพอเห็นเขากับพี่หลินอยู่ใกล้กันก้อทำหน้าเย็นชาใส่เขาอีก เจี่ยงเฉิงเริ่มโมโห ได้แต่เก็บอารมย์ให้จบงานก่อนเดียวมีเคลีย์55 จนจบงานเจี่ยงเฉิงหมางเมินกู้เฟย จนกู้เฟยวิ่งกลับไปต่อยพี่หลินเพื่อไม่ให้มายุ่งกับเจี่ยงเฉิง 

เย็นนั้นกู้เฟยจึงเล่าเรื่องของคนชื่อถานหลินว่าเป็นอดีตนักร้องนำของวงติงจู๋ซิน ตอนนั้นเขาไปช่วยวงติงจู๋ซิน ส่วนถานหลินออกจากวงไปแล้ว แต่ชอบกลับมาแจมกับวงเรื่อยๆ ถานหลินเป็นเกย์เหมือนกัน แต่เขาเป็นแบบเปิดเผยแถมเปลี่ยนแฟนได้ตลอด มีคืนหนึ่งพวกเขาไปกินข้าวกัน ต่อด้วยดื่มเหล้าไปเยอะมากจนมึน ถานหลินเรียกเขาไปคุย ว่าเขาเป็นเหมือนกันใช่ไหม แล้วรังเกียจเขาป่าว ด้วยความใสๆของกู้เฟยตอนนั้น เขาก้อยอมรับว่าเขาเป็น และไม่ได้รังเกียจถานหลิน แต่เขาไม่สนใจถานหลิน ปรากฎว่าเสี่ยวปิงมือคีย์บอร์ดในวงแอบถ่ายคลิปไว้ตั้งแต่ต้น พอเขากลับมาที่โต๊ะ กลับเจอะทุกคนหัวเราะใส่เขา เจี่ยงเฉิงฟังจบทั้งโมโหและสงสารแฟนหนุ่มตัวเองเลยกอดปลอดกู้เฟย แต่เจี่ยงเฉิงก้อให้กู้เฟยสัญญาว่าต่อไปอย่าทำหมางเมินเย็นชาใส่เขาอีก เขาทนไม่ได้เลย เพราะตั้งแต่เด็กเขามักโดนครอบครัวเก่าทำแบบนี้ใส่เสมอเวลาพวกเขาไม่พอใจเจี่ยงเฉิง 

เจี่ยงเฉิงไปรับพันจื้อที่สถานีรถไฟ พันจื้อที่รู้ว่าเจี่ยงเฉิงคบกับกู้เฟยแล้ว ทั้งยินดีที่เพื่อนมีความสุขแต่ก้อแอบกังวลว่าเจี่ยงเฉิงจะจัดการยังกับอนาคต เพราะเขารู้ดีว่าเจี่ยงเฉิงไม่มีวันจมปลักอยู่ที่เมืองนี่แน่ๆ มารอบนี้พันจื้อมอบหนังสติ๊กอันใหม่เกรดพรี่เมี่ยมถูกใจเจี่ยงเฉิงสุดๆ ส่วนหนังสติ๊กอันเดิมเขายกให้กู้เฟยไปแล้ว นอกจากนี้พันจื้อยังเอากองแบบทดสอบข้อสอบ ที่เหล่าหยวนอดีตครูประจำชั้นของเจี่ยงเฉิงฝากมาให้ทำอีกกองใหญ่มาก เจี่ยงเฉิงรู้สึกซาบซึ้งเหล่าหยวนอดีตครูของตัวเองมาก ที่ไม่เคยคิดทอดทิ้งเขาเลย พันจื้อมารอบนี้นอกจากได้นอนที่โซฟา แต่คราวนี้ได้นอนหมอนซะที เพราะเจี่ยงเฉิงเปลี่ยนหมอนใหม่555 คืนนี้เจี่ยงเฉิงคุยกับพันจื้อหลากหลายมุมมองทั้งคืน จนเขาบางคำถามเขาเองก็ยังไม่เคยคิด เจี่ยงเฉิงทนไม่ไหวต้องแชทไปถามว่ากู้เฟยเคยคิดถึงอนาคตไหม... แต่ไม่มีข้อความตอบกลับมา

วันต่อมาเจี่ยงเฉิงพาพันจื้อไปดูเขาถ่ายแบบด้วย ซึ่งพันจื้อยินดีเป็นอย่างยิ่ง มีโอกาสเตาะนางแบบสาวจนได้แอดแชทมาสบายๆ555 วันนี้เจี่ยงเฉิงสังเกตุว่ากู้เฟยเหมือนจะอดนอน สงสัยน่าคิดมากเรื่องที่เขาแชทไปถามเมื่อคืน เลยปล่อยกู้เฟยไปก่อน รอพันจื้อกลับค่อยไปขอคำตอบจากกู้เฟย จนพันจื้อกลับไปเรียน เจี่ยงเฉิงจึงถือโอกาสคุยจริงจังกับกู้เฟย แต่ว่ามันก้อยังเหมือนจะไม่ชัดเจน เพราะในมุมของกู้เฟย ตัวแปรคือกู้เหมี่ยน คนสำคัญที่กู้เฟยไม่อาจทิ้งให้อยู่กับแม่ที่ไม่มีความรับผิดชอบได้ เจี่ยงเฉิงเลยบอกให้พวกเขาค่อยๆก้าวไปที่ละก้าว แต่ต้องมีเป้าหมายให้ก้าวไปข้างหน้า และที่สำคัญเจี่ยงเฉิงไม่มีบ้านให้กลับแล้ว ตอนนี้กู้เฟยคือบ้านของเขา เป็นหลักพักพิงของเขา กู้เฟยทั้งดีใจแต่ขณะเดียวกันก้อรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจ

เปิดเรียนมาขึ้นม.หก แต่ยังมีกิจกรรมอีก เหล่าสวี่อยากให้เจี่ยงเฉิงกับกู้เฟยได้ทำการแสดงบนเวที เหล่าสวี่เลยให้เจี่ยงเฉิงไปกล่อมกู้เฟย แต่กู้เฟยไม่โอเคร สรุปเป็นหวังซวี่ที่เสนอตัวเล่นกีตาร์คู่เจี่ยงเฉิงที่บรรเลงเปียโน(ไฮโซตามสไตล์เสวี่ยป้าที่มาจากเมืองใหญ่555) กู้เฟยรู้สึกผิดที่ไม่ยอมรับเล่นคู่กับเจี่ยงเฉิงเลยเอาใจเขาในด้านอื่นทดแทน เจี่ยงเฉิงเองตอนแรกก้อเซ็งๆ แต่พอฟังหวังซวี่เล่นกีตาร์พอใช้ได้เลย ก้อโล่งไปเปาะ พอถึงตอนเลือกเพลงเขาคิดถึงเพลงที่กู้เฟยแต่ง เลยได้ไอเดียแอบเอาเพลงกู้เฟยมาแกะโน๊ตไว้ใช้เล่นในวันแสดง เจี่ยงเฉิงไม่บอกกู้เฟยกะจะเซอร์ไพรส์แทน 

ส่วนเหล่าสวี่หลังได้ลองฟังเพลงที่เจี่ยงเฉิงจะใช้ในการแสดง ก้อเดาว่าเป็นผลงานของกู้เฟย เจี่ยงเฉิงแปลกใจที่เหล่าสวี่รู้ เหล่าสวี่เลยบอกว่าเขาสอบถามประวัติกู้เฟยมาจากแม่ของกู้เฟย ถึงได้รู้เรื่องที่กู้เฟยเล่นกีตาร์เป็น เขาเสียดายความสามารถมากมายของกู้เฟยที่ไม่อาจฉายแสงได้ เจี่ยงเฉิงขอร้องไม่ให้เหล่าสวี่บอกเรื่องเพลงของกู้เฟย ส่วนหวังซวี่รู้แต่เพลงนี้เพราะดี แต่ไม่รู้ใครแต่งแต่ตัวเขาชอบมาก เหล่าสวี่ดีใจที่ห้องแปดมีการแสดงดีๆ

ในที่สุดก็ถึงวันแสดง การแสดงม.หกอยู่ช่วงแรกของการแสดง โดยเฉพาะการแสดงของเจี่ยงเฉิงอยู่ลำดับสาม หวังซวี่ตื่นเต้นเพราะนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำตัวเท่ต่อหน้าอี้จิงสาวงามในดวงใจ555 กู้เฟยแชทมาบอกว่าเขาอยู่ในหอประชุมแล้ว เหล่าสวี่มาให้กำลังใจพวกเขา ส่วนเหล่าหลู่ตื่นเต้นมากแถมยังชมว่านี้เป็นการแสดงเปียโนครั้งแรกของโรงเรียนซื่อจง555 จนถึงเวลาที่เขาก้าวขึ้นเวที แต่พิธีกรกลับประกาศว่าเป็นผลงานแต่งเพลงเพลงโดยกู้เฟย...เจี่ยงเฉิงใจหายวาบหันไปมองที่นั่งของกู้เฟย กู้เฟยหายไปแล้ว เจี่ยงเฉิงเสียใจทั้งที่ตั้งใจเล่นเปียโนเพื่อจะให้กู้เฟยได้ฟัง ทั้งยังเป็นผลงงานของกู้เฟยที่แสนเก่งกาจมีความสามารถขนาดนั้น แต่กู้เฟยหนีไปแล้ว ตอนนี้เขาได้แต่ตั้งสติ จดจ่อที่จะบรรเลงเพลงนี้ออกมาจากใจที่ข่มขื่น.....จนจบการแสดง 

ผลตอบรับดีมากแต่เขากลับรีบออกจากหอประชุมเพื่อตามหากู้เฟย จนพบกู้เฟยที่หน้าห้องน้ำ พวกเขาพากันเดินไปที่ริมแม่น้ำแถวที่โรงงานร้าง เจี่ยงเฉิงที่อดกลั้นมาก้อระเบิดใส่กู้เฟย ที่ไม่ยอมเปิดเผยความสามารถแสนพิเศษของเขาต่อคนทั้งโรงเรียน แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมกู้เฟยต้องปิดความสามารถมากมายของเขาไว้ ทำต้องแสดงความห่างเหินกับทุกคน จนกู้เฟยระเบิดอารมย์เก็บกดทั้งชีวิตออกมา ก็เพราะว่ากู้เฟยรู้ตัวว่าเขามีความสามารถ เขาแตกต่างไปจากคนในเมืองนี้ แต่แล้วเขาทำอะไรได้ เขามีโซ่ตรวนที่ไม่อาจทำให้เขาบินหนีไปจากที่นี้ได้ เขาจึงทำได้แค่ทิ้งความฝันทุกความหวังไป เขาไม่เหมือนเจี่ยงเฉิงที่รู้ว่าตัวเองมีความสามารถเกินจะจมปลักในเมืองนี้ แล้วตั้งใจจะไปจากเมืองนี้ด้วยความสามารถของตัวเอง แต่เขาไม่ใช่ เขารู้ว่าตัวเองมีความสามารถที่จะหนีออกจากเมืองนี้ได้ แต่เขากลับออกไปไม่ได้ ความรู้สึกนี้มันทรมานเขามาทั้งชีวิต

กู้เฟยลากเจี่ยงเฉิงไปดูกู้เหมี่ยว กู้เฟยแสดงให้เห็นด้านมืดของกู้เหมี่ยว เวลาที่นางต่อต้านความเปลี่ยนแปลง เพียงแค่กู้เฟยบอกว่าต่อไปนี้กู้เหมี่ยวจะเข้าไปนอนในห้องเขาไม่ได้แล้ว นางก้อกรีดร้องไม่หยุด กู้เฟยร้องไห้หันมากอดเจี่ยงเฉิง เปิดเฝยความเศร้าซึมที่เกาะกินใจเขามาทั้งชีวิต เจี่ยงเฉิงกอดกู้เฟยที่ร้องไห้อย่างสิ้นหวัง ได้แต่ขอโทษกู้เฟยที่เขาไม่เคยเข้าใจความสิ้นหวังของกู้เฟยเลย

หลังที่ทั้งคู่อารมย์สงบลง ทั้งคู่ก้อเข้าใจกันและกันมากขึ้น กู้เฟยสะพายกีตาร์พาเจี่ยงเฉิงไปที่โรงงานโลหะร้าง แต่เปลี่ยนไปอีกที่ข้างๆตึกโล่งร้างแห่งหนึ่ง แล้วเล่นเพลงใหม่ที่แต่งให้เจียงเฉิงที่กำลังปลื้มปริ่มสุดๆ เจี่ยงเฉิงที่กำลังกดอัดการแสดงสดของแฟนหนุ่มสุดเท่ไว้ แต่พอเล่นจบไม่เท่าไร ผนังตึกโรงงานร้างส่วนนี้ดันถล่มลงมา ทั้งคู่วิ่งหนีแทบไม่ทันแทน555 

กู้เฟยชวนเจี่ยงเฉิงมากินข้าวเย็นที่ร้านแทน เลยได้เจอะหลี่เหยียนที่มาเฝ้าร้านแทนแม่กู้เฟย หลี่เหยียนตกใจที่เห็นกู้เฟยกลับมาเล่นกีตาร์อีกครั้ง หลังเลิกเล่นไปเกือบสองปีแล้ว วันนี้กู้เหมี่ยวอารมย์ไม่ดีคว่ำโต๊ะอาละวาด ยิ่งเห็นเจี่ยงเฉิงก็ยิ่งสงสารกู้เฟยที่ทนรับสภาพนี้มาทั้งชีวิต พอกู้เฟยปล่อยจนกู้เหมี่ยมสงบลง ก้อบอกเจี่ยงเฉิงว่าเงินค่าถ่ายแบบ มีโอนเงินเข้ามาแล้วนะ เจี่ยงเฉิงเลยทำเป็นฝากเงินไว้ที่กู้เฟยก่อน แต่กู้เฟยรู้ว่าเจี่ยงเฉิงสงสารเขา เพราะเขาต้องใช้เงินจำนวนมากแน่ๆ เพราะการรักษากู้เหมี่ยวมันเป็นหลุมไร้ก้นจริงๆ คืนนั้นทั้งคู่แยกกันกลับบ้าน เพราะเจี่ยงเฉิงต้องทบทวนวิชาตามตารางชีวิตเสวี่ยป้าตัวอย่าง ส่วนกู้เฟยต้องกลับไปแต่งรูปเพื่อส่งงาน 

จนเกือบจะเช้าตรู่เจี่ยงเฉิงโทรมาบอกกู้เฟยว่าหลี่ฮุยพาคนมาตามหาเขาที่ตึก กู้เฟยรู้ทันทีว่าหลี่ฮุยหาเรื่องมาปล้นเงินเจี่ยงเฉิงแน่ๆ เลยบอกให้เจี่ยงเฉิงซ่อนตัวในตึกไว้ก่อน เดียวเขาจัดการเอง กู้เฟยขี่มอเตอไซต์มาจัดการหลี่ฮุยที่พาคนกลุ่มหนึ่งจากโรงงานโลหะ กู้เฟยจัดการฟาดหลี่ฮุย พร้อมประกาศเรื่องหลี่ฮุยมาหาเรื่องเด็กม.ปลาย ด้วยการโกหกว่าเจี่ยงเฉิงขโมยเงินสามหมื่นจากหลี่เป่ากั๋ว กู้เฟยหัวเราะเยาะว่าถ้าหลี่เป่ากั๋วมีเงินสามหมื่นคงไม่เล่นไพ่นิดน้อยยังติดหนี้เขาไปทั่ว 

เจี่ยงเฉิงลงมาเคลียร์กับหลี่ฮุยว่าเขาไม่เคยเอาเงินหลี่เป่ากั๋วสักหยวน หลี่ฮุยโดนทุบจนน่วมคนที่เหลือเลยแยกย้าย กู้เฟยบอกว่าถ้าหลี่ฮุยมาหาเรื่องอีกให้บอกเขา เดียวเขาจัดการเองขอเจี่ยงเฉิงอย่าเอาตัวไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้ เจี่ยงเฉิงฟังก้อยิ่งสงสารกู้เฟย เขาพยายามคิดวิธีจะพากู้เฟยออกไปจากสถานที่บ้าๆนี้ให้ได้ เพราะกู้เฟยเป็นคนมีฝัน เพียงแต่ต้องหาวิธีตัดโซ่พันธนาการนี้ 

ทั้งคู่ไปเรียนพร้อมกัน เพราะการแสดงมะวานทำให้หวังซวี่มีเรื่องให้โม้ไปเป็นปีๆ การสอบเกาเข่าเริ่มต้นแล้ว เจี่ยงเฉิงพยายามตั้งใจเรียนแต่เขาง่วงมาก จนกู้เฟยทนไม่ไหวอาสาจดโน๊ตให้ เพื่อให้เจี่ยงเฉิงได้งีบสักพัก ช่วงนี้เจี่ยงเฉิงตั้งตารางทบทวนวิชาอย่างเคร่งครัด จนกู้เฟยสังเกตุเห็นว่าเจี่ยงเฉิงผอมลงไปอีก เลยจัดการเรื่องอาหารบำรุงให้แฟนหนุ่ม ลงทุนตุ่นไก้ต้มโค้กบ้าง กู้เฟยซื้อวิตามินมาบำรุงเสวี่ยป้าสุดหล่อของตัวเอง555 ทั้งยังให้ความร่วมมือทบทวนวิชากับเจี่ยงเฉิงทุกคืน ด้วยการเป็นคนตั้งคำถามยากๆเพื่อให้เจี่ยงเฉิงตอบ(แฟนดีเด่นจริงๆ)

อยู่ๆอดีตแม่ของเจี่ยงเฉิงก็โทรมาถามว่าเขามีเงินใช้จ่ายพอใช่ไหม เงินก้อนนั้นยังพอใช้ไหม และสุดท้ายคือถามเขาว่าได้เอาเงินของหลี่เป่ากั๋วไปหรือป่าว เพราะหลี่ฮุ่ยโทรมาร้องไห้ว่าเขาขโมยเงินในบัญชีของหลี่เป่ากั๋วไปสามหมื่น เจี่ยงเฉิงเสียใจที่คนเคยเลี้ยงดูเขามาทั้งชีวิต กลับไม่เคยเข้าใจหรือรู้จักตัวตนเขาเลยสักนิด เขาเลยบอกว่าเขาไม่ได้เอาเงินของหลี่เป่ากั๋วไป หลังจากนี้ไม่ต้องติดต่อเขาแล้ว ตอนนี้เขามีเป้าหมายชีวิต และจะใช้ชีวิตให้ดีกับแฟนหนุ่มด้วย(555) ขอให้อดีตแม่เปลี่ยนเบอร์มือถือไปเลย ถือว่าสิ้นสุดความสัมพันธ์กันจริงๆนับจากนี้ 

เจี่ยงเฉิงเครียดจนอ๊วกแตก กู้เฟยเลยรู้ว่าสภาวะทางอารมย์มีผลกระทบกับร่างกายเจี่ยงเฉิงจริงๆ เขาพยายามหาเรื่องเบี่ยงให้เจี่ยงเฉิงรู้สึกดี แต่เจี่ยงเฉิงอยากไปจัดการหลี่ฮุ่นต้นเหตุนี้มากกว่า กู้เฟยเลยไปเป็นเพื่อน ตอนไปถึงตึกที่พักของหลี่ฮุ่ย กลับพบว่าหลี่ฮุ่นโดนแก็งทวงหนี้ไล่ตามกระทืบ กู้เฟยเลยพาเขากลับไปแทน วันรุ่งขึ้นก้อมีข่าวลือมากมายของหลี่ฮุ่น แต่สุดท้ายข่าวจริงคือหลี่ฮุ่ยโดนซ้อมจนกลายเป็นผักนอนติดเตียงไปแทน (หมดทุกข์สะที่นะเจี่ยงเฉิง)

ผลของการมีแฟนเป็นเสวี่ยป้าขนานแท้ แถมต้องอยู่เป็นเพื่อนทบทวนวิชากับแฟนทุกคืน สอบวัดระดับรอบนี้กู้เฟยสอบติด50อันดับแรกของระดับชั้น ทำเอาเหล่าสวี่ปลาบปลื้มชมจนน้ำตาไหล555 เวลาสอบเกาเข่าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ขณะเดียวกันวันฉลองปีใหม่ก้อใกล้จะมาถึงแล้ว ปีใหม่ปีนี้เจี่ยงเฉิงถูกกู้เฟยชวนมาฉลองที่ร้านเขา นี่เป็นปีแรกที่เขาได้ฉลองปีใหม่กับกู้เฟย ส่วนกู้เหมี่ยมมีพัฒนาการ เพราะเจี่ยงเฉิงต้องทบทวนวิชาเรียนหนักมากจนไม่มีเวลาเล่นกับกู้เหมี่ยว จนทำให้กู้เหมี่ยวคิดถึงเจี่ยงเฉิงกับถามหาจากกู้เฟยเลย เจี่ยงเฉิงดีใจมากที่กู้เหมี่ยวเรียกเขาว่าเฮียเฉิง555

วันปีใหม่ กู้เฟยเตรียมห่อเกี๊ยว ก็พอดีแม่กู้เฟยพาแฟนคนใหม่ล่าสุดมาแนะนำกับกู้เฟย555 แนะนำแฟนหนุ่มว่าเขาเป็นเชฟในร้านอาหาร แล้วให้แฟนใหม่ทำอาหารปีใหม่เอง กู้เฟยเลยไม่ต้องทำอาหารละพาเจี่ยงเฉิงกับกู้เฟยไปเล่นประทัดแทน555 จนถึงเวลากินข้าว แฟนใหม่แม่ก้อมาตะโกนเรียกพวกเขาไปกินข้าว กู้เหมี่ยวได้อั้งเป่าจากว่าที่พ่อเลี้ยง555 หลังกินมื้ออาหารนี้เสร็จแม่ก้อซ้อนมอไซต์แฟนจากใหม่ไปทันที555 

พวกเขายังรอเพื่อนของกู้เฟยมาสมทบอีกที่ร้านนี้ เพื่อฉลองปีใหม่พร้อมกัน แต่เจี่ยงเฉิงไม่คิดว่าพวกหลี่เหยียนกับหลิวเฟยจะไปรวบรวมเอกสารทบทวนบทเรียนชั้นม.หกมาให้เขากองใหญ่ขนาดนี้555 กู้เฟยเตรียต้มเกี้ยว แต่กลับไล่เจี่ยงเฉิงให้ไปอ่านหนังสือที่ห้อง เดียวถึงเวลาเขาจะโทรไปตาม (หลี่เหยียนกับหลิวเฟยแอบหวังให้กู้เฟยลุกมาสอบเข้ามหาลัย โดยอาศัยอิทธิพลของแฟนหนุ่มอย่างเจี่ยงเฉิงที่เป็นเสวี่ยป้าของแท้55)

ในที่สุดก็ถึงเดือนกุมภาพันธ์เปิดภาคเรียนสุดท้ายของม.หก คนในห้องเริ่มเคร่งเครียดในเรียนในห้องเรียน ทั้งตัวเลขนับถอยหลังก้อลดลงเรื่อยๆ แต่ในวันแห่งความรักของปีแรก กู้เฟยชวนเจี่ยงเฉิงไปจุดพลุฉลองความรักที่ริมแม่น้ำ ตรงที่เจี่ยงเฉิงแอบไปร้องไห้ปีที่แล้ว แต่ว่ากลับมีเงาร่างของคนอกหักที่ความรักไม่สมหวังอยู่คน เป็นหวังซวี่ที่โดนอี้จิงปฎิเสธที่จะมาจุดพลุด้วยกัน55 สรุปหวังซวี่เลยรู้ความลับของกู้เฟยกับเจียงเฉิงว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน หวังซวี่ร้องไห้เสียใจ อิจฉามากที่ขนาดกู้เฟยยังมีความรักแถมรักกับเสวี่ยป้าผู้ชายด้วย555 สรุปฉลองวันแห่งความรักปีนี้ กู้เฟยกับเจี่ยงเฉิงมีหวังซวี่เป็นพยานในความรักครั้งนี้แทน555 ขากลับเจี่ยงเฉิงกอดกู้เฟยที่ขี่มอไซต์ เขาบอกกู้เฟยว่าอนาคตไม่มีใครรู้ พวกเราแค่พยายามเดินไปข้างหน้าทีละก้าวแล้วกันนะ สักวันมันจะต้องมีทางออก กู้เฟยกุมมือเจี่ยงเฉิงไว้(โคตรอบอุ่นเลย) ส่วนหวังซวี่ยังคงนั่งทำใจอกหักต่อไป

ช่วงนี้กู้เฟยวิ่งไปซื้อวิตามินมาบำรุงเจี่ยงเฉิงตลอด เลยพบเหล่าสวี่มาที่ร้านขายยาบ่อยๆ เลยไปทักว่าเหล่าสวี่ป่วยรึป่าว เหล่าสวี่แค่เป็นห่วงพวกเด็กๆจนซูบลงไปเยอะ ตอนนี้เหล่าสวี่ก็มาซื้อยาบำรุงเหมือนกัน เหล่าสวี่ถามว่ากู้เฟยยังไปอ่านหนังสือทบทวนกับเจี่ยงเฉิงอยู่รึป่าว เหล่าสวี่เป็นห่วงเจี่ยงเฉิงเหมือนกัน แต่กู้เฟยบอกเหล่าสวี่ไม่ต้องห่วง เจี่ยงเฉิงยังทบทวนวิชาอย่างเข้มแข็ง ว่าแล้วกู้เฟยรีบไปซื้อปิ่งสอดไส้ที่ร้านหวังซวี่เลยได้น้ำซุปแกะแถมมาด้วย จากนั้นรีบวิ่งไปหาแฟนหนุ่มที่นั่งทบทวนวิชาที่ห้องเรียน เพื่อป้อนอาหารให้แฟนตามเวลาเปะๆ(โคตรแฟนดีเด่นจริงๆ555)

ในที่สุดการทดลองสอบรอบแรกของระดับเมือง ที่ทุกโรงเรียนใช้ข้อสอบชุดเดียวกันก็ผ่านไป คะแนนยังไม่เป็นทางการออกมาว่าเจี่ยงเฉิงสอบได้คะแนน628 ในขณะที่อันดับหนึ่งของระดับชั้นของเมืองสอบได้คะแนน637 กู้เฟยบอกคะแนยังไม่มาไม่ครบ ในที่สุดผลประกาศคะแนนรวมทั้งหมดก็ประกาศออกมา เจี่ยงเฉิงได้อันดับหนึ่งด้วยคะแนนรวม648 ทำเอาเหล่าสวี่ยืนปากสั่นน้ำตาไหลที่หน้าห้อง555 แต่ว่าเจี่ยงเฉิงยังคงมุ่งมั่นยิ่งกว่าเดิม จนกู้เฟยเริ่มรู้สึกถึงระยะห่าง...ที่มากกว่าคะแนน แต่ยังหมายถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้นอีก แต่กู้เฟยยังคงเอาใจใส่เจี่ยงเฉิงมากกว่าเดิม...เพราะเจี่ยงเฉิงที่เป็นแบบนี้คือคนที่เขาชอบมากที่สุด

ในที่สุดก็ถึงเวลาสอบทดลองสอบรอบสอง กู้เฟยอาสัยเป็นคู่ฝึกทบทวนกับสุดยอดเสวี่ยป้าของระดับชั้น ทำให้เขาทำข้อสอบได้ ด้วยการนึกถึงภาพที่เขากับเจี่ยงเฉิงถามตอบกันไปมาทุกคืน ตอนที่ใกล้หมดเวลาส่งข้อสอบ ก้อมีเสียงตะโกนดังลั่น สรุปอี้จิงเป็นลมจนล้มฟาดกับพื้น กู้เฟยจึงรีบไปแบกเธอไปห้องปฐมพยาบาล ก้อพอดีเจอะหวังซวี่วิ่งมาพอดี เขาวิ่งมาอุ้มอี้จิงจากกู้เฟยไปแทน กู้เฟยไปสมทบกับเจี่ยงเฉิง สรุปว่าอี้จิงพักผ่อนไม่พอ วันนี้ก้อรีบไม่ได้กินข้าวเช้าอีก ร่างกายนางเลยทนไม่ไหว กู้เฟยเลยสั่งห้ามเจี่ยงเฉิงนอนดึกเด็ดขาด

ผลสอบรอบที่สองออกมาแล้ว ยังคงเป็นเจี่ยงเฉิงที่สอบได้อันดับหนึ่ง ทั้งที่ข้อสอบรอบนี้ยากกว่ารอบก่อนแต่คะแนนของเจี่ยงเฉิงกลับเพิ่มขึ้นมาอีกเป็น656คะแนน ทำให้ในสายตาเหล่าสวี่ที่เห็นเจี่ยงเฉิงมีแสงทองเปล่งประกายตลอดเวลา555 จากนั้นทุกคนก้อต้องเตรียมสอบทดลองที่สาม จากนั้นถึงจเป็นสอบเกาเข่าของจริง บรรยากาศทบทวนวิชาเคร่งเครียดกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับนับถอยหลังของขีวิตเด็กม.ปลายที่ใกล้จะสิ้นสุดลงไปด้วย

ก่อนถึงวันสอบเกาเข่า กู้เฟยให้หลี่เหยียนมาตัดผมให้เจี่ยงเฉิง เลยเป็นโอกาสให้หลี่เหยียนบอกความในใจ เขาให้เจี่ยงเฉิงสัญญาว่าห้ามทิ้งกู้เฟยคนดีเด็ดขาด ไม่งั้นพวกเขาจะยกพวกไปตามฆ่าเจี่ยงเฉิงแน่555 เจี่ยงเฉิงรับปากอยู่แล้ว 

วันสอบเกาเข่า  โชคดีที่เขาทั้งคู่ได้สนามสอบที่เดียวกัน เจี่ยงเฉิงตรวจเช็คของให้กู้เฟยก็เตรียมเรียกรถไปสนามสอบ กลับพบหลี่เชี่ยนยืนอยู่ปากทาง พอเห็นเจี่ยงเฉิงจึงเดินมาทักทายพร้อมมอบลูกอมโสมและอวยพรให้เขาโชคดี นี่คงเป็นญาติที่ดีสุดที่เจี่ยงเฉิงมี ที่หน้าสนามสอบ เหล่าสวี่มาดักลูกศิษย์เพื่อตรวจเช็คของเตรียมสอบก่อนจะเข้าห้องสอบจริง เจี่ยงเฉิงเดินเข้าห้องสอบด้วยความมั่นใจ จนนาทีสุดท้ายเขาถึงได้ส่งคำตอบ ออกมาก็เจอะคุณแฟนแสนหล่อยืนรอเขา 

แต่ว่าก็มีข่าวร้ายจากหวังซวี่ที่โทรมาร้องไห้ว่าอี้จิ้งเป็นลมสลบไปตอนสอบวิชาเลข การสอบปีนี้อี้จิงคงไม่น่าจะรอด กู้เฟยบอกเจี่ยงเฉิงไม่ต้องคิดมาก เจี่ยงเฉิงบอกแค่เสียดายโอกาสของอี้จิง ที่กดดันตัวเองจนเกินไป กู้เฟยยิ่งเห็นความแตกต่างของเจี่ยงเฉิงที่เป็นคนพิเศษมาก เพราะเขาเป็นเพื่อนทบทวนของเจี่ยงเฉิง การสอบรอบนี้ทำให้เขาทำข้อสอบได้อย่างสบายใจ  เขาคิดว่าเขาทำข้อสอบครั้งนี้ได้ดีกว่าทั้งสามปีที่เขาทำข้อสอบมาตลอดสะอีก แต่ขนาดเดียวกันกู้เฟยก็เริ่มสับสนในใจ..ระยะห่างสินะ

หมดเวลาสอบ ทุกคนทยอยออกจากห้องสอบ เจี่ยงเฉิงกับกู้เฟยเดินมาถึงหน้าสนามสอบก็เจอะเหล่าสวี่ที่จ้องมองเจี่ยงเฉิงด้วยสายตาเป็นประกายเต็มไปด้วยความหวัง เจี่ยงเฉิงบอกเหล่าสวี่ว่าเขาคิดว่าทำข้อสอบได้ดีเลยละ เจี่ยงเฉิงเข้าไปกอดขอบคุณเหล่าสวี่ แต่กลับเจอะเหล่าสวี่จับจุ๊พแก้มเจี่ยงเฉิงด้วยความดีใจ เจี่ยงเฉิงตกใจแทบตายรีบกระโดดไปหากู้เฟย555 เหล่าสวี่พานักเรียนห้องแปดไปกินมื้อใหญ่ฉลองสอบเสร็จ ยกเว้นอี้จิง ที่พ่อแม่มารับกลับบ้านไปแล้ว ส่วนหวังซวี่ก็เศร้าซึมสงสารยอดดวงใจจนไม่กระจิตกระใจจะกินดื่ม

กู้เฟยพาเจี่ยงเฉิงกลับห้อง เพื่อเตรียมตัวตอนเย็นไปกินเลี้ยงฉลองกันสองคน แต่พอถึงห้องเจี่ยงเฉิงกระโจนเข้าใส่กู้เฟยกะจะปล้ำแฟนหนุ่มสะหน่อย กลับพบว่ากู้เฟยไม่สบายตัวร้อนมากไข้ขึ้นเกือบ39องศา เจี่ยงเฉิงตกใจจนแทบทำตัวไม่ถูก พยายามลดไข้กู้เฟย ทั้งหายา เตรียมทำโจ๊ก เจี่ยงเฉิงเสียใจที่ตลอดมาเป็นกู้เฟยที่ดูแลเขามาตลอดทั้งปีในการเตรียมสอบเกาเข่า ทั้งยังต้องคอยดูแลร้านค้า ดูแลแม่กับกู้เหมี่ยวอีก แต่เขาสิไม่เคยดูแลกู้เฟยเลย เจี่ยงเฉิงปวดใจจนร้องไห้ ดูแลกู้เฟยไปขอโทษกู้เฟยไปด้วย ที่เขาไม่เคยถามเลยว่ากู้เฟยเหนื่อยไหม โชคดีมีหลี่เหยียนกับพันจื้อให้เขาได้ปรึกษาเรื่องดูแลคนป่วย จนกู้เฟยไข้ลดเจี่ยงเฉิงจึงวางใจได้สะที

เหล่าสวี่โทรมาตามพวกเขาให้ไปงานเลี้ยงอำลาชีวิตม.หกปีสุดท้ายของซื่อจง และอี้จิงไม่ได้มารวมงานตามคาด เหล่าหลู่อนุญาติให้เด็กห้องแปดกินดื่มไม่อั้นกันเต็มที่ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยทั้งความเศร้าทั้งซึ้ง สุดท้ายก็ได้ถ่ายรูปหมู่กันเป็นการส่งท้าย

ปิดเทอมหน้าร้อนนี้ไม่ต้องทบทวนวิชาใดๆอีกนอกจากรอคอยผลสอบ กู้เฟยรับงานถ่ายรูป ส่วนเจี่ยงเฉิงได้งานเป็นเซ็ตถ่ายกางเกงในของติงจู๋ซิน เจี่ยงเฉิงรับงานนี้ทำให้ทีมงานเห็นรอยสักของเขา 

ในที่สุดวันประกาศผลสอบก็มาถึง กลับเป็นกู้เฟยที่ตื่นเต้น เช้ามาเหล่าสวี่โทรมาตามให้เจี่ยงเฉิงเช็คคะแนนตัวเองในเว็บ เขาเช็คแล้วแต่ไม่ยอมบอก แต่ฟังจากน้ำเสียงเหล่าสวี่แล้ว คะแนนเจี่ยงเฉิงต้องดีมากแน่ๆ กู้เฟยเป็นคนเข้าเว็บเช็คคะแนน จนพบว่าเจี่ยงเฉิงสอบรอบนี้ได้คะแนน662 เจี่ยงเฉิงโล่งใจ ความตั้งใจจะพิสูจว่าตัวเขาใช้ชีวิตได้ดีขนาดไหน ก็ได้รับการพิสูจแล้ว 

แต่ที่น่ายินดีกว่านั้นคือคะแนนของกู้เฟยที่สอบได้คะแนน419 ถ้าคิดว่าเขาเสียเวลาโดดเรียนไปสองปีมีเวลาทบทวนแค่ไม่กี่เดือนเป็นเพื่อนเจี่ยงเฉิง ก็นับว่าประสบความสำเร็จในการสอบมากแล้ว คะแนนสอบนี้สามารถสมัครเข้ามหาลัยระดับสามได้แล้ว คะแนนอันดับหนึ่งของมณฑลคือ664 แต่คะแนน662ของเจี่ยงเฉิงก็ถือเป็นอันดับหนึ่งของเมือง และถือเป็นคะแนนสูงสุดของโรงเรียนซื่อจงตั้งแต่มีการเปิดสอนเลยที่เดียว555 เจี่ยงเฉิงโทรกลับไปหาเหล่าสวี่ที่รอยคอยรับสายอยู่ด้วยความตื่นเต้น

เช้ามาเจี่ยงเฉิงลงไปกินข้าวเช้าที่ร้านใต้ตึก ก็โดนเจ้าของร้านทักด้วยยินดีที่สอบได้อันดับหนึ่งของเมือง ยังแถมอาหารเช้าให้เขาอีกมากมายด้วย555 เหล่าสวี่ถามถึงมหาลัยที่จะยื่นสมัคร เจี่ยงเฉิงตั้งใจแต่แรกแล้วจะเข้ามหาลัยR คณะนิติศาสตร์ ส่วนกู้เฟยสมัครเข้าวิทยาลัยครุศาสตร์ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านกู้เฟยเท่าไร ค่าเทอมไม่แพง แถมกู้เฟยสมารถรับงานได้อีก เจี่ยงเฉิงได้แต่ยอมรับการตัดสินใจของแฟนหนุ่ม เจี่ยงเฉิงรู้สึกปั่นป่วน เขาได้แต่บอกกับกู้เฟยให้รับปากเขา ว่าห้ามปล่อยมือกันเด็ดขาด ถึงตอนนี้ยังไม่เห็นทางออก แต่ถ้าเดินตรงไปเรื่อยๆสักวันมันต้องมีทางออกแน่ๆ กู้เฟยรับปากแต่ในใจก็หนักอึ้ง

ในที่สุดจดหมายรับรองก็ส่งกลับมาจากมหาลัยR ใกล้ถึงเวลาไปรายงานตัวที่มหาลัย กู้เฟยเตรียมเก็บของเตรียมเดินทางให้แฟน แต่เจี่ยงเฉิงกลับสั่งเอาแต่เสื้อผ้าของกู้เฟยใส่กระเป๋าไปแทน555 กู้เฟยไม่ได้บอกกู้เหมี่ยวเรื่องที่เจี่ยงเฉิงต้องไปเรียนต่างเมืองแล้ว แต่พากู้เหมี่ยวไปกินเลี้ยงอำลาแทน วันเดินทางเจี่ยงเฉิงรู้สึกทั้งเศร้าทั้งอาลัย ห้องเช่านี้เขายังเช่าต่อ เพื่อกลับมาจะได้ไม่ต้องหาห้องพัก แถมกู้เฟยยังสามารถมานอนค้างได้ด้วย เจี่ยงเฉิงแอบใส่ซองอังเป่าแดงข้างในใส่เงินแปดพันหยวน สอดไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ดของกู้เฟยที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า

ในที่สุดก็ถึงเวลานั่งรถไฟเพื่อไปรายงานตัว กู้เฟยไปอยู่เป็นเพื่อนเขาสองวันแล้วถึงนั่งรถไฟกลับ เจี่ยงเฉิงรู้สึกเศร้า เขารู้สึกคิดถึงกู้เฟยมากๆทั้งที่ตอนนี้พวกเขานั่งอยู่ด้วยกันแท้ๆ แต่เมื่อถึงสถานีปลายทางก็มีพันจื้อมารับ พันจื้อทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้เรียนมหาลัยที่เดียวกับเจี่ยงเฉิงจนได้555 พันจื้อเป็นคนจองโรงแรมให้พวกเขาด้วย เจี่ยงเฉิงเข้าไปรายงานตัวพร้อมไปหาหอนอน ก็พบจ้าวเคอพื่อนรวมห้องที่หน้าตาดีจนกู้เฟยเริ่มหึงหน่อยๆ555 ถึงเวลาลาจากเจี่ยงเฉิงไปส่งกู้เฟย กลับมาก็เจอะซองแดงที่กู้เฟยแอบซุกไว้ที่โน๊ตบุ๊คของเขา แถมยังใส่เงินแปดพันหยวนเหมือนกันอีก เจี่ยงเฉิงยิ้มที่พวกเขาใจตรงกันจริงๆ จ้าวเคอกลายเป็นเพื่อนสนิทคนแรกที่รู้เรื่องว่ากู้เฟยเป็นแฟนเขา ทั้งยังไม่ได้แสดงอาการรังเกียจด้วย นี่สินะสังคมเปิดกว้างแล้ว

กู้เฟยกลับมาที่เมืองเก่า ก็มีพวกหลี่เหยียนมารับพร้อมกู้เหมี่ยว พวกหลี่เหยียนมาฉลองที่คนในกลุ่มได้เรียนมหาลัยตั้งสองคน กู้เฟยกลับมาก็รู้สึกถึงความเหงา มองไปทางไหนก็คิดถึงเจี่ยงเฉิง นับจากนี้ทั้งคู้ต้องกลายเป็นรักทางไกล อาศัยมือถือในการส่งความคิดถึงกันไปมา กู้เฟยรายงานเรื่องที่กู้เหมี่ยวที่เพิ่งนึกได้ว่าเฮียเฉิงหายไปก้ออาละวาดไปรอบ เจี่ยงเฉิงเป็นห่วงเลยว่าจะนั่งรถไฟกลับไปหา แต่กู้เฟยห้ามไว้บอกเดียวก้องฝึกทหารแล้ว ไว้รอปิดเทอมดีกว่า แต่ที่จริงกู้เหมี่ยวเริ่มมีอาการหวาดระแวงว่าพี่ชายจะหายตัวไปแบบเจี่ยงเฉิง

เจี่ยงเฉิงที่ไม่รู้เรื่องอะไร ตอนแรกนึกว่าสอบเข้ามหาลัยแล้วจะได้เรียนสบายๆ กลับกลายร่างเป็นเสวี่ยป้าอีกครั้ง เพราะเพื่อนรวมห้องต่างก้อเป็นเสวี่ยป้าขนานแท้ หลังเข้าเรียนก้อเข้าไปจองที่นั่งในห้องสมุดเพื่อทบทวนวิชาอ่านหนังสือจนเจี่ยงเฉิงผอมลงไปอีกโดยไม่รู้ตัว

กู้เฟยเริ่มเข้าเรียนมหาลัย กู้เหมี่ยวก้อตามไป กู้เฟยได้แต่สั่งให้กู้เหมี่ยวเล่นตามสถานที่เป็นทางไปกลับบ้าน แต่กู้เหมี่ยวกลับติดหนึบกับกู้เฟยยิ่งกว่าเดิม กู้เฟยที่คิดถึงเจี่ยงเฉิงมากขึ้นทุกวัน แต่กลับปลีกตัวไปไหนไม่ได้ ความเครียดสะสมจนกู้เฟยไม่รู้ตัว  จนวันหนึ่งกู้เฟยทะเลาะกับแม่ที่วันๆไม่อยู่เฝ้าร้าน เที่ยวออกไปหาแฟนคนใหม่ได้ทุกวัน จนกู้เฟยบังคับให้แม่อยู้เฝ้าร้านให้ได้ ตอนนี้เขารู้สึกว่าร้านนี้เป็นภาระที่เขาไม่อยากจะรับไว้อีกแล้ว 

ก็พอดีหลิวลี่แฟนใหม่แม่มาพอดี หลิวลี่เป็นคนที่คบกับแม่เขาได้นานที่สุด แถมยังมั่งคงมีอาชีพจริงจัง กู้เฟยจึงถามว่าเขาจะรับซื้อร้านนี้ไหม เขาจะขายให้หลิวลี่ในราคาสามหมื่น แต่มีข้อแม้ว่าหลิวลี่ห้ามเลิกกับแม่เขา ไม่งั้นเขาจะมาเอาร้านคืน และจะไม่คืนเงินให้ด้วย555 หลิวลี่ตกลง หลังทำสัญญาง่ายๆ หลิวลี่ก้อไปเบิกเงินให้กู้เฟย ถือเป็นการตัดโซ่พันธนาการเขาไปหนึ่งเส้น ทำให้กู้เฟยเริ่มเข้าเรียนได้อย่างสบายใจหน่อยหนึ่ง 

จ้าวจิ้งที่เป็นพี่สาวของจ้าวเคอ สั่งให้จ้างเคอไปสอนพิเศษให้ลูกสาวของเพื่อนที่กำลังเรียนชั้นม.ห้า แต่จ้าวเคอไม่สนใจ ส้มเลยไปหล่นที่เจี่ยงเฉิง ทำเอาเขาอารมย์ดีโทรไปคุยกับกู้เฟย ทั้งยังบอกว่าเขาซื้อตั๋วรถไฟแล้ว กำลังจะกลับไปหากู้เฟยเร็วๆนี้ ใกล้จะเดือนพฤศจิกายนแล้ว กู้เฟยไปเตรียมหยิบเสื้อหนาวที่เหลือตัวเดียว เพราะเสื้อหนาวของเขาที่เหลือเจี่ยงเฉิงยึดเอาไปใช้ที่มหาลัยแล้ว ทำให้กู้เฟยได้พบซองแดงที่แฟนแอบซ่อนไว้ หน้าซองพิมพ์ว่ามหาลาภมหาโชค ทำให้กู้เฟยอารมย์ดีจนอดถ่ายรูปไปให้เจี่ยงเฉิงดูไม่ได้ ทั้งคู่ใจตรงกันจริงๆ

เจี่ยงเฉิงเริ่มสอนพิเศษวันแรก โดยมีจ้าวจิ้งเป็นคนพาไปส่ง เลยทำให้เจี่ยงเฉิงได้รู้จักสวี่จือสิงด้วย ที่เป็นรุ่นพี่สุดหล่อเรียนโททางด้านจิตวิทยาอีกด้วย เด็กสาวที่เจี่ยงเฉิงต้องไปสอนพิเศษแรงใช่ได้ มาถึงก้อวัดระดับสติปัญญาของเจี่ยงเฉิงเลยทีเดียว555 แต่ดีที่ค่าจ้างสอนพิเศษราคาดีงามมาก

เจี่ยงเฉิงกลับไปถึงสถานีก้อพุ่งเข้าไปกอดกู้เฟยทันที ความคิดถึงท่วมท้นจนต้องรีบกลับไปห้องจนหายคิดถึงก้อเย็นพอดี กู้เฟยชวนเจี่ยงเฉิงไปกินปิ้งย่างเลยแวะไปรับกู้เหมี่ยว เจี่ยงเฉิงเลยได้รู้ว่ากู้เฟยขายร้านชำให้แฟนใหม่ของแม่เขาไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เจี่ยงเฉิงเสียใจคือกู้เหมี่ยวแสดงความเย็นชาใส่เขาแทน เลยทำให้รู้ว่ากู้เหมี่ยวโกรธที่เจี่ยงเฉิงหายไปไม่อยู่ที่เมืองนี้แล้ว แต่ยิ่งทำให้เจี่ยงเฉิงมุ่งมั่นจะหาทางแก้ไขปัญหาของกู้เหมี่ยวให้ได้ เพื่ออนาคตของเขาและกู้เฟยด้วย ที่สำคัญนับจากนี้เงินในการรักษากู้เหมี่ยวจะทวีแพงขึ้นไปอีกในอนาคต

ช่วงวันหยุดเจี่ยงเฉิงใชัชีวิตเต็มที่กับกู้เฟย ว่างๆก้อแวะไปหาหวังซวี่ที่เรียนซ้ำเป็นเพื่อนอี้จิง ตัวหวังซวี่ผอมลงไปเยอะมาก จนใกล้หมดวันหยุดแล้ว กู้เฟยพาเขาไปซื้อเสื้อใหม่ แต่เจี่ยงเฉิงขอเป็นเสื้อหนาวคู่รัก กู้เฟยเลยเลือกเสื้อหนาวสีเทาหม่นสองตัวเหมือนกัน ตอนนั่งรถไฟกลับมหาลัย เจี่ยงเฉิงก็คิดถึงกู้เฟยแล้ว เจี่ยงเฉิงชวนพันจื้อไปหาหมอที่สามารถรักษาอาการของกู้เหมี่ยว แต่กลับเป็นจ้าวเคอที่ชี้ทางสว่างให้เจี่ยงเฉิง เพราะว่าจ้าวจิ้งเรียนจิตวิทยาคลินิก เขาแนะนำให้เจี่ยงเฉิงลงเรียนวิชานี้ด้วยสิ 

กู้เหมี่ยวเริ่มต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากปฎิเสธที่จะไปบำบัด การรักษาเริ่มไม่ได้ผล กู้เฟยที่เริ่มเหนื่อยหน่ายในการจัดการกู้เหมี่ยว สิ่งเดียวที่ทำให้เขามีความสุขคืการได้พูดคุยกับเจี่ยงเฉิง กับการเข้าไปดูกระทู้บอร์ดมหาลัยที่มีแต่กระทู้กำแพงสารภาพแอบรักบ้าง ในนั้นมีแต่คนมาสารภาพรักกับเจี่ยงเฉิงเต็มไปหมด ทำเอาเขาหึงขึ้นมาเป็นระยะๆ 

เจี่ยงเฉิงนัดเจอะจ้าวจิ้งแต่จ้าวเคอมาด้วย เพราะเขาแอบหลงรักสาวสวยเพื่อนสนิทของจ้าวจิ้งที่ชื่อจางตันถง แต่จ้าวจิ้งพาสวี่จือสิงมาด้วย เพราะเขาเป็นศิษย์รักของอาจารย์ประจำวิชาเลยเชียว สวี่จือสิงดูสนใจเคสของกู้เหมี่ยว แต่ว่าหลังจากฟังประวัติคร่าวๆแล้ว สวี่จือสิงบอกช่วงเวลาของการรักษาที่ดีผ่านไปแล้ว แต่ไม่เป็นไรขอเขาได้พบเจอะกู้เหมี่ยว จะได้ดูรายละเอียดจากเจ้าตัวถึงจะบอกได้ แต่นับว่าเขาสนใจเคสนี้ เพราะตรงกับหัวขอวิจัยของเขา แค่คำตอบเท่านี้ก็ทำให้เจี่ยงเฉิงดีใจแล้ว เพียงแต่นี้เป็นความคิดเขาคนเดียว เขายังไม่ได้ขออนุญาติกู้เฟยเลย เดียวต้องหาเวลาปรึกษากับกู้เฟยก่อน

กู้เฟยเริ่มเหนื่อยใจกับกู้เหมี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว ตอนที่เขาวิดีโอคอลกับเจี่ยงเฉิงที่ผอมจนคางแหลม กู้เฟยรู้สึกปวดใจที่แฟนเรียนหนักมาก แต่เขากลับไปเห็นหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาหลายเล่มในกองหนังสือเรียนของเจี่ยงเฉิง กู้เฟยทั้งปวดใจทั้งซึ้งใจ วันนี้เขาตั้งใจออกไปถ่ายรูปกู้เหมี่ยว เพื่อจะทดสอบให้กู้เหมี่ยวยอมรับความเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่กู้เหมี่ยวกลับทำกล้องกู้เฟยตกจนเลนส์กล้องตกกระแทกพื้น ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของกู้เฟยขาดลง กู้เฟยตะคอกใส่กู้เหมี่ยวที่ล้มกับพื้น เป็นครั้งแรกที่กู้เหมี่ยวโดนพี่ชายตะโกนใส่หน้า พอได้สติกู้เหมี่ยวก้อกรีดร้องไม่หยุด กู้เฟยเองก้อทั้งร้องไห้ทั้งตะโกนอย่างสิ้นหวัง

เจี่ยงเฉิงแปลกใจ หลายวันมานี้เขาติดต่อกู้เฟยไม่ได้เลย จนต้องโทรหาหลี่เหยียน สองวันมาแล้วที่ห้องนอนกู้เฟยมีกู้เหมี่ยวนั่งอยู่ไม่ยอมห่างจากพี่ชาย หลี่เหยียนต้องพูดโน้มน้าวให้กู้เฟยโทรหาเจี่ยงเฉิงสักหน่อย หลี่เหยียนกล่อมให้กู้เหมี่ยวออกไปจากห้องก่อน แล้วปล่อยให้กู้เฟยได้พูดคุยกับเจี่ยงเฉิง กู้เฟยตัดสินใจบอกเลิกเจี่ยงเฉิง เขาจะปล่อยมือเจี่ยงเฉิงแล้ว เขาเหนื่อยที่จะดิ้นร้นแล้ว เขาทนไม่ได้ที่จะให้เจี่ยงเฉิงต้องมาทนทรมานเรื่องกู้หมี่ยวร่วมกับเขาอีก 

เจี่ยงเฉิงสั่นไปทั้งตัว ใจสลายจนอาการป่วยใจมาลงทางร่างกาย เขาอาเจียรจนไม่มีอะไรจะออกมาแล้ว ได้แต่นอนร้องไห้ทั้งคืน จนเช้ามาเสียงของเขาก็หายไป สถาพร่างกายทรุดโทรมแค่ไหน แต่ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป และจ้าวเคอก็เป็นคนแรกที่รู้ว่าเขาอกหัก และก็เป็นพันจื้อเพื่อนรักที่ตามมาหาเจี่ยงเฉิงด้วยความห่วงใย เจี่ยงเฉิงไปหาสวี่จือสิงเรื่องที่เขาเครียดนอนไม่หลับไม่มีสมาธิ และเจี่ยงเฉิงได้รับการบำบัดด้วยการกอดแมวของสวี่จือสิง555 แต่ถึงเขาจะเลิกกับกู้เฟย แต่เจี่ยงเฉิงยังอยากให้สวี่จือสิงไปดูอาการของกู้เหมี่ยว หลังสอบเสร็จ จ้าวเคอคือเพื่อนที่ดี ช่วยหาวิตามินที่ช่วยให้นอนหลับได้ให้เจี่ยงเฉิงกิน

กู้เฟยที่มีแต่ร่างไร้วิญญาณ ได้แต่กลับไปห้องเช่าของเจี่ยงเฉิง เขาเข้าไปทำความสะอาดและได้แต่นั่งคิดถึงเจี่ยงเฉิงอย่างสิ้นหวัง โทรศัทพ์เครื่องเก่าของเขาพังไปแล้ว กู้เฟยค้นหามือถือเก่าที่ไม่ได้ใช้ ลองส่งแชทไปทักพันจื้อแต่กลับโดนพันจื้อบล๊อกเขาไปเรียบร้อย

เจี่ยงเฉิงเตรียมกลับไปเมืองเก่าพร้อมสวี่จือสิงกับจ้าวจิ้ง แต่พันจื้อตามมาด้วย โชคดีที่สวี่จือสิงขับรถไปเองจนถึงทางไปบ้านเช่าของเขา เจี่ยงเฉิงพาทุกคนไปที่ห้องของตัวเอง แต่กลับพบว่าประตูห้องไม่ได้ล๊อค เจี่ยงเฉิงเดินเข้าไปกลับพบว่ากู้เฟยนอนหลับอยู่บนโซฟาในห้องที่มืดสลัว จนเจี่ยงเฉิงส่งเสียงเรียกจนกู้เฟยตื่นมาอย่างงงๆ จนแน่ใจว่าเป็นเจี่ยงเฉิง กู้เฟยก้อรีบร้อนขอโทษจะออกไป พันจื้อเลยให้เจี่ยงเฉิงไปคุยกับกู้เฟยก่อน พวกเขาที่เหลือจะรอในห้องนี้เอง

เจี่ยงเฉิงเดินตามหลังกู้เฟย ทั้งคู่หยุดมองหน้ากัน เจี่ยงเฉิงเห็นแววอ่อนล้าทั้งยังเต็มไปด้วยความเศร้ามากมายจากตัวกู้เฟย แต่เขาต้องจัดการเรื่องกู้เหมี่ยวก่อน ถึงจะจัดการกู้เฟยทีหลัง เจี่ยงเฉิงบอกว่าวันที่เขาโทรมานั่น ก็เพื่อจะบอกว่าเขารู้จักสวี่จือสิงที่เรียนเอกจิตวิทยา เพราะถ้ากู้เหมี่ยวไม่สามารถออกไปหาหมอได้ แต่สวี่จือสิงสนใจจะดูเคสของกู้เหมี่ยว เขาสามารถมาที่นี้ได้ กู้เฟยจะยินยอมให้สวี่จือสิงได้ลองรักษากู้เหมี่ยวไหม กู้เฟยตกลงทันที ทั้งยังถามว่าเสียงของเจี่ยงเฉิงที่แหบแห้งเปลี่ยนไป แต่เจี่ยงเฉิงบอกแค่ว่าเขาเป็นร้อนใน กู้เฟยถามว่าเขาจะโทรหาเจี่ยงเฉิงได้ไหม เจี่ยงเฉิงโอเคร พรุ่งนี้กู้เฟยจะพากู้เหมี่ยวมาให้สวี่จือสิงดูอาการ

กู้เฟยตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เขาคิดถึงเจี่ยงเฉิงเหลือเกิน จนเจี่ยงเฉิงเป็นคนโทรมาตามว่าเขากำลังเดินทางไปหาที่ร้านแล้วนะ สวี่จือสิงดูสนใจเคสของกู้เหมี่ยว จึงไปร้านกาแฟนั่งคุยกับกู้เฟยถึงรายละเอียด ส่วนเจี่ยงเฉิงหอบเฝยหยางแมวบำบัดของสวี่จือสิงมาให้กู้เหมี่ยวลองสัมผัส ผลตอบรับดีเกินคาด กู้เหมี่ยวดูสนใจเฝยหยางจนไม่ยอมปล่อยมือจากแมวบำบัดเลย555

จนเที่ยงถึงเวลานัดกินข้าว พันจื้อที่พาจ้าวจิ้งตะเวนเที่ยวในเมืองก้อไปสมทบที่ร้าน กู้เหมี่ยวไม่ยอมปล่อยเฝยหยาง จนกู้เฟยต้องอุ้มเฝยหยางออกไป ทำให้กู้เหมี่ยวกรีดร้อง สวี่จือสิงเลยบอกให้ทุกคนเฉยๆ เดียวเขาจะสอนให้กู้เฟยจัดการกู้เหมี่ยวแบบถูกวิธี วันนี้กู้เหมี่ยวสงบลงเร็วกว่าเดิม เห็นแนวโน้มในการักษาที่เป็นไปได้ เจี่ยงเฉิงดีใจจนน้ำตาจะไหล นอกจากกู้เฟยที่เขารักมาก กู้เหมี่ยวก็คืออีกคนที่เขารักและเป็นห่วงไม่แพ้แฟนหนุ่ม

สวี่จือสิงมาดูอาการกู้เหมี่ยวทุกวันพร้อมเฝยหยาง จนครบหนึ่งอาทิตก็เตรียมตัวกลับไปมหาลัยพร้อมจ้าวจิ้ง สวี่จือสิงเขียนวิธีการดูแลกู้เหมี่ยว เพื่อให้กู้เฟยทำตามอย่างเคร่งครัด พร้อมพูดเรื่องปัญหาของกู้เฟยมีผลกระทบกับกู้เหมี่ยว กู้เฟยต้องก็จัดการดูแลตัวเองเหมือนกัน กู้เฟยรับปาก ส่วนเจี่ยงเฉิงก็ขอบคุณสวี่จือสิงที่ยอมช่วยเหลือมากมายขนาดนี้ ใกล้ถึงวันปีใหม่แล้วกู้เฟยชวนเจี่ยงเฉิงมาฉลองปีใหม่ที่ร้านของเขา ทั้งยังชวนเจี่ยงเฉิงไปหาซื้อลูกแมวให้กู้เหมี่ยวด้วย เพราะแมวบำบัดน่าจะทำให้กู้เหมี่ยวอาการดีขึ้น เจี่ยงเฉิงตกลง กู้เฟยดีใจมาก เจี่ยงเฉิงรู้ว่ากู้เฟยอยากคืนดีกับเขา แต่เขาจะรอให้กู้เฟยเป็นคนเอ่ยปากเอง ถ้ากู้เฟยอยากหลุดจากพันธนาการ เขาต้องเป็นคนตัดโซ่นี้เอง

เช้ามากู้เฟยพากู้เหมี่ยวมารับเขาที่ตึก หลังจากตามหาลูกแมวที่เหมาะกับกู้หมี่ยวมาหลายร้าน สุดท้ายได้ลูกแมวขี้เหร่จากโรงพยาบาลสัตว์ ที่นี้มีลูกแมวเก็บตกรอคนไปรับเลี้ยงอยู่หลายตัว กู้เหมี่ยวสนใจลูกแมวตัวเมียที่เชื่องสุดในกลุ่มลูกแมวกองนี้ หลังลองให้กู้เหมี่ยวลองสัมผัสอยู่นาน กู้เฟยก็ตัดสินใจรับเลี้ยงทันทีแถมกู้เหมี่ยวยังตั้งชื่อลูกแมวตัวนี้ว่าเฮียเฉิงด้วย555 ถึงวันปีใหม่ทั้งหมดฉลองกินเกี๊ยวด้วยกันในร้าน 

เจี่ยงเฉิงตัดสินใจกลับไปมหาลัยพร้อมพันจื้อ กู้เฟยไปส่งพวกเขาที่สถานีรถไฟ กู้เฟยยังคงพยายามพูดกับเจี่ยงเฉิง แต่ยังไม่สามารถพูดความในใจได้ ได้แต่หาช่องทางเหตุผลที่จะติดต่อเจี่ยงเฉิง555 จนถึงวันวาเลนไทน์ จ้าวเคอเสวี่ยป้าขนานแท้ที่หลงรักสาวมานานมาก กลับยังคิดเรื่องต่อโท จนเจี่ยงเฉิงต้องกระทุ้งไปว่าถึงตอนนั้นสาวเจ้าคงแต่งงานกับคนอื่นจนมีลูกแล้วมาง ทำให้จ้าวเคอสั่นสะเทือนใจครั้งยิ่งใหญ่ ลากเจี่ยงเฉิงไปซื้อดอกไม้แล้วไปขอความรักกับจางตันถงทันที พร้อมตั้งเป้าหมายจะจีบสาวเจ้าทุกวัน555

เจี่ยงเฉิงไปหาสวี่จือสิงเพื่อเอาของฝากที่กู้เฟยฝากมาให้ และเจี่ยงเฉิงก็อยากขอบคุณด้วย สวี่จือสิงเลยบอกว่าอีกสักพักเขาต้องกลับไปอีก เพื่อพากู้เหมี่ยวไปตรวจร่างกายโดยละเอียด และให้ทำแบบทดสอบด้วย สวี่จือสิงแนะนำเจี่ยงเฉิงให้เว้นระยะห่างและเวลาให้กู้เฟยสักหน่อยเพื่อให้รายละเอียดได้ตกตะกอน

กู้เฟยเริ่มแชทมาคุยกับเจี่ยงเฉิงสวี่ ถึงจะเป็นเรื่องของกู้เหมี่ยวก็ตาม555 จนถึงวันที่สวี่จือสิงไปรับกู้เหมี่ยวไปโรงพยาบาล แต่ต้องไปโรงพยาบาลที่ไกลกว่าที่เดิม กู้เหมี่ยวเริ่มมีการต่อต้านเริ่มทุบรถ สวี่จือสิงบอกให้กู้เฟยโทรหาเจี่ยงเฉิงสวี่ แล้ววีดีโอคอลให้กู้เหมี่ยวได้คุยกับเจี่ยงเฉิง ซึ่งจากการทดลองนี้ได้ผล กู้เหมี่ยวสงบลงและยอมออกจากอาณาเขตที่คุ้นเคย(กู้เหมี่ยวต้องรักเฮียเฉิงมากๆ ดูจากเปิดเรื่องมาเจอะเฮียเฉิงครั้งแรก น้องก้อยอมเดินตามคนหล่อเลย555) กู้เฟยเริ่มเห็นแสงแห่งความหวัง และถามสวี่จือสิงว่าเสียงเจี่ยงเฉิงเปลี่ยนไปเพราะเขาใช่ไหม สวี่จือสิงไม่บอก แต่อธิบายว่าบางคนเจอะเรื่องสะเทือนใจมากร่างกายจะมีปฎิกริยาออกมา กู้เฟยปวดใจมาก กู้เฟยกลับนั่งที่ห้องเจียงเฉิง แล้วดันทำกองหนังสือจดโน๊ตเรียนของเจี่ยงเฉิงตก ทำให้เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งหลุดออกมา ปละเป็นประโยคนี้ "หวังว่าเราจะกล้าหาญเหมือนกันและกันนะ" ประโยคนี้ทำให้กู้เฟยกล้าที่จะลุกขึ้นมาทันที

เจี่ยงเฉิงเริ่มกลับมาเรียนหนัก จู่ๆกู้เฟยก็โทรมาหาบอกว่าเขามายืนรอเจี่ยงเฉิงที่ร้านขายของหน้ามหาลัยแล้ว เจี่ยงเฉิงตัวสั่นไปหมด เป็นครั้งแรกหลังจากเลิกกันที่กู้เฟยเดินทางมาหาเขา ทั้งสองกอดกัน กู้เฟยบอกว่าเขาติดรถสวี่จือสิงมาที่มหาลัย เขาอยากเจอะเจี่ยงเฉิงมาก แต่ว่าเจี่ยงเฉิงต้องไปสอนพิเศษวันนี้ กู้เฟยตามไปยืนรอจนเจี่ยงเฉิงสอนพิเศษจนเสร็จ กู้เฟยก็พาเจี่ยงเฉิงไปกินปิ้งย่างมื้อใหญ่ สนองความอยากอาหารของเจี่ยงเฉิง หลังจากที่มีอาการเบื่ออาหารมานาน กู้เฟยย่างเนื้อป้อนเจี่ยงเฉิงไม่หยุด แล้วบอกให้เจี่ยงเฉิงพยายามอ้วนหน่อย ผอมแบบนี้เขาปวดใจ แถมยังทำบัตรสมาชิกร้านนี้ใส่เงินไปให้ตั้งพันหนึ่ง เจี่ยงเฉิงรู้เข้าแทบเดินเอาบัตรไปคืน ทั้งบ่นว่าร้านนี้ราคาแพง แต่กู้เฟยบอกว่าเนื้อร้านนี้ดีมาก แถมเจี่ยงเฉิงยังชอบกินแต่หมูสามชั้นอีก(รู้ใจแฟนมาก555) แล้วไม่ต้องเป็นห่วงตอนนี้เขาขายภาพได้ราคาดี เพราะปรับเรทราคาเป็นขายภาพทางเชิงพาณิชย์แล้ว 

คืนนั้นเจี่ยงเฉิงไปเปิดห้องที่โรงแรมเดิมที่กู้เฟยมาส่งเขารายงานตัวครั้งนั้น พอถึงห้องกู้เฟยก้อกอดเจี่ยงเฉิง บอกเขาขอโทษ ที่เขาเป็นคนปล่อยมือก่อน แต่ตอนนี้เขากลับมาแล้ว เขาจะพยายามก้าวเดินให้ทันเจี่ยงเฉิง ฉะนั้นได้โปรดมองแต่เขา อย่าหันไปมองคนอื่น เจี่ยงเฉิงร้องไห้หนักมากทั้งต่อยกู้เฟยไปสองที แต่เรื่องคืนดีเกิดกันที่ปลายเตียง555 เช้ามากู้เฟยต้องรีบกลับไปทำงานพิเศษต่อ เจี่ยงเฉิงไปส่งแฟนที่สถานี แต่รอบนี้เขาอารมย์ดีมาก แถมกู้เฟยยังบอกว่าอาจมาหาวันหยุดเดือนหน้า

เจี่ยงเฉิงทำรายชื่อหนังสือเรียนที่ได้มาจากแฟนของจางฉีฉี ที่เรียนคณะครุศาสตร์เหมือนกัน เจี่ยงเฉิงเลยถือโอกาสให้กู้เฟยอ่านหนังสือเพิ่มเติม เพราะมหาลัยของกู้เฟยไม่ค่อยได้มาตราฐาน แถมสั่งให้กู้เฟยทำแบบฝึกหัดภาษาอังกฤตด้วย เพื่อให้สอบวัดระดับขั้นสี่ เจี่ยงเฉิงถึงจะยอมอภัยให้กู้เฟย ทำให้หลี่เหยียนรู้ว่าพวกเขาคืนดีกันจริงๆ แถมยังทำให้กู้เฟยตั้งใจเรียนอีก แต่หนังสือเยอะกู้เฟยเลยต้องไปหายืมหนังสือที่หอสมุดประจำเมือง กู้เฟยเลยถามกู้เหมี่ยวว่าอยากไปหอสมุดกับเขาไหม เพราะมันอยู่ไกลมาก ตั้งในเขตตัวเมืองใหม่ กู้เหมี่ยวสนใจอยากไป นับว่ามีการตอบสนองที่ดี กู้เหมี่ยวเริ่มก้าวออกจากเขตเซฟโซนที่ละนิด

เพราะมีวันหยุด เพื่อนรวมห้องของเจี่ยงเฉิงเลยจัดทริบไปเที่ยวต่างเมืองสองคืน กู้เฟยสนใจอยากไป เขาจึงทำการถามกู้เหมี่ยว ทั้งเปิดหนังสือรูปภาพที่เป็นทุ่งหญ้ากว้าง ม้า และเฮียเฉิง กู้เหมี่ยวสนใจอยากไปมาก ทำให้กู้เฟยดีใจมาก เตรียมพร้อมจัดกระเป๋าที่ส่วนใหญ่เป็นของใช้ส่วนตัวของกู้เหมี่ยว พวกหมอนผ้าห่มที่กู้เหมี่ยวติดกลิ่น จากนั้นจองตู้นอนเพื่อความเป็นส่วนตัว เจี่ยงเฉิงกับพันจื้อมารอรับกู้เฟยที่สถานี กู้เหมี่ยวเครียดแต่ยังพอรับไหว เจี่ยงเฉิงรีบเข้าไปคุยพร้อมแบกกู้เหมี่ยวออกมา จากนั้นก้อให้กู้เฟยกับน้องพักคืนหนึ่งที่ห้องพักของพันจื้อ เพื่อรวมตัวขึ้นรถออกทริปพรุ่งเช้า 

ทริบนี้มีคนไม่พกแฟนมาแค่พันจื้อกับจ้าวเคอะ ที่เหลือหนีบแฟนมาหมด555 บนรถบัสเล็ก ทุกคนมีความสุขมาก โดยเฉพาะกู้เฟยนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้เดินทางออกจากบ้านเกิดไกลขนาดนี้ แถมยังสามารถพากู้เหมี่ยวออกมาท่องโลกกว้างได้ด้วย กู้เฟยรู้สึกขอบคุณจากก้นบึ้งในใจที่เจี่ยงเฉิงไม่ได้ปล่อยมือเขาไป นับว่าเขาโชคดีมากที่ได้พบแฟนแสนดีขนาดนี้

จนมาถึงที่หมาย ทุกคนตื้นเต้นกับทุ่งหญ้าเขียวสุดลูกหูลูกตา แถมที่พักเป็นกระโจมชาวมองโกลด้วย โดยเฉพาะกู้เหมี่ยวที่เห็นม้าแล้วติดหนึบ เข้าไปกอดลูบม้าไม่หยุด จนถึงเวลากินข้าวเที่ยง กู้เหมี่ยวยังเอาชามข้าวไปนั่งกินข้างม้าอย่างอารมย์ดี กิจกรรมยามบ่ายคือขี่ม้าลุยทุ่งหญ้า กู้เหมี่ยวไม่ยอมนั่งม้าตัวเดียวกับกู้เฟย แต่น้องจะแยกไปขี่ม้าเองสร้างความตะลึงกับแก็งค์แฟนสาวเพื่อนเจี่ยงเฉิง พอเริ่มออกเดินทางขี่ม้า กู้เฟยทิ้งระยะให้อยู่กันสองคนกับเจี่ยงเฉิง จากนั้นก้อตะโกนบอกรักเฮียเฉิงจนเจี่ยงเฉิงตกใจลื่นตกม้าแทน555

ทำเอาทั้งกู้เฟยกับกู้เหมี่ยวตกใจกลัวเจี่ยงเฉิงจะบาดเจ็บ โชคดีดินนิ่มเจี่ยงเฉิงไม่เป็นไรมาก ทุกคนเริ่มขี่ม้าต่อ กู้เหมี่ยวมีความสุขสุดๆ พอหมดทริปขี่ม้าก้อคั่นด้วยการแข่งยิงธนู ใครชนะได้เหล้าดีเป็นรางวัล เจี่ยงเฉิงประกาศจะชนะเพื่อจะเอาเหล้านี้มาขอแต่งกู้เฟย กู้เฟยเลยไปแอบซื้อที่ร้านขายของฝากมาก่อนขวดหนึ่งเพื่อความชัวร์ ผลเป็นเจี่ยงเฉิงชนะจริง แต่สาวคู่แข่งกลับติดใจกู้เฟย พันจื้ออาสาเอาตัวเองมาขจัดมารหัวใจให้เจี่ยงเฉิงเอง 

มื้อค่ำคืนนั่นมีย่างแพะกลางแจ้ง กู้เฟยเอาเหล้าที่ซื้อมาสลับกับขวดที่เจี่ยงเฉิงได้จากแข่งยิงธนู เพื่อเอาไปฉลองกินกับก๊วนเพื่อน ส่วนกู้เหมี่ยวเล่นจนเหนื่อยมาทั้งวัน ตอนนี้หัวถึงหมอนก็หลับ กู้เฟยพาเจี่ยงเฉิงไปนอนกลางเนินหญ้า กางเต็นท์ดูดาว พร้อมเตรียมกล้องถ่ายภาพทางช้างเผือกยันรอถ่ายภาพอาทิตย์ขึ้นด้วย คืนนั้นอบอวนไปด้วยรัก จนกระทั่งจบทริป กู้เฟยกับเจี่ยงเฉิงซื้อแหวนจากร้านที่ระลึก แล้วแลกแหวนใส่นิ้วกัน กู้เฟยสัญญาว่าจะหาเงินเพื่อซื้อแหวนที่ดีกว่านี้ให้ในอนาคต

พอถึงเวลากลับ เจี่ยงเฉิงไปส่งพวกเขาขึ้นรถไฟ บนรถไฟที่กำลังจะออกตัวแต่กู้เหมี่ยวที่เพิ่งนึกได้ว่าเฮียเฉิงไม่ได้ตามด้วยก้อร้องกรี๊ด จนกู้เฟยต้องวีดีโอคอลให้กู้เหมี่ยวเห็นหน้าเฮียเฉิงชัดๆ เจี่ยงเฉิงพยายามส่งเสียงเรียกกู้เหมี่ยวว่าเขาอยู่ที่นี่ๆ จนกู้เหมี่ยวสงบสติอารมย์ได้ น้องก็เปล่งเสียงเรียกเฮียเฉิงออกมา ทำให้เจี่ยงเฉิงตื้นเต้นดีใจมาก ที่กู้เหมี่ยวสามารถเรียกชื่อเขาได้ กู้เฟยยิ่งเป็นสุขกว่าเพราะมันคือพัฒนาการก้าวใหญ่ของกู้เหมี่ยวที่ยอมพูดชื่อคน พวกเขาสัญญาจะมาอีกที่ตอนปิดเทอมฤดูร้อน เพราะกู้เฟยต้องพากู้เหมี่ยวมาให้สวี่จือสิงทำการรักษาต่อเนื่อง เจี่ยงเฉิงเลยจะหาเช่าห้องพักแถวๆที่พันจื้ออยู่ เพราะต้องอยู่รักษาเกือบเดือน ตอนนี้ชีวิตมีความหวัง ทุกอยางเริ่มแสดงให้เห็นถึงทางออกที่ดีสำหรับพวกเขา....

เป็นนิยายที่เล่าเรื่องชีวิตคนแสนธรรมดา สุข ทุกข์ ดูจับต้องได้เหมือนตัวเราเองก็เคยมีอารมย์สิ้นหวัง อารมย์ท้อแท้ เป็นนิยายที่อ่านแล้วรู้สึกมีส่วนร่วมไปกับตัวละคร ทั้งยังอดเอาใจช่วยเจี่ยงเฉิงไม่ได้เลย คนที่กล้าที่จะชนกับปัญหา กล้าที่จะถามกู้เฟยถึงปัญหา กล้าที่จะเริ่มจีบเขาด้วย โคตรได้ใจเลยคนแบบเจี่ยงเฉิงเนี่ย


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Nirvana in Fire 2 ถิงเซิงจากเด็กน้อยในเรือนทาส...มาสู่การเป็นยอดขุนพลพิทักษ์ต้าเหลียง

สารบัญชุมนุมปีศาจเล่มสอง ตอนพญากวางเก้าสี...อื้อหือ...น้องลู่โคตรน่ารั...ก (ฉบับพิมพ์1ที่แปลมาไม่ครบนะจ๊ะ...รอเล่มที่เขาอีดิทใหม่ไม่ไหว555)

สารบัญชุมนุมปีศาจ...เรื่องราวของมือปราบปีศาจห้าหนุ่มหล่อ จากหน่วยปราบมารแห่งต้าถัง